หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 166

ตอนที่ 166
ตอนที่ 166 : ช่องว่าง
“นายต้องการร่วมธุรกิจอะไรกับปีกสีเงินงั้นเหรอ?” ฮอร์กถามอย่างสงสัย
โรแลนด์ยกแก้วของเขาขึ้นพร้อมดื่มไว้เข้าไปจนเต็มปากก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า“กิลด์ปีกสีเงินมีนักเวทย์อยู่ทั้งหมดกี่คนงั้นเหรอ?ฉันกําลังมองหาผู้เล่นที่จะไม่ถอดใจแล้วลบตัวละครทิ้งระหว่างทางน่ะ”
“ราวๆสิบคนเห็นจะได้” ฮอร์กคิดอยู่พักหนึ่งและพูดต่อว่า “นายรู้ใช่ไหมนักเวทย์เป็นอาชีพยากมากไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีพรสวรรค์เท่านายพวกเรามีผู้ใช้เวทย์เป็นจํานวนมากทว่าเกือบทั้งหมดของพวกเขานั้นเป็นพ่อมดและนักบวช
เมื่อรูปลักษณ์ของนักรบนั้นแย่ลงมากจํานวนของพ่อมดก็เริ่มเพิ่มขึ้น เพราะถึงอย่างไรค่าเสน่ห์ก็ถือเป็นค่าสถานะหลักของเหล่าพ่อมดเหล่าพ่อมดนั้นสามารถเรียนสกิลได้เมื่อมีเลเวลมากพอ
ด้วยเหตุนี้ เหล่าพ่อมดจึงหล่อเหลาและเล่นง่ายเป็นอย่างมากทุกคนต่างก็ชื่นชอบมัน
“ฉันว่าฉันจะจัดตั้งกลุ่มการเรียน”โรแลนด์พูดขึ้นมา “นายช่วยถามนักเวทย์ในกิลด์นายให้มาที่หอคอยเวทย์และช่วยเรียนร่วมกับพวกนักเวทย์ฝึกหัดหน่อยได้ไหม”
ห้า?
ไม่เพียงแค่ฮอร์กเท่านั้นที่สับสนทว่าลิงค์และเจ็ทเองก็สับสนเช่นกัน
ฮอร์กถามโรแลนด์ด้วยความสับสน“ไม่ใช่ว่านายเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดหรอกเหรอ? นายกสอนพวกนั้นเองได้ไม่ใช่เหรอ?”
โรแลนด์ตอบกลับด้วยท่าทางอับอายเล็กน้อย “ฉันสามารถสอนทฤษฎีพวกเขาได้ก็จริง แต่เมื่อเกี่ยวกับเรื่อง ความเข้าใจและการปฏิบัติมัน…มีช่องว่างระหว่างฉันกับพวกเขาค่อนข้างมาก”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ฮอร์กก็กล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เข้าใจล่ะ สิ่งพื้นฐานในสายตาของผู้เชี่ยวชาญกับพื้นฐานในสายตาของคนธรรมดามันต่างกันใช่ไหมล่ะ?”
โรแลนด์พบว่ามันน่าอึดอัด “ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี”
จริงๆแล้วโรแลนด์อธิบายแบบจําลองเวทย์และรายละเอียดต่างๆอย่างละเอียดทว่าบางสิ่งที่เขาทํานั้นกลับดูยากมากในสายตาของนักเวทย์ฝึกหัด
อาทิเช่นมีนักเวทย์ฝึกหัดคนหนึ่งเคยถามว่า “ท่านรองทําไมท่านถึงส่งพลังเวทย์จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้รวดเร็วนัก?”
“นายแค่เน้นพลังเวทย์ไปที่จุดเริ่มต้นและผลักมันออกไปยังจุดเวทย์ถัดไปด้วยพลังจิตก็แค่นั้น” โรแลนด์ตอบกลับ
ทว่าเหล่านักเวทย์ฝึกหัดต่างมึนงงไปในทันที “แต่ข้าจะสามารถรวบรวมพลังเวทย์จํานวนมากได้ยังไงกัน?”
โรแลนด์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “นายสามารถรู้ได้ด้วยตัวเองตามสัญชาติญาณ”
จากนั้นเหล่านักเวทย์ฝึกหัดก็ไม่พูดกับเขาอีกเลย
เมื่อมองไปที่ท่าทางของนักเวทย์ฝึกหัด ทําให้โรแลนด์นึกถึงมุขเก่าๆขึ้นมา
รุ่นพี่กําลังสอนรุ่นน้องคนหนึ่ง และรุ่นน้องก็ถามขึ้นมาว่า “พี่ครับพี่จะหาข้อผิดพลาดในงานที่พี่ทําอยู่ได้ยังไงครับ”
“นายก็แค่วางมือลงบนมันและหลับตาลงก็เท่านั้น”
และในท้ายที่สุดรุ่นน้องคนนั้นก็เปลี่ยนอาชีพกลายเป็นคนขายอุปกรณ์ก่อสร้าง
แม้ว่าโรแลนด์จะเชื่อในการทํางานหนัก แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าช่องว่างระหว่างพรสวรรค์ของคนนั้นมีผลเป็น อย่างมาก
เร็วๆนี้เขาพบว่า ถึงแม้เหล่านักเวทย์ฝึกหัดในหอคอยเวทย์จะได้เรียนทฤษฎีเวทย์ของแขนเวทย์ ทว่าพวกเขาก็มีความคืบหน้าน้อยมาก ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเพราะเขาอธิบายไม่ดีพอ ทว่าเขาก็เข้าใจว่ามันเป็นเพราะความแตกต่างด้านพรสวรรค์
พวกนักเวทย์ฝึกหัดนั้นอยู่ในบึง พวกเขากระทั่งมองไม่เห็นโรแลนด์ด้วยซ้ําแม้จะเงยหัวขึ้นมาพวกเขาไม่เข้าใจการรับรู้พลังเวทย์เทียบเท่ากับโรแลนด์
เขานั้นอยู่บนฟากฟ้า โรแลนด์เองก็ไม่เข้าใจที่อยู่ด้านล่างเช่นกัน เขาไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่พวกนักเวทย์ฝึกหัดคิดเช่นกันในเมื่อพวกเขาไม่แม้แต่กระทั่งใช้พลังเวทย์ที่อยู่ต่อหน้าต่อตา
ดังนั้นโรแลนด์เลยต้องการเชิญนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์ระดับเดียวกับพวกนักเวทย์ฝึกหัดให้มาเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
ฮอร์กไม่เห็นผลเสียในข้อเสนอนี้แม้แต่น้อย
แต่ด้วยสัญชาติญานของรองหัวหน้ากิลเขาเลยถามขึ้นมาว่า“แล้วพวกฉันจะได้อะไรล่ะ?”
“หนังสือในหอคอยเวทย์เปิดให้อ่านฟรีสําหรับผู้เล่นทุกคนนอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงทรัพยากรอื่นๆได้อีก” โรแลนด์ยิ้มออกมา “แน่นอนว่าต้องไม่มากจนเกินไปเพราะถึงยังไงทรัพยากรในหอคอยเวทย์ก็มีจํากัด”
ฮอร์กก็ถามต่อไปอีกว่า “แล้วพวกนั้นจะได้เงินเท่าไหร่ต่อเดือนล่ะ?”
โรแลนด์คํานวนรายรับรายจ่ายอยู่ในใจก่อนเขาจะพูดว่า “ไม่เกินสามสิบเหรียญเงินต่อเดือน
“นั่นมันน้อยเกินไป”ฮอร์กก็ทุบโต๊ะทันทีเขาไม่ได้ใช้แรงไปมากนักแต่เนื่องจากเขาเป็นนักรบที่มีพลังกายมหาศาลทําให้โต๊ะถึงกับสั่นไหว“นายได้เงินสิบเหรียญทองต่อเดือน แต่นายจะให้พวกเขาแค่สามสิบเหรียญเงินเนี่ยนะนั่นแม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลย นายต้องให้พวกเขาอย่างน้อยหนึ่งเหรียญทองส”
“หลังจากท่าเรือของนายทําเงินได้ นายให้เงินเหล่า NPC ผู้ช่วยพวกนั้นหนึ่งเหรียญทองไหมล่ะ?” โรแลนด์ถอนหายใจและพูดออกมาอย่างช้าๆ“พวกเราล้วนแต่เป็นผู้เล่น เลิกพูดอ้อมค้อมเถอะ สามสิบเหรียญเงินเป็นเงินมากที่สุดที่ฉันสามารถมอบให้ได้เพื่อรักษาน้ําใจของพวกเราแล้วหากนายไม่ต้องการฉันจะโพสต์มันลงฟอรั่มฉันเชื่อว่ามีผู้เล่นจํานวนมากที่ไม่ใช่คนในกิลด์ของนายต้องการเข้าร่วมกับหอคอยเวทย์ของฉัน”
เมื่อเห็นท่าทางที่สบายๆบนใบหน้าของโรแลนด์ท่าทางมั่นใจของฮอร์กก็เริ่มหายไป
ฮอร์กเสียใจเล็กน้อย ทว่าเขารู้ว่านี่เป็นความผิดของเขาเอง
เพื่อผลประโยชน์ของกิลด์เขาได้ผลักโรแลนด์ออกไปรอบหนึ่งแล้วและเพื่อผลประโยชน์ของกิลด์อีกครั้งทําให้เขารู้สึกว่าข้อตกลงของโรแลนด์ยังไม่ดีพอ
โรแลนด์แสดงความเป็นมิตรพร้อมเสนอความร่วมมือกับพวกเขาปัญหาของเขานั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้โดยง่าย
“ตามนั้นก็ได้” ฮอร์กค่อนข้างหงุดหงิด“เอาตามที่นายว่าก็ได้”
ฮอร์กไม่ได้ชอบมันนัก ทว่าในฐานะรองประธานของกิลด์เขาจําเป็นต้องรับผิดชอบแทนคนในกิลด์นับร้อย
มันเป็นเรื่องของหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องของศีลธรรมหรือเรื่องของความซื่อสัตย์
จากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันต่ออีกหลายนาที ก่อนที่เขาจะแยกย้ายกันออกไป
โรแลนด์กลับมายังห้องวิจัยของเขาในหอคอยเวทย์เขาอารมณ์ไม่ดีนักจนกระทั่งวิเวียนนําขนมอบมาเสิร์ฟให้เขา
หลังจากนั่งลงอยู่พักหนึ่งเขาก็เริ่มเปิดฟอรั่มขึ้นมาและเลือกที่จะพักสักหน่อยโดยการท่องเน็ต
ทว่าทันใดนั้นเขาก็เข้ากับกระทู้ที่ถูกปักหมุดไว้หลายดอกและชื่อของโพสต์นั้นเป็นสีดำสนิท
ชื่อกระทู้กล่าวไว้ว่า พวกหนุ่มหล่อควรไปตายซะให้หมด!
มีการตอบกลับเกือบหมื่นครั้งในกระทู้นี้
หม?
โรแลนด์คลึกเข้าไปในกระทู้ด้วยความตื่นเต้น
***
TL: บ่นหน่อย ฮอร์กจากเพื่อนที่แสนดีพอมีผลประโยชน์ก็กลายเป็นไอ้ฮอร์กหักซะแล้ว
หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op)

หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op)

Status: Ongoing

ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์

ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา

ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป

โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง

ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท