อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ – บทที่ 395 เมื่อเจ้าไร้ศีลธรรม ข้าก็จะไร้ศีลธรรมด้วย

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 395 เมื่อเจ้าไร้ศีลธรรม ข้าก็จะไร้ศีลธรรมด้วย

ฉวยโอกาสที่หมอหลวงหยางกำลังดูแลนาง หยุนหว่านหนิงที่ยืนอยู่อีกด้านก็พูดพล่ามไม่หยุด

“หมอหลวงหยาง เจ้าว่าสมองที่แก่ชราของเจ้าเป็นอะไรไปแล้วหรือไม่? รู้ทั้งรู้ว่าเมื่อคืนนี้ระหว่างงานเลี้ยงในวัง ข้าทะเลาะกับพระชายาฉู่จนถึงขั้นแตกหัก เจ้าก็ยังจะให้ข้าดูแลเรื่องนี้แทนเจ้าอีกรึ?”

นางทำท่าทางเหมือนปวดเศียรเวียนเกล้า “เจ้าว่าถ้าพระชายาฉู่เกิดเคราะห์ร้ายเป็นอะไรขึ้นมา”

“นี่ไม่เท่ากับตั้งใจให้ข้าเผยช่องโหว่ให้คนอื่นโจมตี ให้คนอื่นคิดว่าข้าเป็นคนลงมือทำหรอกรึ?”

“ไหนเจ้าลองว่ามาซิ เจ้ามีเจตนาจะให้ร้ายข้าใช่หรือไม่?”

สิ่งที่นางพูดมา ทำให้หมอหลวงหยางถึงกับตกตะลึงจนตาค้าง

เขาลืมสิ่งที่มือกำลังทำอยู่ไปชั่วขณะ หันหน้ากลับไปมองนางพลางพูดแก้ตัวทันที “พระชายาหมิงใส่ร้ายกระหม่อมแล้ว! กระหม่อมไม่ได้คิดอะไรมากมายไปถึงขั้นนั้น”

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้คิดอะไรมากมายไปถึงขั้นนั้น ไม่อย่างนั้นแล้วข้ายังจะยอมละเว้นเจ้าแบบนี้รึ?”

หยุนหว่านหนิงชำเลืองหางตามองปี้อวี้แวบหนึ่ง

เห็นนางมีท่าทีกระวนกระวาย แววตาระแวดระวัง…..

“ช่างเถอะ ข้าจะยอมแสดงความเมตตาด้วยการไปดูอาการอ๋องฉู่สักหน่อยแล้วกัน! หมอหลวงหยางยุ่งกับเรื่องของพระชายาฉู่แล้ว วันนี้ข้าจะยอมงัดความเมตตาที่หาได้ยากยิ่ง ด้วยการเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นสักครั้งก็แล้วกัน ”

นางหันหลังกลับแล้วเดินออกนอกประตูไป “ยังไงซะอ๋องฉู่ก็เป็นพี่ใหญ่ของสามีข้า”

พ่อบ้านเหยารีบพานางไปที่ห้องถัดไปทันที

การหกล้มของโม่หุยเหยียนครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลย กระดูกน่องของเขาเกือบหัก หน้าผากก็ถูกขอบขั้นบันไดหินกระแทกจนแตกเป็นแผลเปิด

อาการบาดเจ็บของเขาได้รับการปฐมพยาบาลขั้นต้นแล้ว ที่น่องใช้ไม้กระดานดามเป็นเฝือกชั่วคราว

หยุนหว่านหนิงถอดเฝือกออกตรวจสอบดูแวบหนึ่ง “ยอดเยี่ยมแท้!”

“นี่ไม่ใช่การหกล้มเบา ๆ เลยนะเนี่ย”

พ่อบ้านเหยารีบตอบว่าใช่

หยุนหว่านหนิงกลอกตา “จำเป็นต้องฝังเข็มเพื่อให้หายเร็วขึ้น! ไม่อย่างนั้นใช้แค่ไม้กระดานดามไว้อย่างเดียวแบบนี้ ยังไงก็คงจะใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย”

เขารู้ถึงทักษะทางการแพทย์อันยอดเยี่ยมของหยุนหว่านหนิงดี แม้แต่โม่จงหรานก็ยังชมไม่ขาดปาก

พ่อบ้านเหยาคิดว่า ในเวลาแบบนี้ หยุนหว่านคงจะไม่กล้าลงมือทำอะไรโม่หุยเหยียนภายใต้จมูกของเขาหรอกกระมัง

ดังนั้นเขาจึงพยักหน้า “เช่นนั้นข้าน้อยจะรีบไปเตรียมของจำเป็นมาให้พระชายาหมิงดีหรือไม่?”

“จะต้องไปเตรียมอะไรล่ะ? สำหรับข้าเข็มเงินมันเป็นสิ่งที่สำคัญ ยังต้องเตรียมอะไรอีก?!”

นางยื่นมือออกมาจากแขนเสื้อแบบลวก ๆ นำกระบอกใส่เข็มเงินใบหนึ่งออกมา

พ่อบ้านเหยามีหรือจะรู้ว่ากำไลหยกของนาง แท้จริงแล้วเป็นช่องว่างเอนกประสงค์? !

เห็นแค่ว่านางหยิบกระบอกใส่เข็มเงินออกมาด้วยท่าทางสบาย ๆ อีกทั้งเข็มเงินก็มีความยาวและความหนาแตกต่างกันไป เรียกได้ว่ามีอย่างน้อย ๆ ก็มีหลายสิบเล่ม……

ใบหน้าแก่ ๆ ของเขาถึงกับซีดเผือด “พระชายาหมิง ท่านพกเข็มเงินติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอดเลยหรือ?”

“ถ้าไม่อย่างนั้นจะทำไมล่ะ?”

หยุนหว่านหนิงไม่ได้มองเขาอีก เลือกหยิบเข็มเงินหนา ๆ เล่มหนึ่งออกมา ทำท่าเหมือนจะฝังเข็มให้โม่หุยเหยียน

พ่อบ้านเหยาถูกทำให้ตกใจจนหน้าซีดเผือดสี “พระชายา เข็ม…เข็มเล่มนี้ไม่หนาเกินไปรึ?! หรือไม่เปลี่ยนเป็นเล่มอื่นน่าจะดีกว่า?”

“เจ้าเป็นหมอหรือข้าเป็นหมอ? เอาเข็มให้เจ้าฝังเองเลยไหม?”

หยุนหว่านหนิงหันไปมองเขาด้วยสีหน้าเหลืออด

“ข้าน้อยไม่กล้า…..”

พ่อบ้านเหยารีบหดคอทันที

“เช่นนั้นก็หุบปากซะ! อย่ามารบกวนข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาเข็มเงินนี่เย็บปากเจ้า!”

สีหน้าที่ดุร้ายของนาง ทำให้พ่อบ้านเหยายิ่งตกใจกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง จึงรีบปิดปากแน่น บรรดาวีรกรรมสุดอื้อฉาวของแม่เจ้าประคูนทูนหัวคนนี้ ตัวเขาเองก็เคยได้ยินมานานแล้ว

ถ้านางบอกว่าจะเย็บปากเขา มันต้องไม่ใช่แค่คำพูดข่มขู่ธรรมดา ๆ อย่างแน่นอน!

เมื่อเห็นว่าพ่อบ้านเหยาหุบปากแล้ว หยุนหว่านหนิงก็แค่นเสียงเย็นชาขึ้นมาเสียงหนึ่ง ก่อนจะฝังเข็มให้โม่หุยเหยียน

นางหาจุดฝังเข็ม จากนั้นเข็มเงินในมือก็แทงลงไปอย่างรุนแรงและแม่นยำ!

แม้จะอยู่ในระหว่างหมดสติ โม่หุยเหยียนก็ยังหลุดเสียงสะอึกด้วยความเจ็บออกมาเสียงหนึ่ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันจนแน่น ภายใต้แรงสะท้อนของเส้นประสาท ขาของเขาสั่นกระตุกอย่างรุนแรง!

พ่อบ้านเหยายิ่งไม่กล้ามองแล้วตอนนี้

เขารีบปิดตาแล้วหันหลังไป รู้สึกเหมือนว่าเข็มเงินตัวต้นเหตุนั่นฝังเข้าที่ขาของเขาเองก็ไม่ปาน ขาแก่ ๆ ของเขาสั่นสะท้านไม่หยุด

เมื่อเห็นว่าเขาหันหลังไปแล้ว หยุนหว่านหนิงก็เปลี่ยนไปใช้เข็มเงินที่เล็กบางราวกับขนวัวเล่มหนึ่งอย่างเงียบ ๆ

ประกายแสงเย็นเยียบสายหนึ่งฉายวาบขึ้นในดวงตาของนาง เข็มเงินเล่มนั้นถูกแทงเข้าที่หัวเข่าของโม่หุยเหยียนแบบไม่มีลังเล!

ขอโทษด้วย โม่หุยเหยียน!

เรื่องนี้เจ้าเป็นคนเริ่มก่อน ข้าก็มีแต่ต้องตามน้ำเท่านั้นแล้ว!

ในเมื่อเจ้าไร้ศีลธรรมก่อน ก็อย่ามาโทษว่าข้าไร้ศีลธรรมด้วย!

เพื่อรับรองความปลอดภัยของลูกชาย นางต้องทำใจแข็งเพื่อกำจัดสิ่งกีดขวางตรงหน้าออกไปให้หมด นางไม่ได้สนใจว่าลูกชายของตนจะได้ไปถึงตำแหน่งนั้นในอนาคตหรือไม่ นางแค่อยากให้ลูกชายมีชีวิตที่ปลอดภัย มีสุขภาพที่แข็งแรงก็พอ!

แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว…..

ตราบใดที่โม่หุยเหยียนกับหนานกงเยว่ยังมีชีวิตอยู่หนึ่งวัน พวกเขาจะไม่มีวันยอมวางมือยุติการตามราวีพวกนางง่าย ๆ แน่

นางจะไม่ปล่อยให้พวกเขาตาย แต่นางจะทำให้พวกเขาอยู่ไม่สู้ตายต่างหาก!

………….

หลังออกจากห้องของโม่หุยเหยียน หยุนหว่านหนิงก็สั่งให้พ่อบ้านเหยาไปพาวังอี๋เหนียงคนนั้นมาพบ

เพียงได้เห็นแวบเดียว นางก็ถึงกับประหลาดใจ

“จุ๊ ๆ เหมือนอย่างกับถูกแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกับพระชายาฉู่จริง ๆ อย่างที่คิดเลยนะเนี่ย! ดูจากหน้าตาแบบนี้ นิสัยใจคอแบบนี้ รูปร่างแบบนี้ เจ้าคงไม่ใช่พี่สาวหรือน้องสาวที่เกิดพลัดพรากจากกันไปนานของหนานกงเยว่หรอกนะ?”

หยุนหว่านหนิงเดินวนไปรอบ ๆ ตัวนางรอบหนึ่ง

วังอี๋เหนียงก้มหน้าอย่างเขินอาย “พระชายาหมิงชมเกินไปแล้วเจ้าค่ะ! พระชายาฉู่เป็นถึงองค์หญิงผู้ทรงเกียรติแห่งตงจวิ้น”

“ส่วนข้าน้อย ก็เป็นได้แค่มดปลวกตัวเล็ก ๆ ในเมืองหลวงเท่านั้น!”

“มดปลวกแล้วจะทำไมล่ะ? เจ้าอย่าดูถูกตัวเองสิ! มดปลวกยังสามารถสั่นคลอนอาคารสูงได้ แล้วนับประสาอะไรกับเจ้าที่เป็นคน!”

หยุนหว่านหนิงทำหน้านิ่ง สีหน้าจริงจัง

แม้ว่าหนานกงเยว่จะเป็นองค์หญิงตงจวิ้นก็จริง แต่ก็ไม่ได้เกิดจากฮองเฮาของตงจวิ้น ทั้งยังไม่ได้เป็นที่โปรดปราน หากถ้าฮ่องเต้ตงจวิ้นรักใคร่เอ็นดูนางจริง มีหรือที่จะยอมปล่อยให้นางแต่งงานมาหนานจวิ้นแบบนี้?!

วังอี๋เหนียงคนนี้ แม้ว่าจะดูเหมือนหนานกงเยว่แทบจะทุกประการ

แต่เมื่อเห็นดวงตาที่หยาดเยิ้มฉ่ำน้ำคู่นั้น เป็นอะไรที่มีเสน่ห์มากจริง ๆ มันดูดึงดูดจนทำให้หัวใจของคนมองรู้สึกคันยุบยิบได้เลยทีเดียว

ขนาดนางเป็นผู้หญิงก็ยังเกือบจะทนไม่ได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับผู้ชายวัยกลัดมันอย่างโม่หุยเหยียน?!

การที่โม่หุยเหยียนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ มันก็นับว่าสมเหตุสมผลอยู่

“ครั้งนี้เป็นเพราะพวกเจ้าทั้งหลาย พระชายาฉู่ถึงโกรธมากจนถึงกับแท้งลูก คิดว่าพอนางฟื้นขึ้นมาคงจะไม่ยอมปล่อยพวกเจ้าให้รอดไปได้ง่าย ๆ แน่ พวกเจ้าคิดหามาตรการรับมือไว้แล้วหรือยัง?”

หยุนหว่านหนิงถาม

วังอี๋เหนียงชำเลืองมองพ่อบ้านเหยาจากทางหางตาแวบหนึ่ง

นางเป็นคนที่เต๋อเฟยส่งมา เป็นธรรมดาที่ย่อมมีใจเดียวกับหยุนหว่านหนิง

เมื่อเห็นว่านางไม่สะดวกพูดออกมา…..

หยุนหว่านหนิงแค่นเสียงเย็นชา “พ่อบ้านเหยา นี่เป็นวิธีต้อนรับแขกของจวนอ๋องฉู่อย่างนั้นรึ?!”

“ข้ามาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ทั้งยังช่วยรักษาขาให้ท่านอ๋องของพวกเจ้า แต่กลับไม่มีแม้แต่น้ำชามาให้ดื่มแก้กระหายสักคำ นี่เจ้าต้อนรับข้าแบบนี้สินะ?!”

พ่อบ้านเหยารีบหมุนตัวไปเตรียมชาทันที

ตอนนี้เอง วังอี๋เหนียงก็ลดเสียงลงแล้วพูดว่า “พระชายาหมิง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะข้าน้อยเป็นต้นเหตุ ข้าน้อยสัญญาว่าจะไม่มีวันปัดความรับผิดชอบเจ้าค่ะ”

“รอให้ท่านอ๋องตื่นขึ้นมาแล้ว ข้าน้อยจะเป็นฝ่ายไปขอรับโทษเอง…..”

ขณะที่พูด นางก็น้ำตาไหลออกมาจนอาบหน้า

วังอี๋เหนียงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา แล้วเช็ดน้ำตาเบา ๆ เมื่อได้เห็นภาพฉากที่โบราณชอบบรรยายกันว่า “ร้องไห้ดั่งดอกสาลี่ยามต้องฝน” นั้นแล้ว ก็ยิ่งทำให้หยุนหว่านหนิงตกตะลึงจนปากอ้าตาค้างไปเลย!

เป็นผู้หญิงเหมือนกันแท้ ๆ ทำไมคนอื่นเขาถึงได้ดูนุ่มนวลงดงามขนาดนี้นะ? !

คนอื่นร้องไห้ดูแล้วงดงามดั่งดอกสาลี่ยามต้องฝน ทั้งบอบบางน่าทนุถนอมชวนให้คนเอ็นดูรักใคร่

ทำไมเวลานางร้องไห้ กลับดูเหมือนน้ำท่วมที่ถูกระบายออกมาจากเขื่อนเลยล่ะ? แถมยังต้องขว้างปาข้าวของ ก่นด่าสาปแช่งจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เลยด้วย? !

เป็นผู้หญิงเหมือนกันแท้ ๆ ความแตกต่างไม่น่าจะห่างกันขนาดนี้นะ!

หยุนหว่านหนิงมองดูรูปร่างที่อ้อนแอ้นอรชรของนาง แล้วก้มมองดูตัวเอง….

“ดีมาก!”

นางพยักหน้า “ข้าเชื่อว่าวังอี๋เหนียงก็คงไม่อยากเป็นแค่ตัวแทนของคนอื่นไปตลอดชีวิต ถ้าเจ้าอยากยึดตำแหน่งตัวเองให้มั่นคง ก็ต้องยึดหัวใจของอ๋องฉู่ไว้ให้มั่นคงเสียก่อน!”

นางพูดอย่างแฝงความหมาย

“ข้าน้อยเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ขอพระชายาหมิงโปรดวางใจ”

วังอี๋เหนียงค้อมกายคำนับ การเคลื่อนไหวดูอ่อนพริ้วดั่งกิ่งหลิวต้องลม

หยุนหว่านหนิงทนดูต่อไปไม่ไหว จึงเบนสายตาหนีไปทางอื่นด้วยความอาย

นางสาบานกับตัวเองว่า ตั้งแต่คืนนี้ไปนางจะฝึกโยคะ ฟิตหุ่นให้เป๊ะ!

เพิ่งจะเดินไปได้แค่สองก้าว ก็มีเสียงเรียกมาจากข้างหลัง “พระชายาหมิง ได้โปรดช้าก่อน!”

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

Status: Ongoing
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ เป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?คืนวันข้ามภพ ณห้องหอ หยุนหว่านหนิงถูกชายชั่วโม่เยว่เนรเทศออกมาจากวังหลัง ถูกจองจำสี่ปีเต็มๆ! เดิมคิดว่า สี่ปีมานี้นางอยู่อย่างยากลำบาก ต้องกลายเป็นยายแก่ขี้เหร่เป็นแน่! แต่หุ่นเธอช่างอรชรอ้อนแอ้นเต่งตึงเสน่ห์บาดใจ ผิวขาวราวกับหิมะ ใช้เงินมือเติบ ข้างกายยังมีเจ้าก้อนแป้งที่หน้าเหมือนเขาอย่างกับแกะ…… โม่เยว่นัยน์ตาร้อนเผ่า “เจ้าเอาเงินมาจากที่ใด!แล้วลูกมาจากไหน?!” เจ้าก้อนแป้งถลึงตามองเขา:“ไปให้ไกลจากท่านแม่ข้า!” หลังจากสืบรู้เรื่องเมื่อปีนั้นแล้ว โม่เยว่สีหน้าจริงใจ:“เมียจ๋า ข้าผิดไปแล้ว!ลูกชาย พ่อผิดไปแล้ว!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน