บทที่ 687 หลี่จิ่วเต้า ‘ตกปลานี่ดี!’
สสารชนิดนี้มหัศจรรย์เกินไป เกินกว่าขอบเขตความรู้ของพวกลั่วสุ่ย นี่คือสสารใหม่เอี่ยม พวกนางไม่รู้เลยว่ามาจากที่ใด
ทว่าสิ่งที่พวกนางแน่ใจได้คือ ทั้งหมดนี้ต้องเกี่ยวข้องกับคุณชายแน่นอน มิฉะนั้น พวกนางไฉนเลยจะนำร่องสสารสูงส่งอัศจรรย์เยี่ยงนี้มาได้
เป็นไปมิได้เลย!
เพียงแต่พวกนางขอบเขตต่ำต้อยเกินไป ไม่อาจทราบถึงวิธีการของคุณชาย
พวกนางรู้สึกว่าหลังสสารอัศจรรย์นี้เข้าสู่ร่างกาย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแตกต่างไปจากเดิม หากได้เจอะเจอกำลังรบระดับเดียวกันในภพเซียน พวกนางเอาชนะได้สบาย ๆ ไม่น่านำมาเทียบกันสักนิด
ทิวทัศน์ต่างแดน ให้อภิรมย์ไปอีกแบบ
หลี่จิ่วเต้ามองทัศนียภาพที่ไม่เหมือนกับเคย ๆ แล้วอารมณ์เบิกบานยิ่ง
“ด้านหน้ามีทะเลสาบ เราหยุดพักตรงนั้นกันเถิด”
เขาเห็นทะเลสาบขนาดใหญ่ข้างหน้า ด้านในต้องมีปลาอยู่จำนวนมาก จึงอยากไปตกปลา
ระยะหลังนี้เขาแทบไม่ได้ตกเลย ลั่วสุ่ยแทบจะไม่เหลือเสบียงอยู่แล้ว
ปลามังกรที่นำมาจากบ้านก็โดนกินไปนานแล้ว
เขาอยากตกปลามาตากแห้ง ให้ลั่วสุ่ยกินเป็นขนมระหว่างทาง
‘ไม่รู้ว่าที่นี่จะตกปลามังกรได้หรือไม่…’ หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ
ลั่วสุ่ยกินปลาชนิดอื่นไม่มีความสุขเท่ากินปลามังกรอย่างเห็นได้ชัด ดูท่า นางคงชอบกินปลามังกรที่สุด
‘รู้อย่างนี้ น่าจะตกปลามังกรมาเยอะ ๆ จากเมืองชิงซาน…’ เขาคิดขึ้นในใจอีกครั้ง
ทว่าตอนนั้น เขามัวยุ่งอยู่กับการเก็บสัมภาระสำหรับเดินทางไกล ไม่มีเวลาตกปลาเท่าใด มิฉะนั้น เขาต้องตกปลามังกรมาให้ลั่วสุ่ยจนพอกินแน่
“อยู่ว่าง ๆ ไม่มีกระไรทำ ข้าสอนพวกเจ้าตกปลาดีกว่า”
ทันใดนั้น หลี่จิ่วเต้าก็คิดขึ้นมาได้ และหันไปบอกกับพวกต้าเต๋อ
การตกปลาช่วยขัดเกลาจิตใจผู้คน คงมีประโยชน์ต่อการฝึกฝนของพวกต้าเต๋อได้บ้าง เขาจึงอยากให้พวกต้าเต๋อเรียนรู้การตกปลาด้วย
“ได้เลย!”
“พวกเราอยากเรียน!”
พวกเด็ก ๆ อย่างต้าเต๋อพากันตอบรับยิ้ม ๆ
นี่เท่ากับได้เรียนรู้ฝีมือจากคุณชายเชียวนะ ย่อมต้องเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามหาศาล พวกเขายินดีอย่างยิ่งที่จะเรียน
“เซี่ยเหยียน เจ้าต้องตั้งใจเรียนนะ เจ้าค่อนข้างอารมณ์ร้อน การตกปลาช่วยให้เจ้าอารมณ์เย็นลงได้บ้าง เป็นประโยชน์ต่อตัวเจ้าเช่นกัน” หลี่จิ่วเต้าบอกเซี่ยเหยียน
“หา”
ใบหน้างดงามของเซี่ยเหยียนขมขื่นลงในบัดดล ที่คุณชายว่ามานั้นไม่ผิด นางขาดความอดทนเช่นนั้นจริง ๆ ยากจะนั่งตกปลาอยู่นิ่ง ๆ
“ไปกันเถิด ข้าไปทำไม้ตกปลาให้พวกเจ้าก่อน”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม “ตอนเพิ่งมาถึง ข้าเป็นป่าไผ่สี่ฤดูอยู่แห่งหนึ่ง ข้าจะไปตัดไม้ไผ่จากที่นั่นมาทำเป็นไม้”
เขากล่าวต่อ “พวกเจ้าต่างมีพลังกับตัว ไปกลับแห่งหนใดย่อมสะดวก เรื่องเอ็นตกปลาขอมอบหมายให้เป็นหน้าที่พวกเจ้า ยิ่งแข็งแรงทนทานยิ่งดี จริงสิ ลั่วสุ่ยตามพวกเจ้าไปด้วยก็ได้ นางหัดตกปลากับข้ามานาน รู้ว่าเอ็นเช่นไรดีต่อการตกปลา”
“เจ้าค่ะ คุณชาย!” ลั่วสุ่ยตอบเสียงหวาน
“ฮ่า ๆ ถ้าอย่างนั้นเราแยกย้ายกันไปแล้วกัน รอข้าทำไม้ตกปลาเสร็จเมื่อใด เราค่อยไปตกปลาริมทะเลสาบด้วยกัน”
หลี่จิ่วเต้าลุกขึ้นจากไป ป่าไม้ม่วงแห่งนั้นมิได้ไกลจากที่นี่ ส่วนอุปกรณ์จำพวกขวาน เขาก็เก็บเข้าศาสตราบรรจุของไว้แล้ว
“พี่หญิงลั่วสุ่ย เราใช้สิ่งใดทำเป็นเอ็นตกปลาดี!”
หลังคุณชายไปแล้ว อ้ายฉานก็หันไปถามลั่วสุ่ย
“ข้าขอคิดดูก่อน…”
ลั่วสุ่ยขมวดคิ้วพลางกล่าว
“ใช้เอ็นมังกรสิ ข้าว่าใช้เอ็นมังกรดีกว่า!”
เวลานั้น จู้จื่อเอ่ยขึ้น “เอ็นตกปลาที่คุณชายใช้ก็ทำจากเอ็นมังกรมิใช่หรือ”
เขาเห็นเอ็นตกปลาบนไม้ของคุณชาย นึกถึงเอ็นมังกรขึ้นมา
“ไม่ดี มังกรหายสาบสูญไปนานแล้ว เราจะไปหามังกรจากไหน”
อันหลานเสวี่ยได้ยินแล้วส่ายหัวพลางกล่าว
“ใช่แล้ว”
ลั่วสุ่ยเอ่ย “อีกอย่าง ต่อให้ยังมีอยู่จริง ๆ พวกเราก็ไม่สามารถดึงเอ็นพวกมันออกมาตามใจชอบ! เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่า”
“ไม่ต้องเปลี่ยน ใช้เอ็นมังกรนั่นแหละ!”
เวลานั้นเอง ‘แท็บเล็ต’ ลอยเข้ามาพร้อมกล่าว “ข้ารู้ว่าที่ใดมีเอ็นมังกร”
“หืม?”
ลั่วสุ่ยตาเป็นประกาย
“มิใช่ว่ามังกรไม่มีอยู่ เพียงแต่ไม่มีอยู่ในอาณาจักรนี้เท่านั้น พวกมันไปอยู่ในอาณาจักรอื่นนานแล้ว”
‘แท็บเล็ต’ กล่าว “พวกมันอยู่ในภพเซียน! ข้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่ง ที่นั่นเป็นสมรภูมิรบ มีมังกรที่ตายไปแล้วอยู่มากมาย เอ็นมังกรพวกมันก็ยังอยู่ นำออกมาได้”
“เช่นนี้ก็ได้!”
ลั่วสุ่ยคลี่ยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนเจ้าส่งพวกเราไปด้วย”
“ได้ แต่ข้าต้องเตือนพวกเจ้าก่อนว่า ที่นั่นอลหม่านมาก” ‘แท็บเล็ต’ กล่าว
จากนั้นมันส่องแสงไปทั่วร่าง หน้ากระจกมีภาพมากมายแวบผ่าน สุดท้ายหยุดนิ่งที่ภพเซียน
สมรภูมิรบที่มันว่านั้นอยู่ในภพเซียน
ที่นั่นเป็นสถานที่ซึ่งมีสสารนิรันดร์หนาแน่นที่สุดในภพเซียน เป็นเหมือนแดนแกนกลางของภพเซียน มีพลังบางอย่างคอยปกปักษ์รักษา โดยปกติอยู่ในสถานะปิดสนิทมาตลอด เปิดออกบ้างเป็นครั้งคราว
และทุกครั้งที่เปิดออก สิ่งมีชีวิตในภพเซียนจักเข้าไปทำศึกแย่งชิง ทุกสิ่งในนั้นล้วนสูงส่ง เป็นที่ล่อตาล่อใจของสิ่งมีชีวิตในภพเซียนทั้งปวง
นอกจากนี้ ภพเซียนอยู่ในสถานะปิดสนิทมาตลอด สสารฝึกตนทั้งหลายมีแต่จะยิ่งใช้ยิ่งน้อย ยิ่งขาดแคลน
โดยเฉพาะสสารนิรันดร์ ในภพเซียนเหลืออยู่เพียงน้อยนิด
เก้ามหาตระกูลแห่งภพเซียนผนึกกำลังกับเผ่าใหญ่ ลัทธิใหญ่อื่น ๆ หมายจะฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตตนอื่นในภพเซียน เพื่อลดจำนวนประชากรในภพเซียน และเลี่ยงการสิ้นผลาญของสสารนิรันดร์
นอกจากนี้ พวกเขายังต้องการริดรอนสสารนิรันดร์ในตัวสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อีกด้วย เพื่อให้พวกเขามีสสารนิรันดร์ใช้ต่อไป อยู่ยงคงกระพัน
อันที่จริง สสารนิรันดร์ในภพเซียนไม่ถือเป็นสสารนิรันดร์อย่างแท้จริงแล้ว พวกมันเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ไม่อาจอยู่ยงคงกระพันได้อีก
หากเป็นสสารนิรันดร์อย่างแท้จริงดั่งเช่นอดีต ย่อมต้องคงอยู่ไปตลอด ไม่ถูกสิ้นผลาญไปแต่อย่างใด เซียนที่ได้ดูดกลืนสสารนิรันดร์ไปแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกกาลเวลากัดกร่อนอีก
ทว่าสสารนิรันดร์ในบัดนี้มิใช่เช่นนั้นแล้ว
จะว่าบัดนี้ก็ไม่ถูก นับแต่ความพิศวงลางร้ายปะทุออกมาในครานั้น สสารนิรันดร์นี้ก็เปลี่ยนไป คล้ายว่าสูญเสีย ‘พลัง’ บางอย่าง ไม่อาจคงอยู่ตลอดกาลได้จริง ๆ จะค่อย ๆ สูญสลายไปทีละน้อย
แม้ว่าการสูญสลายนี้เป็นไปอย่างเชื่องช้า มิได้ต่างไปจากความนิจนิรันดร์มาก กระนั้นก็ยังเสื่อมคลายลงไปอยู่ดี
ภพเซียนปิดผนึกตนเอง หนึ่งเพื่อมิให้ความพิศวงลางร้ายรุกราน สองเพื่อลดความเร็วในการสูญสลายของสสารนิรันดร์
พวกเขาพบว่า ตั้งแต่ภพเซียนปิดผนึกตนเอง สสารนิรันดร์ก็สูญสลายช้าลง และทันทีที่ไปจากภพเซียน ก็จะสูญสลายไวขึ้น
เซียวฮุ่ยในอดีตก็เป็นเช่นนั้น หลังออกจากภพเซียน สสารนิรันดร์ในกายก็ค่อย ๆ สลายหายไป
เพราะอย่างนั้น นับแต่แดนแกนกลางในภพเซียนเปิดออก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในภพเซียนต่างกรูเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง เกิดการแย่งชิงไปทั่ว
พวกเขาอยู่มานานมาก มิมีผู้ใดต้องการละทิ้งชีวิตอันยืนยาวนี้ ต่างพยายามจะอยู่รอดต่อไป
พวกลั่วสุ่ยได้เห็นภาพในกระจกแล้ว อลหม่านมากจริง ๆ ในนั้นกำลังต่อสู้ดุเดือดกันไปทั่ว
พวกเขาได้เห็นศพมังกร ศพยังมิได้เน่าเปื่อย ราวกับเพิ่งตายไปหยก ๆ แต่ ‘แท็บเล็ต’ บอกพวกเขาว่า มังกรเหล่านี้ตายมามากว่าล้านปีแล้วเป็นอย่างน้อย
“ไปกันเถิด”
พวกลั่วสุ่ยมิได้ลังเล พากันเหินเข้าไปในกระจก
‘แท็บเล็ต’ นั้นอยู่เหนือจินตนาการจริง ๆ ภพเซียนห่างจากอาณาจักรนี้ต่างไม่รู้เท่าไร แต่สำหรับ ‘แท็บเล็ต’ ภพเซียนเสมือนว่าอยู่เพียงอีกด้านของกระจกเท่านั้น พวกลั่วสุ่ยเพิ่งเหินเข้ามาในกระจก ก็มาอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบในภพเซียนทันที
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงระเบิดอันน่ากลัวดังอยู่ทั่วสารทิศ คลื่นพลังสยดสยองถาโถม ทุกตารางนิ้วในสถานที่นี้มีการปะทะเกิดขึ้น สิ่งมีชีวิตทั้งปวงล้วนแย่งชิงกันสุดชีวิต
ทุกสิ่งในสถานที่นี้ ต่างมีสสารนิรันดร์ปกคลุมอยู่เต็มไปหมด หากได้มาในครอบครอง พวกเขาย่อมได้รับประโยชน์มหาศาล!
‘แท็บเล็ต’ ส่งพวกลั่วสุ่ยมาอยู่ที่ศพมังกร และขณะที่พวกเขามาถึง ที่นี่ได้มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากมารวมตัวกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างต้องการชิงศพมังกรตัวนี้ไป
ศพมังกรตัวนี้นอนอยู่ที่นี่มานานนับล้านปี เท่ากับว่าถูกสสารนิรันดร์อันเข้มข้น ‘แช่’ มาล้านปี เลือดเนื้อทุกระเบียดนิ้วล้วนมีสสารนิรันดร์มหาศาลเกินหยั่งแฝงอยู่
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่หลังผ่านไปล้านปี ศพมังกรตัวนี้ยังไม่เน่าเปื่อย ราวกับเพิ่งตายไปอย่างนั้น
“ถอยออกไป!”
“ไสหัวไปเสีย!”
“ที่นี่เป็นที่ที่พวกเจ้าเข้ามายุ่มย่ามได้รึ?!”
ยอดฝีมือจากมหาตระกูลเหินเข้ามาไม่น้อย พวกเขามาจากคนละฝ่าย และหมายตาศพมังกรกันถ้วนหน้า หมายจะขับไล่สิ่งมีชีวิตที่ทำศึกแย่งชิงอยู่ในที่นี้ออกไปให้หมด
ชั่วขณะนั้น สงครามที่โกลาหลยิ่งขึ้นปะทุอยู่ที่นี่
…
ขณะเดียวกัน ก้อนหินก็เพ่งเล็ง ‘แท็บเล็ต’
“สหายของข้า ไยเจ้าถึงแข็งแกร่งปานนี้!”
ก้อนหินเหินไปอยู่ข้างกาย ‘แท็บเล็ต’ พร้อมหัวเราะพลางกล่าวกับ ‘แท็บเล็ต’
“พี่หินพูดอันใดกัน อย่าล้อข้าเล่นหน่อยเลย หากเทียบกันจริง ๆ ข้าสู้พี่หินไม่ได้เลย! เพียงแค่เชี่ยวชาญด้านการรับส่งเท่านั้น”
‘แท็บเล็ต’ กล่าว
มันมองเห็นภาพการณ์ในทุกสถานที่ของใต้หล้านี้ และเคยเห็นภาพที่ต้นหลิวและก้อนหินออกโรงต่อสู้ รู้ดีว่าก้อนหินแข็งแกร่งปานใด
หากให้มันสู้กับก้อนหิน มันย่อมสู้ไม่ได้แน่ ห่างชั้นกันเกินไป
“เชี่ยวชาญเท่านี้ก็พอแล้ว!”
ก้อนหินบอก “เจ้าช่วยข้าสักอย่าง ช่วยส่งข้าไปที่ริมลำธารนอกเมืองชิงซาน ข้าอยากกลับไปเยี่ยมต้นหลิว”
จิตใจของมันเปลี่ยนแปลงไปจริง ๆ ไม่เรียกพี่หลิวแล้วด้วยซ้ำ หากแต่เรียกต้นหลิวทื่อ ๆ
ช่วยมิได้ ผู้ใดใช้ให้มันในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นเล่า!
ที่ว่ากลับไป มันแค่ไปเยี่ยมต้นหลิวที่ไหน มันต้องการให้ต้นหลิวยอมรับมันเป็นพี่!
เรียกมันว่า ‘พี่’!
หลังจากได้อยู่กับคุณชายทุกคืนวัน พลังของมันยกระดับขึ้นมาก มันรู้สึกว่ามันน่าจะกำราบต้นหลิวได้แล้ว!
“เรื่องนั้นหาใช่ปัญหา พี่หินก็ทำได้ง่ายดายนี่!”
‘แท็บเล็ต’ กล่าว
ด้วยพลังระดับก้อนหิน ตั้งจิตคราเดียวก็กลับไปถึงริมลำธารนอกเมืองชิงซานได้แล้ว
“ก็มีเจ้าอยู่นี่อย่างไร ข้าเลยคิดจะประหยัดแรง”
ก้อนหินเอ่ยยิ้ม ๆ
จนกระทั่งมันเห็นภาพ ‘แท็บเล็ต’ ส่งพวกลั่วสุ่ยออกไป ถึงคิดอยากกลับไปสักครา
มิฉะนั้น มันคงยังไม่คิดกลับไป คงรอติดตามคุณชายจนจบแล้วค่อยไปกำราบต้นหลิว
“ได้”
ภาพใน ‘แท็บเล็ต’ เปลี่ยนผันอย่างรวดเร็ว สับเปลี่ยนไปเป็นภาพริมธารนอกเมืองชิงซาน
ก้อนหินเหินเข้าไปอย่างทนรอมิไหว
‘ฮ่า ๆ จากนี้ไป ข้าจะได้เป็นพี่หินแล้ว! ข้าจะเล่าประสบการณ์ที่ข้าได้อยู่กับคุณชายด้วย ให้เจ้าต้นหลิวอิจฉาตายไปเลย!’ มันคิดในใจอย่างมีความสุข