ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 725 เคลื่อนไหวก่อน (ปลาย)

ตอนที่ 725 เคลื่อนไหวก่อน (ปลาย)

วันที่​หก​เดือน​สาม​ ​เป็น​วัน​คล้าย​วัน​ประสูติ​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​ ​ก่อนหน้า​นั้น​หนึ่ง​เดือน​หวัง​เสียน​ได้​ถูก​กรม​พิธีการ​มอบ​ตำแหน่ง​ราชบุตร​เขย​ ​ใน​วัน​อภิเษกสมรส​ฮ่องเต้​ได้​มี​รับสั่ง​ให้​รัชทายาท​ส่งตัว​เจ้าสาว​ด้วยตัวเอง​ ​หลังจาก​อภิเษกสมรส​หนึ่ง​เดือน​ ​หวัง​เสียน​ได้​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​จิง​ซาน​โหว​ ​รับผิดชอบ​ดูแล​ขุนนาง​ฝ่ายใน​ ​ราชสำนัก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​พัก​หนึ่ง​ ​พากัน​เขียนหนังสือ​ ​หวัง​เสียน​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​ท่าน​โหว​เพรา​ความกรุณา​ซึ่ง​ไม่​สอดคล้อง​กับ​กฎเกณฑ์​ดั้งเดิม​ ​ฮ่องเต้​เป็นกลาง​มา​เสมอ​ ​หลี​่​หย่ง​ชุน​ที่อยู่​ใน​กรม​พิธีการ​คุกเข่า​อยู่​ที่​ประตู​จั่ว​ซุ่น​ไม่ยอม​ลุก​ ​แต่​ฮ่องเต้​ทรง​เพิกเฉย​ ​หลี​่​ชิ่ง​จี๋​ฝ่าย​ตุลาการ​ ​เฉิน​จี้​และ​คนอื่นๆ​ ​มารวม​ตัว​กันที่​ประตู​จั่ว​ซุ่น​ ​ฮ่องเต้​ทรง​ประกาศ​แต่งตั้ง​หวัง​เสียน​เป็นรอง​เสนาบดี​วัด​ไท่​ฉัง​ ​หลาย​คน​พากัน​โอดครวญ​อย่าง​ขมขื่น​ ​ฮ่องเต้​ทรง​มี​รับสั่ง​ให้​ยก​ที่ดิน​หนึ่ง​พัน​หมู่​ของ​ราชวงศ์​ใน​มณฑล​ซาน​ตง​เป็น​ที่นา​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​…

“​…​เช่นนี้​ก็​จะ​เป็นประโยชน์​ต่อ​คนจน​เท่านั้น​!​”​ ​หวัง​ลี่​เช็ด​เหงื่อ​บน​หน้าผาก​ของ​เขา​ ​“​เดิมที​ฮ่องเต้​ต้องการ​สนับสนุน​ราชบุตร​เขย​ ​แต่​การกระทำ​เช่นนี้​อาจ​ทำให้เกิด​การก​่​อกบฏ​ ​และ​คง​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่​ฉลาด​อย่างยิ่ง​หาก​ทำให้​ราชบุตร​เขย​โกรธ​ ​ทาง​ที่​ดี​ควรจะ​โน้มน้าว​ฮ่องเต้​จึง​จะ​ถูก​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​ก้มหน้า​จิบ​ชา

“​ข้า​ก็​รู้​ว่า​มัน​ทำให้​เจ้า​ลำบากใจ​”​ ​หวัง​หลี​่​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​แต่​นอกจาก​เจ้า​แล้ว​ข้า​ก็​นึกไม่ออก​แล้ว​จริงๆ​ ​ว่ายัง​จะ​มี​ใคร​ที่​คุย​กับ​ฝ่า​บาท​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ได้​!​ ​อีก​อย่าง​นี่​ก็​เป็นการ​ทำ​เพื่อ​องค์​หญิง​เจียง​ตู​”

เจียง​ตู​เป็น​สมญานาม​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงยหน้า​ ​ยิ้ม​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​เป็น​คน​สกุล​หวัง​ที่​ขอร้อง​เจ้า​ใช่​หรือไม่​”

หวัง​หลี​่​ท่าทาง​ลำบากใจ​ ​“​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​ซ่อน​จาก​สายตา​ของ​เจ้า​ไม่ได้​ ​ใช่​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ของ​ราชบุตร​เขย​เจียง​ตู​จริงๆ​ ​”

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​หวัง​เสียน​ผู้​นี้​ก็​เป็น​คนที​่​ระมัดระวัง​เช่นกัน​!

“​ข้า​จะ​คิด​หาวิ​ธี​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รีบ​พูด​ทันที​ว่า​ ​“​แต่​จะ​สำเร็จ​หรือไม่​นั้น​ ​ ​ไม่​อาจ​บอก​ได้​”

หวัง​หลี​่​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​รับปาก​ข้า​แล้ว​ ​ข้าว​่า​มี​ความเป็นไปได้​ที่จะ​สำเร็จ​ถึง​แปด​เก้า​ใน​สิบ​ส่วน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ไม่พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก​ ​ถามถึง​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​“​…​ทาง​ด้าน​นั้น​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​เกือบจะ​หนึ่ง​ปี​แล้ว​กระมัง​ ​เดือน​เจ็ด​เป็น​วันเฉลิม​พระชนมพรรษา​ของ​ฮองเฮา​ ​ไม่​สู้​เจ้า​ขอ​ความเมตตา​ในเวลานั้น​!​”

“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​รอดู​สถานการณ์​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​ด้วย​ท่าที​นิ่งเฉย​ ​พูดถึง​เรื่อง​ใน​ราชสำนัก​ขึ้น​มา​ ​“​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​ลาออก​ ​ฮ่องเต้​จะ​ให้​ใคร​มา​แทน​ตำแหน่ง​”

“​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​เสนอ​ใต้เท้า​เจียง​แห่ง​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลิน​ ​ส่วน​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​เสนอ​ใต้เท้า​ตู้​รอง​เจ้ากรม​พิธีการ​”​ ​หวัง​หลี​่​พูด​พลาง​ชำเลือง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ช่วงนี้​ฮ่องเต้​ทรง​กำลัง​เป็น​กัง​วัล​เรื่อง​ของ​องค์​หญิง​เจียง​ตู​ ​จึง​ยัง​ไม่ได้​ยอมรับ​ใคร​”

ใต้เท้า​เจียง​…​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​…​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​…​ใต้เท้า​ตู้​…​ตอนที่​จุน​เกอ​แต่งงาน​ใต้เท้า​ตู้​เป็น​พ่อสื่อ​ของ​สกุล​เจียง​…

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ดู​มีเลศนัย​เล็กน้อย

******

เมื่อ​กลับมา​ที่​เรือน​ ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​อ่าน​จดหมาย​อยู่

“​กลับมา​แล้ว​หรือ​!​”​ ​นาง​ลุกขึ้น​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยน​ชุด​ ​“​ใต้เท้า​หวัง​ไป​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​อืม​!​”​ ​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​บน​โต๊ะ​ที่อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​“​จิ​่น​เกอ​เขียนจดหมาย​มา​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​“​ส่ง​มา​เมื่อ​ตอนบ่าย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​แทบ​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​หยิบ​จดหมาย​ขึ้น​มา​อ่าน

สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​คิดถึง​บุตรชาย​มาก​ ​ยิ้ม​พลาง​หันไป​ชงชา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

ใน​จดหมาย​นอกจาก​รายงาน​ว่า​สบายดี​แล้ว​ ​ก็​มี​เพียง​คำทักทาย

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

เมื่อคืน​เขา​ก็ได้​รับ​จดหมาย​จาก​บุตรชาย​เช่นกัน​ ​แต่ว่า​เนื้อหา​ของ​จดหมาย​แตกต่าง​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง

จิ​่น​เกอ​เขียน​ใน​จดหมาย​ว่า​เขา​ได้​บังเอิญ​ค้นพบ​เหมือง​เงิน​แห่งหนึ​่ง​ ​เนื่องจาก​เป็น​ที่​ที่อยู่​ระหว่าง​คาบเกี่ยวกัน​ของ​ชาว​แมน​จู​และ​ผิง​อี๋​ ​ดังนั้น​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ชาว​แมน​จู​หรือ​กองพัน​ผิง​อี๋​ต่าง​ก็​ไม่รู้​เรื่อง​นี้​

เมื่อ​เห็น​ตัวอักษร​ที่​ดูกระ​ตือ​รือ​ร้น​ของ​บุตรชาย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กังวล​เล็กน้อย

ด้วย​ความเฉลียวฉลาด​และ​ความสามารถ​ของ​กง​ตง​หนิง​ ​เขา​ทำงาน​ที่​ค่าย​ใน​กุ้ย​โจว​มา​หลาย​ปี​ ​หาก​จิ​่น​เกอ​ไม่​เคลื่อนไหว​ก็​ไม่เป็นไร​ ​แต่​หาก​จิ​่น​เกอ​เคลื่อนไหว​คง​ไม่​สามารถ​ปิดบัง​กง​ตง​หนิง​ได้​ ​จาก​ที่​เขา​เข้าใจ​กง​ตง​หนิง​ ​หาก​กง​ตง​หนิง​อยาก​กลับ​เยี​่​ยน​จิง​ก็​คง​คิด​หาวิ​ธี​กลับมา​นาน​แล้ว​ ​แต่​เขา​กลับ​อยู่​ที่​กุ้ย​โจว​มาต​ลอด​ ​นอกจาก​จะ​เป็นเพราะว่า​กุ้ย​โจว​อยู่​ไกล​ ​ราชสำนัก​ดูแล​ไม่​ถึง​ ​ไม่มีใคร​มาสน​ใจ​ ​เกรง​ว่า​มัน​จะ​มีส่วน​เกี่ยง​ข้อง​กับ​กิจการ​เหล่านี้​ที่​ไม่ได้​โปร่งใส​แต่กลับ​สามารถ​ทำให้​เขา​ได้รับ​ทองคำ​ทุกวัน​…​น้ำใจ​ก็​อยู่​ส่วน​น้ำใจ​ ​เงิน​ก็​ส่วน​เงิน​ ​หาก​จิ​่น​เกอ​จะ​เปิด​เหมือง​เงิน​นี้​จริงๆ​ ​เกรง​ว่า​กง​ตง​หนิง​จะ​เป็น​อุปสรรค​ที่​เขา​ไม่​สามารถ​ข้าม​ไป​ได้

จะ​เตือน​บุตรชาย​ดี​หรือไม่

จุดประสงค์​การ​ไป​ของ​เขา​ไม่ใช่​เพื่อ​หารายได้​ ​เหตุใด​ต้อง​ทำลาย​แผน​เดิม​เพราะ​เหมือง​เงิน

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​วาง​จดหมาย​ใน​มือ​ลง

เจ้า​เด็ก​คน​นี้​กลัว​ว่า​มารดา​จะ​เป็นห่วง​ ​ไม่​เผลอ​หลุด​ออกมา​เลย​แม้แต่​ประโยค​เดียว

เมื่อ​ความคิด​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัว​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​มุม​ปาก​เล็กน้อย​

หรือ​จะ​ปล่อย​ให้​เขา​ไป​ก่อเรื่อง​ดี​!

บางอย่าง​หาก​ไม่มี​ประสบการณ์​ ​ไม่ว่า​ผู้อาวุโส​จะ​พูดมาก​ขนาด​ไหน​ ​เขา​ก็​ไม่มีทาง​เก็บ​ไป​ใส่ใจ​

รู้จัก​ความ​เป็น​คน​ก่อน​ทำ​สิ่ง​ต่างๆ​ ​การนำ​ทัพ​ทหาร​ก็​ใช้​เหตุผล​นี้​เช่นเดียวกัน​ ​การ​เปลี่ยน​สถานที่​ใน​สาม​ปี​ ​เป็น​เพียง​การ​ทำให้​เขา​ได้​มีประสบการณ์​คุ้นเคย​กับ​การติด​ต่อ​ผู้คน​ ​หาก​ใช้​เรื่อง​ของ​เหมือง​เงิน​นี้​ทำให้​เขา​พัฒนา​ด้าน​การปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​และ​กลยุทธ์​ใน​การกระทำการ​ต่างๆ​ ​มัน​อาจจะ​ไม่ใช่​เรื่อง​เลวร้าย​ ​อีก​อย่าง​ตน​ได้​ส่ง​ปรมาจารย์​ด้าน​การต่อสู้​สี่​คน​ให้​แอบ​ตาม​เขา​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​หาก​มี​อันตราย​ ​ก็​เพียงพอ​ที่จะ​ปกป้อง​ชีวิต​เขา​ได้​…​หรือ​ควรจะ​ส่ง​เพิ่ม​อีก​สอง​คน​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​ดี

สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คน​คิด​แล้ว​ตัดสินใจ​ในทันที

ตะโกนเรียก​สาวใช้​หัน​เซี่ยว​ ​“​ไป​เรียก​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​”

หัน​เซี่ยว​เป็นหนึ่ง​ใน​สอง​สาวใช้​ที่​ราชบุตร​เขย​ของ​องค์​หญิง​ซุ่ย​ผิง​มอบให้​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​อีก​คน​มีนาม​ว่า​เห​ลิ่ง​เซียง​ ​ซึ่ง​สือ​อี​เหนียง​เก็บ​ไว้​ปรนนิบัติ​ข้าง​กาย​

สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​“​ป่านนี้​แล้ว​ ​เรียก​พ่อบ้าน​ไป๋​มาทำ​อะไร​หรือ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​ ​ไม่ได้​ตอบคำถาม​นาง​ ​“​เจ้า​ไม่ได้​บอกว่า​จะ​ไป​ตรอก​ซื่อ​เอ๋อร​์​หรอก​หรือ​ ​ไปมา​แล้ว​หรือยัง​ ​ทาง​นั้น​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

ตรอก​ซื่อ​เอ๋อร​์​มี​เฉา​เอ๋อร​์​สอง​แม่​ลูก​อาศัย​อยู่​ ​หลาน​ถิง​นัดพบ​กับ​สือ​อี​เหนียง​ที่นั่น​

“​ไปมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​วันมะรืนนี้​หลาน​ถิง​จะ​ออกเดินทาง​กลับ​เฟิง​สุ่ย​ ​ส่วน​เฉา​เอ๋อร​์​จะ​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ต่อ​อีก​สอง​ปี​ ​หลาน​ถิ​งก​ลัว​ว่า​หลังจากที่​นาง​ไป​ ​คน​สกุล​เจี่ยง​จะ​ยุยง​คน​สกุล​กาน​ให้​มาหา​เรื่อง​เฉา​เอ๋อร​์​เลย​ฝากฝัง​ให้​ข้า​ช่วยดูแล​ให้​ ​ข้า​รับปาก​ไว้​แล้ว​”

หลาย​ปี​มานี​้​สกุล​เจี่ยง​สร้าง​ปัญหา​มากมาย​ ​เขา​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ใน​เยี​่​ยน​จิง​หมด​แล้ว

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​พูดถึง​จุดประสงค์​การ​มา​ของ​หวัง​ลี่​ ​“​…​พรุ่งนี้​เจ้า​ส่ง​ป้าย​หยก​เข้า​วัง​ไป​สักหน่อย​เถิด​!​ไป​พูดคุย​กับ​ฮองเฮา​ ​ข้าราชบริพาร​จะ​ไม่​พูดว่า​ฮ่องเต้​ทำผิด​ ​เพียงแต่​คิด​ว่า​หวัง​เสียน​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จึง​ได้​หยิ่งผยอง​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​กระทบ​กับ​ชื่อเสียง​ของ​หวัง​เสียน​”

สือ​อี​เหนียง​รับปาก​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​มาถึง​พอดี

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​พูดคุย​กับ​เขา​ใน​ห้อง​หนังสือ

เติงฮ​วารีบ​วิ่ง​เข้ามา​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ ​“ฮู​หยิน​ ​เฮ่อ​กง​กง​มาหา​ ​ให้ท่าน​โหว​รีบ​เข้า​วัง​โดยเร็ว​ขอรับ​!​”

เฮ่อ​กง​กง​เป็น​ขันที​คนสนิท​ของ​ฮ่องเต้​ ​มาเรียก​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้า​วัง​ในเวลานี้​…

สือ​อี​เหนียง​ใจเต้น​แรง​ ​เดิน​ไป​ห้อง​หนังสือ​กับ​เติงฮ​วา​พลาง​ถาม​เขา​ว่า​ ​“​รู้​หรือไม่​ว่า​เฮ่อ​กง​กง​มาทำ​ไม​”

“​ไม่ทราบ​ขอรับ​”​ ​เติงฮ​วา​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​แต่​ดูแล​้ว​สีหน้า​ไม่ดี​เลย​ขอรับ​”

เช่นนั้น​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ดี​แล้ว​!

นาง​ครุ่นคิด​พลาง​เดิน​ออกจาก​ห้องโถง​ทางเดิน

“​ใคร​มากับ​เฮ่อ​กง​กง​”

“​องครักษ์​ใน​วัง​ขอรับ​”​ ​เติงฮ​วารีบ​พูดว่า​ ​“​มี​ประมาณ​สี่​สิบห้า​สิบ​คน​ ​แม้แต่​โคมไฟ​สัก​ดวง​ก็​ไม่ได้​เอา​มาด​้วย​”

สือ​อี​เหนียง​ใจเต้น​รัว

ห้อง​หนังสือ​แสงไฟ​สว่างไสว​ ​ดูเหมือนว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​พึ่ง​จะ​คุย​กัน​เสร็จ​ ​ทั้งสอง​คน​เดินตาม​กัน​ออกมา​จาก​ห้อง​หนังสือ​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​กับ​เติงฮ​วา​ ​ทั้งคู่​ก็​มีสี​หน้า​ประหลาดใจ

พ่อบ้าน​ไป๋​รีบ​คำนับ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไม่มีเวลา​มาสน​ใจ​ ​รีบ​บอก​สวี​ลิ่ง​อี๋​เรื่อง​การ​มา​ของ​เฮ่อ​กง​กง

สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนเป็น​เคร่งขรึม​ขึ้น

ทุกคน​มอง​ไป​ที่​เขา​ ​ไม่กล้า​แม้แต่​หายใจ​เสียงดัง​ ​เทียน​ใน​โคมไฟ​สีแดง​ใต้​ชายคา​ส่งเสียง​ลุกไหม้​เป็นครั้งคราว​ ​พลอย​ทำให้​บรรยากาศ​ดู​หดหู่​และ​หม่นหมอง​ยิ่งขึ้น

“​เติงฮ​วา​ ​เจ้า​พาบ​่า​วรับ​ใช้​ที่​มีไหวพริบ​สอง​สาม​คน​ไป​กับ​ข้า​ ​ให้​รอ​อยู่​ที่​นอก​ประตู​จั่ว​ซุ่น​ ​หาก​มี​ความเคลื่อนไหว​อะไร​ให้​รีบ​วิ่ง​กลับ​ไปรา​ยงาน​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สงบนิ่ง​และ​มีสติ​ ​แต่​เติงฮ​วาก​ลับ​ใจสั่น​ระรัว​ ​รีบ​รับปาก​ ​“​ขอรับ​”​ ​แล้ว​วิ่ง​ไป​ที่​เรือน​นอก​อย่างรวดเร็ว

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำชับ​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​“​หาก​สถานการณ์​ไม่ดี​ ​เรื่อง​ใน​เรือน​ต้อง​มอบหมาย​ให้​เจ้า​แล้ว​!​”

พ่อบ้าน​ไป๋​พลัน​ขอบตา​แดง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ท่าน​โหว​วางใจ​ได้​ขอรับ​ ​บ่าว​รู้​ว่า​ต้อง​ทำ​อย่างไร​!​”​ ​น้ำเสียง​สั่น​เล็กน้อย​ ​โค้ง​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความเคารพ​ ​จากนั้น​ก็​หันหลัง​แล้ว​เดิน​จากไป

ใน​เรือน​เหลือ​เพียง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​สาวใช้​คนอื่นๆ​ ​ที่​มองหน้า​กัน​โดย​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น

สวี​ลิ่ง​อี๋​กอด​สือ​อี​เหนียง​ไว้​แน่น

“​มั่ว​เหยี​ยน​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​อย่า​ทำให้​คนอื่น​ตกใจ​ ​หาก​ข้า​กลับมา​ไม่ได้​ ​ให้​เจ้า​ไป​เรียก​ถิง​เกอ​ ​จวง​เกอ​และ​ชิ่ง​เกอ​มา​อยู่​ข้าง​กาย​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​จะ​จัดการ​ให้​พวก​เจ้า​กลับบ้าน​เกิด​ ​เซียง​อี้​และ​ภรรยา​นั้น​เชื่อถือได้​ ​จิ​่น​เกอ​อยู่​ที่​นั้น​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​นำ​จดหมาย​ไป​ให้​เขา​ ​เพียงแค่​จะ​ไม่ได้​เจอกัน​สักพัก​ ​เมื่อถึง​เวลา​ที่​เหมาะสม​ ​พวก​เจ้า​สอง​คน​แม่​ลูก​ก็​จะ​ได้​เจอ​หน้า​กัน​…​”

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ในทันที

เขา​กำลัง​เอ่ย​คำสั่ง​เสีย​…

นางน้ำ​ตาน​อง​หน้า​โดยฉับพลัน

อยาก​จะ​พูดว่า​มัน​จะ​ไม่เป็นไร

แต่​ก็​เชื่อ​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​วางแผน​ไว้​ล่วงหน้า​แล้ว

นาง​ตัวสั่น​ราวกับ​ตกลง​ไป​ใน​บ่อน้ำ​แข็ง​ก็​ไม่​ปาน​ ​อยาก​จะ​กอด​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ ​แต่​เหมือนว่า​แขน​ของ​นาง​จะ​แข็ง​จน​ไม่​สามารถ​ยกขึ้น​ได้

“​ข้า​…​ข้า​รู้​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เสียง​ที่​สั่นเครือ​ของ​ตัวเอง​ ​“​ข้า​จะ​ดูแล​เด็ก​ๆ​ ​ให้​ดีเจ​้า​ค่ะ​!​”​ ​สายตา​เริ่ม​เลือนลาง​ ​“​ท่าน​เอง​ก็​ไม่ต้อง​มองโลกในแง่ร้าย​นัก​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ฮ่องเต้​ดี​กับ​ท่าน​มาก​ ​บางที​อาจจะ​เป็นเรื่อง​อื่น​…​”​ ​นาง​ปลอบ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่าง​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​ฟัง​ไม่​เป็น​ประโยค

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​ใช้​ปลายนิ้ว​ลูบ​คิ้ว​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​จูบ​ที่​หน้าผาก​ของ​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ไป​พักผ่อน​เถิด​!​ไม่แน่​ข้า​อาจจะ​คิดมาก​เกินไป​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ปล่อย​นาง​แล้ว​ออกจาก​ลาน​หลัก​โดย​ไม่​ลังเล

สือ​อี​เหนียง​มองดู​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ ​ร่างกาย​สั่นเทา​ไม่​หยุด​ ​ใช้เวลา​สักพัก​กว่า​จะ​สงบ​ลง

หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ไม่ได้​จริงๆ​ ​สิ่ง​ที่นาง​ต้อง​ทำ​ยัง​มี​อีก​มากมาย​…

นาง​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​ๆ​ ​กำชับ​หัน​เซี่ยว​ด้วย​น้ำเสียง​แน่นิ่ง​ ​“​พวกเรา​กลับกัน​เถิด​!​”

******

เป็น​คืน​ที่​ผ่าน​ไป​อย่าง​ยากลำบาก​ไม่น้อย​ ​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​สือ​อี​เหนียง​อาจ​นึก​ขึ้น​ได้​เป็นครั้งคราว​ ​และ​ความทรงจำ​ก็​อาจจะ​ค่อยๆ​ ​เลือนลาง​

พอ​ถึง​รุ่งสาง​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​มาบ​อก​กับ​นาง​ว่า​ ​“​ฮ่องเต้​ทรง​บรรทม​ยัง​ไม่​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​ท่าน​โหว​ ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ ​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​ ​และ​เว​่ย​เก๋อ​เหล่า​ได้รับ​คำสั่ง​ให้​ช่วย​รัชทายาท​จัดการ​ราชสำนัก​ชั่วคราว​ขอรับ​”​ ​สีหน้าท่าทาง​ประหลาดใจ​ของ​เขา​ได้​ฝัง​ลึก​ลง​ไป​ใน​ความทรงจำ​ของ​นาง

“​ฮ่องเต้​ทรง​ยัง​ไม่​ฟื้น​ ​ข่าว​นี้​เชื่อได้​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​โล่งใจ​เพราะเหตุนี้​ ​แต่​ถาม​พ่อบ้าน​ไป๋​ด้วย​ท่าทาง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​มี​วิธี​ใด​ที่จะ​ส่ง​ข้อความ​ถึง​ท่าน​โหว​ได้​บ้าง​!​”

เมื่อ​พ่อบ้าน​ไป๋​เห็น​ว่านาง​ไม่มี​ท่าทาง​ดีใจ​ก็​อด​ประหลาดใจ​ไม่ได้​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​จึง​ได้​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​มี​ขอรับ​ ​ตอนนี้​ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้​ว่า​ท่าน​โหว​อยู่​ใน​สถานการณ์​อันตราย​ ​มี​ฮองเฮา​อยู่​ ​การ​ส่ง​ข้อความ​เข้าไป​นั้น​เป็นเรื่อง​ง่าย​”

“​เช่นนั้น​ก็ดี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​บอก​กับ​ท่าน​โหว​ว่า​ ​‘​ระวัง​จะ​ถูก​คิดบัญชี​ย้อนหลัง​’​ ​ก็​พอแล้ว​!​”

ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​หรือไม่​…​หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​โดดเด่น​มากเกินไป​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​เริ่ม​สงสัย​เขา​อีกครั้ง​เพราะเหตุนี้​หรือไม่​!

สีหน้า​พ่อบ้าน​ไป๋​เปลี่ยนไป​อย่างมาก​ ​เขา​โค้ง​คำนับ​อย่างนอบน้อม​แล้ว​รีบ​จัดการ​ให้​คน​ไป​ส่ง​ข้อความ

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​บน​ท้องฟ้า​สว่างไสว​นอก​หน้าต่าง​พลาง​ถอนหายใจ​ยาว

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท