“สำหรับพวกเรา นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นดินแดนแห่งใหม่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย …”
“ทั้งต้นไม้ ต้นหญ้า ดอกไม้ต่าง ๆ มันสมจริงมาก”
“ประสาทสัมผัสก็เหมือนจริงสุด ๆ แถม NPC ก็ดูมีชีวิตจริง ๆ”
“ถ้าไม่มีหน้าต่างระบบ หรือเชื่อมต่อเน็ตกับทางโลกได้นะ เราคงคิดว่าเราโดนส่งมาต่างโลกแล้วอ่ะ”
“ชั้นคิดว่าตัวเองเข้าใจคำโฆษณาในวีดิโอเปิดตัวแล้วแฮะ”
“พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของโลกแฟนตาซีที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ มันสมจริงและอิสระ!”
“บริษัทเกมต้องอยากนำเสนอโลกในแบบที่มันเป็นให้กับพวกเรา …”
หลี่มู่เอ่ยพลางหันมาหาทุกคน เขายิ้ม “ยังไง ๆ พวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่กันไปอีกนาน เวลาจะลงมือทำอะไรคงต้องคิดให้ถี่ถ้วนกันก่อนล่ะนะ”
เหล่าผู้เล่นหันมองกันและกัน
“ตัดต้นไม้?”
“กวาดพื้น?”
“จีบ NPC?”
“…”
หลี่มู่หมดคำจะกล่าว เขาชำเลืองมองเดมาเซียที่พูดประโยคสุดท้ายออกมาก่อนจะเริ่มโหมดเทศนา
“วันนี้พวกเราทำงานอย่างหนัก ถ้าเทียบกับโลกจริง ๆ มันคืองานกรรมกรแบกหาม! ใครมันจะอยากทำของแบบนี้? แต่เห็นมั้ยว่าพวกเรานับร้อย ๆ คนยังตื่นเต้นราวกับคนบ้า มีความสุขแบบเหลือเชื่อทั้ง ๆ ที่ทำแค่ตัดต้นไม้ คิดว่าทั้งหมดนี้มันเพราะอะไรล่ะ?”
เดมาเซียยกมือสางผมทรงระเบิดชี้ฟูสีแดงของตนพลางตอบแบบไม่มั่นใจ
“เพราะเราปลดปล่อยความบ้า วิ่งแก้ผ้าได้เต็มที่ป่ะ?”
เป็นอีกครั้งที่หลี่มู่หมดคำจะกล่าว เขามองหนุ่มผู้ไร้ทางเยียวยา “เพราะมันเหมือนชีวิตจริง! ทุกอย่างที่นี่มันเรียลจนพวกเราเผลอลืมไปว่าจริง ๆ มันเป็นเกม พวกเราได้เริ่มชีวิตใหม่ที่นี่ ซึ่งนี่แหละคือจุดหลักของเกมนี้!”
ได้ยินดังว่า ทุกคนล้วนรู้สึกไปในทางเดียวกัน
“จริงของพี่มู่ เราก็คิดเหมือนกัน อาจจะเพราะทั้งป่าเอยอะไรเอยมันสวยมาก พออยู่ในเกมนี้ก็ลืมปัญหาแทบทุกอย่าง”
“เค้าด้วย! เค้าด้วย! บางทีก็สงสัยว่ามันอาจจะเป็นอีกโลกจริง ๆ … มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินทางที่ไม่สิ้นสุดและเวทมนตร์ …”
หลี่มู่พยักหน้าเมื่อได้ยินหลากความเห็นจากทุกคน
“ใช่เลย สิ่งสำคัญสุดของเกม The Kingdom of Elves คือความรู้สึกสมจริง พวกทีมพัฒนาเกมนี่อัจฉริยะชัด ๆ!”
“แต่เราจะทำไงกับค่าความประทับใจของอลิซอ่ะพี่มู่?”
เดมาเซียถาม
หลี่มู่โยนผลไม้เข้าปากทั้งลูก เคี้ยวอยู่ครู่หนึ่งก่อนคายเมล็ด แล้วจึงตอบ
“แน่นอนว่าเนื้อหาหลักของเกมคือความสมจริง ดังนั้นเราไม่สามารถปฏิบัติต่อ NPC เหมือนเป็นแค่ NPC เพราะนี่ไม่ใช่แค่เกมทั่วไป เราไม่สามารถเพิ่มค่าความสนิทจากการทำเควส แต่เราต้องพูดคุย สนทนากับพวกเขาเหมือนที่เราทำกับคนจริง ๆ”
เขาลุกขึ้นช้า ๆ และหันไปทางกองไฟ เงาของหลี่มู่ทอดยาวสู่เบื้องหลัง เสียงของเขาเยือกเย็นราวกับนักปราชญ์ชรา
“ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ในเกมนี้ เราต้องประพฤติต่อโลกด้วยความเคารพ ปฏิบัติตนต่อ NPC เหมือนกับที่ทำต่อเพื่อนมนุษย์ สิ่งนี้น่าจะเป็นทางเดียวที่ทำให้พวกเขาประทับใจเรา และคิดว่าคนออกแบบเกมก็คงตั้งใจให้เป็นแบบนี้เช่นกัน”
“สาเหตุที่เรามีแต้มความสนิท 20 หน่วยเพราะเราไม่เคยทำเหมือนเธอเป็นแค่ NPC แต่เราคิดว่ากำลังคุยอยู่กับนักบวชแห่งธรรมชาติจริง ๆ”
เมื่อได้ยินคำอธิบายดังว่า ทุกคนพลันตระหนัก
“งี้นี่เอง!”
“มิน่าอ่ะ ทำเควสไปตั้งเยอะ แต่น้องอลิซก็แค่แสดงสีหน้ายิ้ม ๆ และให้แต้มความประทับใจแค่นิดเดียว”
“มันจบแล้ว—! ตูคิดไงถึงพยายามไปแตะตัว NPC เนี่ย …”
“แบบแกอ่ะอย่ามาทำเป็นพูดเลยเดมาเซีย ทำไว้แสบเอาเรื่อง”
หลี่มู่หันมาทันทีเมื่อได้ยินเหล่าผู้เล่นหยอกล้อเดมาเซีย เขายิ้มให้กับทุกคนด้วยสีหน้าที่ดูลึกลับ
“เอาจริง ๆ นะ ความเรียลมันก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราชอบเกมนี้ไม่ใช่แค่ความสมจริงอ่ะ”
“แล้วมันคือไรอ่ะ?”
ทุกคนนิ่งรออย่างใจจดใจจ่อ
หลี่มู่ยิ้มเล็กน้อย “รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่าเมื่อไรที่เราลงแรงทำบางอย่างในเกมนี้ เราก็จะได้ผลตอบแทนเสมอ? ทำงานก็ได้ค่าประสบการณ์ ถึงจะเล็กจะน้อย แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ มันก็มากขึ้น … การรู้สึกว่าลงมือทำอะไรแล้วได้ผลตอบแทนนี่แหละ คือสิ่งที่เป็นแก่นหลักของเกมนี้เลย”
เหล่าผู้เล่นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ใช่! ใช่! คิดเหมือนกันเลย”
“กว่าจะตัดต้นไม้ได้ต้นนึงก็นานเอาเรื่อง แต่ว่าค่าประสบการณ์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะนะ”
“ถึงเกมอื่นจะเพิ่มระดับได้ด้วยการทุ่มเทเหมือนกัน แต่เกมนี้เราสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดสุด แจ่มสุด”
“ใช่เลย ส่วนผสมของความสมจริง กับความรู้สึกว่าบรรลุเป้าหมาย”
“มันเจ๋งมากตอนรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!”
“ใช้เวทมนตร์ด้วยตัวเองได้ก็แหล่มสุด ๆ!”
“สกิลดาบ ครอสสแลช โคตรหล่ออ่ะบอกเลย”
“ช่าย ช่าย!”
หลี่มู่ยิ้มด้วยความสดใสเมื่อเห็นสมาชิกในทีมเห็นพ้องต้องกัน เขาเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาในระหว่างการสนทนา
“ใช่เลย มันคือส่วนผสมของความเรียลและความรู้สึกว่าที่ลงมือไปมันคุ้มค่า และสิ่งที่แจ่มกว่าก็คือ …”
หลี่มู่หยุดชั่วครู่ และกดปุ่มอัพเลเวลต่อหน้าเหล่าผู้ฟังที่กำลังตั้งใจมองด้วยความคาดหวัง
ปุกิ๊ง–
เสียงแจ้งเตือนแสนคุ้นเคยจากระบบ แสดงถึงการที่หลี่มู่อัพระดับสู่เลเวล 5 พร้อมกับแสงเปล่งประกายเจิดจ้า
หลี่มู่ยิ้มเห็นฟันขาวท่ามกลางสายตาทิ่มแทงด้วยความอิจฉา
“มันคือการได้เห็นพวกนายอิจฉาตาร้อนไงล่ะ …”
“…”
“โทษนะพี่ขอนำไปก่อน ทำงานหนัก ๆ ล่ะพวกนาย”
“โว้ยยยย!”
…
งานเลี้ยงฉลองของเหล่าผู้เล่นดำเนินต่อไปจนถึงเที่ยงคืน
ร่างกายของเอลฟ์ต้องการเวลาพักผ่อนเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถปิดระบบเหนื่อยล้าที่มาจากการขาดนอนผ่านระบบเกม แต่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงดีบัฟแรงกายอ่อนแรงได้
สิ่งนี้จะกระทบต่อความสามารถหลากหลายด้าน และอาจนำไปสู่เหตุร้ายแรงอย่างการเสียชีวิตในบางสถานการณ์
ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงคำนวณเวลาพักผ่อน และใช้ช่วงเวลานั้นออกจากเกมไปสองสามชั่วโมง ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่หลังตัวละครฟื้นฟูร่างกายเต็มที่แล้ว นอกจากนั้นในเวลากลางวันยังมีแสงจากธรรมชาติที่ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ สะดวกสบายขึ้น … เว้นแต่ผู้เล่นที่จริงจังเป็นพิเศษบางกลุ่มที่เลือกทิ้งการพักผ่อนไปโดยสิ้นเชิง
ผู้เล่นจำนวนมากเริ่มเข้าสู่บ้านไม้ที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน ในขณะที่หันไปทำกิจกรรมในทางฝั่งดาวสีฟ้า
หลี่มู่ก็เลือกที่จะออฟไลน์เช่นกัน
เขาค่อย ๆ มุดออกมาจากเครื่องเกมและชำเลืองมองนาฬิกา พบว่าผ่านไปเพียงสี่ชั่วโมงเท่านั้น ความบันเทิงที่ดูแสนยาวนานในช่วงก่อนหน้านี้ดูราวกับเป็นฝันตื่นหนึ่ง
เขาหายใจเข้าลึกท่ามกลางความรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่มู่ยังอยากจะเล่นเกมให้นานกว่าเดิม
“เกมนี้จะเป็นตำนาน”
หลี่มู่พลันอุทานดังว่า เขารีบเปิดคอมพิวเตอร์และลงมือเขียนรีวิวฉบับสั้น ๆ จากประสบการณ์ของตนทันที
เขาจะกระจายชื่อเสียงของเกมนี้ให้โลกได้รับรู้!
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: อินฟลูเอนเซอร์ระดับประเทศจะออกโรงแล้วค่ะ
ตอนนี้อาจจะรู้สึกว่าค่อนข้างสั้น แต่เอาเข้าจริงในออริจินัลก็มีจำนวนตัวอักษรจีนประมาณ 2,500 ตัวเหมือนกัน … พวกตอนยาว ๆ แบบตัวจีน 5,000 ตัวต่างหากที่ผิดปกติ (?) การันตีว่าหลัง ๆ จะมีตอนเบิ้ลเยอะมาก ประเภทที่ตัวจีน 5,000 ตัวแทบทุกตอน ติด ๆ เป็นสิบตอน และเกิน 75% ถ้าคิดจากทั้งหมดของช่วงตอนนั้น ๆ
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _