อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่315 พระชายาหมิงกล้าหาญดุดันมาก
สายตาของทุกคน ทำเอาหยุนหว่านหนิงหนีไม่ได้
ขนาดโม่หุยเฟิงกับฉินซื่อเสวีย ยังกัดฟันจ้องมองนาง……
ฉินซื่อเสวียข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “พระชายาหมิงออกความเห็นให้พระชายารองหยุนเหรอ! ทำไมไปไหนก็มีแต่เจ้า! งานในจวนอ๋องสามของเรา เจ้าก็จะยุ่งงั้นเหรอ?!”
“พระยายาหมิงชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจริงๆเลยนะ?!”
โดนนางพูดแบบนี้ หยุนหว่านหนิงก็ทำท่าเหมือนผู้บริสุทธิ์
โจวหยิงหยิงอึ้ง “หนิงเอ๋อร์ หยุนธิงหลานสมองมีแต่ขี้เลื่อยหรือไงนะ?”
หยุนธิงธิงจับมือหยุนหว่านหนิงอย่างตื่นเต้น “พี่ใหญ่อย่าไปเลยนะ!”
“ท่านอ๋องสามกับพระชายาสาม ดูจะเกลียดพี่มาก! ถ้าพี่ไปตอนนี้ พวกเขาจะต้องเขมือบพี่ทั้งเป็นแน่!”
“ตอนนี้ เจ้าเชื่อที่ข้าพูดหรือยังล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงตบมือหยุนธิงธิงเบาๆ “พี่รองของเจ้าโง่จริงๆ!”
นางชักมือกลับมา ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ
นางว่าจะดูละครเงียบๆ
แต่ใครจะรู้ว่าจะโดนเรียกชื่อกะทันหัน
ฉินซื่อเสวียพูดท้าทายก่อน ถ้านางทำเป็นไม่ได้ยิน……งั้นก็เท่ากับว่ายอมรับแล้วว่า: นางกลัวฉินซื่อเสวีย?
ถ้าเป็นแบบนี้ จวนอ๋องหมิงก็ได้อับอายขายขี้หน้ากันพอดี
เดี๋ยวโม่เยว่ก็จะพลอยเสียชื่อเสียงไปด้วย
นางโดนคนชี้หน้าด่าไม่เป็นไร ยังไงนางก็จะด่ากลับไปอยู่ดี……
แต่ถ้าโม่เยว่โดนด่า นางทนไม่ได้หรอกนะ!
หยุนหว่านหนิงลุกขึ้นยืนอย่างสง่าผ่าเผย ไม่สนใจการยื้อห้ามของหยุนธิงธิง “น้องรองเรียกข้าออกมากะทันหัน จะคุกเข่าคารวะให้ข้าดื่มน้ำชาเหรอ?”
“อ้อ ข้าเรียกผิด? ตอนนี้ควรเรียกเจ้าว่า พระชายารองหยุนใช่ไหม?”
หยุนธิงหลานทำนางหมดอารมณ์ นางขอพูดหน่อยเถอะ!
เห็นสายตาไม่พอใจของนาง หยุนธิงหลานก็ลดสายตาลงอย่างหวาดกลัว “พี่ใหญ่ นางใส่ร้ายข้าก่อน……”
“นางใส่ร้ายเจ้า เจ้าใส่ร้ายกลับไม่เป็นหรือไง?”
หยุนหว่านหนิงมองค้อนนางอย่างไม่พอใจ “ไร้ประโยชน์จริงๆ! ต่อไปโดนคนรังแก ก็คงจะไม่กล้าตอบโต้สินะ!”
ฉินซื่อเสวียที่อยู่ข้างๆก็ขมวดคิ้วเป็นปม “พระชายาหมิง ท่านกำลังประชดข้าอยู่เหรอ?”
“พระชายาสามดูจะไม่ค่อยฉลาดนะ! ข้าประชดเจ้าเหรอ? ข้าเรียกชื่อเลยต่างหาก!”
หยุนธิงหลานสู้ฉินซื่อเสวียไม่ได้ นางไม่กลัวหรอกนะ!
เห็นฉินซื่อเสวียพูดไม่ออก โม่หุยเฟิงก็รีบพูดว่า “พระชายาหมิง วันนี้เป็นวันมงคลของข้า เจ้า……”
ไว้หน้าหน่อยไหม?
“วันมงคลของเจ้าแล้วยังไง? ท่านอ๋องสาม หลังเรือนของท่านไม่สงบสุข ท่านไม่ดูแลดีๆ จะมาว่าข้าทำไม?”
หยุนหว่านหนิงทำหน้ารำคาญ “ข้าไม่ไว้หน้าท่านเหรอ?”
“ตั้งแต่ที่ข้าเข้ามา ก็นั่งจิบชาเงียบๆตลอด ใครใช้ให้พวกนางทะเลาะมาถึงหัวข้ากันล่ะ?”
วันนี้นางอารมณ์ไม่ดี!
ใครหน้าไหนที่มาว่านาง นางจะโต้กลับไปให้หมดเลย!
โม่หุยเฟิงรู้ว่านางปากดี ไม่มีใครสู้ฝีปากนางได้
อยู่ต่อหน้านาง เขาก็ไม่เย็นชาและหยิ่งยโสเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนี้ กลับหวาดระแวง ไม่กล้าปะทะกับหยุนหว่านหนิงซึ่งๆหน้า
“เรื่องนี้ข้าไม่ได้จัดการให้ดี! วันนี้คนที่มาล้วนแต่เป็นแขกทั้งหมด พระชายาหมิงลงไปก่อนไหม กินอาหารในงานก่อน มีอะไรค่อยคุยกันทีหลัง?”
โม่หุยเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ฉินซื่อเสวียมองเขาอย่างตกตะลึง
นี่ยังเป็นโม่หุยเฟิงอยู่ไหม?!
ต่อหน้าหยุนหว่านหนิง กลับพูดเสียงเบางั้นเหรอ?!
ฉินซื่อเสวียรู้สึกว่า โม่หุยเฟิงยอมอ่อนข้อให้หยุนหว่านหนิง เจ็บปวดกว่าการตบหน้านางเสียอีก!
“ไม่ได้”
หยุนหว่านหนิงปฏิเสธอย่างจัง “ถ้าเรื่องนี้ยังพูดไม่ชัดเจน ข้าก็จะไม่ยอมเด็ดขาด”
“ในเมื่อพวกเจ้าพูดถึงเรื่องชุดแต่งงาน งั้นพวกเราก็มาพูดให้ชัดเจนไปเลย!”
นางดึงหยุนธิงหลานลุกขึ้น เดินไปที่หน้าฉินซื่อเสวีย “พวกเรามาคุยกันหน่อย พระชายาสามอยากจะซักถามเรื่องอะไรกันแน่?”
“เมื่อกี้ข้าก็บอกชัดเจนไปแล้วไง?”
ฉินซื่อเสวียกัดฟันพูด “นางกำลังใส่ชุดแต่งงานของข้าอยู่!”
“แล้วยังไง? น้องรองของข้าแต่งงานกับท่านอ๋อง ถึงแม้จะเป็นแค่พระชายารอง แต่ก็เป็นการแต่งงานที่เสด็จพ่อรับสั่งมา”
หยุนหว่านหนิงแสยะยิ้มเย็นชา “พวกเจ้าจวนอ๋องสามไม่ได้เตรียมชุดแต่งงานมาก็ช่างเถอะ! ยังเอาชุดแต่งงานที่เจ้าเคยใส่แล้ว มาให้น้องรองของข้าใส่อีก……”
“นี่มันจงใจไม่ไว้หน้าจวนกั๋วกง ไม่ไว้หน้าเสด็จพ่อ?!”
ฉินซื่อเสวียพูดไม่ออก: “ข้า……”
“น้องรองข้าเป็นเจ้าสาว ใส่ชุดแต่งงานที่เจ้าเคยใส่ ไม่ใช่ว่าเจ้าได้เปรียบเหรอ?”
หยุนหว่านหนิงถามอีกครั้ง
ฉินซื่อเสวียพูดไม่ออก!
ตอนแรกนางคิดแบบนี้จริงๆ
ถึงแม้จะเอาชุดแต่งงานของตัวเองให้หยุนธิงหลานใส่แล้วจะไม่พอใจแค่ไหน คิดว่าหยุนธิงหลานเป็นพระชายารอง โชคดีได้ใส่ชุดแต่งงานของนาง ถือว่าให้หน้านางแล้ว!
แต่ชุดแต่งงานนี้นางเคยใส่มาก่อน……
เหมือนโม่หุยเฟิงเป็นผู้ชายของนาง หยุนธิงหลานมากินของเหลือจากนางก็เท่านั้น
ขอแค่หยุนธิงหลานไม่รู้สึกอะไร ให้นางใส่วันเดียวแล้วจะเป็นอะไรไป?!
ตอนนี้หยุนหว่านหนิงพูดความคิดของนางต่อหน้าทุกคนแบบนี้ ฉินซื่อเสวียทำตัวไม่ถูก “หยุนหว่านหนิง เจ้าอย่าเอาใจคนต่ำต้อยวัดท้องสุภาพบุรุษ!”
หยุนหว่านหนิงแสยะยิ้มมองนาง
“ท่านอ๋องของเจ้าเป็นบุตรชายคนที่สาม ท่านอ๋องของข้าเป็นบุตรชายคนที่เจ็ด ดังนั้น ต่อหน้าเจ้า ข้าเป็นคนต่ำต้อยจริงๆ”
นางเปลี่ยนน้ำเสียง “แต่เจ้าเป็นสุภาพบุรุษเหรอ?”
“ข้า……”
ฉินซื่อเสวียหน้าเสีย
นังบ้านี่เปลี่ยนเรื่องเร็วเกิน นางตามไม่ทันแล้ว!
แขกเหรื่อด้านล่าง รู้สึกละครเรื่องนี้สนุกมาก
ในเมืองต่างพูดกันว่า พระชายาหมิงมี ‘กำลังภายใน’
ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อ จะเป็น ‘กำลังภายใน’ แบบไหนกันนะ แต่พอมาเห็นวันนี้ นี่มันเป็นวิชา ‘ใช้กำลังปากให้คนตาย’ ได้นี่?!
โจวหยิงหยิงกินเมล็ดทานตะวัน แล้วพูดกับหยุนธิงธิง
“น้องสาม เจ้าเห็นหรือยัง!”
นางสอนนาง “ต่อไปนะ ถ้าจะจัดการคนไร้ยางอาย ต้องใช้วิธีแบบหนิงเอ๋อร์!”
“เจ้าเป็นคนใจดี จะต้องเรียนกับพี่ใหญ่ของเจ้าเยอะๆนะ!”
ว่าแล้ว นางก็ปรบมือ ผิวปากให้หยุนหว่านหนิง “หนิงเอ๋อร์! ทำได้ดี!”
เสียงของนาง ดึงดูดฉินซื่อเสวีย
นางมองค้อนนาง กัดฟันถามว่า “พี่สะใภ้รอง พี่หมายความว่ายังไง? เจ้าเป็นพี่สะใภ้ข้านะ มีพี่สะใภ้แบบเจ้าด้วยเหรอ?”
“พี่สะใภ้แล้วยังไง? ข้าจะปรบมือให้หนิงเอ๋อร์ไม่ได้หรือไง?”
โจวหยิงหยิงทำหน้าไม่สนใจ
ฉินซื่อเสวียโกรธจนขาอ่อน “พวกเจ้ารวมตัวกันมารังแกข้าหรือไง?”
“วันนี้เป็นวันมงคลของท่านอ๋อง พวกเจ้ามาหาเรื่องแบบนี้ อ๋องฮั่นกับอ๋องหมิงรู้บ้างไหม?!”
โจวหยิงหยิงไม่สนใจ “เจ้ารองบ้านข้าถูกกักบริเวณ เจ้าอยากไปฟ้องเขา ต้องไปที่จวนอ๋องฮั่นเองแล้วล่ะ”
รู้ว่าโจวหยิงหยิงเป็นพวกไม่มีเหตุผล
ถ้าไปพูดอะไรไม่เข้าหู เดี๋ยวจะถึงขั้นลงไม้ลงมือได้!
ฉินซื่อเสวียไม่อยากทะเลาะกับนาง!
นางหันไปมองหยุนหว่านหนิง “ข้าจะสั่งคนไปฟ้องท่านพี่เยว่ เจ้ามาทำลายงานแต่ง! และจะบอกให้เสด็จพ่อกับเสด็จแม่รู้ว่า วันนี้เจ้าทำอะไรไปบ้าง!”
“ข้าทำอะไรเหรอ?”
หยุนหว่านหนิงทำท่าไม่เข้าใจ “เจ้าเป็นคนเริ่มประเด็นเอง เรื่องทุกอย่างเจ้าก็เป็นคนเริ่มก่อนเอง”
ทำไมถึงมาโทษข้าได้ล่ะ?
ท่านพี่เยว่งั้นเรอะ……
“อ๋องสามใจกว้างจังนะ! พระชายาตัวเองเรียกชายอื่นว่าท่านพี่เยว่ เจ้ายังฟังลงอยู่อีก! ถ้าเป็นข้านะ คงตบหน้านางไปแล้วล่ะ ให้นางรู้ว่านายใหญ่ของบ้านคือใคร!”
หยุนหว่านหนิงตั้งใจยุยงให้บ้านแตก เหลือบตามองฉินซื่อเสวีย “เพราะยังไงข้าก็ไม่รู้ว่า”
“โม่เยว่ของข้า ไปมีน้องสาวอย่างเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!”
ได้ยินดังนั้น โม่หุยเฟิงก็อยากจะเอาปี๊บมาคลุมหัวจริงๆ!
ฉินซื่อเสวียก็โกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก “หยุนหว่านหนิง เจ้าอย่ามายุยงข้ากับท่านอ๋องให้แตกหักกันนะ!”
“เจ้าไม่ได้พูดเองเหรอ? ข้าจะยุยง……”
หยุนหว่านหนิงยังพูดไม่ทันจบ หน้าประตูก็มีเสียงดังขึ้น “หนิงเอ๋อร์!”