รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 690 ข้ามิกล้ารึ? คราวหน้าข้าก็ยังกล้าเหมือนเดิม!

บทที่ 690 ข้ามิกล้ารึ? คราวหน้าข้าก็ยังกล้าเหมือนเดิม!

บท​ที่​ 690 ข้า​มิกล้า​รึ​? คราวหน้า​ข้า​ก็​ยัง​กล้า​เหมือนเดิม​!

ก้อนหิน​ ตง​ฟางเวิ่น​ จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​ถูก​ต้น​หลิว​มัด​ห้อย​หัว​อยู่​ด้วยกัน​

“พี่​หลิว​ น้อง​คน​นี้​สำนึกผิด​แล้ว​ ให้​บทเรียน​นิดหน่อย​ก็​พอแล้ว​กระมัง​!”

ก้อนหิน​ตะโกน​บอก​

“อืม​ เจ้าเอ่ยปาก​แล้ว​ ข้า​ก็​ให้​บทเรียน​เจ้านิดหน่อย​เป็น​พอ​”

ต้น​หลิว​คลี่​ยิ้ม​เบาบาง​ แม้จะเอ่ย​เช่นนั้น​ แต่กลับ​มิได้​ออกแรง​น้อยลง​แม้แต่น้อย​ ซ้ำยัง​เพิ่ม​แรง​เข้าไป​อีก​ หวด​จน​ก้อนหิน​มีเศษหิน​กระเด็น​กระดอน​ออกจาก​ตัว​ เป็น​หลุม​เป็น​บ่อ​ไม่เหลือ​ส่วน​ไหน​ดู​สมบูรณ์​เลย​สักนิด​

“พี่​หลิว​! ข้า​สำนึกผิด​แล้ว​จริง ๆ​ ท่าน​ปล่อย​ข้า​ไป​เถิด​!”

ก้อนหิน​ร้องห่มร้องไห้​ ถูก​ทรมาน​แสน​สาหัส​ ก้าน​หลิว​หวด​แรง​เหลือเกิน​ ทุกครั้งที่​หวด​ลงมา​เสมือน​หวด​กระแทก​เข้าที่​ใจของ​มัน​ เจ็บปวด​อย่างยิ่งยวด​!

เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ต้น​หลิว​ พลัง​อัน​แข็งแกร่ง​ของ​มัน​ราวกับ​ไม่มีอยู่​ การ​หวด​ของ​ต้น​หลิว​กระแทก​ลง​ตรง​ส่วนลึก​ของ​ดวงวิญญาณ​มัน​ ทุก​การ​หวด​ล้วน​เจ็บปวด​จน​รวดร้าว​ไป​ทั้ง​ใจ มัน​โหยหวน​ไม่หยุด​

อีก​ด้าน​ ตง​ฟางเวิ่น​และ​จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​กลัว​จน​ปัสสาวะ​แทบ​ราด​

กล้าแกร่ง​ดั่ง​ก้อนหิน​ยัง​ทน​การ​หวด​ของ​ต้น​หลิว​ไม่ไหว​ แล้ว​พวกเขา​จะทน​ได้​หรือ​

ยาก​!

“พี่​หลิว​ ท่าน​ดู​เอาเถิด​ ข้า​อายุ​มาก​แล้ว​ ทน​ความรุนแรง​ขนาด​นี้​ไม่ไหว​จริง ๆ​! พี่​หลิว​หวด​ข้า​น้อยกว่า​หน่อย​ได้​หรือไม่​”

ตง​ฟางเวิ่น​เอ่ย​อย่าง​น่าสงสาร​

“เจ้าเรียก​ข้า​ว่า​พี่​หลิว​ ซ้ำยัง​เอ่ย​ว่า​อายุ​มาก​ เป็นไปได้​ที่ไหน​! ข้า​ยัง​อ่อนเยาว์​ถึงเพียงนี้​ ใน​ฐานะ​น้องชาย​ของ​ข้า​ เจ้าต้อง​ร่างกาย​บึกบึน​ยิ่งกว่า​ข้า​สิ”

ต้น​หลิว​ส่งเสียง​ ก้าน​หลิว​ก้าน​หนึ่ง​พุ่ง​ออก​ไป​ หวด​ตง​ฟางเวิ่น​ดัง​ ‘เพียะ​ ๆๆ’ ตง​ฟางเวิ่น​เจ็บ​จน​ใบหน้า​เหยเก​ ทนไม่ไหว​แล้ว​!

ผิด​แผน​ ผิด​แผน​จริง ๆ​!

ตง​ฟางเวิ่น​สำนึก​เสียใจ​แทบ​แย่​ รู้​อย่างนี้​เขา​คง​ไม่เรียก​พี่​หลิว​แล้ว​!

“น้อง​ต้น​หลิว​ ข้า​ชราภาพ​แล้ว​จริง ๆ​ ถูก​ทำร้าย​แค่​นิด​ ๆ หน่อย​ ๆ ร่าง​ข้า​คง​บุบสลาย​เป็นแน่​! ตา​เฒ่าอย่าง​ข้า​ทน​การ​ทรมาน​ไม่ได้​จริง ๆ​!”

จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​ได้​บทเรียน​จาก​ตง​ฟางเวิ่น​ อ้า​ปาก​เรียก​น้อง​ คราวนี้​คง​ไม่มีปัญหา​แล้ว​กระมัง​

บ้า​เอ๊ย​ แบบนี้​ไม่ถูก​!

จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​ได้สติ​ ก็​หน้าเขียว​ไป​หมด​ เขา​…เขา​เรียก​ต้น​หลิว​ว่า​น้อง​ มิเท่ากับ​หาเรื่อง​โดน​อัด​หรือ​ไร​?

“น้อง​หรือ​ ถ้าอย่างนั้น​ เจ้าคง​แข็งแกร่ง​กว่า​ข้า​…ถึงอย่างไร​ ใน​โลก​แห่ง​การ​ฝึก​ตน​นี้​ ผู้ใด​แข็งแกร่ง​ ผู้​นั้น​เป็น​อาวุโส​”

ต้น​หลิว​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ยิ่ง​ไม่เป็นปัญหา​ ผู้อาวุโส​ทรงพลัง​ปาน​นั้น​ ข้า​ย่อม​ต้อง​ดูแล​เป็นพิเศษ​ถึงจะถูก​”

พูด​จบ​ ก้าน​หลิว​ทั้งหมด​บน​ต้น​ตวัด​ร่ายรำ​ขึ้น​มา หวด​ไป​ยัง​จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​อย่าง​พร้อมเพรียง​

“บัด​…ซบ!”​

จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​กลัว​จน​ปัสสาวะ​แทบ​ราด​ ก้อน​หลิน​กับ​ตง​ฟางเวิ่น​ถูก​หวด​ด้วย​ก้าน​หลิว​เพียง​ก้าน​เดียว​ เขา​กลับ​ต้อง​โดน​ก้าน​หลิว​ทั้งหมด​เลย​หรือ​!

สวรรค์​ นี่​จะให้​เขา​ตาย​หรือ​อย่างไร​!

เขา​เป็นลม​ไป​ใน​บัดดล​!

“เลิก​แสร้งทำ​ไขสือ​เสียที​!”

ต้น​หลิว​ตำหนิ​เสียง​เข้ม​ เก็บ​ก้าน​หลิว​ที่​เหลือ​กลับ​ไป​ เหลือ​ก้าน​หลิว​ที่​หวด​จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​เพียง​ก้าน​เดียว​

มัน​แค่​ขู่​จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​ไป​อย่างนั้น​

“อ๊ากกก!”​

ไม่นาน​นัก​ ที่นี่​ก็​มีเสียง​โหยหวน​ดัง​ขึ้น​เป็น​ระลอก​ ก้อนหิน​ ตง​ฟางเวิ่น​ จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​ต่าง​คร่ำครวญ​ได้​อนาถ​ไม่แพ้​กัน​ เพราะ​ต้น​หลิว​หวด​เจ็บ​เหลือเกิน​!

หลังจาก​สั่งสอน​ได้​พอประมาณ​แล้ว​ ต้น​หลิว​เก็บ​ก้าน​กลับ​ไป​

“กลับ​ไป​เสีย​ หลังจากนี้​เจ้ายัง​ต้อง​ติดตาม​คุณชาย​ไป​อีก​ระยะ​ ยินดี​ให้​เจ้ากลับมา​แก้แค้น​ทุกเมื่อ​”

ต้น​หลิว​บอก​กับ​ก้อนหิน​ด้วย​ใบหน้า​แย้มยิ้ม​

“มิกล้า​ มิกล้า​!”

ก้อนหิน​รีบ​บอก​

ทว่า​แม้ปาก​มัน​จะเอ่ย​ไป​เช่นนั้น​ ใน​ใจกลับ​มิได้คิด​ดั่ง​ที่​เอ่ย​

‘ข้า​มิกล้า​รึ​? คราวหน้า​ข้า​ก็​ยัง​กล้า​เหมือนเดิม​!’

ก้อนหิน​คิดในใจ​อย่าง​เหี้ยมเกรียม​

กลับมา​คราวหน้า​ มัน​จัก​ให้​ต้น​หลิว​ต้อง​ชดใช้​เป็น​สองเท่า​!

มัน​ต้อง​อยู่​กับ​คุณชาย​ต่อ​อีก​ยาว​ จึงไม่เชื่อ​ว่า​ถึงครานั้น​ มัน​จะยัง​มิใช่คู่มือ​ของ​ต้น​หลิว​!

“ลาก่อน​พี่​หลิว​!”

ก้อนหิน​บอกลา​ต้น​หลิว​ยิ้ม​ ๆ หน้า​กระจก​ ‘แท็บเล็ต​’ ปรากฏ​ออกมา​ทันที​

‘แท็บเล็ต​’ ที่​มองดู​อยู่​ขำ​จน​แทบ​บ้า​ มัน​เคย​เห็น​ต้น​หลิว​ออกโรง​มาหลาย​ครา​ รู้ดี​แก่​ใจว่า​ต้น​หลิว​สุดยอด​เพียงใด​ ยาม​ได้​เห็น​ก้อนหิน​หือ​กับ​ต้น​หลิว​ ก็​คาดการณ์​ไว้​แล้ว​ว่า​ก้อนหิน​จะพบจุดจบ​เช่นนี้​

อย่าง​ที่​คิด​ ก้อนหิน​ถูก​จัดการ​จน​ยับเยิน​!

และ​เรื่อง​ที่​ทำให้​มัน​นึก​ขัน​กว่า​เดิม​คือ​ ระหว่างทาง​ยังมี​ผู้อื่น​เต็มใจ​กระโดด​เข้ามา​ให้​เล่นงาน​ด้วย​ตนเอง​ ซ้ำยังมี​ถึงสอง​คน​ด้วยกัน​!

ตง​ฟางเวิ่น​และ​จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​เป็น​คน​โชคร้าย​กัน​ทั้งคู่​!

หลัง​หน้า​กระจก​ปรากฏ​ออกมา​ ก้อนหิน​ก็​ไป​จาก​ที่นี่​โดย​ไม่หัน​กลับมา​มอง​ ก่อน​จะไป​ยัง​รถลาก​

ตง​ฟางเวิ่น​และ​จักรพรรดิ​หมากล้อม​หวง​หลง​อยู่​ต่อ​ ‘อยู่​คุย​’ เป็นเพื่อน​ต้น​หลิว​

ภพ​เซียน​

ใน​ดินแดน​แกนกลาง​ที่​เปิด​ออก​แล้ว​

เก้า​มหา​ตระกูล​แห่ง​เผ่า​มนุษย์​ และ​ลัทธิ​ใหญ่​ เผ่า​อสูร​อื่น​ ๆ เริ่ม​ทำ​การกวาดล้าง​สำนัก​เล็ก​ ๆ สิ่งมีชีวิต​ที่​ไร้​ภูมิหลัง​

พวกเขา​ตั้งใจ​ยึดครอง​ดินแดน​นี้​ มิให้​สิ่งมีชีวิต​ตน​อื่น​ได้​ยุ่มย่าม​กับ​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​ของ​ที่นี่​

ศึก​อลหม่าน​ที่​ศพ​มังกร​ก็​ยุติ​ลง​แล้ว​ สิ่งมีชีวิต​อ่อนแอ​ต่าง​ถูก​ตี​จน​ยอม​ถอย​ ผู้​ที่​เหลืออยู่​ในที่นี้​ต่าง​เป็นยอด​ฝีมือ​จาก​มหา​ตระกูล​ มีภูมิหลัง​น่า​พรั่นพรึง​กัน​ทั้งสิ้น​

“พวก​เจ้ายัง​ไม่ไป​อีก​ มัว​รอ​อะไร​ที่นี่​”

ยอด​ฝีมือ​คน​หนึ่ง​หัน​มอง​พวก​ลั่วสุ่ย​ด้วย​สายตา​เย็นเยียบ​

เขา​มาจาก​พรรค​กระบี่​เซียน​ เป็นหนึ่ง​ใน​ลัทธิ​ใหญ่​สุด​ของ​ภพ​เซียน​ เรืองอำนาจ​ไม่แพ้​เก้า​มหา​ตระกูล​

“ร​อนำ​ศพ​มังกร​นี้​ไป​ด้วย​”

อ้าย​ฉาน​กะพริบตา​ปริบ ๆ​ พลาง​กล่าว​ “ไม่อย่างนั้น​พวก​ท่าน​คิด​ว่า​เรา​อยู่​ที่นี่​ต่อ​เพื่อ​การ​ใด​เล่า​ เพื่อ​ดู​พวก​ท่าน​สู้กัน​หรือ​อย่างไร​”

“บังอาจ​นัก​!”

ยอด​ฝีมือ​พรรค​กระบี่​เซียน​ตวาด​เสียง​เย็น​ กระบี่​เซียน​จำนวน​นับไม่ถ้วน​เปล่งประกาย​สยดสยอง​อยู่​ด้านหลัง​ พุ่ง​ไป​สังหาร​อ้าย​ฉาน​

เด็กเมื่อวานซืน​อายุ​ไม่กี่​ขวบ​ปี​ เขา​ไม่เห็น​อยู่​ใน​สายตา​จริง ๆ​ ส่วน​ถ้อยคำ​เหล่านั้น​ของ​อ้าย​ฉาน​ เขา​ยิ่ง​ไม่คิด​เก็บ​มาใส่ใจ

เขา​ยัง​ไม่ถึงขั้น​ต้อง​ถือสา​หาความ​กับ​เด็ก​ตัวเล็ก​ ๆ

ที่​ลงมือ​ ก็​เพราะ​ต้องการ​หยั่งเชิง​ระดับ​พลัง​ของ​พวก​อ้าย​ฉาน​

พวก​อ้าย​ฉาน​กล้า​อยู่​ต่อ​ใน​สถานที่​นี้​ ย่อม​ไม่ธรรมดา​ คง​มีไพ่ตาย​บางอย่าง​อยู่​ใน​มือ​ เขา​มิได้​สบประมาท​เด็ก​พวก​นี้​ หรือ​ชะล่าใจ​เพราะ​อีก​ฝ่าย​มีขอบเขต​พลัง​ไม่เท่า​เขา​

เสียงดัง​ฟึ่บ​ ลั่วสุ่ย​เหิน​ออกมา​ คน​ทั้งคน​สูงส่งไร้​ผู้ใด​ทัดเทียม​ มือ​เรียว​ขาวผ่อง​ของ​นาง​สะบัด​เบา​ ๆ ทันใดนั้น​ ก็​ขจัด​กระบี่​เซียน​ของ​พวกเขา​ที่​ฟาดฟัน​เข้ามา​ไป​ได้​ทั้งหมด​!

“หืม!?”​

เมื่อ​บรรดา​ยอด​ฝีมือ​พรรค​กระบี่​เซียน​ได้​เห็นภาพ​นี้​ นัยน์ตา​พลัน​หรี่​ลง​ฉับพลัน​

อย่าง​ที่​คิด​ เขา​คาด​ไว้​ไม่ผิด​ พวก​ลั่วสุ่ย​ไม่ธรรมดา​จริง ๆ​ ด้วย​!

เรื่อง​อื่น​ไม่ต้อง​กล่าวถึง​ ลำพัง​ลั่วสุ่ย​คนเดียว​ก็​น่าทึ่ง​จน​เขา​คาดไม่ถึง​แล้ว​!

ลั่วสุ่ย​เป็น​เพียง​ราชัน​แห่ง​เซียน​ตน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ส่วน​เขา​อยู่​ใน​ขั้น​ยอด​เซียน​ ซึ่งเหนือกว่า​ราชัน​แห่ง​เซียน​!

มิหนำซ้ำ​ เขา​ยัง​มิใช่ยอด​เซียน​ธรรมดา​ หาก​แต่​เป็น​ผู้​ที่​บำเพ็ญ​ขั้น​ยอด​เซียน​จน​บริบูรณ์​ เป็น​ถึงยอด​เซียน​ระดับ​สูงสุด​

แต่​แม้จะเป็น​เช่นนั้น​ การ​โจมตี​ของ​เขา​ก็​ยัง​ถูก​ลั่วสุ่ย​ลบล้าง​ได้​ใน​การ​โบกมือ​เพียง​ครั้ง​เดียว​ จะมิให้​เขา​ตะลึง​ได้​อย่างไร​!

นอกจากนี้​ ผู้​ที่​ตะลึง​มิได้​มีเพียง​เขา​เท่านั้น​ ยอด​ฝีมือ​อื่น​ ๆ ในที่นี้​ต่าง​เพ่งมอง​ลั่วสุ่ย​ สายตา​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​ตะลึง​

“น่าสน​ใจดี​นี่​!”

“พวกเรา​เก็บกวาด​พื้นที่​กัน​ดีกว่า​!”

เสียง​ของ​ยอด​ฝีมือ​เหล่านี้​เยียบ​เย็น​ ตัดสินใจ​ร่วมมือ​กำจัด​พวก​ลั่วสุ่ย​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ก่อน​

การช่วงชิง​ถูก​จำกัด​ไว้​แค่​ระหว่าง​มหา​ตระกูล​อย่าง​พวกเขา​กับ​ลัทธิ​ใหญ่​ สิ่งมีชีวิต​ตน​อื่น​ไม่เป็นที่ยอมรับ​จาก​พวกเขา​ ไม่มีสิทธิ์​ได้​แตะต้อง​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​ของ​ที่นี่​

ต่อให้​ลั่วสุ่ย​แสดงความสามารถ​ที่​ไม่ธรรมดา​ออกมา​ พวกเขา​ก็​ไม่มีทาง​ยอม​ ไม่อนุญาต​ให้​ลั่วสุ่ย​นำ​ศพ​มังกร​นี้​ไป​ด้วย​

ชั่วพริบตา​นั้น​ พลัง​ปราณ​สยดสยอง​หลั่งไหล​ออกจาก​ตัว​พวกเขา​กัน​ถ้วนหน้า​ เปล่งแสง​เจิด​จรัส​แยงตา​!

พวกเขา​เตรียม​ลงมือ​กัน​แล้ว​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท