ในยามที่เกิดวิกฤติใด ๆ ถ้ามีใครสักคนกล้าที่จะก้าวขึ้นมาแสดงภาวะผู้นำ เขาคนนั้นมักจะกลายเป็นที่พึ่งทางใจให้คนหมู่มากได้เสมอ
… มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นเช่นนี้มาช้านาน
หลี่มู่เป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ผู้โด่งดังในวงการเกม แถมเขาได้เขียนบทวิจารณ์ให้กับเกมนี้เป็นคนแรก ดังนั้นไม่ว่าใครก็พร้อมที่จะรับฟังความเห็นของเขา
เดมาเซียแสดงท่าทีพึงพอใจเมื่อเหล่าฝูงชนค่อย ๆ เงียบลงตามลำดับ เขาเดินหลบฉากเล็กน้อยพลางยื่นโทรโข่งใบไม้ให้กับหลี่มู่
หลี่มู่รับโทรโข่งมาพร้อมกระแอมเล็กน้อย ก่อนจะกล่าว
“โปรดอยู่ในความสงบ พี่น้องทั้งหลาย พวกเราจะมาแตกคอกันเองในขณะที่ยังไม่ได้เริ่มภารกิจเช่นนี้ไม่ได้ เกมนี้มันแตกต่างกับสิ่งที่พวกเราเคยเจอมาทั้งหมด และพวกเราไม่สามารถตัดสินใจอะไรโดยปราศจากการเตรียมการที่เหมาะสมได้ …”
ทันที่พูดจบ พลันเกิดเสียงอื้ออึงขึ้นในบรรดาผู้เล่น
“โปรดชี้แนะที คือยังไงนะพี่มู่?”
บางคนโพล่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
หลี่มู่จึงกล่าวต่อ
“ตรงตัวตามที่พูดเลย พวกเราเพิ่งได้รับภารกิจมา ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้สถานการณ์ของฝั่งก็อบลินด้วยซ้ำ และถ้าพวกเราลงมือแบบไร้แบบแผน ก็ให้คิดได้เลยว่าน่าจะคว้าน้ำเหลว … และนอกจากเดมาเซียกับอีกสามในตี้นั้น พวกเราทุกคนต่างมีชุบชีวิตสมบูรณ์แค่คนละสามที”
บรรยากาศตึงเครียดแผ่ปกคลุมเหล่าผู้เล่นช้า ๆ เมื่อหลี่มู่เริ่มอธิบาย
หลี่มู่รู้สึกพึงพอใจเมื่อเห็นสภาพผู้เล่นทุกคนที่ฟังตนเองพูดอย่างตั้งใจ เขากระแอมให้โล่งคอครั้งหนึ่งแล้วจึงพูดต่อ
“ลองคิดดู การบุกเบิกพื้นที่รกร้างมันคงไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้โดยราบรื่น และพวกเราไม่ได้เกิดใหม่แบบไร้ข้อจำกัด เพียงแค่เราพลาดสามครั้งก็คือการเริ่มใหม่ทั้งหมด ซึ่งถ้าลองพิจารณาจากคำอธิบายภารกิจ งานนี้น่าจะเป็นสงครามยืดเยื้อ ดังนั้นก่อนที่เราจะลงมือทำอะไร ขอจงวางแผนให้เป็นการดี ไม่ใช่จัดทีมถล่มกันแบบบ้าคลั่งโดยปราศจากแบบแผน”
“ลุงบีเผยข้อมูลว่าเมืองฟลอเรนซ์อยู่ห่างออกไปกว่า 30 กิโลเมตรจากจุดนี้ ซึ่งพ้นเขตปลอดภัยไปอีก 20 กิโลเมตร หากพวกเราบุกไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังก็ขอให้นึกถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่รออยู่ เผลอ ๆ อาจจะกลายเป็นการเปิดเผยตัวตนให้พวกก็อบลินรู้ตัวเสียด้วย”
“นอกจากนี้ พวกเรามีวงเวทเคลื่อนย้ายเพียงหนึ่งชุด หากพวกเราได้ติดตั้งวงเวทและไม่สามารถปกป้องมันไว้ได้ เกรงว่าพวกเราจะทำภารกิจล้มเหลวกันหมด …”
เบอร์เซิร์กเกอร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้เป็นพยานในวาทศิลป์ของหลี่มู่
โอ้พระมารดา โชคดีเหลือเกินที่ในบรรดาผู้ถูกเลือกยังเหลือคนที่มีปัญญาอยู่
ทว่า…
ใครคือลุงบี?
เบอร์เซิร์กเกอร์จมลงสู่ห้วงความคิดอีกครั้ง
เธอไงจะใครล่ะคะ!
อีฟที่รับรู้ถึงความสงสัยของเหล่าสาวกได้แต่ลอบถอนหายใจในขณะที่แอบมองทุกอย่างจากเบื้องบน
“พี่มู่ มีแผนไรปะ?”
คำถามนี้มาจากผู้เล่นรายหนึ่ง
สีหน้าของหลี่มู่พลันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
“แน่นอน ขอแนะนำให้พวกเราตั้งหน่วยจู่โจมพิเศษ โดยใช้กลุ่มผู้เล่นที่ถนัดในการลอบเร้น พวกเขาจะไปยังฟลอเรนซ์พร้อมกับวัตถุดิบสำหรับวงเวทเคลื่อนย้าย แต่ว่าจะไม่เข้าไปในเมืองนะ คือให้เลือกสถานที่ปลอดภัยใกล้บริเวณเมืองและติดตั้งวงเวทเคลื่อนย้ายกันตรงนั้นเลย”
หลี่มู่ห่อปากเล็กน้อยขณะพูด
“และมันไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาสำหรับภารกิจนี้ จึงไม่ใช่ว่าเราจะต้องทำภารกิจย่อยที่หนึ่งก่อน เนื่องจากวัตถุดิบมันมีจำกัด ที่เราต้องทำคือวางมัน ติดตั้งมัน และเทเลพอร์ทพวกเราทั้งหมดไปใกล้ ๆ เพื่อใช้งานมันในฐานะฐานที่มั่น ทีนี้พอเราบรรลุภารกิจย่อยที่สองและสาม ก็ค่อยกลับมารื้อวงเวทเคลื่อนย้าย ก่อนจะนำมันเข้าไปในเมืองฟลอเรนซ์เพื่อปิดจ็อบสวย ๆ”
“ด้วยวิธีนี้ คือให้พวกเรายึดเมืองก่อน ได้แล้วค่อยติดตั้งวงเวททีหลัง ก็คือการไร้ภัยคุกคามจากพวกก็อบลิน แถมเราจะการันตีผลงานสำหรับภารกิจติดตั้งวงเวทให้กับทุกคนได้ด้วยการทำร่วมกันตอนท้ายสุด!”
เอาจริงดิ ทำได้จริงดิ!
แววตาของทุกคนลุกวาว
ไม่แปลกใจที่หลี่มู่ได้รับการขนานนามว่าราชันย์แห่งเล่ห์เหลี่ยม
อีฟลอบอุทานในใจไปพร้อมกับแอบดูเหล่าผู้เล่นต่อ
“นอกจากนี้ พอพวกเราทำวงเวทเคลื่อนย้ายไว้นอกเมืองปุ๊บ พวกเราก็จะสามารถทดสอบความแข็งแกร่งของพวกก็อบลินได้ด้วยการล่อมันออกมาบางส่วน”
“ถ้ามันอ่อนแอก็ให้เริ่มแผนจู่โจม ถ้ามันแข็งแกร่งก็ใช้กลยุทธ์การรบสไตล์กองโจรค่อย ๆ ตัดกำลังพวกมันจากนอกเมือง”
“เราคิดว่าจากการที่ทุกคนได้ล่าในเขตปลอดภัยมาพักใหญ่ ๆ คงทำให้เห็นกันชัดแจ้ง ว่ามอนเกมนี้ไม่ถูกชุบชีวิต เรียกว่าเกมนี้จำลองระบบนิเวศน์มาไว้จริง ๆ ซึ่งถ้าเราเด็ดก็อบลินทีละตัวไปเรื่อย ๆ นั่นหมายถึงชัยชนะในสงครามยืดเยื้อ!”
“หากศัตรูบุก เราจะถอย หากศัตรูหยุดนิ่ง เราจะป่วนมัน และหากพวกมันเหนื่อย เราจะจู่โจม สุดท้ายถ้าพวกมันถอย เราก็จะไล่ล่า!”
หลี่มู่อธิบายต่อไป
“ไอเดียนี้เยี่ยมมาก!”
ฝูงชนพากันพยักหน้าเห็นด้วย
“ไม่แปลกใจที่พี่เป็นถึงตำนานในหมู่อินฟลู ทั้งวิธีคิดวิธีพูดของพี่คืออย่างดี”
“พี่มู่พูดถูก! ขอทำตามแผนของพี่ในภารกิจนี้”
ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นส่วนหนึ่งก็เริ่มตระหนักบางสิ่ง
“มิน่าล่ะ หลาย ๆ วันที่ผ่านมามันถึงจืดชืดขนาดนี้ ที่พวกเราได้แต่กินผลไม้ไปวัน ๆ ก็เพราะมอนมันไม่เกิดใหม่นี่เอง”
“เดี๋ยว ที่ตูได้กลิ่นปิ้งย่างอยู่กลางป่านี่ ฝีมือพวกเอ็งเรอะ?!”
“เออดิ กินผลไม้ทุกวันก็ทำได้นะ แต่บาร์บีคิวมันเกินต้านอ่ะ โดยเฉพาะไก่ฟ้าในป่าเอลฟ์นะสหาย ไก่พรีเมียมเลี้ยงแบบเคจฟรีเคมีศูนย์ นู้มนุ่ม ฮ้อมหอม นี่ถ้าน้องอลิซไม่คอยจับตาดูพวกเราในค่ายนะ คงได้จัดปาร์ตี้บาร์บีคิวไปล่ะ”
“…”
อลิซแทบลมจับเมื่อได้ยินบทสนทนาของเหล่าผู้เล่น
ท่านพระมารดาคะ นี่คือสาเหตุที่เหล่าสรรพสัตว์ในป่าทยอยกันหายไปจริงเหรอคะ?!
หนะ.. นี่มัน …
เอลฟ์สาวขบฟันแน่นด้วยความรู้สึกบางอย่างอัดอั้นอยู่ในอก ที่ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาระบายพวกมันออกมา
เหล่าผู้เล่นยังคงสนทนากันอย่างต่อเนื่อง
“แต่ว่าเราจะล่อก็อบลินออกมาไงอ่ะพี่มู่?”
ผู้เล่นคนหนึ่งยิงคำถามขึ้นมา
ได้ยินดังว่า หลี่มู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาหยุดคิดชั่วครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความไม่มั่นใจ
“นั่นล่ะประเด็น คิดว่าอาหารคงจะพอล่อพวกมันได้บ้าง …”
“เด๋วนะ! เด๋วนะ! พี่มู่! เรามีไอเดียดี ๆ! ไอเดียดีย์ ดีย์!”
เดมาเซียโผล่โพล่งเข้ามาในขณะที่หลี่มู่ยังคงพูดไม่จบ หลี่มู่ชำเลืองด้วยความประหลาดใจก่อนจะยื่นโทรโข่งใบไม้ให้เดมาเซีย
“เรามีไอเดียหยั่งเด็ด! รับประกันว่าล่อก็อบลินได้ชัวร์ป้าบ!”
เดมาเซียหยิบโทรโข่งมาด้วยมือหนาพลางหัวเราะอย่างมีเลศนัย
“ฮี่ฮี่ฮี่ วิธีนี้ … หญิงนางจะต้องเหนื่อยกันนิด ๆ โหน่ย ๆ”
“สาว ๆ?”
“เดมาเซีย แกมีไอเดียจิต ๆ อีกแล้วใช่มะ?”
เหล่าผู้เล่นชายเริ่มโห่ร้องในขณะที่สาว ๆ ต่างปั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดเล็กน้อย
“ม่าย ม่าย …”
รอยยิ้มของเดมาเซียดูประหลาดไปอีกระดับ เขากลอกตาครั้งหนึ่งและกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“อ่า … ชั้นคิดว่าพวกเราต้องเริ่มจากนิสัยของพวกก็อบลิน …”
“ฮี่ฮี่ฮี่ จำกันได้ป่าว …? ตามที่บอกในประวัติมอนแต่ละเกมอ่ะ มันไม่มีก็อบลินตัวเมีย ดังนั้นพวกมันต้องพึ่งพามนุษย์สาวหรือสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์มาอุ้มท้องให้ ฮี่ฮี่ฮี่ … ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ เป็นเวลามีซัมติงกันสำหรับทุกผู้ทุกสิ่ง …”
น้ำเสียงของเดมาเซียเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“สหายเอ๋ย พวกเราชาวเอลฟ์ล้วนสวยแจ่ม ก็อบลินมันก็มีรสนิยมคือ ๆ กันน่ะแหละ ดังนั้นสาวนางย่อมล่อพวกมันได้ด้วยความแหล่มที่มี …”
“เรียกสิ่งนี้ว่าไงเอ่ย? ฮันนี่แทรป? ช่ายมะ? พวกเราแค่ล่อมัน ไม่ต้องห่วงด้านความปลอดภัยนะน้อง! เราจะทำทุกวิถีทางให้ความปลอดภัยคืออันดับหนึ่ง!”
เดมาเซียตะโกนก้อง
อลิซ “…”
เบอร์เซิร์กเกอร์ “…”
เหล่าผู้เล่น “…”
ทุกสรรพชีวิตที่ฟังภาษาเอลฟ์ออกล้วนตะลึงงัน
อีฟผู้เฝ้ามองทุก ๆ อย่างจากเบื้องบนถึงกับสำลักก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“พนันได้เลยว่าตานี่คือผู้เล่นที่ไร้ยางอาย … ที่สุด”
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: เดมาเซียยยยย!! ในชีวิตจริงนายเป็นคนยังไงเนี่ย!
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _