บทที่117 ลักพาตัว
เสียงที่อ่อนหวานของหญิงสาวลอยล้อมอยู่ในรถ และได้ขจัดสิ่งสกปรกในใจของหลิงเล่ออกไป
เขาดึงมือของเธอมา แล้วมองเธออย่างตั้งใจ”เทียนซิง คุณรู้หรือไม่ว่า ฉันขาดคุณไม่ได้จริงๆ!”
การบอกรักอย่างกะทันหันทำให้ใบหน้าของมู่เทียนซิงแดงขึ้นอีกครั้ง
เธอทำตาขาวใส่เขาเพราะมีความอับอายเล็กน้อย”คุณลุงคะ ฉันจะไม่จากคุณไปหรอก พวกเรายังต้องแต่งงานกันด้วย”
หลิงเล่จ้องมองเธออยู่ตลอด มองจนใบหน้าของเธอเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีแดง จากนั้นถึงย้ายสายตาไปที่อื่น แล้วเอื้อมมือกอดเธอเข้าในอ้อมอก
นับบัดนี้ โลกสงบสุขมาก
เธอได้ยินแต่เสียงการเต้นของหัวใจในอกของเขา ดูเหมือนจะเร็วไปหน่อย แต่มันแข็งแกร่งมาก!
จั๋วซีค่อนๆขับรถไปที่คฤหาสน์จื่อเวย เมื่อเขาเห็นคนทั้งสองที่อยู่เบาะหลังกำลังกอดกันอยู่ มันเป็นภาพลักษณ์ที่ทั้งอบอุ่นทั้งสวยงาม เขาจึงไม่กล้าพูด แถมยังไม่กล้าหายใจหนัก เพราะกลัวว่าจะรบกวนความงามนี้
นิ้วมือของเขากดลงเบาๆ ผ้าม่านรถตกลง พื้นที่ภายในรถก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนอีกครั้ง
หลิงเล่จึงจะฟื้นสติกลับคืนมาสักนิดเพราะฉากต่อหน้านี้ เขาจูบหน้าผากของเธอไว้”เทียนซิง ถ้าหากว่ามีสักวันหนึ่งฉันหลอกคนแล้ว คุณจะให้อภัยฉันหรือไม่?”
“ไม่ค่ะ!”เธอตอบแบบเด็ดขาด”คุณลุงเคยบอกว่า พวกเราต้องเชื่อใจกันมากขึ้น ดังนั้นฉันจะเชื่อใจคุณร้อยเปอร์เซ็นต์!”
เธอลุกขึ้นมาจากอ้อมอกของเขา และเรียนแบบพระเอกในละครไอดอลที่จับใบหน้าของนางเอกไว้ เธอก็ใช้มือคู่หนึ่งจับใบหน้าของเขาไว้ แล้วมองไปที่เขาพร้อมพูดคำต่อคำ”คุณลุงคะ ฉันเคยบอกแล้วว่าเรื่องอดีตล้วนผ่านไปแล้ว ทีหลังฉันจะรักและห่วงใยคุณ ฉันจะให้ของขวัญแก่คุณ คุณยังมีความฝันอะไรเล็กๆน้อยๆหรือเปล่าคะ พูดออกมาทีเดียวเลย ฉันจะทำความฝันของคุณให้เป็นจริงหมด!”
คำพูดของเธอนั้นอ่อนหวาน จริงจังและไร้เดียงสา ทำให้เขาทนไม่ได้จึงกอดเธอทันที แล้วใช้ริมฝีปากจูบเธอลงไป จูบนี้มันนานแสนนาน
จนกว่าจะถึงใต้ต้นไม้จื่อเวยของคฤหาสน์จื่อเวย จั๋วซีจึงพูดอยู่ข้างหน้าว่า”ซือซ่าว ถึงแล้วครับ”
หลิงเล่จึงหอบและหยุดปล้นเมืองปากของเธออย่างไม่เต็มใจ
ส่วนมู่เทียนซิง กลายเป็นแอ่งน้ำในอ้อมอกของเขาตั้งนานแล้ว
ร่ายกายของทั้งสองคนพิงกันเล็กน้อย และหยุดพักผ่อนสักพัก มู่เทียนซิงนึกว่าถึงเวลาที่จะลงรถแล้ว แต่หลิงเล่กลับดึงมือเธอขึ้นมาอีก มองเธอไว้พร้อมพูดกับเธออย่างตั้งใจ”เทียนซิง พอพวกเราหมั้นกันเสร็จก็สามารถสร้างลูกได้แล้วใช่ไหม?”
“อะไรนะ?”
เธอตื่นตัวขึ้นมาทันที!
การจูบสไตล์ฝรั่งเศสที่ยาวนานก่อนหน้านี้ ลอยตามสายลมและบินหายไปจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
คุณแม่บอกว่าอย่างน้อยต้องสามปี เพราะเธออายุแค่สิบแปดเอง ยังไงก็ต้องรอถึงยี่สิบ ปีสุดท้ายค่อยพยายาม
แต่หลิงเล่ราวกับว่ารู้ความคิดในใจของเธอ”คุณก็รู้อยู่แล้วว่า การที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ต้องใช้เวลาสิบเดือน แถมยังไม่ทราบกระบวนการของการตั้งครรภ์ด้วยซํ้า มีคู่รักหลายคู่ใช้ชีวิตร่วมกันตามปกติเป็นเวลาหลายปี แต่ยังไม่มีลูกเลย”
เขาหมายความว่า เธอไม่ควรมีความคิดที่บังเอิญว่าจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรในปีเดียวกัน!
ต้องชมว่า หลิงเล่เป็นหมาป่าจริงๆ!
คำพูดบางอย่าง เขาพูดให้เธอฟังแบบไม่ครบถ้วน เพียงแค่แสดงความหมายนั้นออกมาครึ่งเดียวเท่านั้น ประโยคที่เขาพูดนั้นคล้ายกับสุภาษิตคําพังเพย เขาพูดออกมาแล้วให้เธอคิดความหมายเอง
เขาทำด้วยวิธีนี้ ถึงเธอไม่เต็มใจที่จะได้ยินเรื่องนี้ยังไง แต่เธอก็ไม่ได้ยินจากปากของเขาโดยตรง เพราะมันคิดออกมาจากสมองของเธอเอง!
มู่เทียนซิงตกอยู่ในมือของคนที่เจ้าเล่ห์อย่างเขา ไม่ว่าดิ้นรนยังไงก็เปล่าประโยชน์
แต่เห็นว่าใบหน้าที่งานของเธอเริ่มจริงจังขึ้นมา เธอขมวดคิ้วไว้ เหมือนจะตั้งใจคิดอะไรอยู่
หลิงเล่เข้าใกล้เธออีก แล้วพูดว่า”ฉันยังเคยได้ยินมาว่า ผู้ชายนั้นทนไว้ไม่ได้ ถ้าถึงอายุแล้วไม่ใช้ มันก็จะเสีย ทีหลังอยากจะใช้ก็ใช้ไม่ได้อีกแล้ว!”
พอคำพูดนี้ออกมาปั๊บ สายตาของสาวน้อยก็เหลือบมองไปที่เป้ากางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว
มองแล้วมองอีก แถมยังกระซิบอย่างเขิน ๆ”แต่ แต่ฉันยังเห็นว่ามันยังตั้งอยู่ ดูแล้วยังสามารถใช้ได้อยู่?”
“แต่ถ้าไม่ใช้เป็นเวลานาน มันก็จะเสียง่าย!”
“นั้น นั้นต้องทำยังไงดีล่ะ คุณใช้มือลองเองไหม?”
“ไม่ ทำเองมันไม่สนุก ฉันจะมอบครั้งแรกให้คุณไง”
หลิงเล่นเลียนแบบของเธอ ยิ่งพูดเสียงยิ่งเบาลง ยิ่งพูดใบหน้าหล่อเหลายิ่งเขินอายขึ้นมา ทำให้การหายใจของเทียนซิงค่อนข้างยุ่งเหยิง!
แต่คนที่หงุดหงิดที่สุดยังเป็นจั๋วซี
เขาคิดไม่ออกว่า ซือซ่าวจะไร้ยางอายถึงระดับนี้ พูดคำลามกลักพาตัวกระต่ายน้อยที่ใสเช่นเธออยู่บนรถ แถมยังต่อหน้าเขาด้วย!
เขาก็นับถือคุณหนูมู่อย่างจริงจังด้วย พูดไปพูดมาคุณหนูที่สูงศักดิ์อย่างเธอ จะพูดให้ซือซ่าวใช้มือจัดการเองได้ยังไงล่ะ?”
จั๋วซีนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับ ฟังจนหนังศีรษะรู้สึกเสียวซ่า!
เขารู้สึกว่าเดิมทีตนเองนั้นยังนิ่มอยู่ แต่พอฟังเรื่องลามกแบบนี้ เขาก็แข็งขึ้นทันที!
ในที่สุด หลิงเล่ก้มหน้าไปพูดข้างหูของมู่เทียนซิง แล้วเห็นว่าสาวน้อยพยักหน้า มุมปากของเขาเลยหงายขึ้นมาตาม จากนั้นเขาจึงยกมือเคาะกระจกหน้าต่างที่อยู่ข้างๆ
จั๋วหรันที่ยืนรอคอยอยู่ข้างนอกมานานจึงเปิดประตูทันที จั๋วซีก็ลงรถไปหยิบรถเข็นที่หลังรถ พี่น้องทั้งสองร่วมกันแบกซือซ่าวนั่งบนรถเข็น จากนั้นมู่เทียนซิงก็ดันรถเข็นไปที่หน้าประตูวิลล่า
เมื่อเวลาที่พวกมู่เทียนซิงมาถึงห้องรับประทานอาหาร ก็เห็นคนที่ใส่ชุดสง่างามและหรูหราคนหนึ่งเดินเข้ามาจากประตู
หนีหย่าจูนก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร มาถึงก็ดึงเก้าอี้ข้างๆหลิงเล่ออกมา แล้วนั่งลงไปในข้างๆหลิงเล่
สาวน้อยเห็นว่าพวกเขาทั้งสองนั่งติดกัน จึงจ้องมองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ”พี่หย่าจูนคะ ทำไมคุณถึงกลับมาอีกล่ะ?”
จั๋วหรันเพิ่มชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารอีกชุดหนึ่งให้หนีหย่าจูน หนีหย่าจูนยิ้มแล้วมองไปที่เธอพร้อมพูดว่า”ฉันอยากกินกับข้าวที่อาซือทำแล้ว”
มู่เทียนซิงส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น”ลูกหลานที่มาจากตระกูลรํ่ารวยอย่างคุณนั้น เล่นเก่งจริงๆเลย!”
หนีหย่าจูน”……”
ไม่นานฉวีซือก็นำอาหารขึ้นมา หนีหย่าจูนกวาดเพียงตาเดียว ก็ถามอย่างแปลกใจ”ไม่มีอาหารทะเลหรือ?”
เขาเป็นคนชอบกินอาหารทะเล โดยเฉพาะชุดน้ำหอยเป๋าฮื้อของฉวีซือ เขาชอบเป็นอย่างยิ่ง!
ไม่นั้นเขาก็คงกินที่ภัตตาคารข้างนอกเสร็จค่อยกลับมา
ฉวีซือยิ้มอย่างขอโทษให้เขา แล้วพูดว่า”เป็นคำสั่งขอวซือซ่าวค่ะ เนื่องจากคุณหนูมู่ถูกแมวกัด จึงไม่สามารถกินของที่เผ็ดจัด อาหารทะเลก็กินไม่ได้เช่นกันค่ะ”
ตามจริงแล้ว ฉวีซือกำลังร้องไห้อยู่ในใจ
การฉีดวัคซีนนั้นเป็นได้ทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ ถ้าหากว่าท้องของมู่เทียนซิงมีลูกแล้ว คนตั้งครรภ์ยังสามารถฉีดวัคซีนได้หรือ?ลูกยังอยู่ได้หรือเปล่า?นั้นคือเด็กที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันมานาน ใครๆก็อยากเห็นมานานแล้ว!
ตั้งแต่ฉวีซือได้ยินข่าวนี้เป็นต้นมา เธอทำหน้าเศร้าโศกมาสองสามชั่วโมงแล้ว
พอหนีหย่าจูนได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาที่กลมโตคล้ายดอกท้อของเขาก็เหลือบมองไปที่หลังมือของมู่เทียนซิน เมื่อเห็นพักเตอร์สีชมพูน่ารักที่ติดอยู่หลังมือของเธอนั้น เขาก็หัวเราะออกมา”ได้รับบาดเจ็บนี่เอง”