ตอนที่ 43 คุณคือผู้หญิงของพี่ผม
ที่เมืองHก็มีฝนตกลงมาหนัก
ฟ้าแลบเหมือนกรงเล็บในความมืดมิดหลังจากแสดงให้เห็นเขี้ยวยาวที่น่ากลัวแล้ว ทันใดนั้นก็ผ่าออกความมืดเป็นวงกว้าง!
จั๋วหรันลุยฝนไปสถานที่หนึ่งด้วยตัวเองที่เรียกว่าคฤหาสน์ชิงหวั่น
บ้านหลังนี้ผสมผสานความโบราณและความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน บนที่ตั้งนี้มีประวัติศาสตร์กว่าร้อยปีและรัฐบาลก็ออกนโยบายพิเศษ อนุญาติให้ผู้สืบทอดของตระกูลหนีครอบครองที่ดินนี้ได้ตลอดไป
จั๋วหรันถูกคนดูแลบ้านพาเข้าไปข้างในที่ห้องทำงานชั้นสอง
ผู้ชายวัยรุ่นที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานชื่อหนีหย่าจูน เป็นหลานชายของหนีจื่อหยางผู้เป็นเจ้าของตระกูลหนีคนปัจจุบัน เขาฟังจั๋วหรันอย่างเงียบๆ หลังจากให้จั๋วหรันรอก็รีบขึ้นไปที่ชั่นสาม
ส่วนตอนนี้เอง หนีจื่อหยางที่ได้ยินลูกน้องมาแจ้งก็ลุกขึ้น
ตอนที่เปิดห้องนอนออกไป ด้านหลังของเขาก็มีเสียงสงสัยของภรรยาเข้ามา:“เสี่ยวเล่มาเหรอ?”
หนีจื่อหยางหยุดลง หันหน้าไปบอกภรรยาด้วยสายตาที่ดูใส่ใจว่า:“อือ คุณนอนเถอะ”
“เขามาไวก่อนปีก่อนๆ หนึ่งวัน เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“เปล่า ไม่ต้องกังวล แค่ครั้งนี้เขาพาสาวน้อยมาด้วย แต่เข้าใจผิดนิดหน่อยแล้วสาวน้อยโกรธเลยหนีหายไป เลยอยากให้ผมช่วยเขาหา”
“งั้นยังงงอยู่ทำไม?รีบโทรหานายกเทศนมตรีสิ?”
ได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์ของภรรยา หนีจื่อหยางก็พูดไม่ออก:“ผมก็จะไปโทรที่ห้องทำงานไง รีบนอนเถอะ!ผมต้องไปเจอจั๋วหรันอีกเพื่อถามถึงสถานการณ์”
ดังนั้น——
ทั้งเมืองHตั้งแต่เที่ยงคืนยันตีสามต่างหาสาวน้อยที่ชื่อมู่เทียนซิง
พอหนีหย่าจูนได้รับข่าวก็รีบขับรถไปด้วยตัวเอง
ผับหนึ่งที่ชื่อThree ในเมืองHก็มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเช่นกันและหนึ่งในคนที่ก่อตั้งก็คือหนีจื่อหยาง กลุ่มคนต่างระดมกันค้นหา ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างลงมือปฏิบัติ กลับคิดไม่ถึงว่าแม่สาวน้อยนั่นจะมาที่นี่
เสื้อยืดคอVผ้าฝ้ายสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้ม ชุดง่ายๆ ธรรมดาไม่ติดแบนด์ แต่เผยถึงความสง่างาม ส่วนสูง187 ภูมิหลังของครอบครัวที่ยากเปรียบได้และความลูกครึ่งของเขา
อยากรู้ว่าลูกครึ่งอย่างหนีหย่าจูนหล่อแค่ไหน?
นึกถึงTakeshi Kaneshiro นึกถึงDennis Oh
หนีหย่าจูนแสดงตัวออกมา คนในผับต่างเดือดดาล
นั่นคือคนในอุดมคติของผู้หญิงทั้งหลายในเมืองH อีกทั้งสาวๆ ทั้งหลายของบ้านคนธรรมดาๆ ต่างก็อยากจับได้เขยเต่าทองคำ
ชายคนนี้ค่อยๆ เดินมาขอทาง เหล่าหญิงสาวต่างหลบทางให้ แต่หลังจากสายตาของหนีหย่าจูนกวาดไปรอบๆ ห้องโถงแล้วก็หยุดไปที่ร่างสีฟ้าๆ นั่น
ตอนนี้เอง ก็มีเหล่าผู้ชายที่ทำตัวไม่เหมาะเล็งไปที่สาวสวยหน้าตาดี
หนีหย่าจูนเดินเร็วเข้าไป หยิบโทรศัพท์ออกมาดูรูปที่จั๋วหรันส่งมาให้แล้วมาเทียบกับผู้หญิงตรงหน้าที่ถือขวดเหล้าด้วยท่าทางสะลืมสะลือ
แปปนึง เขาเอามือไปด้านหลังด้วยท่าทางสง่างาม ในมือส่งสูทตัวใหญ่หนึ่งตัว เขารับไว้แล้วเอาร่างของสาวน้อยนั่นออกไป!
“ฮือฮือ~ปล่อยฉัน!ถ้ามาทำอะไร ฉัน ฉันแจ้งความ!”
มู่เทียนซิงรู้สึกลำบาก มึนหัว ลืมตามาก็มีแสงสลัวๆ ทำให้หล่อนมึน
หล่อนปีนขึ้นไปนอนลงตรงเคาท์เตอร์บาร์ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
พออเอาหล่อนออกมาจากผับได้ ภายใต้แสงของความมืดและไฟตรงถนนเข้ามารวมกัน หล่อนพยายามลืมตาแล้วก็เห็นใบหน้าตรงหน้าอย่างชัดเจน!
“ว้าว!หล่อจัง!”ตาของมู่เทียนซิงเต็มไปด้วยความแวววาวพูดด้วยเสียงเบาๆ :“โดนผู้ชายหล่อแบบคุณลากออกมา ฉันก็คุ้มแล้วจริงๆ !คนหล่อ ฉันชื่อมู่เทียนซิง คุณชื่ออะไรเหรอ?”
หนีหย่าจูนมองหล่อนไปแวบหนึ่งอย่างพูดไม่ออก:“ขอบคุณที่ชม คุณสวยมาก”
ลมพัดเข้าหู มู่เทียนซิงไม่รู้ว่าหนีหย่าจูนอุ้มหล่อนมาไกลแค่ไหน หล่อนจำได้แค่ว่าตรงหน้ามีแสงไฟตรงถนนส่งมาที่ด้านหลังหล่อนเหมือนในหนังเลย
“แต่ว่า ถึงแม้คุณจะหล่อก็แกล้งฉันไม่ได้นะ!”
“ไม่แกล้ง คุณเป็นผู้หญิงของพี่ผม!”
“พี่คุณ?เมิ่งเสี่ยวหลงหรือว่าหลี่อี้เฟิง?หรือว่าจิ่งโป๋หรัน?”
หนีหย่าจูนยิ้มออกมา รู้ว่าหล่อนเมา ก็เลยไม่พูด
ส่วนหล่อนกลับมีรอยยิ้มโง่ๆ ออกมา:“ทำไงดี เลือกยากจริงๆ ~ฉันชอบหลี่อี้เฟิง เขาหล่อจัง แต่ฉันก็ชอบจิ่งโป๋ จิ่งโป๋เก่งหลายอย่าง เขียนหนังสือสวย หน้าตาก็ดี พอดูก็รู้ว่าอบอุ่น ฉันชอบผู้ชายอบอุ่น~!”
“แบบนี้เอง~”ในที่สุดหนีหย่าจูนก็ตอบกลับ:“ที่จริงพี่ผมเย็นชาหน่อยๆ ”
พูดจบก็ก้มตัวลง แล้วเอาหล่อนเข้าไปตรงที่นั่งด้านข้างคนขับอย่างนุ่มนวล ช่วยหล่อนคาดเข็มขัดแล้วปรับเบาะให้ต่ำ ให้หล่อนหลับสบายหน่อย
มู่เทียนซิงเริ่มขัดขืนอย่างวุ่นวาย:“คุณเลวหรือเปล่า?รีบปล่อยฉันเลย ฉันจะกลับบ้าน!”
“นอนเถอะ!”
หนีหย่าจูนไม่รู้เอาผ้าห่มมาจากไหนห่อไปที่ตัวหล่อนแล้วพูด:“ผมเป็นคนดี ผมจะส่งคุณกลับบ้านไง”
เหมือนเสียงนั้นมีสิ่งลึกลับที่ไม่รู้จักทำให้มู่เทียนซิงเงียบ
รถไปที่โรงแรมของหลิงเล่ ตลอดทางนั้นหล่อนก็เริ่มร้องไห้ออกมา ปากไม่หยุดบ่น
หนีหย่าจูนไม่รู้ว่าหล่อนกับหลิงเล่เกิดอะไรขึ้น แต่ว่าจากที่หล่อนด่าเรื่อยๆ แบบไม่คิด เขาก็รู้ว่าหลิงเล่หาสาวเข้าห้องลับหลังหล่อน
นี่ไม่มีทาง!
ตอนที่เขาอยากพูดกับหล่อน หล่อนก็เหมือนคนบ้า เริ่มร้องเพลง
หลังจากนั้นสิบห้านาที ตลอดทางที่ดูแลนั้น หนีหย่าจูนต่างรู้สึกว่าหลิงเล่ตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ช่างตลกจริงๆ
หนีหย่าจูนอุ้มผู้หญิงคนนี้ที่ถูกห่อด้วยผ้ากับสูทอย่างแน่นหนา พอปรากฎตัวตรงหน้าห้องของหลิงเล่ คนที่อยู่ด้านหลังประตู นอกจากจั๋วซีกับฉวีซือเหวินแล้ว ก็ยังมีหลิงเล่
“คุณชายหนี!”
“คุณชายหนี!”
จั๋วซีกับฉวีซือเหวินทักทายเขาอย่างมีมารยาท
ส่วนหลิงเล่นั่งอยู่บนรถเข็น ดวงตาสีดำมองไปที่หน้าของหนีหย่าจูนแล้วยื่นมือออกไป:“เอาหล่อนมา”
ท่าทางธรรมชาติๆ แบบนั้น มีความกดดันแฝงอยู่ เหมือนว่ารอบนี้หนีหย่าจูนควรทำให้เขาอยู่แล้ว
ใบหน้าของหนีหย่าจูนดูสนใจ โค้งลงเอามู่เทียนซิงวางไว้ที่แขนขอหลิงเล่ หมุนตัวแปปนึงแล้วเขาก็พูดยิ้มๆ :“ผมไม่รู้ว่าคุณชายสี่มีความสามารถขนาดนี้เมื่อไหร่ นั่งรถเข็นแต่กลับเปิดห้องรับสาวได้?”
ตอนที่สายตาแหลมคนของหลิงเล่มองไปที่ผู้หญิงในอ้อมกอดก็เหมือนน้ำแข็งที่อ่อนโยน:“ขอบใจ”
ได้ยินหลิงเล่พูดออกมา หนีหย่าจูนก็ยิ้ม ตอนที่หมุนตัวออกไปก็โบกมือ:“คุณปู่บอกว่าวันมะรืนพี่ไปกวาดหลุมศพเสร็จก็พาสาวน้อยคนนี้ไปทานข้าวที่บ้านด้วย”
“ไม่ว่าง”
“ยายคิดถึงพี่”
“ไม่ไป”