บทที่ 687 ใครให้ความมั่นใจผม
เดิมทีคิดว่าขอแค่กงซวี่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากที่บ้าน จะต้องอ่อนข้อให้แน่นอน ใครจะรู้ว่าหมอนี่ดื้อรั้นหัวแข็งไม่ยอมเลย…
หยางจิ้นหยวนกัดฟัน นัยน์ตามีแววชั่วร้าย ถ้าถึงตอนนั้นไม่สามารถยุติเรื่องราวได้ ฝั่งกวงเย่าจำเป็นต้องแบนกงซวี่ จากนั้นเคลียร์ความสัมพันธ์ทั้งหมดให้สะอาดหมดจด…
เยี่ยไป๋คนนี้ทำอะไรไม่มีหลักการจริงๆ เวลานี้แล้วยังตามใจกงซวี่อยู่อีก เขาคิดว่ากงซวี่จะยังมีภาพลักษณ์เดิมเหมือนเมื่อก่อน ถึงจะทำผิดร้ายแรงก็ไม่เป็นไรเหรอ?
ไม่มีตระกูลกงหนุนหลัง กงซวี่ก็เป็นแค่เสือกระดาษ
งานแถลงข่าววันนี้ห่างจากวันที่ว่านชานชานโพสต์เวยป๋อมาห้าวันแล้ว
สาเหตุของเรื่องทั้งหมดคือกงซวี่ไปดูกองถ่ายละคร ‘มังกรผงาด 2’ และไปเจอศัตรูคู่อาฆาตอย่างหลิงเส่าเจ๋อเข้า เห็นอยู่ว่าตัวกงซวี่เองไม่ระวังทำกาแฟหกเลอะเสื้อผ้าของหลิงเส่าเจ๋อ ปรากฏว่าไม่เพียงแต่ไม่ขอโทษ ซ้ำยังใช้เงินฟาดดูถูกคนอื่น ราดกาแฟใส่หลิงเส่าเจ๋อต่อหน้าคนอื่น พูดจาดูถูกด้วยสารพัดถ้อยคำ
ดูจากความคิดของชาวเน็ต แบ่งได้เป็นสามประเภทตามปกติ ประเภทแรกคือพวกที่เกลียดชังคนรวย อีกประเภทหนึ่งคือเห็นใจคนอ่อนแอกว่า แล้วยังมีอีกประเภทคือพวกวัยรุ่นที่โกรธเกลียด
ความคิดแบบนี้ถ้าคนมีใจคิดเอาไปใช้ประโยชน์ จะรวบรวมเป็นพลังอันหนึ่งอันเดียวกันที่น่ากลัวได้ทีเดียว
เรื่องของกงซวี่เข้าข่ายทั้งสามประเภทพอดี ถึงขั้นไม่จำเป็นต้องช่วยกระพือให้เรื่องราวใหญ่โตเลย แค่คลิปเล็กๆ คลิปเดียวก็เพียงพอจะผลักเขาไปสู่จุดที่วิกฤตที่สุด ทำให้ชาวเน็ตทุกคนรวมตัวกันประณามการกระทำทั้งวาจาและตัวอักษร สถานการณ์มีแนวโน้มเป็นอย่างนั้น
หลายวันนี้ มีแต่พาดหัวข่าวที่จับใจคนอย่าง ‘ต่อต้านอำนาจอยุติธรรมในวงการบันเทิงอย่างเด็ดขาด’ ‘ถกประเด็นบุคลิกต่อต้านสังคมของกงซวี่’ ‘สะสางความวุ่นวายในวงการบันเทิง’
เดิมทีกงซวี่เป็นคนเปิดเผย มีข่าวฉาวเยอะ บุคลิกอวดดีจองหอง อย่างมากก็แค่ทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างชนชั้นแล้ว ก่อให้เกิดการคว่ำบาตรระดับชาติ
คำพูดปากต่อปากของคนนั้นน่ากลัว ภายใต้การถกเถียงกันแบบนี้ สิ่งที่กงซวี่เผชิญหน้าตอนนี้ไม่เพียงแต่อาจจะโดนแบนไปทั้งวงการบันเทิง แต่ชีวิตเขาต่อจากนี้อาจได้รับผลกระทบด้วย
สิ่งที่ดูเหมือนจะมองไม่เห็นพวกนั้น ตัวอักษรซึ่งไม่อาจทำอันตรายได้ ไม่ต่างไปจากฆาตกรที่ดื่มเลือดคนกินเนื้อคนเลย
ด้านนอก เหล่าแฟนคลับที่ไม่พอใจและฝูงชนถือป้ายล้อมรอบทั้งโรงแรมไว้กันเบียดเสียดแออัด ที่พักของกงซวี่หลายที่โดนยึดหมดแล้ว พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุกซอกซอยต่างรายงานเรื่องนี้กันหมด
อินเทอร์เน็ตซึ่งถือว่าเป็นสนามรบแรกยิ่งเต็มไปด้วยปืนใหญ่ทุกพื้นที่ เวยป๋อส่วนตัวของกงซวี่โดนด่าจนใช้งานไม่ได้ หน้าหลักโดนแฮ็ก ถูกโพสต์ขู่ฆ่า กลุ่มแฟนคลับและหน้าเว็บโดนระเบิดลง พวกหัวรุนแรงในอินเทอร์เน็ตที่โดนชี้นำมีเต็มไปหมด ไม่ปล่อยพื้นที่ว่างที่โจมตีเขาได้ไปเลย…
ส่วนเวลานี้วินาทีนี้ ในโรงแรม ทุกสำนักข่าวใช้ปากกาเป็นใบมีด ทุกคนคิดจะควักเลือดเนื้อออกมาจากตัวกงซวี่
นักข่าวถาม “กงซวี่ อย่างที่ทุกคนรู้ ระหว่างคุณกับหลิงเส่าเจ๋อขัดแย้งกันมานาน หลิงเส่าเจ๋อเป็นคนถ่อมตัว ไม่เคยตอบโต้คุณเลย สาเหตุครั้งนี้ก็แค่การขัดแย้งกันเล็กๆ ส่วนคุณกลับเหยียบย่ำและดูถูกฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่แยแส อีกทั้งยังมั่นใจกับพฤติกรรมของคุณมาก ไม่ยอมรับผิดและขอโทษ ขอถามหน่อย อะไรที่ทำให้คุณมีความมั่นใจอย่างไร้ยางอายขนาดนี้! เป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังคุณ หรือว่าอี้หาวกรุ๊ปที่หนุนหลังคุณอยู่!”
เจตจำนงที่จะสร้างประเด็นของนักข่าวนั้นชัดเจน อีกทั้งยังลากกวงเย่าและตระกูลกงเข้ามาร่วมด้วย ทำให้เรื่องลุกลามใหญ่ขึ้น
“หึ…” กงซวี่หัวเราะเสียงต่ำเบาๆ จากนั้นเชิดใบหน้าที่หยิ่งผยองตลอดเวลาขึ้นมา พูดย้ำทีละคำว่า
“ใครให้ความมั่นใจผมเหรอ ผมกงซวี่ วันนี้จะบอกคุณเอง ถึงพ่อกับผมจะตัดความสัมพันธ์กันแล้ว ถึงแม้ว่าบริษัทจะแบน ทั้งประเทศจะคว่ำบาตร ถึงเวลานี้ผมจะไม่เหลือแฟนคลับเลยสักคน ผมก็ยังยืนยันคำเดิมหมือนที่ผ่านมา ถ้าอยากจะให้ผมขอโทษ รอชาติหน้าเถอะ!”
………………………………………………………………
บทที่ 688 กลับมา
คำพูดของกงซวี่สร้างความปั่นป่วนให้ทั้งบริเวณรอบๆ…
พวกสื่อเดิมทียังคาดเดาว่าครั้งนี้กงซวี่จะประนีประนอมเพราะกดดันหรือไม่ แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีแบบนี้
คิ้วของเยี่ยหวันหวั่นเลิกขึ้นเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น
เธอจำเป็นต้องยอมรับว่า ท่าทีในตอนนี้ของคนสำมะเลเทเมาอย่างกงซวี่กลับดูมาดแมนมากทีเดียว…
กงซวี่เป็นจุดรวมแสงตลอดกาลในกลุ่มคน และเกิดมาเพื่อเป็นดารา แต่ว่านิสัยของเขายอมหักไม่ยอมงอ ไม่เหมาะจะอยู่ในวงการนี้
เขาต้องการจุดสมดุลสักจุดหนึ่ง…
ในฐานะผู้จัดการของเขา เธอหวังว่าตัวเองจะกลายเป็นจุดสมดุลนั้นได้
ลั่วเฉินมองกงซวี่ด้วยแววตาซับซ้อน ถึงเขาจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับพฤติกรรมหลายอย่างของกงซวี่ แต่ความผ่าเผยเป็นอิสระและความกล้าหาญของอีกฝ่ายทำให้เขาอิจฉาและอยากมีบ้าง
เพราะประโยคนี้ของกงซวี่ พวกสื่อปั่นป่วนฮือฮากันทันที ขณะเดียวกันก็ฮึกเหิมกว่าเดิม
กงซวี่ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังเลยจริงๆ!
ต่อจากนั้น สื่อมวลชนคนแล้วคนเล่าก็โยนคำถามที่คมกริบกว่าเดิมใส่หน้าอย่างมืดฟ้ามัวดินเหมือนกับลูกเห็บ
“บุคลิกของคุณชายกงทำให้ทุกคนได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ ดังนั้นที่คุณไม่ยอมพูดขอโทษ เพราะคุณคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดใช่ไหมคะ?”
“กงซวี่ ในสายตาคุณ พวกคนในระดับต่ำที่พยายามเพื่อจะมีชีวิตอยู่พวกนั้น สำหรับพวกคนรวยอย่างพวกคุณแล้วเป็นแค่มดแมลง สมควรถูกกระทืบให้หนักสินะ!”
“อำนาจหมายถึงหน้าที่ ยิ่งมีความสามารถเท่าไร ภาระหน้าที่ก็ยิ่งมากเท่านั้น นี่ต่างหากทัศนคติต่อคุณค่าที่ถูกต้อง แต่คนอย่างคุณที่ยึดครองทรัพยากรระดับสูงสุดของสังคมไว้ กลับเป็นเศษเดินและมอดแมลงของสังคม!”
ขณะมองบริเวณโดยรอบที่เริ่มสูญเสียการควบคุมเรื่อยๆ มองเหตุการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์ของผู้คน สีหน้าของหยางจิ้นหยวนอึมครึมลงเล็กน้อย…
ดูเหมือนกงซวี่จะเอาไม่อยู่จริงๆ ด้วย…
ตอนที่เหล่าสื่อกำลังถล่มกงซวี่ จู่ๆ ก็มีแฟนคลับที่คลั่งไปแล้วคนหนึ่งพุ่งออกมาจากในฝูงชน “กงซวี่! ไอ้ขยะเอ๊ย! ไอ้หนอนโสโครกในท่อน้ำ!”
“เกิดอะไรขึ้น! หยุดเขาไว้!” หยางจิ้นหยวนตะโกนลั่น
บอดี้การ์ดรีบร้อนเข้ามา แต่เพราะคนเบียดเสียด แฟนคลับคนนั้นก็แรงเยอะมาก จึงพุ่งไปยังทิศทางของกงซวี่เลยทันที
ประกายเย็นเยียบสะท้อนวาบ ไม่นึกว่าแฟนคลับจะพกมีดไว้กับตัวด้วย ขณะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ เขาพุ่งใส่กงซวี่สุดแรง เสียงกรีดร้องดังระงม รอบด้านเกิดความโกลาหล
พริบตาที่มีดจากแฟนคลับวาดใส่แก้มของกงซวี่ การเคลื่อนไหวของเยี่ยหวันหวั่นกลับเร็วกว่า ยื่นแขนไปขวางไว้เหมือนสายฟ้า ปกป้องกงซวี่ไว้ด้านหลังมิดชิด ผู้ชายคนนั้นล้มกองกับพื้น ถูกบอดี้การ์ดที่พุ่งเข้ามากดไว้
เพียงแต่ในความโกลาหล แขนของเยี่ยหวันหวั่นถูกกรีดเป็นแผลรอยหนึ่งเพราะต้องปกป้องกงซวี่ เลือดสีแดงสดย้อมชุดสูทสีขาวทันที
“พี่เยี่ย!” กงซวี่มองแผลบนแขนเยี่ยหวันหวั่น ถลึงตาด้วยความโกรธ ชายหนุ่มเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังเดือดดาล ถีบเก้าอี้ด้านข้างจนล้ม จากนั้นพุ่งเข้าหาแฟนคลับที่ทำร้ายคน “ไอ้เวรนี่!”
กงซวี่จับคอเสื้อของแฟนคลับคนนั้น เงื้อกำปั้นขึ้นสูง คิดจะต่อยหน้าอีกฝ่าย…
สื่อมวลชนที่อยู่รอบๆ ยกกล้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น รอชมฉากใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น
“กงซวี่”
เสียงที่เหมือนกับน้ำแข็งดังขึ้นด้านหลังเขาอย่างเรียบๆ เรียกชื่อกงซวี่ การเคลื่อนไหวที่เหมือนคลั่งไปแล้วของกงซวี่พลันหยุดลงตรงนั้น
แต่ลมหายใจเขายังคงหนักหน่วง จับแฟนคลับคนนั้นไว้ไม่ปล่อย เห็นได้ชัดว่าติดอยู่ตรงปลายขีดจำกัดของความโกรธรุนแรงและการเสียความควบคุม
เยี่ยหวันหวั่นใช้ผ้าขนหนูที่พนักงานส่งมาให้มัดแขนไว้ เอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “กลับมา”
………………………………………….