ตอนที่ 40 ท่อนล่างยังทำงานได้ปกติ
ฉวีซือเหวินมองมู่เทียนซิงอย่างเสียใจ:“ไม่ ไม่รู้ค่ะ!”
ให้ตายยังไงหล่อนก็ไม่บอกมู่เทียนซิงว่าเมื่อกี้หล่อนโทรไปไม่ใช่เบอร์ของหลิงเล่!
หล่อนโทรหาเบอร์เพื่อนสาว และเสียงของเพื่อนหล่อนก็ช่างออดอ้อนเหลือเกิน!
บนบันได มู่เทียนซิงยืนบื้ออยู่ที่เดิม
ชัดเจนว่าหล่อนไม่มีประสบการณ์จัดการเรื่องพวกนี้ ในตอนนี้เองกลับสับสนเล็กน้อย
ฉวีซือเหวินมองหล่อนแล้วก็ลองทดสอบดูอย่างระมัดระวัง:“นี่อะไรเนี่ย?แต่ไหนแต่ไรมาคุณชายสี่ไม่ให้ผู้หญิงเข้าใกล้ แล้วโทรศัพท์ก็เป็นของติดกายส่วนตัวด้วย มีจั๋วหรันกับจั๋วซีอยู่ คุณชายสี่ไม่มีทางโดนคนอื่นมาคุกคาม โทรศัพท์ไม่มีทางหายได้!”
หล่อนพูดเองเออเอง ทันใดนั้นก็ทำเปนเหมือนคิดได้ว่า:“นอกจากผู้หญิงคนนั้นคือคนที่คุณชายสี่อนุญาติให้เข้าใกล้?”
“เขา เข้าใกล้เขาแล้วยังไง ยังไงท่อนล่างเขาก็ขยับไม่ได้!”
ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ มู่เทียนซิงก็พูดออกมา
พูดจบก็ไม่ยังไม่ทันตระหนักได้ว่ามีอะไรผิดไป มองฉวีซือเหวินอย่างจริงจัง เหมือนรอให้หล่อนพูดอะไร!
ฉวีซือเหวินกับจั๋วหรันนั้นเหมือนกัน อยู่กับหลิงเล่มานานแล้วต่างเข้าข้างเขา
หล่อนมองมู่เทียนซิงอย่างลำบากใจแล้วพูด:“คุณนายมู่ คือ สามีฉันบอกว่า ขาคุณชายสี่แค่ยืนขึ้นมาไม่ได้แต่ความเป็นชายของเขายังสมบูรณ์ดี”
มู่เทียนซิง:“......”
ฉวีซือเหวินพูดต่อ:“ดังนั้น คุณชายสี่ก็เป็นผู้ชายปกติ ถ้าต้องการอะไรพิเศษ แล้วยังมีสาวสวยมาใกล้ชิดอีก เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องให้ฝ่ายชายออกแรง ผู้หญิงขึ้นเองก็ได้ค่ะ”
มู่เทียนซิง:“......”
คิดถึงเรื่องเมื่อวานที่เขาฉวยโอกาสKissหล่อน แล้วเมื่อคืนยังนอนด้วยกันอีก มือใหญ่ของเขามักจะวางอยู่ที่เอวหล่อน มู่เทียนซิงเริ่มไม่ค่อยมั่นใจ
หรือว่า นี่คือสัญญาณว่าเขามีความต้องการพิเศษ?
“พี่”มู่เทียนซิงเอามือเล็กวางไว้ตรงหัวใจ ตรงนั้นเหมือนมีอะไรมาอุดไว้ ลองใช้มือคลำก็เหมือนไม่มีอะไร เป็นความกดดันแปลกๆ :“โทรหาสามีพี่ ถามว่าลุงทำไรอยู่!”
“อ้อ”
ฉวีซือเหวินเหลือบมองมือตรงหน้าอกหล่อน แล้วก็โทรศัพท์ออกไป
รอบนี้หล่อนไม่ได้เปิดลำโพง หมุนตัวไป ทำเป็นคุยโทรศัพท์“ฮัลโหล สามีเหรอ คุณชายสี่กำลังทำอะไร เมื่อกี้คุณหนูมู่โทรหาเขา ทำไมมีผู้หญิงรับล่ะ?”
มู่เทียนซิงลงมาจากบันได มองไปทางฉวีซือเหวินที่เดินออกไปอย่างอยากรู้อยากเห็น
หล่อนเอนหู กลัวจะพลาดอะไร นอกจากเสียงของฉวีซือเหวินในห้องโถงที่ว่างเปล่านั่น จั๋วหรันพูดอะไรบ้างหล่อนไม่ได้ยิน!
จะบ้าตายอยู่แล้ว!
ฉวีซือเหวินหมุนตัวเข้ามาใกล้ๆ มู่เทียนซิงแล้วพูด:“ฉันรู้แล้ว”
ตอนที่มือเล็กๆ ของมู่เทียนซิงคว้าแขนของฉวีซือเหวิน ฉวีซือเหวินก็วางสายพอดี!
“ว่า ว่ายังไงบ้าง?ลุงทำอะไรอยู่?”
ฉวีซือเหวินมองหล่อนอย่างลำบากใจพูดว่า:“จั๋วหรันบอก เมื่อกี้คุณชายสี่เข้าไปในห้องกับสาวสวยวัยรุ่น ตอนนี้ทำอะไรกัน คือ พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“หะ?”
น้ำตาของมู่เทียนซิงจะหยดลงมาแล้ว!
ไม่รู้ว่าทำไมในใจถึงเสียใจจนอยากจะตาย!
หล่อนคว้าโทรศัพท์ในมือของฉวีซือเหวิน แล้วกดหาเบอร์ของหลิงเล่ แต่จู่ๆ ก็หยุดลง!
ฉวีซือเหวินก็ตกใจ
หล่อนอยู่กับหลิงเล่มาหลายปี เรียนรู้กังฟูตั้งแต่เด็กๆ แค่เมื่อกี้ที่มู่เทียนซิงรับโทรศัพท์ไปดูโหดมาก หล่อนยังไม่ทันเตรียมตัวดี!
เมื่อกี้ยังตกอกตกใจกลัวมู่เทียนซิงมองข้อบกพร่องออก แต่กลับเห็นมู่เทียนซิงหยุดลง!
ฉวีซือเหวินคิดแค่ว่าด้านหลังเหงื่อออก มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีที่ไปเล่นกับไฟ กลัวว่าตัวเองจะทำให้เรื่องแย่และสับสนมากขึ้น
แต่ว่ามู่เทียนซิงคืนโทรศัพท์ให้หล่อนอย่างช้าๆ
ฉวีซือเหวินรับเข้ามามองหล่อนอย่างกังวล:“คุณหนูมู่?”
“ไปดู!”
มู่เทียนซิงกำมือแน่น สายตาจ้องไปที่ฉวีซือเหวินอย่างโหดๆ :“ตอนนี้ลองหาดู!ระยะทางจากนี่กับเมืองH ถ้าขับรถ6-7ชั่วโมง งั้นนั่งเครื่อง1ชั่วโมงดีกว่า!เราออกกันตอนนี้เลย!พี่ไปดู ตั๋วเครื่องบินจากที่นี่ไปเมือง H สองใบ!”
ฉากน่าทึ่งขนาดนี้ ฉวีซือเหวินคิดไม่ถึงจริงๆ
ตามแผนการของหล่อนแล้วคืออยากให้มู่เทียนซิงรู้จักความรัก รู้จักหัวใจของตัวเอง จากนั้นค่อยอธิบายว่าเรื่องวันนี้ที่จริงแล้วหล่อนวางแผนเองแล้วค่อยขอให้มู่เทียนซิงยกโทษให้
กลับคิดไม่ถึงว่า มู่เทียนซิงจะบินไปหาคุณชายสี่ที่เมืองHเอง?
“แค่กแค่ก คุณหนูมู่”
“เร็วหน่อย!อย่าทำให้เสียเวลา!”
มู่เทียนซิงพูดด้วยความโกรธ:“จะไปแล้ว!ถ้าเข้าใจผิดก็ช่าง แต่ถ้าคนปากเสียนั่นทำอะไรที่ไม่สมควรลับหลังฉันงั้นก็อย่ามาว่าฉันละกันถ้าฉันจะถอนหมั้น!”
ผู้ชายที่ไม่บริสุทธิ์ หล่อนไม่สน!
แม้ว่าจะแต่งงานกันปลอมๆ หล่อนก็ไม่สน!
ฉวีซือเหวินตกใจกับท่าทีของมู่เทียนซิง และก็รู้สึกว่าลึกๆ ในใจของหลิงเล่ที่จริงอยากให้มู่เทียนซิงไปเคารพหลุมศพแม่เขาด้วย
ไม่งั้นหลิงเล่คงไม่ให้หล่อนเตรียมชุดไปสุสานหรอก
พอติดต่อสายการบินได้ก็ซื้อตั๋วสองใบ
ฉวีซือเหวินพูดกับมู่เทียนซิง:“เครื่องบินจะบินอีกหนึ่งชั่วโมง เราไปสนามบินตอนนี้ก็ยังทันเช็คอิน เอกสารของท่านอยู่ที่ตระกูลมู่ไม่ได้เอามา ทางไปสนามบินผ่านตระกูลมู่พอดีก็แวะไปหยิบเอกสารได้ พอเครื่องลงก็นั่งรถไปโรงแรมที่คุณชายสี่พักอีกประมาณ20นาที”
ก็หมายความว่าอีกสองชั่วโมงครึ่ง หล่อนก็จะได้เห็นหลิงเล่แล้ว
มู่เทียนซิงไม่รอช้า ตอนเช้าไม่ยอมไปกับหลิงเล่แล้วยังทำเขาโกรธอีก
ตอนนี้หล่อนกลับเข็นกระเป๋าเดินทางไปเองด้วยท่าทางรีบร้อน เพื่อตามเขาเข้าไป
ฉวีซือเหวินรีบล็อคบ้านปิดประตูหน้าต่างดีๆ แล้วเอากุญแจรถไปเอารถที่โรงจอด
ก็แค่ ตอนที่หล่อนมองสาวน้อยนั่นเข็นกระเป๋าเดินทางไป ในหัวของหล่อนก็มีความลังเล:ควรบอกจั๋วหรันสักหน่อยดีไหม?
เมื่อหล่อนพามู่เทียนซิงขับรถออกจากคฤหาสน์จื่อเวย มองใบหน้าเล็กๆ ที่ดูกังวลของมู่เทียนซิงผ่านกระจกหลัง หล่อนก็คิดว่าช่างเถอะ ไม่พูดดีกว่า
ถ้าจั๋วหรันรู้ หลิงเล่ก็ต้องรู้
ให้หลิงเล่ได้รู้สึกถึงความเซอร์ไพรส์ละกัน
แต่หวังว่า นี่คงไม่เซอร์ไพรส์