“ชิ–”
มะเขือเทศผัดส่งเสียงด้วยความไม่สบอารมณ์ เขาดึงมีดกลับมาไว้กับตัวด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไร
หลี่มู่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยพลัน เขาก้าวข้ามความโกรธและเลือกที่จะเจรจาอย่างใจเย็น
“ถ้านายยอมถอยตั้งแต่ตอนนี้ ชั้นจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้”
เงินกระตุ้นความโลภของมนุษย์
เกมและชีวิตจริง เป็นสิ่งที่แตกต่างกัน
เกมที่มอบอิสระอย่างสูงให้กับผู้เล่น จะทำให้พวกเขามุทะลุหรือปฏิบัติตัวอย่างไม่กลัวเกรงสิ่งใดเมื่อเทียบกับโลกแห่งความเป็นจริงที่มีกฎเกณฑ์และบรรทัดฐานทางสังคมมากมาย หากไม่มีอำนาจที่เหนือกว่าคอยควบคุมพวกเขาไว้ ด้านมืดในจิตใจของคนเราย่อมแสดงออกมาได้ง่ายขึ้น
ไม่มีทางที่ผู้เล่นจำนวน 300 ชีวิตจะสามัคคีกันได้ตลอดรอดฝั่ง
คริสตัลพระโลหิตจำนวน 26 ก้อนมีมูลค่ากว่า 20,800 แต้มผลงาน หากตีมูลค่าเป็นเงินก็จะได้อย่างน้อย 100,000 บาท
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ใครสักคนจะยอมทำลายความสงบสุขเพื่อแย่งชิงพวกมันมา
แต่สถานการณ์ในปัจจุบันเป็นที่ชัดเจนว่ามะเขือเทศผัดไม่พร้อมจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับผู้เล่นทั้งหมดในรอบทดสอบ ไม่เช่นนั้นคงเลือกทางอื่นมากกว่าการพยายามลอบสังหารหลี่มู่ในกระบวนท่าเดียวด้วยทักษะของตน
The Kingdom of Elves เป็นเกมที่แตกต่างกับเกมอื่นอย่างมหาศาล
การสังหารในดาบเดียวไม่ใช่เรื่องที่พบได้ทั่วไปในเกมที่สมจริง 100%
แม้มันจะเกิดขึ้นได้ยากเพียงใด แต่ผู้เล่นเลเวลน้อยสามารถสังหารสัตว์อสูรที่มีระดับสูงกว่าได้ในหนึ่งกระบวนท่า ตราบใดเขาจู่โจมได้ที่ถูกที่ถูกเวลา
แม้มันจะต่างกับระบบที่พบได้ในเกมทั่วไป แต่สิ่งนี้ทำให้ The Kingdom of Elves มีความสมจริงมากขึ้น การโจมตีจุดตายคือเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้การต่อสู้ในเกมนี้มีความเร้าใจมากไปอีกระดับ
บางครั้ง ความกล้าหาญและสติปัญญาอาจสำคัญกว่าความแตกต่างของเลเวล อย่างน้อยก็ในกรณีที่ระดับไม่ได้ต่างกันมากจนเกินไป
ด้วยเหตุนี้ มะเขือเทศผัดจึงกล้าที่จะลอบจู่โจมหลี่มู่
หากหลี่มู่ถูกสังหารในดาบเดียว เขาย่อมไม่สามารถอธิบายที่มาที่ไปของการสูญเสียคริสตัลพระโลหิต และมะเขือเทศผัดก็จะลอยนวลไปอย่างง่ายดาย
โชคไม่ดีที่มะเขือเทศผัดประเมินประสาทสัมผัสของหลี่มู่ต่ำเกินไป และแผนลอบโจมตีของเขายังคว้าน้ำเหลว
ชายหนุ่มสองคนตกอยู่ในความเงียบที่น่าอึดอัด
สายอาชีพของหลี่มู่ไม่ใช่กลุ่มชำนาญการต่อสู้ เขาเป็นดรูอิดที่มุ่งเน้นทางด้านการสนับสนุน และยังไม่มีทักษะสายจู่โจมใด ๆ
ทักษะต่าง ๆ ใน The Kingdom of Elves มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทักษะที่เทพธิดาเป็นผู้ประทาน
หากบรรดาผู้อยู่อาศัยบนทวีปซากัสต้องการจะเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ พวกเขาจะต้องใช้เวลาศึกษาเพื่อให้ได้รับมันมา หลังจากนั้นต้องฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝนจนกว่าจะชำนาญ ….
แต่ทักษะที่อีฟมอบให้ถือเป็นข้อยกเว้น
อีฟถ่ายทอดความเข้าใจในทักษะอย่างสมบูรณ์ให้บรรดาผู้เล่นผ่านการเชื่อมต่อดวงจิต แถมยังมอบความช่วยเหลือด้วยการให้ผู้เล่นเรียกใช้ทักษะผ่านระบบของเกม
สำหรับผู้เล่น สิ่งเหล่านี้หมายถึงการเป็นผู้ชำนาญทักษะทันที
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ประสิทธิภาพของทักษะจะสูงกว่าการโจมตีปกติอย่างมหาศาล
ด้วยเหตุนี้ หลี่มู่จึงไม่มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะมะเขือเทศผัดที่อยู่ในสายอาชีพด้านต่อสู้โดยตรงได้ในการปะทะกันตัวต่อตัว
ผู้เล่นแทบทุกคนต่างรู้ระดับความสามารถของหลี่มู่อย่างชัดเจน เนื่องจากเขารับบทผู้นำทัพมาโดยตลอด จึงไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าของมะเขือเทศผัดไปได้
ถ้าหลี่มู่จำไม่ผิด มะเขือเทศผัดน่าจะเป็นผู้เล่นระดับสูงในบรรดาผู้เข้าร่วมทดสอบ 300 คน ถ้าไม่นับข้าวกล่องก็แทบจะไม่มีใครเทียบเขาได้
ดังนั้น ไม่ว่าหลี่มู่จะโกรธเพียงใด สิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงแค่การยื้อเวลาและการโน้มน้าวมะเขือเทศผัดเท่านั้น
“มะเขือเทศผัด ผมเข้าใจที่นายคิดไม่มากก็น้อย และไม่คิดจะทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ … เอางี้มั้ย มาทำเหมือนไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้นกันเถอะ เพราะนายก็ไม่ได้ฆ่าผมซะหน่อย เดาว่านายคงไม่อยากเป็นศัตรูกับอีก 71 คนที่เหลือใช่ไหม?”
การข่มขู่เล็กน้อยถือเป็นสิ่งจำเป็น แน่นอนว่าการเปิดทางลงที่เหมาะสมให้กับพวกเขาก็จำเป็นเช่นกัน
“ย้ำอีกครั้ง ถ้ายอมแยกย้ายตอนนี้ ผมจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
หลี่มู่กล่าวอย่างใจเย็น
สีหน้าของมะเขือเทศผัดดูหม่นลงเล็กน้อย เขาหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“แล้วไง? มันก็แค่เกม แถมนี่ก็แค่รอบทดสอบ ต่อให้เป็นการสร้างศัตรูกับอีก 70 คนที่เหลือแล้วไง ได้ตั้ง 20,000 แต้มเลยนะ เกมยังไม่เปิดจริงซะหน่อย ยังไงในเกมออนไลน์มันก็มีเรื่องขัดแย้งกันอยู่แล้ว แถมชั้นก็เบื่อจะมาเล่นพ่อแม่ลูกกับพวกนายจะแย่แล้ว …”
“แถม …”
ใบหน้าของมะเขือเทศผัดดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาเล็กน้อย
“ตอนนี้มีแค่พวกเราสองคนนะ ถ้านายโดนฆ่าตอนนี้ จะเอาไรมาเป็นหลักฐานว่าชั้นทำล่ะ?”
สีหน้าของหลี่มู่แฝงความเหยียดหยามขึ้นมาครู่หนึ่ง ก่อนจะกลายเป็นความเคร่งขรึมอย่างรวดเร็ว
สังคมร้อยพ่อพันแม่ มันต้องมีทั้งพวกแย่ ๆ และพวกดี ๆ ปะปนกันไปงี้ล่ะ
หลี่มู่คาดเดาว่าในอนาคตย่อมมีกรณีพิพาทระหว่างผู้เล่นเกิดขึ้น แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะพบเจอเหตุการณ์นี้กับตัวในเวลาอันสั้น
มะเขือเทศผัดพูดได้ตรงประเด็น ในเวลานี้มีแค่พวกเขาสองคน หากหลี่มู่ถูกสังหารก็คงจะหาหลักฐานมามัดตัวผู้กระทำผิดได้ยาก
หลี่มู่อาจจะมีสถานะเป็นผู้นำชั่วคราวของบรรดาผู้เล่น แต่เขาก็ไม่ได้มีอำนาจอะไรขนาดนั้น
นอกจากนี้ การที่มะเขือเทศผัดเลือดที่จะกระทำการอุกอาจ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีกลุ่มผู้เล่นคนอื่นหนุนหลังอยู่ อาจจะมีคนอื่นเตรียมเข้ามาสมทบ หรืออาจจะสร้างพยานเพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้พ้นจากความผิดไว้แล้ว
ในกรณีนั้น ผู้เล่นคนอื่น ๆ อาจจะไม่เชื่อหลี่มู่ถ้าอีกฝ่ายยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้
บ้าจริง ไม่มีระบบหัวแดงในเกมนี้หรือไง?
หลี่มู่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการทักท้วงขึ้นมาในใจ
“หึหึ อย่ามายื้อเวลา รีบเข้ามาเลยดีกว่า”
มะเขือเทศผัดหัวเราะเยาะพร้อมยกมีดขึ้นในท่าเตรียมพร้อม เขาใช้ทักษะ พุ่งตัว เพื่อโจมตีหลี่มู่อย่างรวดเร็ว
สีหน้าของหลี่มู่พลันเปลี่ยน เขารีบมองหาต้นไม้ใหญ่เพื่อใช้ซ่อนตัวพลางเริ่มร่ายมนตร์
ทว่า ทักษะของเขาไม่ได้ถูกออกแบบให้มีผลทันที หลี่มู่จึงช้ากว่ามะเขือเทศผัดอยู่หลายส่วน
การตวัดมีดครั้งเดียวส่งผลให้แขนขวาที่กำลังถือไม้เท้าของหลี่มู่ขาดสะบั้น เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
“ฮ่าฮ่า!”
มะเขือเทศผัดยิ้มกริ่มเมื่อเห็นแถบพลังชีวิตของหลี่มู่ลดฮวบลงถึง 25% ในพริบตา
แต่ก่อนที่เขาจะได้โจมตีซ้ำ หน้าต่างระบบพลันปรากฏขึ้นมาต่อหน้าผู้เล่นทุกคน …
[แจ้งเตือน! แจ้งเตือน!]
[ผู้เล่น มะเขือเทศผัด ได้จู่โจม หลี่มู่ โดยปราศจากเหตุอันควร ถูกคาดโทษด้วยการปรับสถานะเป็น ผู้เล่นชื่อแดงระดับต้น]
[บทลงโทษสำหรับ ผู้เล่นชื่อแดงระดับต้น ได้แก่: ลดค่าประสบการณ์และแต้มผลงานที่ได้รับ 50%, ทุกท่านสามารถโจมตีผู้เล่นนี้ได้โดยปราศจากความผิด, ส่งมอบไอเท็มต่าง ๆ ที่ได้มาในสถานะชื่อแดงสู่เจ้าของเมื่อผู้เล่นเสียชีวิต]
[บทลงโทษของ ผู้เล่นชื่อแดงระดับต้น จะอยู่จนกว่าผู้เล่นจะเสียชีวิต และจะลดเลเวลลง 1 ระดับโดยไม่สามารถใช้บัฟ คืนชีพสมบูรณ์ ได้, สำหรับผู้กระทำผิดครั้งแรก สถานะชื่อแดงจะคงอยู่เป็นเวลา 24 ชั่วโมง]
[รางวัลสำหรับการสังหารผู้กระทำผิด: แต้มผลงาน 50 หน่วย]
มะเขือเทศผัด: “…”
หลี่มู่: “…”
…
เกมนี้มีระบบหัวแดงมั้ย?
แน่นอนว่ามีค่ะ
ในฐานะที่เป็นนีทติดห้อง เล่นเกมอยู่ไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี เค้าจะพลาดระบบนี้ไปได้ไงคะ?
ในความเป็นจริง อีฟเฝ้ามองการลอบโจมตีของมะเขือเทศผัดมาตั้งแต่ต้น
ปริมาณคริสตัลพระโลหิต 26 ก้อนมีค่าเทียบเท่าพลังศักดิ์สิทธิ์ประมาณ 35 แต้ม จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่อีฟจะระมัดระวังเป็นพิเศษ และกังวลว่าอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นกับพวกมัน
อีฟอยากจะรีบคว้าเอาคริสตัลพระโลหิตมาจากหลี่มู่โดยตรง แต่ต้องห้ามใจตนเองไว้เพื่อไม่ให้เป็นการแทรกแซงตัวเกม
ดังนั้น อีฟจึงเฝ้ามองหลี่มู่ทุกฝีก้าวนับจากที่เขาพ้นเขตฟลอเรนซ์มา แต่อีฟไม่คิดว่าหลี่มู่จะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้
แน่นอนว่าอีฟรู้สึกผิดหวังในตัวมะเขือเทศผัด
แม้ว่าสุดท้ายแล้ว เขาจะนำคริสตัลพวกนั้นมาบวงสรวงอีฟหลังจากแย่งชิงมาด้วยพละกำลัง แต่ก็ถือว่าเป็นการละเมิดกฎของเกม
ในเวลานั้น อีฟชั่งใจว่าตนควรจะแบนไอดีเกมของผู้เล่นคนนี้ดีไหม
แต่ในฐานะ GM อีฟจำเป็นต้องมองภาพใหญ่เป็นเป้าหมายหลัก …
เกมเป็นสิ่งที่แตกต่างจากความเป็นจริง มันเป็นไปไม่ได้ที่บรรดาผู้เล่นจะสามัคคีกันตลอดเวลา
ในระบบสังคม มีสิ่งต่าง ๆ คอยควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ให้สังคมอยู่ในสภาพปกติ เช่นกฎหมาย จารีต บรรทัดฐานสังคมและอื่น ๆ
สิ่งนี้ตีกรอบให้อิสรภาพบางด้านของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัญชาตญาณดิบอย่างความต้องการทางกาย ความโลภ ความรุนแรง …
มนุษยชาติและความขัดแย้งถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาช้านาน เรียกได้ว่าการทำลายล้างและการเข่นฆ่านั้นแฝงอยู่ในสันดานดิบของมนุษย์ แม้อารยธรรมจะช่วยถอดเขี้ยวเล็บและทำให้พวกเขามีศีลธรรมกันมากขึ้น แต่มันก็ไม่สามารถลบล้างปีศาจออกไปจากจิตใจของมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์
ความดำมืดในใจมักจะถูกจำกัดไว้ด้วยกฎเกณฑ์และข้อบังคับต่าง ๆ … ทว่าเมื่อข้อจำกัดเหล่านั้นหายไป พวกมันจะถูกปลดปล่อยออกมา
กล่าวได้ว่าเกมคือหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นด้านแย่ ๆ ตามธรรมชาติของมนุษย์
เพราะกฎต่าง ๆ ในชีวิตจริงล้วนไม่มีผลกับเกม!
นอกจากนี้ สำหรับบรรดาผู้เล่นทั่วไป การปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสนุกของเกมถือว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่ The Kingdom of Elves ไม่ใช่แค่เกม!
ดังนั้นถ้าอีฟต้องการให้ผู้เล่นเชื่อฟัง เทพธิดาก็ต้องสร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมาให้พวกเขาก่อน และสิ่งแรกที่อีฟเลือกก็คือระบบชื่อแดง …
บทลงโทษจะขึ้นอยู่กับความมุ่งร้ายและความเสียหายที่เกิดขึ้น
แน่นอนว่าความรุนแรงของบทลงโทษต้องสมเหตุสมผล และจะดีที่สุดถ้ามันทำให้ผู้เล่นประพฤติตัวอยู่ในกรอบ โดยไม่ทำให้ผู้เล่นเสียขวัญกำลังใจ
ประโยชน์ของสิ่งเหล่านี้มีมากกว่าการจัดระเบียบให้กับเหล่าผู้เล่น มันคือการเตรียมตัวเพื่อรองรับการหวนคืนของเหล่าเอลฟ์ในอนาคต
อีฟไม่อยากให้เหล่าผู้เล่นมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับเอลฟ์พื้นเมือง เพราะอย่างไรอีฟก็ไม่สามารถคาดเดาการกระทำของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: ถั่วเดาว่าอีฟเคยเปิด PK (…)
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
