อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 373 พระชายาหมิงไม่ยึดตามเหตุผลทั่วไป
เห็นสีหน้าท่าทางของนางลำบากใจเล็กน้อย ในใจของจางหมัวมัวรู้สึกได้ใจ
แต่ยังคงทำท่าทางตัวสั่นงันงก “พระชายาหมิง ก็ไม่ใช่ว่าเหนียงเหนียงจะทำให้ท่านลำบากใจ! แต่ว่ารู้สึกสงสารคุณชายน้อย อายุน้อยๆจะไม่มีท่านแม่คอยอยู่ข้างกายได้อย่างไร?”
“เหนียงเหนียงก็ตรวจสอบมาแล้ว ภูมิหลังของล่ายซื่อขาวสะอาด เป็นคนที่ขาวสะอาด”
“เหนียงเหนียงบอกแล้วว่า สมัยนี้หญิงสาวเช่นนี้หาได้ยากแล้ว! หากพระชายาหมิงไม่คิดจะรับไว้ เหนียงเหนียงก็จะรับไว้เป็นสาวใช้คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างกาย”
จางหมัวมัวพินิจพิเคราะคำพูดแล้วกล่าวว่า “เช่นนี้จะได้ช่วยให้ล่ายซื่อได้สมปรารถนา สามารถเห็นคุณชายน้อยตลอดเวลา”
หยุนหว่านหนิงมองดูนางอย่างเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม
ฮองเฮาจ้าวผู้นี้ก็ช่างกล้าหาญมากจริงๆ
ไม่รู้ว่าควรจะบอกว่านางมีความกล้าหาญและมีแผนการดี หรือควรจะบอกว่านางไม่มีหัวสมองดี
เพียงแค่หยั่งเชิงโม่จงหรานไปครั้งเดียว ตัวเองก็คิดว่าหยวนเป่าคือบุตรนอกสมรสของโม่เยว่ ก็กล้าที่จะหาหญิงสาวมาแอบอ้างตัวเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของหยวนเป่าแล้ว? !
นางก็ไม่สืบให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนหรือ? !
หยุนหว่านหนิงอดที่จะสงสัยไม่ได้ ด้วยระดับความฉลาดทางด้านสติปัญญาของฮองเฮาจ้าว นั่งอยู่ในตำแหน่งฮองเฮาอย่างมั่นคงมาหลายปีขนาดนี้ได้อย่างไร
หรือว่าจะเป็นคนคมในฝัก ชำนาญการแสร้งทำเงอะงะเก็บซ่อนความสามารถ? !
นิสัยเอิกเกริกนั่นของนาง ก็ไม่เหมือนนี่นา!
“งั้นหรือ?”
สายตาของหยุนหว่านหนิงมองไปทางล่ายซื่อ
มุมตาของนางแฝงไปด้วยน้ำตา น้ำเสียงสะอื้นเล็กน้อย “พระชายาหมิง ข้ารู้ว่าฐานะของข้าต้อยต่ำไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง! ไม่กล้าคิดอาจเอื้อมว่าจะอยู่ข้างกายของท่านอ๋อง!”
“หากสามารถพบลูกชายของข้าได้ เป็นสาวใช้อยู่ข้างกายของฮองเฮาก็เป็นวาสนาของข้าเช่นกัน!”
หรูอวี้กับหรูเยียนแค่อยากจะอาเจียนต่อหน้าสาธารณชนเท่านั้น
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว สีหน้ายังคงไม่เป็นมิตร
โสเภณีเถื่อนจากไหนกัน ถึงกับกล้าคิดว่าหยวนเป่าเป็นลูกชายของนางจริงๆ? !
หยุนหว่านหนิงโมโหจนอกจะแตกตายอยู่แล้ว!
หากไม่ใช่เพราะว่าหรูเยียนดึงนางเอาไว้ นางคงตบปากนังโสเภณีเถื่อนนี่จนเละไปนานแล้ว!
หยุนหว่านหนิงอดกลั้นความโกรธเอาไว้ “งั้นหรือ? ในเมื่อเจ้าอยากจะเป็นสาวใช้ข้างกายของเสด็จแม่ เช่นนั้นจางหมัวมัวยังไม่รีบพานางไปพบเสด็จแม่อีก”
จางหมัวมัวชะงักงัน
เนื้อเรื่องไม่ควรพัฒนาไปแบบนี้นี่นา?
ภายใต้การจ้องมองของผู้คนมากมาย เพื่อที่จะปิดปากผู้คน พระชายาหมิงไม่ควรรับตัวล่ายซื่อเอาไว้โดยตรงหรอกหรือ?
ดูเหมือนนางจะลืมไปแล้วว่า หยุนหว่านหนิงทำอะไรไม่ยึดตามเหตุผลทั่วไปมาตลอดอยู่แล้ว
นางไม่ใช่คนที่กลัวคำติฉินนินทา!
สีหน้าของล่ายซื่อก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน แต่ตอบสนองกลับมาเร็วกว่าจางหมัวมัวเล็กน้อย
นางรีบคุกเข่าลงไป “พระชายาหมิง ข้ารู้ว่าข้าปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน ข้าไม่ควรแทรกเข้ามาระหว่างท่านกับท่านอ๋อง! แต่ขอร้องท่านล่ะ เห็นแก่ลูกชายของข้า ได้โปรดให้ข้าได้พบท่านอ๋องเถอะ!”
“ขอร้องพระชายาหมิง ได้โปรดช่วยให้หัวใจของแม่ที่คิดถึงลูกชายจนป่วยสมปรารถนาด้วยเถอะ!”
“ในเมื่อเจ้ามาเพื่อลูกชายของเจ้า เหตุใดไม่พบลูกชายของเจ้าแต่จะพบท่านอ๋องล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงยิ้มเย้ยหยัน “นี่ก็คือใจของแม่ที่คิดถึงลูกชายจนป่วยของเจ้างั้นหรือ?”
“ตกลงแล้วคือคิดถึงลูกจนป่วยหรือว่าคิดถึงท่านอ๋องจนป่วยกันแน่?”
ล่ายซื่อคนนี้ เรียก “ลูกชายของข้า” สองครั้ง “คิดถึงลูกจนป่วย” หนึ่งคำ
ดีมาก!
นางจะเจาะรูที่ลิ้นของนางสามรู ตีให้ฟันนางร่วงสามซี่!
น่าโมโหจริงๆ!
ล่ายซื่อก็รู้ว่าเดิมทีหยุนหว่านหนิงก็ฝีปากเก่งอยู่แล้ว หากโต้เถียงกันเช่นนี้ต่อไปต้องไม่เป็นผลดีต่อนางแน่นแน ดังนั้นจึงนิ่งเงียบไปเสียเลย เพียงแค่บีบผ้าเช็ดหน้าเอาไว้แล้วร้องไห้อย่างเดียว
ร้องไห้จนหยุนหว่านหนิงเดือดพล่านเป็นไฟ!
“พระชายาหมิง นี่……”
จางหมัวมัวยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกหยุนหว่านหนิงตบเข้าให้ฉากหนึ่ง “นังแก่ที่ไม่รู้จักระวัง!”
นางตบฉากนี้ไปอย่างแรง ตบจนจางหมัวมัวนั่งลงไปกับพื้นโดยตรง!
นางเงยหน้าขึ้นมา มองดูหยุนหว่านหนิงอย่างตกตะลึง กุมหน้าเอาไว้แล้วกล่าวถามอย่างตะลึงงัน “พระชายาหมิง นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร? บ่าวปฏิบัติตามคำสั่งของฮองเฮา ให้พาตัวล่ายซื่อมาที่จวนอ๋องหมิง”
“ท่าน ทำไมท่านถึงลงไม้ลงมือล่ะ?”
ถึงยังไงนางก็เป็นคนข้างกายของฮองเฮาจ้าว!
สตรีที่มีบรรดาศักดิ์ในเมืองหลวงแห่งนี้ ใครบ้างที่เห็นนางแล้วจะไม่เกรงใจเล็กน้อย? !
วันนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย กลับถูกหยุนหว่านหนิงตบตีได้? !
“ลงไม้ลงมือ? ข้ายังไม่ตีขาเจ้าให้หักด้วยซ้ำ! ไม่รู้ว่าไปหาโสเภณีเถื่อนเช่นนี้มาจากไหน ก็กล้ามาบอกว่าเป็นคนรู้ใจของโม่เยว่ของข้าแล้ว!”
ท่าทางของหยุนหว่านหนิงแสดงอำนาจบีบบังคับ “ได้! วันนี้ข้าจะรับล่ายซื่อเอาไว้ ทุกอย่างรอให้ท่านอ๋องของข้ากลับมาตัดสิน!”
“หากล่ายซื่อผู้นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านอ๋อง ข้าจะส่งไปหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อด้วยตัวเอง ให้เสด็จพ่อทรงทอดพระเนตรว่านี่ก็คือคนที่เสด็จแม่ส่งมา!”
“วันหน้าให้เสด็จแม่ท่านอ๋องใช้ความคิดให้มากหน่อย ส่งโสเภณีเถื่อนสองสามไปให้บรรดาท่านอ๋องทุกท่าน!”
นางโกรธสุดขีด
เดิมทียังคิดจะรับมือกับจางหมัวมัวกับล่ายซื่อผู้นี้อย่างอดทน
แต่ล่ายซื่อผู้นี้อ้าปากก็คือ “ลูกชายของข้า” อยู่ตลอด ทำให้หยุนหว่านหนิงโมโหจนทนไม่ไหวแล้ว!
จางหมัวมัวกลัวแล้ว ล่ายซื่อก็กลัวแล้วเช่นกัน
พวกนางคิดไม่ถึงเลยว่า หยุนหว่านหนิงจะเป็นคนที่ไม่กลัวว่าจะถูกคนนินทา!
ถึงแม้หน้าประตูจะมีชาวบ้านดูความครึกครื้นอยู่มากมายขนาดนี้ นางไม่เพียงไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย ยังจะร้องเรียนเรื่องนี้ไปหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท? !
ไหนเลยจะกล้า? !
จางหมัวมัวรีบร้อนลุกขึ้นมา
ถูกตบแล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว กลับยังต้องยิ้มเอาไว้ “พระชายาหมิง เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้จะลำบากไปถึงหน้าพระพักตร์ฝ่าบาททำไม?” หากฝ่าบาทรู้เข้า ต้องปกป้องพระชายาหมิงแน่นอน!
ท่านนี้คือนายที่ใจกล้าอย่างมาก แม้แต่การเรียกขานของอ๋องหมิงก็ยังเป็น “โม่เยว่ของข้า”
นางดุขนาดนี้ ใครจะกล้าทำให้เรื่องใหญ่โต?
ตอนนี้ จางหมัวมัวก็ไม่กล้ายัดล่ายซื่อให้กับหยุนหว่านหนิงดื้อๆแล้ว แต่กลับจะพาตัวล่ายซื่อจากไป “ไม่แน่ว่าเรื่องนี้ยังมีอะไรเข้าใจผิดกันอยู่”
“รอให้บ่าวกราบทูลต่อฮองเฮา ตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่างแล้ว ค่อยส่งตัวล่ายซื่อมาอีกครั้งแล้วกัน!”
นางคว้ามือของล่ายซื่อเอาไว้ ขยิบตาให้นางไม่หยุด ทั้งสองหันหลังก็จากไป!
“หยุดนะ! ห้ามไปไหนทั้งนั้น!”
หยุนหว่านหนิงโบกมือ “ปิดประตู!”
“วันนี้ข้าก็อยากจะดูสิว่า ใครกล้าจากไป!”
นางส่งสัญญาณให้หรูอวี้กับหรูเยียนเข้าไปขวางจางหมัวมัวกับล่ายซื่อเอาไว้ “ไปไหน? ยังพูดกันไม่ชัดเจนเลย เรื่องราวยังไม่ได้การตรวจสอบ พวกเจ้าจะไปไหน?”
จางหมัวมัว: “……”
วันนี้ไปยั่วยุเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว!
“พระชายาหมิง บ่าวยังต้องกลับวังไปปรนนิบัติเหนียงเหนียงอีก”
จางหมัวมัวพยายามจะหลบหนี
“คนในวังของตำหนักคุนหนิงมีมากมายขนาดนั้น เสด็จแม่ขาดเจ้าไปไม่ได้เลยหรือ?”
หยุนหว่านหนิงกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “รอกันอย่างเฉยๆเลย ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าโม่เยว่กลับมาแล้วจะพูดอย่างไร!”
“หากล่ายซื่อผู้นี้คนรู้ใจของเขาจริงๆ อย่าว่าแต่จะรับไว้เลย……ตำแหน่งพระชายาของข้าก็จะยกให้นางด้วย!”
ได้ยินคำพูดนี้ ในใจของล่ายซื่อรู้สึกดีใจขึ้นมา
พวกผู้ชาย ใครบ้างไม่มีคนรู้ใจอยู่ข้างนอก?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นท่านอ๋องแห่งราชวงศ์ ข้างนอกต้องมีคนแน่นอน……ถึงเวลานั้นขอแค่นางยืนกรานอย่างหนักแน่น ว่าโม่เยว่กับนางเคยมีอดีตกันมาก่อน เพียงแต่ว่าเขาจำไม่ได้แล้วเท่านั้น
นางก็จะสามารถอยู่ที่จวนอ๋องหมิงแล้ว!
ในใจของล่ายซื่อคิดคำนวณอย่างดี
ใครจะรู้ว่าคำถัดมาของหยุนหว่านหนิงจะกล่าวขึ้นมาว่า “หากล่ายซื่อผู้นี้คือคนที่พวกเจ้าอุปโลกน์ขึ้นมา…….ข้าจะไม่ลงโทษล่ายซื่อ ข้าเพียงแต่จะส่งนางไปให้กับเสด็จพ่อเท่านั้น”
“บอกว่านี่คือสาวงามที่เสด็จแม่เฟ้นหามาให้กับเสด็จพ่อ พวกเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร?”
“เป็นพระชายาหมิงตำแหน่งเล็กๆคนหนึ่ง ไหนเลยจะเทียบกับสนมในวังหลังได้?”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา จางหมัวมัวและล่ายซื่อต่างก็ตกใจจนอ้าปากค้าง!
พวกนางจินตนาการถึงความเป็นไปได้นับพันนับหมื่น แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า หยุนหว่านหนิงจะมอบล่ายซื่อให้กับโม่จงหราน!
นี่มันน่าเหลือเชื่อมาก!
หากมอบล่ายซื่อให้โม่จงหรานไปจริงๆ ฮองเฮาจ้าวก็คือยกก้อนหินมาทุบเท้าของตัวเอง……หากนางรู้เรื่องนี้เข้า จะตัองถลกหนังของจางหมัวมัวอย่างแน่นอน!
สีหน้าของจางหมัวมัวเปลี่ยนไปอย่างมาก มองดูหยุนหว่านหนิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ “พระชายาหมิง บ่าว บ่าว……”
“บ่าวรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำเล็กน้อย! ไม่ทราบว่าห้องน้ำของจวนอ๋องอยู่ที่ไหน?”
หยุนหว่านหนิงจะดูไม่ออกได้อย่างไร ว่านางต้องการหาข้ออ้างด้วยการไปเข้าห้องน้ำ? !
นางทำเป็นไม่ได้ยิน สั่งการต่อหรูอวี้ “ไปเชิญท่านอ๋องกลับมาทันที!”