Game of the World Tree – ตอนที่ 31 นักบวชระดับสูงเผ่าก็อบลิน

Game of the World Tree

ภายในซากวิหารเก่าแก่ มีแท่นบูชาที่สลักไว้ด้วยสัญลักษณ์แห่งธรรมชาติและร่องรอยจารึกภาษาเอลฟ์บนแท่งศิลา สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกทำลายด้วยอาวุธมีคม อีกทั้งยังมีรอยเลือดแปดเปื้อนประปรายมานานแสนนาน

รูปบูชาของเทพธิดาถูกผู้บุกรุกสร้างความเสียหาย และนำรูปแกะสลักจากไม้ของเทพองค์หนึ่งมาไว้แทน รูปบูชานั้นมีลักษณะเป็นชายสวมเสื้อขนสัตว์ มือหนึ่งถือขวาน อีกมือถือคันศร

มันคือ อูลร์ เทพแห่งเหมันตฤดูและการล่า

ใต้รูปแกะสลักไม้ มีก็อบลินแก่หง่อมหลังค่อมตนนึงกำลังหมอบกราบบูชา

ร่างของมันอยู่ใต้ชุดคลุมหลวมโพรกและหมวกปีกกว้างในสภาพหมองหม่น ที่ปล้นมาจากกองคาราวานของพวกมนุษย์ เบื้องหน้าของมันมีคริสตัลที่เปล่งประกายสีเขียวจาง ๆ ก้อนหนึ่ง

“องค์พระบิดาแห่งเหมันต์และการล่า นี่คือคริสตัลพระโลหิตก้อนที่ 3 ของเดือนนี้ ข้าจะหาเพิ่มอีก 7 เพื่อให้ได้ครบจำนวนเครื่องสังเวยขั้นต่ำที่ 33 ก้อน … และข้าจะมอบเครื่องสังเวยเหล่านี้แด่ท่าน”

ร่างของก็อบลินค่อย ๆ โค้งลง นัยน์ตาของมันขุ่นมัว มันมีริ้วรอยฝังลึกทั่วใบหน้าจากความชรา ท่าทีของมันดูเปี่ยมไปด้วยความเคารพนับถือในเทพของตน

การจะส่งเครื่องเซ่นใด ๆ ข้ามภพย่อมใช้พลังงานจำนวนมากเนื่องจากอูลร์อาศัยอยู่ในแดนสวรรค์ มันจึงให้เหล่าก็อบลินรวบรวมเครื่องสังเวยจนถึงจำนวนหนึ่งเพื่อลดปริมาณพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องใช้ โดยทั่วไปอูลร์จะทำเพียงสื่อสารอย่างเรียบง่ายกับเหล่าสาวกของมัน

แสงสีทองอ่อน ๆ กระจายออกมากระทบร่างของก็อบลินชราเมื่อมันภาวนาจบลง มันรู้สึกได้ว่าร่างกายของตนมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ราวกับอายุน้อยลงหลายปี

“ขอสรรเสริญเทพแห่งเหมันต์และการล่า”

มันค้อมหัวลงต่ำอย่างเปี่ยมสุข

ก็อบลินชราค่อย ๆ ลุกขึ้นหลังจากที่การสวดภาวนาจบลง

มันขยับหมวกปีกกว้างบนศีรษะ บรรจงหยิบไม้เท้ากระดูกที่ประดับไว้ด้วยลูกแก้วขนาดใหญ่ ถูเช็ดราวกับเป็นสมบัติแสนล้ำค่า ก่อนจะก้าวย่างออกจากวิหารด้วยความพึงพอใจ

มันคือนักบวชก็อบลินเลเวล 11 ที่อยู่ในระดับเหล็กขั้นต้น นามว่า กูลู

กูลูพึงพอใจที่จะเรียกตนเองว่านักบวชระดับสูง เนื่องจากมันเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโบราณสถานแห่งนี้ เหล่านักบวชก็อบลินอีกสามตนก็ไม่ผู้ใดสามารถเทียบเคียงพลังของมันได้

ความแข็งแกร่งนี้ไม่ได้มาจากการเกื้อหนุนโดยอูลร์ แต่เพราะมันครอบครองไม้เท้าเวทมนตร์ที่ได้รับมาจากเหตุการณ์บางอย่างก่อนหน้านั้น

นอกจากนี้ มันยังมีความชำนาญในด้านไสยเวทย์ผีดิบ!

ด้วยเหตุนี้ มันจึงมีพลังที่เหนือกว่านักบวชก็อบลินเลเวล 11 ตนอื่น

ทว่า ตัวมันถือได้ว่ามีความชราอย่างยิ่งยวด คงจะมีอายุขัยอีกไม่เกิน 3 ปี

นับเป็นโชคที่อูลร์ได้ปรากฏตัวขึ้น และสัญญาว่าจะมอบชีวิตใหม่ให้แก่มัน แลกกับการเก็บรวบรวมหยาดคริสตัลพระโลหิตจำนวน 33 ก้อนภายในเวลา 1 ปี

นับเป็นโชคของกูลู

หยาดคริสตัลพระโลหิตของมหาพฤกษาได้กระจัดกระจายไปทั่วผืนป่าจากสงครามเมื่อพันปีก่อน และอูลร์เพิ่งจะมอบหมายงานค้นหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ให้เหล่าก็อบลินเมื่อเร็ว ๆ นี้

มันจึงเป็นการง่ายที่จะรวบรวมคริสตัลให้ได้จำนวนหนึ่ง ตราบใดที่พวกมันพยายามค้นหา

ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเหล่าก็อบลิน กูลูเก็บรวบรวมคริสตัลพระโลหิตมาแล้วถึง 26 ก้อนภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน

“อำนาจคือทุกสิ่ง!”

มันลูบไล้ไม้เท้ากระดูกอย่างคลั่งไคล้

เมื่อมันเดินลงมาถึงเส้นทางสัญจรภายในเมืองฟลอเรนซ์ สายตาของมันกวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับกำแพงเมืองอันว่างเปล่า คิ้วของมันค่อย ๆ ขมวดเข้ามาหากันด้วยความฉงน

“หายไปไหนกันวะ?”

มันชำเลืองมองรอบ ๆ จนพบก็อบลินตนหนึ่งที่หลับอยู่

กูลูคำรามต่ำ ๆ ในคอพร้อมเดินเข้าไปเตะมัน

ก็อบลินตนนั้นคว้าเอาอาวุธใกล้มือและเตรียมสู้กลับด้วยความฉุนเฉียวเนื่องจากตนถูกปลุก แต่ท่าทีของมันพลันเปลี่ยนเมื่อพบว่าคู่กรณีคือใคร มันหมอบคลานลงกับพื้นพลางส่งเสียงประหลาดพร้อมพยายามเอาอกเอาใจกูลูสุดชีวิต …

ความรู้สึกดูแคลนเจืออยู่ในแววตาของกูลู

มันดูถูกสิ่งมีชีวิตโง่เขลา

สำหรับกูลูแล้ว แม้ว่าพวกก็อบลินจะหน้าตาเหมือนมันทุกประการ ทว่ากูลูไม่นับตัวมันเองเป็นสายพันธุ์เดียวกับก็อบลินเหล่านี้

ไอ้พวกก็อบลินทั้งอ่อนแอและพูดไม่เป็นภาษา!

แต่เพราะผีดิบจากไสยเวทของตนไม่สามารถสัมผัสคริสตัลพระโลหิตได้ มันจึงจำใจใช้งานพวกก็อบลินเหล่านี้เพื่อเก็บรวบวัตถุศักดิ์สิทธิ์

กำลังของพวกก็อบลินยังเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเป้าหมายของกูลู

คิดได้ดังว่า มันจึงเตะก็อบลินบนพื้นก่อนจะถาม

“ตัวอื่นไปไหน? ผ่านไปแค่คืนเดียว พวกเอ็งหายหัวไปไหนหมด?”

มันนิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อถูกกูลูถาม แต่จู่ ๆ มันก็นึกบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้ พร้อมกับชี้มือชี้ไม้ด้วยท่าทางประหลาด พลางตะโกน แอ๊- แอ๊- แอ๊- ในแบบของมัน

“ฮะ? เอ็งว่ามีมนุษย์ตัวเมียผ่านมาแถบนี้? แล้วไอ้พวกนั้นก็ตามกันไปจับ?”

กูลูขมวดคิ้ว

ก็อบลินพยักหน้ารัว ๆ

กูลูหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อได้รับการยืนยันจากมัน

“มนุษย์ตัวเมีย … ?”

เมืองมนุษย์ใกล้ที่สุดก็เป็นร้อย ๆ กิโลเมตร ขบวนสินค้าของมนุษย์ก็มาแค่หน้าร้อน … แล้วมนุษย์ตัวเมียจะมาจากไหน?

ไอ้พวกนี้มันมันวิ่งบ้าตามตัวเมียไป!

กูลูเหวี่ยงก็อบลินตนนั้นด้วยความโกรธ พร้อมกับย่างเท้าไปยังบริเวณชายขอบโบราณสถานโดยทันที

ยิ่งมันเดินออกมานานแค่ไหน สีหน้าของมันยิ่งหมองหม่นลงตามลำดับ

มันพบว่าจำนวนก็อบลินในโบราณสถานเหลือน้อยกว่าที่มันคิดไว้มาก

“หายไปร่วมสองร้อยตัว …”

กูลูขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ในขณะที่มันคิดหาวิธีลงโทษพวกก็อบลินหนีทัพอย่างสาสม ก็มีเสียงอึกทึกดังมาจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของซากปรักหักพัง

มันเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะรีบย่ำเท้าไปอย่างเงียบเชียบ …

บริเวณประตูฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของฟลอเรนซ์

เดมาเซียในร่างจำแลงแสดงท่าทางยั่วยวนก็อบลินเช่นทุกที แต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะเดินเข้ามาในเขตโบราณสถานเพื่อล่อก็อบลินระดับสูง

“มาเร็วพ่อหนุ่ม~”

เดมาเซียลอบเยาะเย้ยอยู่ในใจเมื่อตนล่อฝูงก็อบลินออกมาได้โดยง่าย

ทว่า สัญชาตญาณของเดมาเซียพลันสัมผัสถึงอันตรายบางอย่าง

เขาหวั่นวิตก ราวกับถูกอสรพิษจับจ้อง …

ประสาทสัทผัสของเอลฟ์มีความเฉียบแหลมเป็นอย่างสูง ร่างกายของเดมาเซียหันไปทางต้นตอของสาเหตุโดยที่ตนไม่ทันตั้งตัว และในวินาทีนั้น เดมาเซียพลันตกใจจนชาไปทั้งศีรษะเมื่อพบว่าตนกำลังเผชิญหน้ากับบางสิ่ง

มันคือสายตาเย็นเยียบของก็อบลินตนหนึ่งใต้ชุดคลุมสีเข้มที่ยืนอยู่บนซากโบราณสถาน

กูลู นักบวชชั้นสูง

แม้เป้าหมายจะอยู่ห่างเป็นสิบ ๆ เมตร แต่เดมาเซียกลับสัมผัสได้ถึงความน่าขนลุกที่แผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง

“ซวยไง … ตูล่อพลาด เจอบอสเต็ม ๆ!”

เมื่อถูกสายตานั้นจับจ้อง เดมาเซียได้แต่อุทานออกมาพร้อมวิ่งกลับในทันที

“ตูเผ่นล่ะ …”

“มนุษย์ตัวเมีย …”

กูลูหัวเราะด้วยท่าทีประหลาด

เพียงมองปราดเดียวมันก็รับรู้ถึงความผิดปกติของมนุษย์ตรงหน้า คิดได้ว่าเป็นผลของเวทมนตร์แปลงกาย

หรือจะเป็นพวกทหารรับจ้าง?

มันเริ่มคาดเดา

ทว่ามันไม่คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้

ก็อบลินหายไปตั้งสองร้อยกว่าตัว!

ข้าจะจับเอ็งให้ได้!

มันลอบแค้นอยู่ในใจ

กูลูไม่สนว่าทหารรับจ้างกลุ่มใดจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ เพราะการที่มนุษย์คนนั้นไม่กล้าเผชิญหน้ากับมัน ย่อมหมายความว่ามนุษย์คนนั้นอ่อนแอกว่ามัน

การที่มนุษย์เลือกที่จะสู้กับก็อบลินด้วยแผนการเช่นนี้ นั่นย่อมแสดงถึงความไม่มั่นใจของอีกฝั่ง!

คิดได้ดังนั้น มันพลันเหวี่ยงไม้เท้ากระดูกของตน ก่อให้เกิดคลื่นพลังงานอันเย็นเยียบจากลูกแก้วบนไม้เท้า

กระแสพลังงานลึกลับปะทุขึ้น พร้อมกับมือกระดูกผุดขึ้นมาจากผืนดินใกล้ ๆ กับเท้าของเดมาเซีย มันคว้าขาของเขาไว้ …

ในเวลาเดียวกัน อีฟที่รับชมไลฟ์สตรีมของเหล่าผู้เล่นพลันตระหนก และเริ่มรู้สึกหวาดวิตกขึ้นมาช้า ๆ

เชิงอรรถท้ายตอน 31:

ชื่อนักบวชก็อบลิน 咕噜 (gulu) –> เป็นชื่อเดียวกับ กอลลัม (จาก TLOR) ในเวอร์ชันจีน ทางผู้แปลเลือกใช้ กูลู (ชื่อตามเสียง)

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

T/N: วันนี้น่าจะได้อีกตอนค่ะ

ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ

Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Game of the World Tree

Game of the World Tree

Status: Ongoing
สงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อนก่อให้เกิดการจุดสิ้นสุดของยุคแห่งองค์มหาพฤกษาโลกาอันเป็นต้นกำเนิดและศูนย์รวมของเหล่าเอลฟ์ นำไปสู่การล่มสลายของอารยธรรมเอลฟ์ภายหลังจากเหตุการณ์นั้น … ผ่านไปกว่าสหัสวรรษ ต้นไม้โลกต้นใหม่ถือกำเนิดขึ้น อีฟ อึกก์ดราซิลล์ ผู้เป็นดั่งมารดาแห่งสรรพสิ่ง มาพร้อมกับความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบนดาวเคราะห์สีคราม อีฟได้เริ่มแผนการดึงตัวเหล่าผู้เล่นจากดาวแห่งนั้นมาช่วยในการฟื้นฟูอารยธรรม เพื่อพาตนและผองเผ่าเหล่าสาวกกลับไปสู่ความเกรียงไกรเฉกเช่นในอดีต

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท