ตอนที่ 173 : สาเหตุ
ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ
หลังจากผ่านไปพักหนึ่งโรแลนด์พูดออกมาอย่างปกติว่า “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่ชัด แต่เท่าที่ฉันรู้ถามแบบนี้มันเหมือนกับการตบหน้ากันชัดๆ โยนเงินให้เขาแล้วบอกว่าเอาเงินไปซะเนี่ยนะ หมอนั่นคงโดนต่อยไปแล้วหากมันพูดต่อหน้าชัค
ฮอร์กอ้าแขนอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันแค่คนส่งสารน่า อย่าเอาความโกรธมาลงที่ฉันสิ”
โรแลนด์คิดอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “ใครเป็นผู้นําของเงาแสงจันทร์?”
“เขามาจากตระกูลที่ร่ํารวยตรงบริเวณเมืองแถบชายฝั่ง เขาเป็นพวกจ่ายเงินเพื่อเกม” ฮอร์กยิ้ม “แน่นอนเขาเองก็หาเงินเก่งเช่นกันที่สําคัญที่สุดเขาค่อนข้างเผด็จการ นายเข้าใจใช่ไหมว่าฉันต้องการสื่ออะไร”
“เผด็จการ?” โรแลนด์คิดว่ามันน่าหัวเราะ “เอาละ เข้าใจละ ไปบอกหมอนั่นได้เลยว่าชคปฏิเสธ
“นายพูดแทนชัคงั้นเหรอ?” ฮอร์กรู้สึกปวดหัว “พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ มันดีจริงๆงั้นเหรอสําหรับนายที่เตะฉันออกไป?”
“ยังกล้าพูดอะไรน่าขันอย่างเราเป็นเพื่อนกันอีกเหรอหลังจากข่มขู่ฉันเนี่ยนะ?” โรแลนด์พูดออกมา
ฮอร์กถอนหายใจและจากไป
พวกเขานั้นไม่สนิทกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกเขาเป็นเพื่อนกันเพียงเพราะภารกิจดันเจี้ยนและการต่อสู้ที่ท่าเรือ
ทว่าฮอร์กกับทําตัวห่างเหินจากโรแลนด์เพราะผลประโยชน์ของกิลด์ก่อนที่พวกเขาจะได้สนิทกัน
ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่เป็นเพียงคนรู้จักกันเท่านั้น ด้วยความสัมพันธ์ที่แสนละเอียดอ่อน
หลังจากฮอร์กจากไป โรแลนด์รีบส่งข้อความหาฮอร์กผ่านทางแชทกิลด์ทันที “ดูเหมือนหัวหน้าของเงาแสงจันทร์จะเสนอเงินพันเหรียญทองหรือสิบห้าล้านหยวนให้กับนาย แลกกับสัญญามังกร”
ไม่นานนักชัคก็ตอบกลับมา “หมอนั่นโง่งั้นเหรอ? ด้วยตําแหน่งของเซนต์ซามูไร ฉันได้เงินยี่สิบเหรียญทองต่อเดือน และมีเงินสําหรับปรับปรุงและดูแลรักษาอุปกรณ์ทั้งระดับสูงและต่ําฉันสามารถหาได้สามสิบเหรียญทองต่อเดือนเป็นอย่างน้อย หมอนั่นคิดว่าฉันไม่เคยเห็นเงินมาก่อนรึไง?”
โรแลนด์ตอบ “ฮ่าฮ่า บางทีเจ้านั่นอาจจะคิดว่าพวกเรา F6 ทั้ง 6 เป็นคนบ้านนอกละมั้ง”
“7 คน!” เบทต้าแทรกขึ้นมากระทันหัน
ในตอนนั้นเอง สมาชิกที่เหลือของ F6 ต่างพิมพ์ ‘….’ ออกมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอ่านอยู่
โรแลนด์ถอนหายใจอีกครั้ง “ฮอร์กบอกว่าหมอนั่นเป็นพวกชอบเผด็จการ”
จากนั้นแชทกิลด์ก็กลายเป็นมีชีวิตชีวาขึ้นทันที
ลี่หลิน: “เผด็จการ? ทรราช? ฉันชอบเล่นบทเป็นทรราชมากที่สุด”
ราฟเฟิล: “ดูเหมือนพวกเราจะทําไอ้นั่นกันอีกแล้วใช่ไหมพวก?”
บราซิล: “ข่าวดีชะมัด ฉันเริ่มเบื่ออยู่พอดีเลย”
ฮัสเซอเร็ต “ฉันจะไปรวบรวมข้อมูลให้ก่อนละกันฉันจะเป็นคนหาที่นัดเองถ้าหากทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว”
โรแลนด์: “เอาตามนั้นละกัน ฉันมีอย่างอื่นที่ต้องทําอีกขอตัวก่อน”
ตอนนั้นเอง เบทต้าก็ส่งจุดยาวๆๆๆมาผ่านทางแชท ราวกับเขาไม่รู้ว่ากําลังพูดอะไรกัน
เมื่อออกจากแชทกิลด์ โรแลนด์ก็ไปยังชั้นสองเพื่อสอนเหล่านักเวทย์ฝึกหัดถึงหัวใจสําคัญของหุ่นเวทย์และรูปแบบที่พัฒนาแล้วของมัน
บาร์ดเองก็อยู่ในกลุ่มผู้ฟังเช่นกัน เขาค่อนข้างตกตะลึงไปเลยทีเดียว
ไม่ต้องพูดถึงรูปแบบเวทย์ที่พัฒนา ความรู้ความเข้าใจในเวทมนตร์ของโรแลนด์เองก็เป็นเอกลักษณ์และ ต่างจากที่เขารู้มาเขาได้ประโยชน์จากมันเป็นจํานวนมาก
หลังจากสอนจนเสร็จแล้ว โรแลนด์คิดจะกลับไปทําการทดลองเวทย์ของเขาต่อ ตอนนั้นเองเซอเรียก็เดินเข้ามาหาเขา
พูดตามตรงเธอรอเขาอยู่ตรงหน้าหอคอยเวทย์
เมื่อโรแลนด์เดินลงมา เขาพบกับเซอเรียที่กําลังยืนอยู่อย่างสง่างาม
ต้องขอบคุณรูปร่างอันน่าตกตะลึงและบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของเอลฟ์ เธอดูโดดเด่นถึงแม้ว่าเธอจะใส่ชุดเดรสสีเขียวธรรมดาๆก็ตาม
ในตอนนี้ เซอเรียนั้นถูกปกป้องโดยมนุษย์ห้าคน
โดยแบ่งเป็นหญิงสองชายสาม พวกเขาทั้งหมดดูสงบและ…ต่างจากมุนษย์ธรรมดา พวกเขาทั้งบริสุทธ์และใสสะอาด
นอกจากนี้มนุษย์พวกนี้ทําให้โรแลนด์รู้สึกต้องระมัดระวังตัว
ดรูอิดในร่างของมนุษย์งั้นเหรอ?
หลังจากมีนงงไปพักหนึ่งโรแลนด์ก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
จากนั้นเขาก็ต้องตกตะลึง เขาไม่รู้ตัวเลยว่าดรูอิดเข้ามาหาเขาไม่แปลกใจเลยว่าทําไมพวกขุนนางถึงต้องเก็บทาสเอลฟ์ไว้เป็นความลับสูงสุด พวกเขาจะถูกฆ่าได้โดยไม่รู้ตัว
“โรแลนด์ต้องขอบคุณสําหรับการช่วยเหลือของเจ้า” เซอเรียเดินเข้ามาหาโรแลนด์พร้อมรอยยิ้ม “ตามที่ตกลง นี่เป็นแบบจําลองเวทย์ทั้งสี่ของเจ้า”
เธอมอบกระดาษสี่แผ่นให้กับโรแลนด์
โรแลนด์แปลกใจ “พวกเราตกลงกันไว้แค่สามไม่ใช่เหรอ?”
“พอดีข้าเผลอเขียนเกินมาแผ่นหนึ่ง”
ขณะพูดเธอก็เข้ามากอดโรแลนด์ร้อมพูดว่า “เจ้าเป็นมนุษย์ที่ยอดเยี่ยมและน่าเชื่อถือมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมาก่อน ข้าจะกลับไปยังป่าเอลฟ์ หวังว่าโชคชะตาจะนําพาให้ข้าและเจ้ากลับมาพบกันอีกครั้ง”
กอดของเซอเรียนั้นอบอุ่น มันเป็นอ้อมกอดอันบริสุทธิ์
โรแลนด์ไม่ใช่พวกที่ตื่นเต้นหรือตื่นตัวหนักเหมือนพวกเด็กผู้ชายที่เป็นลมไปเพียงเพราะอ้อมกอดสําหรับคําขอบคุณ
เหมือนอย่างที่เซอเรียพูด เธอขอบคุณโรแลนด์จากใจจริง แม้เขาและเธอจะไม่ได้คุยกันมากนักในช่วงวันที่ผ่านมา แต่โรแลนด์ก็มอบความสะดวกสบายให้แก่เธอ จนกระทั่งคนของเธอมาถึง
มีเพียงคนที่เคยถูกหลอกมาหลายครั้งเท่านั้นถึงรู้ว่าคนที่รักษาสัญญามีค่าถึงเพียงใด
เซอเรียจากไปแล้ว คนหนุ่มภายในเมืองต่างได้รับข่าวสารและร้องออกมาด้วยความเสียใจ บางคนถึงกับพยายามหยุดเซอเรียและชักชวนเธอให้อยู่ภายในเมือง
แน่นอนว่าไม่มีใครทําสําเร็จ
โรแลนด์กลับไปยังหอคอยเวทย์พร้อมกับแบบจําลองเวทย์ของเอลฟ์และเริ่มที่จะศึกษามันอย่างหลงไหล
แบบจําลองเวทย์ถูกสร้างขึ้นจากจุดเวทย์และเส้น ส่วนค่ายกลเวทย์คือการรวมตัวกับเป็นสี่เหลี่ยม ในขณะที่แบบจําลองเวทย์ของเอลฟ์นั้นเป็นวงกลมและทรงกลม!
เอาล่ะ…พวกมันต่างกันโดยสิ้นเชิง
โรแลนด์ได้เตรียมใจมาก่อนแล้ว เขามีความรู้จํานวนมากเกี่ยวกับเวทมนตร์ เขารู้ดีว่าระบบเวทย์ของมนุษย์และเอลฟ์นั้นต่างกัน
เขาขอเวทย์จากเซอเรียมาเพียงเพื่อเสี่ยงโชคเท่านั้น
นอกจากนี้การที่เขาไม่เข้าใจไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเขาจะไม่เข้าใจ
ขณะที่เขากําลังศึกษาแบบจําลองเวทย์ของเอลฟ์ วิเวียนก็เข้ามาหาเขาที่ห้องทดลองพร้อมอําพันขาว
ในตอนที่มันพบโรแลนด์ อําพันขาวก็กระโดดออกจากโรแลนด์และปีนขึ้นไปยังไหล่ของโรแลนด์ ก่อนที่จะเริ่มนั่งลง
วิเวียนกล่าวอย่างอิจฉา “อําพันขาว ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ ทําไมเธอถึงสนิทกับเขาได้เร็วขนาดนี้กัน
อําพันขาวพูดด้วยเสียงสะอื้นของเด็กสาวตัวน้อย “ก็ข้าไม่เจอนายท่านมานานแล้วนี่”
“มันก็แค่ครึ่งวันเองนะ” วิเวียนบ่นออกมาอย่างไม่ยินดีนัก
โรแลนด์กระแอมออกมาเพื่อหยุดการโต้เถียงกันของวิเวียนและอําพันขาว “มีอะไรให้ฉันช่วยงั้นเหรอ?”
วิเวียนกลายเป็นจิตตกพร้อมกล่าวว่า “มีขุนนางชั้นสูงบางคนต้องการคุยกับท่านเรื่องการแบ่งดินแดนในเดลพอล”