“ลำบากท่านประมุขจ่านแล้ว” เยี่ยนอวี๋พยักหน้าขอบคุณ
ท่าทางไม่ใส่ใจว่าจะเป็นที่รักหรือที่ชังของเยี่ยนจื่ออวี๋เช่นนี้…เมื่อประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลเห็น เขาก็ทึกทักไปเองอีกว่า หลานสาวผ่านเรื่องราวมามากมายตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ขัดเกลาฝึกฝนจนมีจิตใจอันแข็งแกร่ง
“เช่นนั้นข้าขอกลับก่อน นังหนูมีเรื่องอันใดก็มาหาข้าที่หอสัตว์บรรพกาลได้ทุกเมื่อ อย่าได้เกรงใจ” ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลพูดทิ้งท้าย ก่อนจะเดินตรงออกไปยังหอผู้อาวุโสด้วยความไม่สบายใจ เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ต้องรายงานเหล่าผู้อาวุโสสิ!
เยี่ยนอวี๋เอาแต่อุ้มเด็กน้อยที่ยังคงหลับสนิท นางไม่ได้ใส่ใจเรื่องอื่นนัก หลังจากเหยียบย่ำเข้าไปในเรือนที่ ‘นาง’ เคยอยู่ตั้งแต่เล็กจนโต ความรู้สึกคุ้นเคยเหล่านั้นก็ทำให้นางคิดถึงเรื่องบางเรื่อง
ทว่าในตอนนี้ จู่ๆ เจ้าตัวน้อยในอ้อมอกของนางก็ลืมตาขึ้น ทำเอานางตกใจจนตัวเกร็งไปหมด ไม่มีจิตใจครุ่นคิดอย่างอื่นแล้ว
เพราะว่า…
นี่เป็นการลืมตาครั้งแรกของเจ้าตัวน้อยของนาง!
ยิ่งไปกว่านั้น!
ดวงตาของเด็กน้อยช่างงดงามยิ่งนัก! ขาวดำแยกชัดเจน ขาวดั่งปุยเมฆ ดำวาวดั่งหินอัคนี ส่องประกายสดใส งดงามมากจริงๆ!
“เนะ!”
เจ้าตัวน้อยที่กำลังถูกมารดาจ้องมองอยู่นั้น ร้องเนะออกมาเบาๆ มือน้อยๆ อวบๆ ที่ถูกพันอยู่ในผ้าห่อตัวก็พยายามดิ้นเพื่อเป็นอิสระ
ชุ่ยชุ่ยสาวใช้ก็มองอย่างประหลาดใจ “นี่เป็นครั้งแรกเลยที่คุณชายน้อยร่าเริงเช่นนี้ ดูท่าคุณชายน้อยจะชอบกลับมายังสำนักนะเจ้าคะ!”
“เนะ! เนะ!” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยร้องขึ้นประดุจฟังรู้เรื่อง ราวกับกำลังตอบกลับว่า ‘ใช่แล้ว! ข้าชอบมากเลย’
เม่ยเอ๋อร์เห็นดังนี้ ก็พูดเห็นด้วยว่า “ดูท่าคุณชายน้อยจะชอบสำนักชางอู๋มากจริงๆ”
หัวใจของเยี่ยนอวี๋ละลายไปกับความร่าเริงของเด็กน้อยไปแล้ว “เสี่ยวเป่าชอบสำนักชางอู๋มากเช่นนี้เชียวหรือ เช่นนั้นแม่จะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนแล้วดีไหมจ๊ะ”
“เนะ! อ้อแอ้ อ้อแอ้” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยดีใจมาก
เยี่ยนอวี๋ยิ้ม หากรู้แต่แรกว่าเสี่ยวเป่าจะชอบสำนักชางอู๋เช่นนี้ นางคงกลับมาเร็วกว่านี้แล้ว ถึงแม้ว่าผู้คนที่นี่จะไม่ต้อนรับนางเท่าไรนัก ซ้ำร้ายยังคิดหาวิธีกำจัดนางทั้งครอบครัวอีก
แต่ในเมื่อเจ้าตัวน้อยชอบที่นี่ เช่นนั้นคนที่ไปก็ต้องเป็นคนที่นี่แล้วล่ะ
“…”
จุ๊บ!
สิ่งมีชีวิตตัวน้อยหอมแก้มมารดาที่อยู่ตรงหน้า สีหน้ายิ้มแย้มสดใสด้วยความดีใจ ราวกับเข้าใจในสิ่งที่มารดาพูด
ดวงตาของเยี่ยนอวี๋เปล่งประกายระยิบระยับ “เสี่ยวเป่าหอมแก้มข้า! เสี่ยวเป่าฉลาดนัก! เขาหอมแก้มข้าด้วย! เขาต้องชอบแม่อย่างข้ามากแน่ๆ”
“แน่นอนเจ้าค่ะ! คุณชายน้อยต้องชอบท่านแน่นอนอยู่แล้ว!” ชุ่ยชุ่ยพูดสำทับทันที ถึงแม้นางจะคิดว่าคุณชายน้อยอาจจะหิว จึงแทะแก้มของคุณหนูใหญ่ก็ตาม
ฮ่าๆๆ… เยี่ยนอวี๋มีความสุขนัก นางจึงยิ้มร่าสดใสราวกับดวงอาทิตย์ สวยงามจนมิอาจคลาดสายตาได้ และในขณะนั้นเอง กู้หยวนเหิงก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเจอนางอีกครั้ง และตะลึงกับความงดงามของนางอีกครั้ง
เมื่อคิดว่าหญิงงามเช่นนี้เคยยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา แม้จะต้องสละชื่อเสียงของตนเองเพื่อได้อยู่กับเขา เขาก็รู้สึกภาคภูมินัก ทว่า…เมื่อนึกถึงเรื่องราวในคืนนั้น เขาไม่ได้อยู่ในเรือนจ่างสื่อ[1]ด้วยซ้ำ แต่เยี่ยนอวี๋กลับมีข่าวพรรค์นั้นกับ ‘เขา’ และนางยังตั้งท้องอีกด้วย! เขาก็รู้สึกราวกับกลืนแมลงวันที่ตอมอุจจาระเข้าไป น่าขยะแขยงนัก!
แต่ถึงกระนั้น เมื่อครั้นเจ้าสำนักเยี่ยนมาหา และปริปากขอให้เขาแต่งงานกับเยี่ยนจื่ออวี๋ด้วยตนเอง เขาก็ยินยอม เพราะหนึ่งคือเจ้าสำนักเยี่ยนมีข้อแลกเปลี่ยนที่ไม่แย่นัก สองคือเพียงแค่นางยอมทำแท้ง แม้เขาจะรู้สึกขยะแขยง แต่ก็ใช่ว่าจะมิสามารถยอมรับได้
เพียงแต่ว่า กู้หยวนเหิงไม่คิดว่านางจะไม่ยอม ยิ่งไปกว่านั้นนางยังหนีออกจากสำนักชางอู๋ กลับไปเมืองเต๋อหยางเพื่อคลอดเด็กนรกคนนั้น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความรู้สึกภูมิใจของกู้หยวนเหิงก็กลับกลายเป็นความแค้นเคืองที่นางนอกใจ นัยน์ตาของเขาหม่นหมองลง แล้วมองไปยังทารกที่ถูกห่อตัวไว้
“เนะ!” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยร้องขึ้นอย่างฉับไว
เม่ยเอ๋อร์กวาดตามองไปที่กู้หยวนเหิงด้วยความแค้นเคือง “ไสหัวออกมา!”
นางรู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้นตั้งนานแล้ว เพียงแต่คุณหนูใหญ่และคุณชายน้อยกำลังหยอกเล่นกันสนุกสนาน นางจึงไม่อยากขัดจังหวะ
เมื่อกู้หยวนเหิงพบว่าตนถูกพบแล้วก็เดินออกมา ทำให้ชุ่ยชุ่ยที่เห็นหน้าตาเขาชัดเจนพูดเสียงหลงว่า “กู้จ่างสื่อ เป็นท่านหรือ”
“คุณหนูใหญ่…” ชุ่ยชุ่ยรีบมองกลับไปที่คุณหนูใหญ่ ในความเข้าใจของนางกู้หยวนเหิงก็คือ ‘กูเหยีย[2]’ ซึ่งเป็นคนรักของคุณหนูใหญ่
แต่เยี่ยนอวี๋กลับจำกู้หยวนเหิงไม่ได้ เพราะในคืนนั้น…
เยี่ยนอวี๋จำได้เพียงในตอนนั้น ความทรงจำของเยี่ยนจื่ออวี๋พลันหายไป นางเองก็บังเอิญมาจุติบนโลกในจังหวะนั้นพอดี แต่เพราะพลังวิญญาณอ่อนแอเกินไป จึงรู้สึกสับสนวุ่นวายมาก นางจึงจำหน้าตาของชายคนนั้นไม่ได้
เยี่ยนอวี๋จึงมองกู้หยวนเหิงอย่างตั้งใจ ทำให้สาวใช้ลอบถอนหายใจ คิดว่าเป็นเพราะเยี่ยนอวี๋ไม่ได้เจอเขามานานและคิดถึงเขามาก แท้จริงแล้วก็ยังคงชอบเขาดังเดิม
เยี่ยนอวี๋ยิ่งมองยิ่งสงสัย “กู้หยวนเหิง?”
แม้การเรียกกู้หยวนเหิงเช่นนี้จะแปลกไป แต่เขาก็ขานตอบอย่างอ่อนโยน “น้องจื่ออวี๋”
ทว่าเยี่ยนอวี๋กลับพูดอย่างมั่นใจว่า “เจ้าไม่ใช่พ่อของเด็ก”
[1] จ่างสื่อ ตำแหน่งหัวหน้าขุนนาง เทียบเท่าปลัดสำนักองคมนตรีในปัจจุบัน
[2] กูเหยีย คำที่บ่าวรับใช้เรียกสามีคุณหนูของตน