Game of the World Tree – ตอนที่ 54 ความลับของแผ่นศิลา

Game of the World Tree

มันเป็นแผ่นศิลาเกรอะฝุ่น ที่มีร่องรอยของการจารึกตัวอักษรประหลาด

เดมาเซียหยิบมันขึ้นมาด้วยแววตาลุกวาว

“พี่มู่! พี่มู่! มาดูนี่เดี๋ยวนึงดิ! อันนี้ภาษาเอลฟ์ป่ะเนี่ย?”

เขาตะโกนเรียกหลี่มู่อย่างเร่งรีบ

“หืม? ภาษาเอลฟ์?”

หลี่มู่หยุดชะงัก และหันกลับมามองเดมาเซียที่กำลังชูแผ่นศิลาด้วยความตื่นเต้น

“ไหนขอดูหน่อย”

หลี่มู่รับแผ่นศิลามาปัดฝุ่นและพิจารณารายละเอียดอย่างระมัดระวัง

ศิลาจารึกแผ่นนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นมาในอดีต ผ่านมาเนิ่นนานจนตัวจารึกทั้งหลายได้เลือนหายไปตามกาลเวลา เขารู้สึกว่าพวกมันคลับคล้ายคลับคลากับสิ่งที่เคยพบบนแท่นหินใกล้เมืองฟลอเรนซ์

“พวกนี้… น่าจะเป็นตัวอักษรของเอลฟ์”

หลี่มู่ยินดีเป็นอย่างมาก

จารึกเหล่านี้คือบันทึกข้อมูลทางประวัติศาสตร์

ไม่ว่าจารึกพวกนี้จะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับอะไร ย่อมเชื่อได้ว่าสิ่งนี้จะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่

อีกประเด็นที่สำคัญคือภารกิจสำรวจเมืองฟลอเรนซ์ มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เล่นค้นหาบันทึกทางประวัติศาสตร์ และมรดกทางวัฒนธรรมของเหล่าเอลฟ์!

“นายหามันเจอได้ไง!”

หลี่มู่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเร่งรีบ

“อ่ะแฮ่ม… ทีแรกชั้นสะดุด ก็เลยก้มลงไปดูแล้วหยิบขึ้นมา แล้วก็จ๊ะเอ๋ เจอตรงแถว ๆ นั้น”

เดมาเซียชี้ไปที่กองหินข้างทางพลางตอบ

หลี่มู่: “…”

ทำไมหมอนี่โชคดีขนาดนี้?

หลี่มู่สาวเท้าเข้าไปในบริเวณที่เดมาเซียชี้อยู่ ก่อนจะย่อตัวลงและส่องคบไฟไปทั่วบริเวณ

ด้วยแสงจากคบไฟในมือ หลี่มู่พบว่าบริเวณนี้ยังมีแผ่นศิลาอีกหลายชิ้น!

หลี่มู่ไม่สังเกตเห็นพวกมันในตอนที่เดินผ่าน เนื่องจากกำลังพูดคุยกับเดมาเซีย

หากเดมาเซียไม่ได้สะดุดกองหินเหล่านี้ พวกเขาก็น่าจะมองข้ามพวกมันไป!

“เดมาเซีย! พวกเราน่าจะเจอขุมทรัพย์! มา ๆ รีบช่วยขนแผ่นหินพวกนี้ไปเร็ว!”

หลี่มู่พูดด้วยความตื่นเต้น

แผ่นศิลาส่วนใหญ่ถูกกลบอยู่ใต้กองหิน พวกมันโผล่ขึ้นมาเพียงขอบมุมบางส่วนเท่านั้น หลี่มู่จำเป็นต้องรื้อเอาแผ่นศิลาเหล่านี้ขึ้นมาหากต้องการนำพวกมันกลับไป

“ขุมทรัพย์?”

เดมาเซียนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะร้องตะโกนด้วยความดีใจ

“แม่เจ้าโว้ย! นี่ตูวิ่งชนของโบราณจริงดิ?! มันจะมีอะไรแบบตำราฝึกปราณหรือแผนที่สมบัติซ่อนอยู่ป่ะเนี่ย?”

“เลิกจ้อไม่หยุดแล้วมาช่วยกันเร็ว!“

หลี่มู่วางคบเพลิงไว้ข้างกาย ก่อนจะดึงเอาแผ่นศิลาขึ้นมาทีละชิ้นในขณะที่กล่าวสั่งเดมาเซีย

“โอเค! ลุยลุย!”

เดมาเซียย่อตัวลงและช่วยหลี่มู่ขุดเอาของมีค่าเหล่านี้ขึ้นมาจากกองหิน

พวกเขาใช้เวลาไปกว่า 30 นาทีถึงจะนำแผ่นศิลาออกมาจนหมดโดยไม่ได้นับจำนวน

ภายหลังจากการนับอยู่ครู่หนึ่ง หลี่มู่แปลกใจเป็นอย่างยิ่งที่พวกตนค้นพบศิลาจารึกกว่า 73 ชิ้น!

ศิลาแผ่นหนึ่งมีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเท่ากับอ่างล้างมือ พวกมันอัดแน่นไปด้วยจารึกภาษาประหลาด

น่าเสียดายที่แผ่นศิลาส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ บ้างก็แตกหัก บ้างก็เลือนลางไปตามกาลเวลา เอลฟ์หนุ่มทั้งสองช่วยกันคัดเลือกศิลาจารึกที่อยู่ในสภาพดี ได้มาทั้งหมด 6 ชิ้น

หลี่มู่มองแผ่นศิลาทั้ง 6 ชิ้นด้วยความตื่นเต้น เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว

“เอาที่เหลือไปซ่อนไว้ก่อน… ส่วน 6 ชิ้นนี้ก็เอากลับไปฟลอเรนซ์ เดี๋ยวให้อลิซช่วยวิเคราะห์ดูว่าพวกมันเป็นจารึกเกี่ยวกับอะไร”

ในระยะเวลา 1,000 ปีที่ผ่านมา ตัวอักษรเอลฟ์ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปมากนัก แม้บรรดาผู้เล่นจะไม่สามารถเข้าใจความหมายของอักษรเหล่านี้ แต่อลิซเข้าใจพวกมัน เพราะเธอคือ เอลฟ์ ผู้ครองตำแหน่งนักบุญแห่งธรรมชาติ

“เจ๋งเป้ง! ฮ่าฮ่าฮ่า คุ้มเหนื่อยแล้วโว้ย! ในที่สุดก็เจออะไรซักที มันอาจจะเป็นแผนที่ขุมทรัพย์ก็ได้! ดีไม่ดีมันอาจจะเป็นไอเท็มเปิดเควสหลักบทใหม่!”

เดมาเซียตะโกนด้วยความตื่นเต้น

เอลฟ์หนุ่มทั้งสองพากันย้ายกองจารึกไปไว้ในมุมหนึ่ง และนำเศษหินมาอำพรางพวกมันไว้ ก่อนจะทำจุดสังเกตที่รู้กันเพียงสองคน แล้วจึงเดินทางกลับสู่ฟลอเรนซ์ด้วยความเริงร่า

ภายในวิหารแห่งฟลอเรนซ์

สภาพอันทรุดโทรมของวิหารได้รับการบูรณะโดยเหล่าผู้เล่นภายในระยะเวลาเพียง 2 วัน

การบูรณปฏิสังขรณ์วิหารมักจะใช้เวลาร่วมเดือน แต่ด้วยการนำเวทมนตร์มาประยุกต์ใช้ในงานก่อสร้าง ทำให้การซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างสำเร็จลุล่วงได้ในเวลาอันสั้น

นกกาเหว่ากำลังควบคุมงานตกแต่งภายในกับผู้เล่นกลุ่มหนึ่ง พวกเขาได้หาข้อมูลเกี่ยวกับมัณฑนศิลป์จากมหาวิหารในทวีปยุโรปมาเป็นแนวทางในการออกแบบ ทำให้วิหารแห่งธรรมชาติประจำเมืองฟลอเรนซ์ทวีความศักดิ์สิทธิ์และดูงดงามเป็นอย่างยิ่ง

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงงานอดิเรกของพวกเขา แต่มันคือภารกิจย่อยของนครศักดิ์สิทธิ์ที่จะมอบผลตอบแทนจำนวนมากให้กับผู้เข้าร่วม

“ดอกไม้พวกนี้… ไว้ตรงใต้หน้าต่างวิหารนะ แล้วใช้เวทมนตร์สายธรรมชาติทำให้พวกมันเติบโต”

นกกาเหว่าก้มหน้าก้มตาอ่านพิมพ์เขียวพลางออกคำสั่งแก่สมาชิกกิลด์

“สวัสดี นกกาเหว่า!”

เธอถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงอันคุ้นเคย

นกกาเหว่าทำหน้านิ่วเล็กน้อยพร้อมหันไปทางต้นเสียง ใบหน้าของเอลฟ์สาวผ่อนคลายลงทันควันเมื่อเห็นผู้ที่ทักทายตัวเอง

“พี่มู่?”

พวกเขาคือหลี่มู่และเดมาเซียที่เพิ่งกลับมาถึงฟลอเรนซ์

ใบหน้าของเอลฟ์หนุ่มล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับแผ่นศิลาที่ดึงดูดสายตาในอ้อมแขน

นกกาเหว่าเมินเดมาเซียโดยอัตโนมัติ แววตาของเอลฟ์สาวลุกวาวเมื่อเห็นแผ่นศิลาในมือหลี่มู่

“ค้นพบอะไรแล้วเหรอคะ?”

ผู้เล่นทุกคนต่างรู้ว่าหลี่มู่และเดมาเซียได้เข้าไปในโบราณสถานเพื่อทำภารกิจสำรวจ

หลี่มู่พยักหน้าพร้อมยิ้มกว้าง

“ใช่ พวกเราเจอแผ่นศิลาที่มีบางอย่างจารึกอยู่ ตอนนี้กำลังตามหาตัวอลิซเพื่อให้เธอช่วยวิเคราะห์พวกมัน!”

“จารึก?”

นกกาเหว่าเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

“ใช่!”

หลี่มู่หยิบแผ่นศิลาขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ก่อนจะยื่นให้นกกาเหว่าดู

“ผมเคยเห็นตัวอักษรพวกนี้มาก่อน มันคล้ายกับสิ่งที่อยู่ในวิหาร ก็เลยเดาว่ามันคือภาษาเอลฟ์”

นกกาเหว่าดูสนใจแผ่นศิลาเหล่านี้เป็นอย่างมาก เธอชะโงกศีรษะเข้ามาใกล้พลางพิจารณาตัวอักษรอย่างใจจดใจจ่อ

“ปฏิทินสีเงิน… เอลฟ์… การเฉลิมฉลอง…”

นกกาเหว่าปั้นหน้านิ่วในขณะที่อ่านออกมาทีละคำ

“มันน่าจะเกี่ยวกับงานฉลองของเอลฟ์ค่ะ”

นกกาเหว่ากล่าวสรุปหลังจากใช้เวลาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง

หลี่มู่และเดมาเซียต่างชะงักด้วยความตื่นตะลึง

“ธ– เธอ… เธออ่านออกจริงดิ?!”

เดมาเซียพูดอย่างตะกุกตะกัก สีหน้าของเขาแสดงความแปลกใจเป็นอย่างมาก

นกกาเหว่าเหลือบตามองเดมาเซีย ก่อนจะรีบจ้องไปทางหลี่มู่และเริ่มอธิบาย

“ช่วงนี้เราเรียนศาสตร์แห่งวงเวทจากอลิซ ภาษาเอลฟ์เป็นส่วนสำคัญในการสร้างวงเวท เราเลยกำลังศึกษาภาษาเอลฟ์อยู่ค่ะ”

“งั้น… อันนี้ก็คือภาษาเอลฟ์ล่ะสิ?”

หลี่มู่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

แต่หลังจากนั้น เขากลับนึกบางสิ่งขึ้นมาได้ ก่อนจะจ้องเขม็งไปทางนกกาเหว่าด้วยท่าทีแปลก ๆ

“เดี๋ยว… เธอเพิ่งเรียนมาแค่ 2 วันใช่ไหม? แต่นี่คืออ่านออกแล้ว?”

นกกาเหว่าปั้นหน้ามุ่ยพร้อมส่ายศีรษะด้วยความผิดหวัง

“ไม่ค่ะ ภาษาเอลฟ์มันยากเกินไปแถมมีศัพท์เป็นหมื่น ๆ คำ เราทบทวนมา 2 คืน เพิ่งจะจำได้ราว 1,300 คำ อ่านออกซักสิบยี่สิบเปอร์เซ็นเองค่ะ”

นกกาเหว่าถอนหายใจอย่างสิ้นหวังหลังจากกล่าวจบ

หลี่มู่ “…”

เดมาเซีย “…”

ชายหนุ่มทั้งสองคนต่างจ้องมองกันและกันในความเงียบงันอยู่ครู่ใหญ่

น– นี่มันพลังเด็กเรียน

สองวัน! แค่สองวันเนี่ยนะ!

นกกาเหว่าอย่างเทพ

ว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งชัวร์…

หลี่มู่จำได้ดีว่าตัวเองใช้เวลา 2 เทอมเต็ม ๆ ในการจดจำศัพท์ภาษาอังกฤษ 6,000 คำ โดยที่ตนยังจำพวกมันได้ไม่ค่อยแม่น

แต่นกกาเหว่า…

สองวันพันคำ! แถมเป็นภาษาที่ไม่เคยเจอมาก่อน…

เทพเกินไปแล้ว

หลี่มู่พอจะรู้พื้นฐานของระบบภาษาเอลฟ์อยู่เล็กน้อย มันเป็นระบบภาษาที่สดใหม่ มีส่วนประกอบของตัวอักษรมากถึง 72 แบบ ผู้สร้างเกมได้นำพวกมันมาประกอบกันเป็นตัวอักษรนับหมื่นราวกับภาษาจีน!

สำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเนื้อเรื่องและประวัติศาสตร์ ระบบภาษาของเกมนี้นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น

เดมาเซียมองท่าทีที่ดูผิดหวังของนกกาเหว่า ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางถอนหายใจ

“อา… ชาตินี้ชั้นคงไม่มีวันได้เรียนศาสตร์แห่งวงเวท”

“เธอเป็นนักรบจะเรียนไปไมคะ?”

นกกาเหว่าจ้องเดมาเซียอย่างเย็นชา

เดมาเซีย “…”

หลี่มู่กระแอมถี่ ๆ พลางรีบยื่นแผ่นศิลาอีก 2 แผ่นให้กับนกกาเหว่า

“นกกาเหว่าช่วยผมที อ่านสองแผ่นนี้ให้หน่อย”

นกกาเหว่าพยักหน้าครั้งหนึ่งและรับพวกมันมา เธอใช้เวลาอ่านอยู่ครู่ใหญ่แล้วจึงกล่าวขึ้น

“เราคิดว่ามันเป็นจารึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติเอลฟ์ค่ะ แต่ไม่เข้าใจรายละเอียดเชิงลึกเลย…”

“ไม่ใช่แผนที่สมบัติหรือสกิลลับเรอะ?”

เดมาเซียโพล่งถามขึ้นมา

“ไม่น่าจะใช่นะคะ”

นกกาเหว่าส่ายศีรษะเป็นการปฏิเสธ

ท่าทีของเดมาเซียดูเฉาลงโดยพลัน

“บร๊ะเจ้า… เจอขยะอีกแล้วอ่ะดิ?”

หลี่มู่ดูผิดหวังเป็นอย่างมาก เขาถอนหายใจพลางหยิบแผ่นศิลาอีก 3 ชิ้นจากอ้อมอกของเดมาเซีย และยื่นพวกมันให้กับนกกาเหว่า

เอลฟ์สาวรับพวกมันมาอ่าน

“อันนี้น่าจะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ค่ะ”

เธอใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนจะยื่นแผ่นศิลาชิ้นแรกคืนให้หลี่มู่

“นี่ด้วยค่ะ”

แผ่นศิลาชิ้นที่สองถูกส่งกลับมาให้หลี่มู่

เอลฟ์หนุ่มทั้งสองต่างรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง

แต่นกกาเหว่ากลับใช้เวลาอ่านศิลาแผ่นสุดท้ายอยู่ครู่ใหญ่

“เกิดไรขึ้น? แผ่นนี้มีไรผิดปกติเรอะ?”

เดมาเซียจ้องนกกาเหว่าที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เขาสัมผัสได้ว่าหัวใจของตนกำลังเต้นรัวจากความตื่นเต้น

นกกาเหว่าส่ายศีรษะในขณะที่มองแผ่นศิลาด้วยสีหน้าที่แฝงบางสิ่ง

“ไม่ค่ะ…”

นกกาเหว่าส่ายหน้าพลางมองแผ่นศิลาอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยความไม่มั่นใจ

“อันนี้… น่าจะเป็นวิธีการเดินลมปราณค่ะ”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

T/N: เดมาเซียดวงดี!

ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ

Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Game of the World Tree

Game of the World Tree

Status: Ongoing
สงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีก่อนก่อให้เกิดการจุดสิ้นสุดของยุคแห่งองค์มหาพฤกษาโลกาอันเป็นต้นกำเนิดและศูนย์รวมของเหล่าเอลฟ์ นำไปสู่การล่มสลายของอารยธรรมเอลฟ์ภายหลังจากเหตุการณ์นั้น … ผ่านไปกว่าสหัสวรรษ ต้นไม้โลกต้นใหม่ถือกำเนิดขึ้น อีฟ อึกก์ดราซิลล์ ผู้เป็นดั่งมารดาแห่งสรรพสิ่ง มาพร้อมกับความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบนดาวเคราะห์สีคราม อีฟได้เริ่มแผนการดึงตัวเหล่าผู้เล่นจากดาวแห่งนั้นมาช่วยในการฟื้นฟูอารยธรรม เพื่อพาตนและผองเผ่าเหล่าสาวกกลับไปสู่ความเกรียงไกรเฉกเช่นในอดีต

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท