ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 170 ลงมือ

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ตอนที่170 ลงมือ

หวางเจ๋อระเบิดหัวเราะอย่างมีความสุข กอดหวังซินซินในอ้อมแขนและประกบจูบกันแสนดุเดือด

เหล่สายตาจับจ้องไปที่จ้าวเฉียนเชิงยั่วยุ และกล่าวขึ้นว่า

“นายคงไม่รู้ใช่ไหมว่า ในเมืองแห่งนี้มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถจัดการฉันได้ นายก็แค่พวกต้อยต่ำคนหนึ่งที่มั่นใจในตัวเองเกินไป ว่าที่พ่อตาของฉันในอนาคตเป็นถึงประธานหวังแห่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์หวัง ทำให้ฉันขุ่นเคืองแบบนี้ อนาคตของนายจบไม่สวยแน่นอน!”

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเนาะอย่างภาคภูมิใจและกล่าวตอบไปว่า

“ถูกต้องแล้ว ถ้าไม่ได้พ่อตาของคุณช่วยไว้ โครงการนี้คงพังไม่เป็นท่า สุดท้ายก็ต้องแบมือขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ตัวเองแค่ลำพังคงจะไม่รอด แล้วอย่างงี้เวลาที่ผู้ใหญ่ไม่อยู่แล้ว ธุรกิจจะไปรอดได้ยังไง? ก็โตๆ กันหมดแล้วนะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ ได้แล้ว”

เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าวเฉียนกล่าวออกไป หวังซินซินกับหวางเจ๋อซึมซาบไปชั่วขณะหนึ่ง ในกรณีนี้เป็นจริงอย่างที่จ้าวเฉียนกล่าว ถ้าไม่ได้พ่อของหวังซินซินช่วยไว้ โครงการร้อยล้านคงพังไม่เป็นท่า

แต่อย่างไรหวังซินซินก็มั่นใจในตัวของพ่อเธอมาก จึงกล่าวโต้แย้งไปว่า

“ก็ช่วยไม่ได้ที่ฉันเกิดมารวย มีทุกอย่างเพียบพร้อม แล้วนายล่ะ? จะมีดีสักแค่ไหนเชียว?”

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะลั่นกล่าวตอบไปเพียงว่า

“แล้วผมจะรอฟังครับ”

ทุกคนต่างนั่งรออย่างใจเย็นเพื่อรอฟังข่าวจากพ่อของหวังซินซินล

ประมาณห้านาทีต่อมา โทรศัพท์มือถือของหวังซินซินก็ดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นพ่อของเธอที่โทรเข้ามา เห็นแบบนั้น เธอจึงจงใจกดเปิดลำโพงให้ทุกคนได้ยินโดยทั่ว

“ฮาโหลพ่อ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? หวางเจ๋อได้ที่ดินประมูลคืนแล้ว?”

หวังซินซินถามด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“เอ่อ…พ่อพยายามเจรจากับเขาแล้วนะ แต่ไม่ว่ายังไงทางนั้นก็ไม่ยอมคืนที่ดินประมูลให้ โดยให้เหตุผลว่าโครงการของบริษัทหวางเจ๋อไม่ได้มาตรฐานพอ ถ้าอยากจะได้จริงๆ ต้องปรับโครงสร้างแก้ไขใหม่ตั้งแต่ศูนย์”

“อะไรนะ? มันคิดจะโกงพวกเรารึไง? หรือคิดจะแกล้งกัน?”

พอไม่ได้ดั่งใจ หวังซินซินก็ตะโกนเสียงดังลั่น

“ไม่มีทาง ระดับหยางไห่ไม่มีทางโกงอยู่แล้ว เอาแบบนี้ดีไหม เดี๋ยวพ่อจะช่วยแนะนำที่ดินส่วนอื่นเอาไว้ให้ทำโครงการ พ่อยังมีธุระต่อ แค่นี้นะ อย่ากลับดึก!”

พ่อของหวังซินซินตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ

ทุกคนต่างจับจ้องจ้าวเฉียนด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นความจริง คนว่างงานมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของบริษัทหยางไห่ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?

หวางเจ๋อยังไม่ตัดใจยอมแพ้ เนื้อเป็ดแสนอร่อยส่งตรงถึงปากแล้วแท้ๆ แล้วเรื่องอะไรถึงต้องปล่อยให้มันจากไปทั้งแบบนั้น?

ตอนนี้เหลือเพียงโอกาสเดียวคือ ขอร้องให้จ้าวเฉียนยกโทษให้ ตราบใดที่จ้าวเฉียนยินดีที่จะออกหน้าช่วย ที่ดินประมูลในส่วนนี้ยังพอมีโอกาสกลับสู่อ้อมกอดเขาได้อยู่

“คุณจ้าว…คุณจ้าวครับ!คุณเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ควรกลั่นแกล้งเด็กนะครับ!ผมขอร้องเถอะ ช่วยผมด้วย!ช่วยสั่งการให้หยางไห่คืนที่ดินประมูลกลับมาให้ผมเถอะครับ!”

หลัวเสี่ยวที่รู้สึกอึดอัดใจแทน เธอจึงกล่าวช่วยจ้าวเฉียนว่า

“พวกเราตั้งใจว่าจะไปร้องคาราโอเกะต่อ ถ้าคุณจ้าวไม่มีเวลาก็สามารถกลับก่อนได้นะคะ แต่ถ้ายังเหลือเวลาอยู่บ้าง พวกเราก็ยินดีไปต่อกับคุณค่ะ”

จ้าวเฉียนแลเหลียวเหลือบมองหวางเจ๋อด้วยหางตา กล่าวน้ำเสียงเรียบตอบไปว่า

“คุณหวางครับ เลิกทำอะไรโง่ๆ จะดีกว่า ผมเองก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมกับเซียวหยุนขอตัวก่อนนะครับ คุณหลัวเสี่ยวไว้วันสัมภาษณ์ ถ้าว่างผมจะไปเชียร์นะครับ”

จากนั้นจ้าวเฉียนก็เดินกำลังเดินจากไป

ทว่าหวางเจ๋อยังไม่ยอมแพ้ เขาตะโกนขอร้องเหลียวเซียวหยุนให้ช่วยเขาที

“เหลียวเซียวหยุน พวกเราก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนไม่ใช่เหรอ? เธอต้องช่วยฉันนะ!ถือซะว่าช่วยเพื่อนคนนี้สักครั้งเถอะนะ จำไม่ได้เหรอ แต่ก่อนฉันซื้อของขวัญไล่จีบเธอตั้งเยอะแยะ เห็นแก่ความรักความห่วงใยของฉันในตอนนั้นหน่อย!”

หวางเจ๋อวิตกกังวลจนเกินไป เขางัดทุกสิ่งที่คิดได้ออกมาพูดทั้งหมดเพื่อให้เหลียวเซียวหยุนยอมเหลียวแลเขาบ้าง

แต่เหลียวเซียวหยุนก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าหยางเจ๋อตั้งแต่ตอนที่ตามจีบแล้ว นี่ยังหน้าด้านของให้เธอเห็นใจอีกงั้นเหรอ?

แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ หวังซินซินเองก็พลันได้ยินเรื่องนี้ไปด้วย เธอชี้หน้าด่าทั้งคู่ทันทีว่า

“อ่อ!ที่แท้พวกแกสองคนก็เคยมีอดีตด้วยกันแบบนี้นี่เอง!หวางเจ๋อ!ไหนเคยบอกฉันว่า ตั้งแต่เกิดมาก็ตกหลุมรักฉันเป็นคนแรก!ไหนว่าฉันคือรักแรกของนาย!? ทั้งหมดมันโกหกทั้งเพใช่ไหม!!? นังเหลียวเซียวหยุน อีร่าน!!”

หวางเจ๋อรีบขอโทษหวังซินซินทันที

“ซินซิน เธอเข้าใจผิดแล้ว เรื่องระหว่างผมกับเธอมันไม่มีอะไรเลยจริงๆ ที่พูดออกไปแบบนั้นก็เผื่อให้เธอช่วยเหลือ เธอเป็นรักแรกของฉันจริงๆ นะ ตอนนั้นก็แค่ชอบอีกฝ่ายตามวัยน่ะ!”

“เชื่อกับผีน่ะสิ!หวางเจ๋อ จำใส่กะลาหัวไว้เลยนะ เรา เลิก กัน!!หลังจากนี้เรื่องระหว่างเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป!!”

หวังซินซินตวาดเสียงดังลั่นและวิ่งหนีออกไป ทิ้งเขาให้อยู่คนเดียว

หวางเจ๋อรีบวิ่งไล่ตามเธอออกไป ถ้าไม่มีหวังซินซิน บริษัทของเขาเองก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน

“ซินซิน ซินซิน…ฟังผมอธิบายก่อน!”

“ไปให้พ้น!”

หวังซินซินตบหน้าหวางเจ๋ออย่างแรง และวิ่งหนีจากไปโดยไม่แลเหลียวกลับมามองอีกเลย

ระยะห่างระหว้างสวรรค์กับนรกช่างอยู่ไกลแสนไกล แต่สำหรับหวางเจ๋อที่เพิ่งลอยตัวราวกับอยู่บนสวรรค์ ยามนี้ราวกับเพิ่งโดนนรกฉุดดึงไปใต้บาดาล

“บัดซบ!จ้าวเฉียน!ทั้งหมดเป็นเพราะมัน!”

หวางเจ๋อสบถด่ากับตัวเอง เช็ดหน้าเช็ดตาเดินกลับไปในห้องอาหาร

“จ้าวเฉียน นายต้องการอะไรขอให้ว่ามาเลย!ฉันยอมทุกอย่าง ขอ…ขอแค่ได้โครงการนี้กลับมาคืนเถอะนะ!”

หวางเจ๋อขอร้องเสียงออดอ้อน

จ้าวเฉียนหัวเราะเยาะใส่ กล่าวซ้พเติมไปว่า

“ทำไม ถ้าไม่ยอมช่วยจะทำอะไรผมงั้นเหรอ? ที่ทุกอย่างพังพินาศแบบนี้ไม่ใช่เพราะตัวคุณเองหรอกเหรอ?”

“ทั้งเส้นทางด้านอาชีพและความรัก…ทั้งหมดกลับพังพินาศไม่เหลือ ทั้งหมด…ทั้งหมดเป็นเพราะแก!”

หวางเจียงเอ่ยเสียงสาปส่งไม่หยุดหย่อน จ้องจ้าวเฉียนเขม็งด้วยแววตาแสนชั่วร้าย

ก่อนที่จ้าวเฉียนจะเอ่ยกล่าวใดๆ ต่อ คนอื่นๆ ต่างเร่งชักชวนกล่อมให้หวางเจ๋อใจเย็นลงก่อน

“หวางเจ๋อ ใจเย็นก่อนนะ แค่พลาดโครงการเดียวเอง มันไม่เป็นอะไรหรอก”

“ก่อนหน้าที่นายยังไม่ได้โครงการนี้ นายเองก็อยู่ได้ไม่ใช่เหรอ?”

“มีใครบ้างจะทำเงินได้ทีเดียวหลายร้อยล้าน? ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนั่นแหละ ไม่ต้องรีบร้อนไป”

หวางเจ๋อหัวเราะเยาะกับตัวเอง เอ่ยขึ้นว่า

“หวังซินซินเลิกกับฉันแล้ว หากไม่มีเธอ แล้วบริษัทของฉันจะไปต่อได้ยังไง? ถ้าไม่มีเงินสนับสนุนจากพ่อเธอ แล้วบริษัทจะอยู่รอดต่อยังไงได้? ทั้งหมดก็เพราะมัน…ฉันล้มเหลวทั้งเรื่องการงานและความรัก ตอนนี้ฉันยังทำอะไรได้อีก?”

เหลียวเซียวหยุนยืนขำจนท้องแข็ง เธอกล่าวขึ้นว่า

“ฮ่าฮ่าๆๆ …หวางเจ๋อ นายอยากสบประสาทฉันก่อนเองนะ ใช่แล้ว ไอ้ขี้แพ้อย่างนรายจะไปทำอะไรได้? นี่ฉันไม่ได้ดูถูกนายนะ แค่พูดตามที่เห็นน่ะ ไอ้ ขี้ แพ้!!”

หวางเจ๋อตกสู่สภาวะจนตรอก ยิ่งได้ยินคำดูถูกของเหลียวเซียวหยุนซ้ำเติมเข้าไปอีก ในท้ายที่สุดเขาก็ฟิวส์ขาดจนได้ แทบจะในทันใดมือข้างหนึ่งพุ่งไปคว้าขวดไวน์ขึ้นมา และวิ่งเข้าใส่เหลียวเซียวหยุนสุดกำลัง

“หวางเจ๋อ!อย่า!!”

“เร็วเข้า!รีบจับเขาไว้!!”

“เอาขวดไวน์ออกจากมือเขาก่อน เร็ว!”

บรรดาเพื่อนร่วมชั้นตรงเข้าไปห้ามอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เขาคลั่งไปแล้ว โบกขวดไวน์ในมืออัดโต๊ะจนแตกเป็นฟันฉลาม ขู่ใส่ทุกคนที่พยายามเข้ามาใกล้

“อย่ามายุ่ง!ใครกล้าหยุดกู กูตีไม่ยั้งแน่!”

หวางเจ๋อส่งเสียงคำรามดังสนั่น

ทุกคนยังคงพยายามใจดีสู้เสือ พยายามเกลี้ยกล่อมหวางเจ๋อว่าอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น แต่เขากลับไม่ฟังและเบี่ยงเป้าหมายไปทางจ้าวเฉียนแทน

หลัวเสี่ยวตะโกนลั่น

“หวางเจ๋อ อย่านะ!!”

ตอนนี่ไม่มีประโยชน์อันใดอีกแล้ว ไม่ว่าใครจะตะโกนราวกับว่าเสียงนี้มันส่งผ่านไปไม่ถึงอีกฝ่ายเสียแล้ว หวางเจ๋อกระชับจับขวดไวน์ปากฉลากในมือ เสียบไปที่ศีรษะของจ้าวเฉียนประหนึ่งว่าเสียสติไปโดยสมบูรณ์

พอเห็นหวางเจ๋อวิ่งเข้ามา ปฏิกิริยาของจ้าวเฉียนช่างสงบนิ่งเหลือเกิน พร้อมยกบาทาถีบสวนออกไปทันที ร่างของหวางเจ๋อกระเด็นว่อนกลางอากาศ ขวดไวน์ในมือหล่นแตกกระเด็นเต็มพื้น อีกฝ่ายถูกจัดการได้ภายในกระบวนท่าเดียว

จ้าวเฉียนหวังช่วยให้อีกฝ่ายสงบสติลงหน่อย จึงเดินเข้าไปกระทืบลิ้นปี่ซ้ำ บังคับให้หวางเจ๋อนอนจุกจนดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น

ถึงอาการเสียดจุกจะรุนแรงขนาดไหน แต่ด้วยความบ้าดีเดือด หวางเจ๋อก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามกวาดขาใส่จ้าวเฉียนหวังให้ล้มขมำลงกับพื้นเฉกเช่นเขา

จ้าวเฉียนเพียงส่ายหน้าพลางกระโดดหลบอย่างง่ายดาย มือข้างหนึ่งหยิบเก้าอี้ขึ้นมาและทุ่มใส่ร่างหวางเจ๋ออย่างแรง พร้อมเสียงโครมครามดัง ‘ปัง’

ท้ายที่สุดแล้ว หวางเจ๋อนอนสลบมอดคาพื้นอย่างน่าเวทนา

“คงสงบได้บ้างนะครับ”

“หวางเจ๋อ…”

ทุกคนต่างรีบไปมุงดู฿ว่าหวางเจ๋อเป็นอย่างไรบ้างแล้วในขณะนี้

แต่มีจ้าวเฉียนยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าแบบนี้ กลับไม่มีใครสักคนที่กล้าเข้าไปช่วยหรือเรียกร้องความยุติธรรมแทนหวางเจ๋อเลยสักคน

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

Status: Ongoing
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริงอย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา!“ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที”“เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว”“ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?”“ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!”“ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน