งานประมูลในครั้งนี้ ได้แบ่งออกเป็นสองขั้นตอน ขั้นตอนที่หนึ่งเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับแพทย์แผนจีน ขั้นตอนที่สองก็คือการประมูลนั่นเอง
เป็นที่ประจักษ์ชัด ถ้าใครสามารถแสดงความโดดเด่นออกมาในตอนที่พูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนได้ และได้รับความโปรดปรานจากผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน เช่นนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องเพิ่มสีสันให้กับการประมูลที่กำลังจะถึงนี้อย่างแน่นอน
ทีมงานบริหารธุรกิจสิบกว่าคน ซึ่งมีเย่หยุนซูนำหน้า เซียวหยางเดินติดตามอยู่ที่ข้างกาย ได้เดินตรงเข้าไปยังสถานที่จัดงานทันที
ในครั้งนี้ เย่หยุนซูได้เตรียมพร้อมมาอย่างเต็มที่ สำหรับคู่แข่งแต่ละรายนั้น เธอได้ศึกษาและวิเคราะห์มาอย่างละเอียด รวมถึงว่าบริษัทไหนมอบของที่ระลึกออกไปเท่าไหร่ ข้อมูลพวกนี้ต่างก็อยู่ในกำมือของเย่หยุนซูทั้งหมด
ภายในงานแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนในเวลานี้ หลายคนต่างก็ได้มาถึงแล้ว
สถานที่จัดงานมีพื้นที่ประมาณหนึ่งพันตารางเมตร ตกแต่งอย่างเรียบง่ายไม่ฉูดฉาด มีป้ายจำพวกหมอรักษาโรคช่วยเหลือมหาชน หมออัจฉริยะอะไรต่าง ๆ แขวนอยู่ แสดงออกถึงเกียรติยศ
และทันทีที่พวกเย่หยุนซูเดินเข้าไปนั้น ก็ได้เผชิญกับสายตาที่ไม่เป็นมิตรมาจากทุกทิศทาง
ถ้าพูดถึงขนาดของบริษัท หลายบริษัทที่นั่งอยู่ตรงนี้ ล้วนมีขนาดใหญ่กว่าบริษัทหยุนซู พูดถึงอิทธิพลของตระกูล ยิ่งมีไม่น้อยที่มีตระกูลใหญ่ที่ตั้งรกรากอยู่ในเมืองหยินโจวมานานหลายสิบปีเป็นที่พึ่งพาอาศัย
ยังไงพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จากตระกูลต่ำต้อยคนหนึ่ง ก็ได้มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ด้วย
แต่ว่าระดับของชื่อเสียงของเย่หยุนซูเองก็ไม่ได้ต่ำขนาดนั้น เพราะถึงยังไงเธอก็มีฉายาเป็นถึงประธานสาวที่สวยที่สุดในเมืองหยินโจว ยิ่งไปกว่านั้นงานแต่งงานที่น่าอับอายของตระกูลเย่เมื่อสามปีก่อนนั้น ก็ได้กลายเป็นข่าวดังในขณะนั้น
แต่เย่หยุนซูกลับไม่ได้สนใจสายตาของคนพวกนั้น ท่าทางไม่สะทกสะท้าน ในดวงตาทั้งสองข้าง ยิ่งแฝงไปด้วยความมั่นใจอันแรงกล้า
“เซียวหยาง อีกเดี๋ยวคุณนั่นอยู่ข้างฉัน ดูว่าพวกเขาเจรจายังไง”
เซียวหยางพยักหน้าและไม่ได้เอ่ยอะไร
ภายในห้องโถงมีที่นั่งวางเรียงกันอยู่หลายแถว บนเวทียังมีที่นั่งอยู่แถวหนึ่งที่มีไว้สำหรับให้เหล่าผู้นำระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์นั่ง
ป้ายชื่อที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนชื่อของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์แต่ละท่านเอาไว้ รวมทั้งว่ารับตำแหน่งอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งไหน หรือผลงานที่โดดเด่นที่สุดคืออะไร
ด้านล่างของเวทีมีบรรดาผู้ประกอบการนั่งอยู่จำนวนมาก ทุกคนต่างลูบฝ่ามือคลำกำปั้น เตรียมที่จะสร้างผลงานในงานการพูดคุยแลกเปลี่ยนที่กำลังจะเริ่มต้นในไม่ช้า
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ประธานเย่ที่โด่งดังหรอกเหรอ เฮ้อ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตยากลำบากจริง ๆ การแข่งขันระหว่างผู้ชายแม้แต่ผู้หญิงยังเข้ามาแย่ง”
พูดจาวิตถาร ใบหน้าเต็มไปด้วยความยั่วยวน
เซียวหยางหันขวับไป เห็นเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างอ้วนเตี้ยตัวกลมคนหนึ่ง สวมชุดสูท ผมหวีเสยแนวสลิคแบค นำมันใส่ผมที่อยู่บนหัวนั้นสามารถทำให้แมลงวันตายได้ทั้งฝูง
“ประธานเฉียน ฟังจากน้ำเสียงของคุณ เหมือนจะมีบางอย่างอยู่ในคำพูดนะ มีอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ ไม่ต้องแฝงไว้ในคำพูดหรอก”
ในระหว่างที่เย่หยุนซูเอ่ยปาก ก็ได้เย่อหยิ่งอยู่ไม่น้อย ต่อให้คนที่กำลังเผชิญด้วยนั้นจะเป็นประธานบริษัท Qian Medical กรุ๊ป เฉียนโหย่วฉาย เย่หยุนซูก็ต่อปากไม่เว้น
บริษัท Qian Medical กรุ๊ป เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดของบริษัทหยุนซูในครั้งนี้ ก้าวเท้าเข้ามาในระบบการแพทย์นานหลายสิบปี รากฐานมั่นคง อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับบางบริษัท คิดจะผูกขาดโปรเจคในครั้งนี้แต่เพียงผู้เดียว
บริษัทเล็ก ๆ หลายบริษัทที่อยู่ในงาน ต่างก็เป็นคนของเฉียนโหย่วฉาย
“เหอะ ๆ ประธานเย่ คุณอย่าเข้าใจผิดสิ ผมแค่อยากจะบอกว่า คุณที่เป็นผู้หญิงนั้นลำบากมากเกินไป อยู่ข้างนอกต้องดูแลบริษัท อยู่ที่บ้างยังต้องเลี้ยงคนเศษสวะ”
ในระหว่างที่กล่าวนั้น เฉียนโหย่วฉายก็ได้พาดพิงไปถึงเซียวหยางที่อยู่ด้านข้าง
เซียวหยาง เขยสวะแห่งตระกูลเย่ ผู้ชายขี้ขลาดตาขาว ผู้ชายที่เย่หยุนซูเลี้ยงไว้ ชื่องเสียงฉาวโฉ่
เซียวหยางเลิกคิ้วเล็กน้อย เขาได้ดูข้อมูลมาก่อน บริษัทเครื่องมือแพทย์ของเฉียนโหย่วฉายนั้น อยู่ที่เมืองหยินโจวนับว่าผูกขาด โรงพยาบาลสิบแห่ง เครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลแปดแห่ง ได้มาจากบริษัทของเขา
หลายปีมานี้ ได้กำไรไปอย่างล้นเหลือ
ทักษะและวิชาการต่างมีแนวทางการวิจัยของตนเอง ถ้าพูดถึงความเชี่ยวชาญบริษัทหยุนซูของเย่หยุนซู เทียบไม่ได้กับบริษัทเครื่องมือแพทย์ของบริษัท Qian Medical กรุ๊ปจริง ๆ
แต่ว่าเย่หยุนซูไม่ให้เซียวหยางพูดมาก เซียวหยางก็เลยไม่พูดอะไร และนั่งลงไปบนที่นั่งทันที
เฉียนโหย่วฉายยิ้มเยาะขึ้นมา เป็นเศษสวะจริง ๆ ด้วย พูดมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ยังสามารถทนได้อีก
แต่ว่านี่ก็เป็นเพียงแค่ฉากเล็ก ๆ ฉากหนึ่ง ไม่ได้มีเพียงแค่เย่หยุนซูและเฉียนโหย่วฉาย บริษัทอื่น ๆ เองก็ได้แข่งขันกันทั้งต่อหน้าละลับหลัง ต่างฝ่ายต่างหลอกถามซึ่งกันและกัน
ผ่านไปไม่นาน ก็ได้มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมาถึงสถานที่จัดงาน แต่ว่าแต่ละคนต่างอายุยังน้อย ท่าทางกระฉับกระเฉง มีทั้งหญิงและชาย เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนในแวดวงธุรกิจ
“คนพวกนี้คือหมอที่ยังวัยรุ่นอยู่ ต่างก็มีผลงานในแต่ละสาขา หลัก ๆ แล้วพวกเขามาเข้าร่วมการพูดคุยแลกเปลี่ยนเท่านั้น” เย่หยุนซุกล่าวอธิบาย
เซียวหยางพยักหน้า บนที่หนั่งสองสามแถวที่อยู่ด้านหน้า แทบจะนั่งเต็มไปด้วยหนุ่มสาวสายงานแพทย์
คนหนุ่มสาวเหล่านั้นมองซ้ายแลขวา มองขึ้นไปบนเวทีอย่างเต็มไปด้วยความปรารถนา วันนี้เสาหลักของวงการแพทย์จะมาที่นี่ด้วย สำหรับพวกเขานั้นการพูดคุยแลกเปลี่ยนเช่นนี้หาได้ยากมาก
สามารถสัมผัสกับเสาหลักของวงการแพทย์ในระยะใกล้ได้ พวกเขาเองก็แย่งชิงจนสมองแทบระเบิดถึงได้เข้าไปอยู่ในรายชื่อ
ณ เวลานี้ ชายวัยกลางคนสวมเสื้อกาวน์ ท่าทางเข้มงวดคนหนึ่ง มาถึงหน้าประตู ทันทีที่ชายวัยกลางคนคนนี้ปรากฏตัว ทั่วทั้งห้องโถงก็เงียบลงไปทันที
“นั่นคือประธานเจิ้ง! ประธานสมาคมการแพทย์แห่งเมืองหยินโจว!”
ทันทีที่ประธานเจิ้งปรากฏตัวขึ้น เกือบทุกคนตางได้ลุกขึ้นยืน ดวงตาหลายคู่ต่างจ้องมาที่เขา ราวกับไฟสปอตไลท์
ผู้ประกอบการบางคนต่างเข้าไปทักทายสอบถามสารทุกข์สุกดิบ ต้องการสร้างความสัมพันธ์เข้าใกล้เป็นอันดับแรก
โปรเจคความร่วมมือในครั้งนี้ ข้างบนได้มอบหมายให้กับสมาคมการแพทย์แล้ว นั่นก็หมายความว่า สุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติร่วมงานด้วยนั้น อยู่ที่การตัดสินของสมาคมการแพทย์
ทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจ ประจบเอาใจประธานเจิ้งได้ นั่นก็ถือว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ประธานเจิ้งพยักหน้าให้กับทุกคน เขายิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งลงไปบนเวที
ทันทีที่ประธานเจิ้งมาถึง นั่นก็หมายความว่าการพูดคุยแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
“ประธานเจิ้ง บนเวทียังมีที่ว่างอยู่ มีคนยังมาไม่ถึงหรือเปล่าครับ?” หมอหนุ่มคนหนึ่งเยขึ้นมาแบบไม่คิด
แต่ว่าประธานเจิ้ง ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบ ๆ “ยังมีคนมาไม่ถึง รออีกนิด”
“หา? ยังมีคนมาไม่ถึง?”
“แม่แต่ประธานเจิ้งยังมาถึงแล้ว ยังมีใครใหญ่กว่าประธานเจิ้ง ถึงตอนนี้ยังไม่มา?”
“มีอย่างที่ไหนกัน มีคนกล้าเห็นงานพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการแพทย์เป็นเรื่องเล่น ๆ ด้วยเหรอ?”
และในเวลานั้นเอง ประธานเจิ้งก็ได้เอ่ยขึ้นอย่างเรียบ ๆ “คนคนนี้พวกคุณน่าจะรู้จัก คือซุนจ้าวเหนียง ผู้อาวุโสซุน”
เมื่อได้ยินชื่อซุนจ้าวเหนียงสามพยางค์นี้ หมอทุกคนก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ต่างไม่กล้าหุนหัน พลันแล่นอีก
นั่นคือซุนจ้าวเหนียงนะ หนึ่งในสามปรมาจารย์แห่งเมืองหยินโจว!
อายุมากว่าห้าสิบปี ฝีมือทางการแพทย์ลึกล้ำ มีฝีมือในการฝังเข็มและอังความร้อน ทำให้คนกลับฟื้นคืนชีพได้ เป็นหมออัจฉริยะ!
“ผู้อาวุโสซุนไม่เคยชอบที่สาธารณะ เขาจะมาจริง ๆ เหรอ?”
ด้วยสถานะของซุนจ้าวเหนียงในวงการแพทย์ ทุกที่ที่เขาปรากฏตัวนั้น ด้านหน้าจะต้องมีคนคอยเปิดทางด้านหลังจะต้องมีคนคอยคุ้มครอง งานพูดคุยแลกเปลี่ยนทางการแพทย์แทบจะทุกที่ สามารถเชิญซุนจ้าวเหนียงมาได้ถือเป็นเกียรติของพวกเขา
แต่ซุนจ้าวเหนียงกลับเป็นคนที่ค่อนข้างหยิ่งยโส ไม่ชอบปรากฏตัวในงานเช่นนี้ แต่ฟังจากน้ำเสียงของจึงประธานเจิ้งแล้ว เหมือนจะมั่นใจมากว่าผู้อาวุโสซุนจ้าวเหนียงจะมา?
พอนึกถึงขึ้นนี้ หมอทุกคนต่างก็จัดระเบียบท่าทาง นั่งตัวตรง เหมือนกับนักเรียนในสมัยเรียนที่เห็นครูนั่นแหละ นั่นเป็นความเคารพและนับถืออย่างนึง! ไม่กล้าที่จะบู่มบ่ามเลยสักนิด
เอี๊ยด!
ในตอนนั้นเอง ประตูใหญ่ของห้องประชุมก็ได้เปิดออก
“ซุนจ้าวเหนียง ผู้อาวุโสซุนมาถึงแล้ว!”