Game of the World Tree – ตอนที่ 30 ปลอกกล้วยเข้าปาก

Game of the World Tree

ห่างออกไปจากเมืองฟลอเรนซ์ประมาณหนึ่งกิโลเมตร มีเหล่าผู้เล่นกว่า 90 ชีวิตที่จัดทีม 21 กลุ่มกำลังซุ่มรออย่างเงียบเชียบ

เดมาเซียในร่างจำแลงได้เริ่มปฏิบัติการล่อลวงก็อบลินอีกครั้งหลังจากได้รับข้อเสนอในการแบ่งของดรอป

ครั้งนี้ เขารุกคืบเข้าไปไกลขึ้นเล็กน้อยเพื่อล่อก็อบลินกลุ่มใหญ่ในการวิ่งรอบเดียว เหยื่อในนี้มีก็อบลินระดับสูงซึ่งอยู่ในช่วงเลเวล 10 ถึง 3 ตน

ฝูงอสูรอัปลักษณ์วิ่งกวดเอลฟ์จำแลง พวกมันแกว่งไกวตะบองไม้และดาบโค้งด้วยความตื่นเต้น

นอกจากนี้ ก็อบลินจำนวนหนึ่งมีคันธนูและลูกศร แต่ก็อบลินระดับสูงได้ห้ามพวกมันไว้ในทันทีที่ก็อบลินบางตัวขึ้นโน้มคันศรเพื่อเตรียมยิง

พวกมันอยากได้หญิงงามในสภาพสมบูรณ์ที่สุด

แนวคิดของพวกมันจึงทำให้เดมาเซียลงมือได้โดยง่าย

เขาหยุดวิ่งหลังจากที่ได้ล่อเหล่าก็อบลินเข้ามาในบริเวณลานกลางป่าอีกครั้ง

พวกมันคิดว่าสาวงามผู้นี้คงจะเหนื่อยจากการถูกไล่ล่า ทว่าในวินาทีนั้น ร่างสูงจำนวนเกือบร้อยพลันกระโจนออกจากพงหญ้าพร้อมเสียงโห่ร้องกึกก้อง

อ … เอลฟ์?

พวกมันยืนทึ่งตะลึงงันในบัดดล

“ก็อบลินล่ะพวก!”

“ไอ้ตัวเขียวมาแล้วเว้ย!”

“หนึ่งสองสาม … มีสิบแปดตัว! จัดไปกลุ่มละตัว ส่วนระดับสูงก็ใช้สองทีมเข้ารุม!”

“ลุยเลยพวก! อัดมันให้ยับ!”

เหล่าเอลฟ์คลั่งโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับดวงตาที่ฉายแววกระหายเลือด บรรดาผู้เล่นแกว่งไกวมีดไม้พร้อมพุ่งตัวเข้าต้อนกลุ่มก็อบลินราวกับกลัวใครจะมาแย่งเหยื่อของตนไป

ฝูงก็อบลินยังคงตื่นตะลึงสุดขีดจากเหตุการณ์ตรงหน้า

ไอ้ … ไอ้พวกเอลฟ์สติแตกพวกนี้มันมาจากไหน?

ป่านี้มีไอ้พวกเอลฟ์เหลือเยอะงี้เลยเรอะ? ไม่ใช่ว่าตายไปหมดแล้ว?

เดี๋ยว … แน่ใจนะว่านี่คือเจ้าพวกหูยาวสุดประเสริฐ?

โอ้พระบิดา พวกเอลฟ์มันพากันบ้าไปแล้ว!

เหล่าก็อบลินต้องการจะถอนกำลัง แต่มันกลับพบว่าพวกตนถูกล้อมไว้โดยกลุ่มเอลฟ์จำนวนมาก

“เร็ว! ยิงเวทแยกกลุ่มพวกมันเร็ว! จะใช้เวทโจมตีอะไรก็ได้!”

“ล้อมมัน! ล้อมมัน! ไอ้ตัวนั้นจะหนีไปแล้ว!”

“อย่าใช้เวทหมู่! มันโดนพวกเดียวกันโว้ย!”

ฝูงก็อบลินค่อย ๆ ถูกโจมตีจนแตกกลุ่มด้วยเวทมนตร์ระยะไกล พร้อมกับที่เหล่าผู้เล่นกระจายทีมห้อมล้อมไว้

หากทีมจำนวน 5 คนของหลี่มู่เคยใช้เวลาและความพยายามในการล้มก็อบลิน 3 ตัว … การเอาคนจำนวนกว่า 90 คนมาสู้กับก็อบลินแค่ 18 ตนก็คงไม่ต่างอะไรกับการปอกกล้วยเข้าปาก

ด้วยกลยุทธ์โดยทีมบุกเบิก เหล่าผู้เล่นได้จัดกระบวนทัพและร่วมมือกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ทุก ๆ ปาร์ตี้จะเลือกเป้าหมายของตน พวกเขาผลัดกันโจมตีด้วยการพุ่งเข้าฟันเพียงหนึ่งครั้งและถอยออกมาทันที หากก็อบลินจะพุ่งเข้าโจมตี มันก็จะโดนขัดขวางด้วยเวทมนตร์ หากก็อบลินต้องการจะถอยหนี มันก็จะโดนขัดขวางด้วยเวทมนตร์เช่นกัน …

แม้ประสบการณ์ของก็อบลินจะมากกว่าผู้เล่นเพียงใด แต่สิ่งเหล่านั้นพลันไร้ค่าเมื่อเจอความดุดันของเหล่าผู้เล่น พวกมันถูกกวาดล้างจนสิ้นภายในเวลาเพียงสิบนาที โดยที่ฝากไว้เพียงรอยแผลเพียงเล็กน้อยให้กับผู้เล่นประมาณโหลหนึ่ง แถมจำนวนผู้เสียชีวิตก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

สาเหตุการตายของผู้เล่นผู้โชคร้ายคนนั้น คือการโดนลูกหลงจากเวทมนตร์ของพวกเดียวกัน …

หลี่มู่และผู้บุกเบิกทั้งสี่ต่างทึ่งในพลังของเหล่าผู้เล่น

“โหดเกิน พวกนายมันบ้าดีเดือดได้โล่”

ผู้เล่นจำนวนหนึ่งยังคงไม่หนำใจ

“เลือดสาดไปหน่อย … แต่โคตรเด็ด”

“ม่ายพอ ม่ายพอ … ก็อบลินแค่ 18 ตัวได้เปอร์ติ้ดเดียว …”

“เค้าได้ฟันฉับเดียวเองอ่ะ …”

“เดมาเซีย ลากมาอีก!”

เดมาเซียสำลักพรืด

“จัดมาให้ไว เดี๋ยวแบ่งของดรอปให้!”

“ถ้าเจอคริสตัลพระโลหิต ทีมเราจะแบ่งของรางวัลจากเทพธิดาให้นายด้วย!”

ผู้เล่นคนเดิมกล่าวซ้ำ

สีหน้าเดมาเซียพลันจริงจังขึ้นทันที

“พูดแล้วทำด้วยนะเอ็ง!”

“ตูไปลากแปป!”

เดมาเซียตะโกนก้อง สองมือปัดชายกระโปรงสีเขียวก่อนจะพุ่งตัวไปทางฟลอเรนซ์อีกครั้ง

ผ่านไปครู่หนึ่ง ปรากฏฝูงก็อบลินอีกกลุ่มไล่กวดเขาเข้ามาเช่นเคย …

การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เหล่าผู้เล่นได้เริ่มภารกิจกวาดล้างมอนสเตอร์ใกล้โบราณสถานฟลอเรนซ์ด้วยวิธีนี้

การประสานงานของพวกเขาค่อย ๆ พัฒนาขึ้นตามลำดับ

แรกเริ่มเดิมที ผู้เล่นหนึ่งทีมจะเลือกสู้กับก็อบลินเสียงหนึ่งตัว ถัดมาจึงเพิ่มเป็นสองตัว

หลังจากนั้นไม่นาน ทีมที่มีแต่ผู้เล่นเลเวล 10 ก็สามารถรับมือกับก็อบลินระดับสูงถึง 3 ตัว

แม้ว่าผู้เล่นคนเดียวจะยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับก็อบลินหนึ่งตัว ทว่าการต่อสู้กลับทวีความมีระบบระเบียบอย่างต่อเนื่อง

การแบ่งหน้าที่ระหว่างพวกเขาเป็นไปอย่างชัดแจ้ง บ้างก็ทำหน้าที่คนรับหน้า บ้างก็จู่โจมจากแนวข้าง ผู้เล่นแต่ละคนจะโจมตีเพียงครั้งเดียวก่อนจะเผ่นตัวปลิว เหล่าก็อบลินจึงได้แต่ดิ้นรนจนถึงฆาต …

นอกจากนี้ เหล่าผู้เล่นล้วนยิ่งสู้ยิ่งเพลิน พวกเขาสนุกสนานไปกับการฟาร์มค่าประสบการณ์ แถมยังได้ดาบโค้งที่พวกก็อบลินเคยครอบครอง … ผู้เล่นเลเวล 9 กว่าโหลได้อัพระดับเป็นเลเวล 10 จากการปะทะกับฝูงก็อบลิน

และแล้วพวกเขาก็พบหยาดคริสตัลพระโลหิตหลังจากที่สังหารก็อบลินไปจำนวนมาก

“คริสตัลพระโลหิต! ดรอปคริสตัลพระโลหิต! ทีมชั้นได้แรร์ดรอปแล้ววววว!”

ผู้เล่นคนหนึ่งชูคริสตัลสีเขียวขึ้นสุดแขนพร้อมตะโกนด้วยความตื่นเต้น

“โฮ่! ดวงดีโคตร!”

“ดรอปจากมอนไรอ่ะ?”

“จากก็อบลินระดับสูง!”

ผู้เล่นผู้โชคดีตะโกนตอบอย่างกระฉับกระเฉง

มันคือก็อบลินที่เพิ่งพบหยาดคริสตัลพระโลหิตจากป่าในบริเวณใกล้เคียง มันกำลังจะกลับไปที่รังเพื่อมอบคริสตัลให้กับนักบวช นับเป็นยามดวงกุดของมันที่ถูกเดมาเซียล่อมาในระหว่างที่มันกำลังเดินทางกลับเมือง …

ก็อบลินระดับสูง?

ได้ยินดังว่า แววตาของผู้เล่นทุกคนพลันลุกวาว

“สรุปคือเป็นแรร์ดรอปจากก็อบลินระดับสูง …”

“อัตราดรอปต่ำเกิ้น พวกเรา 90 คนฆ่าก็อบลินไปเกือบร้อย มีระดับสูงมากกว่า 20 ตัว … แต่ดรอปมาแค่อันเดียว”

“หวาย เจอดรอปเรทนรกอีกแล้วอ่ะดิ”

“ไอ้คนออกแบบเกม …”

“อย่าบ่นไปสหาย! ตอนผมเคยหาคริสตัลแรร์ในเกมอื่นนะ บอกได้ว่าอัตราดรอปในเกมนั้นอ่ะหายนะของแท้เลย การเจอคริสตัล 1 ก้อนจากการตีก็อบลินระดับสูง 20 ตัวนี่นับว่าดีมากแล้ว”

“เคเค เอาไอ้ก็อบลินตัวโตมาอีก วันนี้ชั้นต้องดรอปซักก้อน!”

“คนล่ออยู่ไหน? คนล่ออยู่ไหน?”

“เฮ่เดมาเซีย รีบไปลากมอนมาเร็ว! ลากมันมา เอาตัวโต ๆ มาอีก!”

เหล่าผู้เล่นพร้อมใจกันตะโกน

เดมาเซีย: …

เบอร์เซิร์กเกอร์เริ่มตระหนักถึงบางสิ่งหลังจากที่ลอบสังเกตเหล่าผู้เล่นมาเป็นเวลานาน มันได้เห็นความกระตือรือร้นที่เกินคาด และประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เหล่าผู้ถูกเลือกได้แสดงความสามัคคีและความเต็มใจในการเผชิญหน้ากับก็อบลิน ทั้งหมดนี้นับเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของโอ๊คการ์ด!

นอกจากนี้ พวกเขายังพัฒนาตนได้อย่างรวดเร็ว ความอยากปะทะของเหล่าผู้ถูกเลือกก็ถือว่ามากล้นเกินพอ

สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของโอ๊คการ์ดที่สุด คือพวกผู้ถูกเลือกไม่ใช่สาวกของพระมารดา ทว่าพวกเขากลับเต็มใจที่จะต่อสู้เพื่อองค์เทพธิดาโดยปราศจากความกลัว!

ในวินาทีนี้ เบอร์เซิร์กเกอร์พลันเกิดความรู้สึกนับถือเหล่าผู้เล่นขึ้นมากลาย ๆ

“พระมารดา … ข้าทึ่งในปัญญาของท่านยิ่งนัก”

“ในที่สุดข้าก็เข้าใจว่าเหตุใดท่านจึงอัญเชิญพวกเขามา เหล่าผู้ถูกเลือกไม่ได้เกิดมากล้าแกร่ง แต่พวกเขามีศักยภาพอันไร้ที่สิ้นสุด … แม้ว่าเหล่าผู้ถูกเลือกจะไม่ใช่สาวกของท่าน ทว่าพวกเขาต่างต่อสู้อย่างบ้าคลั่งมากกว่าสาวกทั่วไปเสียอีก!”

“แต่พวกเขาคงจะไม่ประพฤติตัวอย่างดีและมีเกียรติ … อีกทั้งยังโลภและไร้ยางอาย”

เบอร์เซิร์กเกอร์ส่ายหัวอย่างหมดหนทางเมื่อเห็นผู้เล่นบางคนแทบจะสู้กันเพื่อแย่งดาบโค้งที่ดรอปจากก็อบลิน

แต่อีฟเข้าใจพวกเขา

มีดไม้ที่ตนสร้างถือเป็นสิ่งที่ผลิตขึ้นมาหยาบ ๆ … ความคมของมันจึงเป็นรองอยู่หลายขั้นเมื่อเทียบกับดาบโค้งที่เหล่าก็อบลินปล้นมาจากขบวนสินค้าของพวกมนุษย์ ถึงแม้ว่าดาบเหล่านี้จะถูกตีขึ้นจากโลหะที่ไม่ได้มีคุณภาพสูงแต่อย่างใดก็ตาม

สำหรับผู้เล่นแล้ว ความต้องการของพวกเขาคงไม่พ้นอาวุธและชุดเกราะที่ดีกว่าเดิม

อีฟพลันรู้สึกชื่นมื่นเมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่ได้รับจากผู้เล่นเมื่อเหล่าก็อบลินถูกสังหาร

“รวม ๆ ได้พลังศักดิ์สิทธิ์มา 1.2 แต้มแหนะ”

อีฟทบทวนอย่างมีความสุข

อาจจะเพราะก็อบลินได้ยึดนครศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเวลานาน ความอาฆาตพยาบาทของเอลฟ์ผู้วายชมน์จึงถูกสั่งสมไว้มากล้น ในระยะเวลาต่ำกว่าสามชั่วยามนี้ อีฟได้รับแต้มจนกำลังจะคุ้มกับสิ่งที่ตนจ่ายไปในการสร้างร่างของเหล่าผู้เล่น

หากอีฟนับรวมหยาดคริสตัลพระโลหิตที่ผู้เล่นค้นพบ จะเรียกได้ว่าสถานะปัจจุบันถือเป็นกำไรเรียบร้อย

“ถึงจะอีกไกล … แต่ตอนนี้เราก็เข้าใกล้การมีร่างจุติไปอีกขั้นแล้วล่ะ”

เมื่อพิจารณาจากแต้มพลังศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะครบ 13 หน่วย อีฟพลันนึกถึงเป้าหมายของตนที่ 100 หน่วยจึงได้แต่ปลอบตัวเองไปพลาง ๆ

อีฟเบื่อที่จะเป็นเพียงตัวประกอบในฉากหลังแล้ว

การต่อสู้ของเหล่าผู้เล่นยังคงดำเนินต่อไปพร้อม ๆ กับจำนวนของก็อบลินในเมืองฟลอเรนซ์ที่เริ่มลดลง … จนในที่สุด นักบวชเผ่าก็อบลินก็เริ่มสัมผัสได้มีบางสิ่งผิดปกติ

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

T/N: เริ่มโหมดฟาร์ม ลุยลุยค่าา

ตอนหน้าจะมาประมาณบ่าย ๆ วันเสาร์

ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ

Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Game of the World Tree

Game of the World Tree

Status: Ongoing
สงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อนก่อให้เกิดการจุดสิ้นสุดของยุคแห่งองค์มหาพฤกษาโลกาอันเป็นต้นกำเนิดและศูนย์รวมของเหล่าเอลฟ์ นำไปสู่การล่มสลายของอารยธรรมเอลฟ์ภายหลังจากเหตุการณ์นั้น … ผ่านไปกว่าสหัสวรรษ ต้นไม้โลกต้นใหม่ถือกำเนิดขึ้น อีฟ อึกก์ดราซิลล์ ผู้เป็นดั่งมารดาแห่งสรรพสิ่ง มาพร้อมกับความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบนดาวเคราะห์สีคราม อีฟได้เริ่มแผนการดึงตัวเหล่าผู้เล่นจากดาวแห่งนั้นมาช่วยในการฟื้นฟูอารยธรรม เพื่อพาตนและผองเผ่าเหล่าสาวกกลับไปสู่ความเกรียงไกรเฉกเช่นในอดีต

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท