ทว่า…
แซด!
ประกายไฟที่เกิดขึ้นรอบหม้อยาอย่างกะทันหันกลับส่งเสียงดังแสบแก้วหูแล้วทุกอย่างก็ทะลายลงพร้อมกันในห้วงยามสำคัญ
บรรดาสาวกหอโอสถต่างกุมศีรษะไว้อย่างสิ้นหวัง พวกเขาไม่สามารถยอมรับความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้ รู้สึกราวกับว่าโลกกำลังจะพังทลายลง โหดร้ายมาก! โหดร้ายเหลือเกิน! ถึงจังหวะสุดท้ายแล้วแท้ๆ!
“????!!!!”
เครื่องหมายคำถามและเครื่องหมายตกใจนับไม่ถ้วนยังไม่เพียงพอที่จะบรรยายความตะลึงงันและทำอะไรไม่ถูกของทุกคนได้ แต่แล้วชั่วขณะต่อมาเปลวไฟสูงหมื่นจั้งก็ลุกโชนขึ้นมาจากบริเวณที่ลึกลับที่สุดของสำนักชางอู๋อย่างน่าทึ่ง! สำนักชางอู๋ทั้งสำนักสะเทือนทันที!
ฟู่!
เพลิงพสุธาที่ระเบิดอย่างรวดเร็วนั้นปกคลุมหม้อยาอีกครั้ง โชติช่วงและบริสุทธิ์กว่าเดิม ทำให้กลุ่มของเหลวในหม้อที่กำลังจะสลายตัวถูกหลอมขึ้นอย่างไร้ความปรานี
ผ่านไปครู่หนึ่ง กลิ่นยาในวิหารปรุงยาก็โชยตลบอบอวลเป็นประกายแสงพราวพร่างแล้วหลอมรวมเป็นสีแดงอำพันสุดแสนวิเศษตามด้วยเสียงคำรามของสิงสาราสัตว์เป็นสัญญาณว่ายาพยัคฆ์ชั้นยอดอีกเม็ดหนึ่งได้กำเนิดขึ้นแล้ว
“สำเร็จแล้ว!”
เสียงดังอื้ออึงในวิหารปรุงยา
ทุกคนเพิ่งรู้ว่าหัวใจของตนที่เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ อยู่ระหว่างหุบเขาในที่สุดก็กลับมาอยู่ในร่างของตนเองแล้วและกำลังเต้นเป็นปกติอย่างเป็นจังหวะ
ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
“ช่างน่าประหลาดนัก!” บรรดา ‘เด็กน้อยไม่รู้ความ’ ที่เอาใจช่วยให้เยี่ยนจื่ออวี๋ปรุงยาสำเร็จล้วนคิดเพียงว่าเป็นเพียงชั่วขณะที่เพลิงพสุธาขัดข้องเท่านั้น ช่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่าเป็นเพราะปรมาจารย์วิญญาณกระตุ้นเพลิงพสุธาให้รุนแรงกว่าเดิมจึงช่วยให้เยี่ยนอวี๋ปรุงยาได้สำเร็จ
เรื่องเช่นนี้ถือว่าพบได้ทั่วไป ในเมื่อเพลิงพสุธาเป็นไฟมหัศจรรย์ มันไม่เป็นของผู้ใดและไม่เป็นของพลังใดๆ มีเพียงค่ายกลอันยิ่งใหญ่เท่านั้นที่สามารถดึงพลังของมันออกมาได้ การเกิดเหตุขัดข้องในขณะปรุงยาย่อมเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
แต่เยี่ยนอู้ไม่เข้าใจ “ปรมาจารย์วิญญาณอีกแล้วหรือ!” เหตุใดปรมาจารย์วิญญาณจึงถูกยาพยัคฆ์กระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
เพียงอึดใจเดียวเท่านั้นยาพยัคฆ์ตรงหน้าที่หลอมรวมเข้ากันก็จะแตกสลายแล้ว เขาจะได้ขับไล่เยี่ยนชิงทั้งครอบครัวออกไปได้แล้วแท้ๆ
บัดนี้เรือล่มเมื่อจอด…
เยี่ยนอู้อยากจะกุมหัวใจตนเองไว้อย่างยั้งสติไม่อยู่ แต่เขาทำได้เพียงจ้องเขม็งไปที่เยี่ยนจื่ออวี๋ผู้เป็น ‘หลานสาว’ ที่อยู่ในนั้นด้วยความโมโห
เศษสวะตัวนี้ทำร้ายลูกสาวของเขาจนบาดเจ็บสาหัสและยังทำลายแผนการอันสมบูรณ์แบบของเขาอีก บัดนี้แผนการทุกอย่างของเขาได้พังไม่เป็นท่าไปหมดแล้ว
เยี่ยน! จื่อ! อวี๋!
นัง! ตัว! ดี!
สายตาอันชั่วร้ายของเยี่ยนอู้มองไปยังมุมหนึ่งของวิหารแล้วสบตากับสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดอย่างมีเลศนัย
แปะๆๆ…ในขณะเดียวกันเสียงปรบมือก็ดังก้องไปทั่วทั้งวิหาร ทุกคนปรบมือให้กับเยี่ยนอวี๋และกู่ร้องยินดีไปกับการปรุงยาอันเยี่ยมยอดของนาง
ส่วนเยี่ยนอวี๋ที่ยังคงสบายอกสบายใจภายใต้สายตาทุกคู่ นางยื่นมือออกไปจับยาพยัคฆ์สีแดงอำพันตรงหน้าในขณะที่อุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมอก
ฟิ้ว! ทันใดนั้นเองแสงเย็นวาบพุ่งตรงมาที่เยี่ยนอวี๋
ผู้อาวุโสรองไม่คิดเลยว่าจะมีคนลอบสังหารสมบัติล้ำค่าของสำนักอย่างเยี่ยนจื่ออวี๋ต่อหน้าต่อตาเขาได้
เม่ยเอ๋อร์สกัดลำแสงนั้นได้ทันที จากนั้นก็ปล่อยพลังสังหารออกไปที่มุมมืดมุมหนึ่งในวิหาร “ตายซะ!”
ปัง! บริเวณที่ถูกลำแสงพุ่งเข้าใส่ กำแพงทะลายกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที แรงสะเทือนทำให้ผู้คนรอบบริเวณกระอักเลือด
นัยน์ตาเม่ยเอ๋อร์เคร่งขรึม เพราะนางมีไหวพริบดีกว่าคนอื่น นางจึงรู้ว่าพลังที่ปล่อยออกไปไม่โดนมือสังหาร รีบมองขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!” เสียงคำรามอันแข็งแกร่งไร้เทียมทานของเยี่ยนชิง ในขณะนั้นเองเขาก็ใช้เสียงคำรามอันแข็งแกร่งนี้โจมตีเข้ากับมือสังหารไวกว่าเม่ยเอ๋อร์ไปก้าวหนึ่งได้เสียก่อน
จากนั้น…
เม่ยเอ๋อร์โมโห!
อึก!
มือสังหารที่ถูกตัดเนื้อไป ตับไตไส้พุงก็ถูกเสียงคำรามทำลายจนแหลกละเอียด เศษเนื้อเหล่านั้นปะปนไปด้วยเลือดสดและทะลักออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขาอย่างน่าสะพรึงกลัว
นอกจากนี้พลังการตัดเฉือนเนื้อดุจอสุรกายยังปะทะกับคลื่นเสียงอันทรงพลังและโหดเหี้ยมบดบี้มือสังหารคนนั้นจนกลายเป็นผุยผงในทันที ไม่เหลือแม้แต่เลือด
“เยี่ยม” เยี่ยนอวี๋พึงพอใจนัก นางและเสี่ยวเป่าไม่ถูกเลือดกระเด็นใส่เลยแม้แต่น้อย ยังคงสะอาดสะอ้านอยู่
แต่เม่ยเอ๋อร์ไม่พอใจนัก นางจ้องเขม็งไปที่นอกวิหารด้วยความโมโห เพราะแท้จริงแล้วนางจัดการด้วยตัวคนเดียวได้และสามารถจัดการได้เรียบร้อยเช่นกัน
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!” เยี่ยนชิงที่เดินจ้ำอ้าวเข้ามาในวิหารไม่ทันสังเกตเห็นความอาฆาตของเม่ยเอ๋อร์ ในดวงตาดั่งพยัคฆ์คู่นั้นของเขามีเพียงลูกสาวของเขาคนเดียวเท่านั้น ไม่มีผู้ใดในสายตาอีก
เยี่ยนอวี๋มองไปตามเสียงบังเอิญสบเข้ากับดวงตาพยัคฆ์ของเยี่ยนชิงที่เปี่ยมไปด้วยความห่วงใย ความโมโห ความกระวนกระวาย ความเจ็บปวดและความดีใจผสมปนเปไปหมด
“ท่านเจ้าสำนัก!”
ผู้คนในวิหารจำเยี่ยนชิงได้
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!” เยี่ยนชิงเดินจ้ำอ้าวไปตรงหน้าลูกสาวแล้วโผเข้ากอดลูกสาวและหลานชายน้อยอย่างแน่นหนาอย่างระมัดระวัง
“อ้ะ!” เจ้าตัวน้อยส่งเสียงร้องขึ้น
เยี่ยนอวี๋ตัวเกร็งนางขัดขืนการโอบกอดโดยสัญชาตญาณ
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ พ่อมาช้าไป” เยี่ยนชิงน้ำตาไหลพราก แปะแปะ น้ำตาหยดลงบนลำคอของเยี่ยนอวี๋ และไหลหยดลงบนใบหน้าของเยี่ยนเสี่ยวเป่า
“หืม?” เยี่ยนอวี๋นิ่งงัน
ร่างกายของเยี่ยนอวี๋แข็งทื่อกว่าเดิม แต่นางก็ไม่ได้ผลักเยี่ยนชิงออกไป เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…” เยี่ยนชิงกลัวมาก เขามิอาจจินตนาการได้เลย มือสังหารคนนั้นอยู่ใกล้เพียงเหนือศีรษะของลูกสาวสุดที่รักของเขาเท่านั้น น่าใจหายนัก! เยี่ยนอวี๋ที่ถูกกอดร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง นางจึง…จึงยกมือขึ้นและตบหลังบิดาท่านนี้ของนางเบาๆ “ข้าไม่เป็นไร อย่าได้กลัวเลยเจ้าค่ะ”