เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 2 องค์หญิงเยือนชางอู๋!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ปีหยวนคังที่หก เดือนสิบสอง หิมะตกหนัก

หน้าประตูใหญ่ของสำนักชางอู๋มีรถม้างามวิจิตรคันหนึ่งจอดอยู่ สาวใช้ชุดดำกำลังคุกเข่าลงข้างหนึ่งรายงานว่า “คุณหนูใหญ่ ถึงแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม”

“คนที่พยายามลอบสังหารท่านเมื่อครึ่งปีก่อน ไม่เพียงทำให้บิดาและพี่ชายทั้งสองของท่านพลัดพรากจากกัน ตอนนี้ยังจงใจปลุกปั่นให้ผู้คนไม่น้อยมารวมตัวกันหน้าประตูใหญ่ อีกไม่นานพวกเราจะถูกขวางสกัดไว้เจ้าค่ะ” สาวใช้รายงาน

เมื่อสิ้นเสียงพูด เสียงแหลมสูงของสตรีนางหนึ่งก็ดังขึ้นจากนอกรถม้าด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม “แหม ดูรถม้าคันหรูนี้สิ ช่างทันสมัยเสียจริงๆ!”

และเจ้าของเสียงนั้นก็คือเยี่ยนซาซา ศิษย์หญิงคนแรกของสำนักชางอู๋ฝ่ายนอก นางพากลุ่มลูกศิษย์สำนักฝ่ายนอกกลุ่มหนึ่งมารออยู่ก่อนหน้าแล้ว

สถานการณ์เช่นนี้ ทำเอาสาวใช้ที่อยู่ในรถม้าตกใจกลัวจนตัวสั่นเทา เมื่อสาวใช้คนนี้นึกถึงเหตุการณ์ลอบสังหารคุณหนูใหญ่เมื่อครั้นกลับไปคลอดลูกที่เมืองเต๋อหยางเมื่อหกเดือนก่อน ผู้ลงมือจัดแจงทั้งหมดนี้กลับเป็นเยี่ยนชิงถัง ลูกพี่ลูกน้องใกล้ชิดของคุณหนูใหญ่!

ในตอนนั้น หากไม่ใช่เพราะคุณหนูใหญ่โชคดี คงตายทั้งกลมไปแล้ว! บัดนี้…

“คุณหนูใหญ่! พวกเขาต้องเป็นคนที่คุณหนูชิงถังส่งมาแน่ๆ เจ้าค่ะ!” สาวใช้ยิ่งพูดยิ่งมั่นใจ นางขวางหน้าประตูรถม้าไว้ตามสัญชาตญาณ กลัวว่าผู้ร้ายข้างนอกจะเข้ามารังแกคุณหนูใหญ่ของนางอีก

ในขณะเดียวกัน เสียงแหลมสูงกว่าเดิมของสตรีอีกนางหนึ่งก็สำทับเยี่ยนซาซา นางจึ๊ปากไม่พอใจแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ซา ทักทายเช่นนี้ก็ไม่ถูก! คุณหนูใหญ่เยี่ยนเคยมียางอายเสียเมื่อไหร่กัน หากนางรู้จักอายจริงๆ จะทำเรื่องต่ำช้าอย่างท้องก่อนแต่งเช่นนี้ได้หรือ”

“ใช่แล้ว! เยี่ยนจื่ออวี๋ไร้ยางอาย คนไร้ประโยชน์! เมื่อก่อนก็คอยพึ่งบารมีของเจ้าสำนักผู้เป็นบิดาของตน และใช้ชีวิตเสพสุข ได้กินได้ใช้ของชั้นดีในสำนัก! แต่กลับมิเคยทำตัวเป็นประโยชน์เพื่อสำนักเลยสักครั้ง” เฉินชิวอี๋ ผู้ติดตามคนสนิทของเยี่ยนซาซาก็เหิมเกริม ไม่คิดอยู่เฉยเช่นกัน

“ไม่ใช่เพียงมิเคยอุทิศตนเท่านั้น แต่เยี่ยนจื่ออวี๋ยังเป็นความอัปยศของสำนักชางอู๋ของเรา! พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าผู้คนข้างนอกกล่าวหาคนสำนักชางอู๋อย่างไร!”

“พวกเขาบอกว่าพวกเราเป็นหญิงงามเมืองไม่รักดี!” เหอหลินถิง ศิษย์หญิงคนที่สองของสำนักฝ่ายนอกพูดด้วยความเดือดดาล ราวกับจะพ่นไฟออกมาจากดวงตา

ศิษย์หญิงคนอื่นก็เริ่มก่นด่ากันเสียงเซ็งแซ่ “ใช่! แม้แต่กู้จ่างสื่อยังไม่เอาสารเลวอย่างเจ้าขึ้นเตียงเขาเลย! ยังมีหน้ากลับมาอีกหรือ! เหตุใดจึงไม่ไปตายเสียเล่า!…”

“หุบปาก!” สาวใช้ชุดดำที่ทนฟังต่อไปไม่ไหวก็ตะคอกด้วยเสียงดุดัน

เสียงของนางทำเอาทุกคนเงียบกริบ ต่างสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นที่เสียดแทงเข้าไปในใจของพวกนาง

“หากไม่อยากตายก็ไสหัวไปซะ!” สายตาสาวใช้ดุร้าย ราวกับมีดที่อาบเลือดสีแดงฉาน ทำให้ศิษย์สำนักฝ่ายนอกที่ถูกสายตาของนางสาดมอง พากันสะดุ้งโหยงและถอยกรูดอย่างไม่รู้ตัว

ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยนซาซาก็ตั้งสติกลับมาได้ นางพูดเกรี้ยวกราด “เยี่ยนจื่ออวี๋! เจ้าสำนักปกป้องเจ้าจนจะสละตำแหน่งอยู่แล้ว! เจ้ายังกล้าดีโอหังเช่นนี้อีกหรือ!”

สาวใช้ชุดดำซัดฝ่ามือออกไปอย่างไม่ลังเลทันที

หวืด เสียงฝ่ามือฝ่าอากาศด้วยความเร็วและแรงดังขึ้น

“อะไรน่ะ” เยี่ยนซาซาตกใจจนพูดไม่ออก นางหลบไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็ถูกสาวใช้ตรงหน้าที่ไม่อยู่ในสายตาคนนี้เล่นงานเสียแล้ว!

จากนั้นเยี่ยนซาซาก็ล้มลงบนพื้นเสียงดัง ตุบ! เป็นไปตามคาด เลือดไหลออกมาจากปากนางทันที

“กรี้ดด ลงมือฆ่าคนแล้ว!”

ศิษย์สำนักชางอู๋ฝ่ายนอกต่างตกตะลึงพรึงเพริด หน้าตาซีดเซียวทันที! เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวนั้นดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณประตูใหญ่ของสำนักชางอู๋ในชั่วขณะ

ทันใดนั้น พลังอาฆาตของสาวใช้ชุดดำทะยานขึ้นสูง จนร่างกายปล่อยพลังแสงดำมืดเป็นร้อยพัน กวาดล้างรอบตัวราวกับอสุรี

อานุภาพอันชั่วร้ายโหดเหี้ยมเช่นนี้ ย่อมสะเทือนไปถึงผู้พิทักษ์ประตูใหญ่แห่งสำนักชางอู๋

แต่ถึงอย่างไร ในขณะที่ผู้พิทักษ์ยิ่งใหญ่ท่านนี้ยังไม่ทันได้ทำสิ่งใด เขาก็รู้สึกว่า… มีสายตาเย็นชาที่มิอาจจับต้องได้คู่หนึ่ง ราวกับพุ่งออกมาจากความว่างเปล่า กำลังจ้องเขาเขม็ง ทำให้เขารู้สึกว่ามีผู้อยู่เบื้องบนสูงสุดกำลังมองเขาจากเบื้องบน จนเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว!

ในขณะเดียวกัน ลำแสงพิฆาตที่ปล่อยออกมาจากร่างของสาวใช้ชุดดำคนนั้น ก็ทำร้ายทั้งศิษย์ชายและหญิงของสำนักฝ่ายนอกจนไม่เหลือแม้คนเดียว

อัก!

เพียงครั้งเดียวเท่านั้น!

กลุ่มศิษย์ชายหญิงสำนักฝ่ายนอกที่อวดดีเหล่านั้นก็กระเด็นไปชนประตูใหญ่อย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรงตอบโต้ ราวกับนกกระทาโง่เขลา

หลังจากนั้น…

ตุบ!

เหล่านกกระทาก็ร่วงลงบนพื้นอย่างพร้อมเพรียง ราวกับไม่มีชีวิตแล้ว ทำเอาคนที่สะกดรอยตามมาสองสามคนตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

“…”

ความเงียบเข้าปกคลุม…

“คุณ คุณหนูใหญ่ พวก พวกเราฆ่า ฆ่าคนหรือเจ้าคะ” สาวใช้ในรถม้าที่กำลังตกตะลึงอยู่เช่นกันเริ่มลุกลน เพราะสำนักมีกฎระเบียบว่า คนสำนักเดียวกันเห็นต่างกันได้แต่จะเข่นฆ่ากันมิได้

“เจ้าวางใจเถิด เม่ยเอ๋อร์เพียงแค่ขู่พวกนางเท่านั้น” เยี่ยนอวี๋ที่ในที่สุดก็เอ่ยปาก ปลอบประโลมสาวใช้อย่างใจเย็น

ผ่านไปครู่หนึ่ง…

เสียงกรอบแกรบดังขึ้นจากกลุ่ม ‘นกกระทาโง่เขลา’ ที่กองอยู่บนพื้นเหล่านั้น ราวกับกำลังพิสูจน์คำพูดของเยี่ยนอวี๋

“เจ้า เจ้า…” เยี่ยนซาซาผู้ที่แท้จริงแล้วเพียงแค่ถูกเล่นงานจนฟันร่วงหมดปากลำตัวสั่นระริก มองไปที่รถม้าของเยี่ยนจื่ออวี๋ด้วยความอับอายและหวาดกลัว นางรู้สึกได้ถึงความเปียกปอนจากท่อนล่าง และกลิ่นปัสสาวะที่ลอยมาจากตัวนางอย่างรุนแรง

นางตื่นตกใจจนปัสสาวะราด…

ต่อหน้าผู้คนมากมายเสียด้วย!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท