เสียงภายในวิหารเงียบลงครู่หนึ่ง มีเพียงเสียงร้องไห้ฟูมฟายของเยี่ยนชิง บรรยากาศชวนอึดอัด
“อะแฮ่ม” ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลอดส่งเสียงสะกิดไม่ได้ แต่จิตใจเยี่ยนชิงถูกกระทบกระเทือนมากเกินไปและยังคงตกใจอยู่
ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลกระแอมไออีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม จนแทบจะไอเป็นเลือดออกมาแล้ว…เยี่ยนชิงยังคงไม่สนใจเขา
ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาล “…”
ผู้อาวุโสรองจึงเรียกเขาอย่างอึดอัด แต่ก็ไม่เสียมารยาทว่า “เยี่ยนชิง”
…เยี่ยนชิงยังคงไม่ได้ยิน
เยี่ยนอวี๋พลันรู้สึกเก้อเขิน นางไม่เคยถูกผู้ใดสวมกอดเช่นนี้มาก่อน นางพูดปลอบพลางรู้สึกขนหัวลุกว่า “พอแล้ว ท่านพ่อ ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ”
“พ่อขอดูเอง” เยี่ยนชิงไม่เชื่อ เขาเช็ดน้ำตาพลางกำข้อมือของลูกสาวไว้
เยี่ยนอวี๋รีบหดมือกลับไปตามสัญชาตญาณ
เยี่ยนชิงน้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง “พ่อว่าแล้วต้องเป็นอะไรแน่ๆ!”
“ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ!” เยี่ยนอวี๋ปวดศีรษะ
“ไม่เป็นไร แล้วเหตุใดจึงไม่ให้พ่อดูเล่า” เมื่อเยี่ยนชิงคิดว่า ลูกสาวของตนอาจถูกรังแกข่มเหงในช่วงที่เขาไม่อยู่ในสำนักจนมีอาการไม่ดีเช่นนี้ น้ำตาของเขาก็ไหลพรากอีกครั้ง
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็นแล้วก็ร้อนรน “อ้ะเนะ!”
“แล้วก็หลานชายของข้า!” เมื่อเยี่ยนชิงเห็นใบหน้าสีชมพูระเรื่อของหลานชายก็เชื่อว่าหลานชายตัวร้อนเพราะถูกรังแกมาแน่ๆ มิเช่นนั้นหน้าจะแดงเช่นนี้ได้อย่างไร
“ก็ได้ๆ ดูเลยเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ยอมแพ้
เยี่ยนชิงตาแดงก่ำมือจับชีพจรของลูกสาว เขาเตรียมใจกับอาการที่ทนรับไม่ไหวไว้แล้ว แต่กลับพบว่าชีพจรของลูกสาวไม่ดีเลย?! เลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้มาก!?
นี่มัน…
“เหตุใดชีพจรจึงอ่อนแอเช่นนี้!” เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาแทบจะแตก ถามขึ้นด้วยเสียงสะอื้นทว่าอ่อนโยนว่า “บอกพ่อมา! ใครรังแกเจ้า”
พูดเช่นนี้…
ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาลหมดคำพูด “ท่านเจ้าสำนัก ท่านเข้าใจผิดแล้ว นังหนูอวี๋…”
“เจ้าอย่าขัดข้า!” เยี่ยนชิงคำรามตัดบทประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาล จากนั้นก็เปลี่ยนสีหน้ามาปลอบประโลมลูกสาวพร้อมถามขึ้นว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่ต้องกลัวนะ บอกพ่อมาว่าใครรังแกเจ้า ใครข่มขู่เจ้า บอกพ่อมาให้หมด พ่อจัดการเอง”
ประมุขแห่งหอสัตว์บรรพกาล “…”
เขาแค่อยากจะบอกว่ามีสาวใช้ชุดดำที่ท่านผู้เฒ่าประมุขส่งมาจะมีผู้ใดทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของท่านได้เล่า
แต่เยี่ยนชิงไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ปริปาก “อาของเจ้าใช่หรือไม่ ต้องใช่แน่ๆ พ่อจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้ เยี่ยนอู้ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้”
“!” เยี่ยนอู้โกรธจนควันพุ่งออกจากทวารทั้งเจ็ด “ผู้อาวุโสรอง ท่านดูเขาสิ เขา…สภาพเขาเช่นนี้เป็นเจ้าสำนักได้อย่างไรกัน!” นอกจากร้องไห้ฟูมฟายต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้แล้วยังด่าว่าพี่น้องอย่างไม่รู้ผิดถูกอีก!
“อะแฮ่ม” ผู้อาวุโสรองไอกระแอมในลำคอ “เสี่ยวชิง เรื่องนี้ซับซ้อนนัก ประเดี๋ยว…”
“ท่านผู้…” เยี่ยนชิงไม่อยากฟัง เขากำลังพูดแทรกขึ้น แต่กลับถูกเยี่ยนอวี๋ชิงพูดก่อนว่า “ก็ไม่ซับซ้อน ตามสัญญาที่พนันกันไว้ครอบครัวของท่านอารวมถึงผู้ติดตามของท่านอาต้องตายเจ้าค่ะ”
“ฝันไปเถอะ!” เยี่ยนอู้ตะคอกเกรี้ยวกราด
เม่ยเอ๋อร์ยิ้ม “หากท่านทำไม่ลง ข้าจะช่วยท่านเอง”
“เจ้า…” เยี่ยนอู้ชี้เม่ยเอ๋อร์ด้วยความโมโหจนเกือบจะหยุดหายใจ
ผู้อาวุโสรองทำได้เพียงเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ “พอแล้ว! จากวันนี้เป็นต้นไปจงถอนชื่อเยี่ยนอู้ออกจากคณะผู้อาวุโสซะ ส่วนผู้อาวุโส ผู้ดูแลและศิษย์ภายใต้เยี่ยนอู้ก็จงถอนชื่อออกจากสำนักฝ่ายในเสีย”
“ตกลง! ทว่า…ระหว่างที่สำนักชางอู๋ดูแลข้า ทางสำนักก็ไม่มีสิทธิ์ได้ยาใดๆ ด้วยทั้งนั้น” เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างเฉยชา
“นี่มัน…” ผู้อาวุโสและประมุขหอต่างร้อนรนขึ้นทันที เกือบจะหลุดปากไปว่า เช่นนั้นฆ่าเหล่าอาวุโสไปเสียเลยดีกว่า
แต่ผู้อาวุโสรองกลับชิงตอบก่อนว่า “ตามที่เจ้าปรารถนา ในฐานะที่เป็นนักปรุงยาชั้นยอดของราชวงศ์เจ้าย่อมไม่จำเป็นต้องปรุงยาให้กับสำนัก ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เจ้าต้องการ”
“อะไรนะ” ทุกคนไม่ค่อยเข้าใจนัก
“ในเมื่อเสี่ยวชิงกลับมาแล้ว เรื่องทูลบอกราชสำนักเกี่ยวกับวิชาการปรุงยาของนังหนูอวี๋ เจ้าก็เป็นคนไปจัดการเสีย เสี่ยวเย่าจะช่วยเหลือเจ้าเอง” ผู้อาวุโสรองออกคำสั่งเพื่อตัดปัญหาอย่างฉับไว
เยี่ยนชิงผู้ได้รับคำบัญชาก็งงงัน เขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวสุดที่รักของเขาคือนักปรุงยา แต่ทั้งหมดนี้ล้วนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ “เรื่องอื่นคุยกันง่ายมีเพียงศิษย์หอผู้อาวุโสเท่านั้น ข้าต้องการให้เยี่ยนชิงถังแต่งไปยังต้าฮวงซะ”
ปัง! เยี่ยนอู้ตบโต๊ะ ลุกขึ้นพรวด แต่กลับถูกผู้อาวุโสเก้ากดลงไป พูดขึ้นว่า “เรื่องนี้คงไม่อยู่ในอำนาจของเจ้า ชื่อของชิงถังถูกบันทึกไว้ในรายชื่อคัดเลือกหญิงงามของราชสำนักแล้ว”
“เช่นนั้นก็ฆ่าทิ้งเสีย!” เยี่ยนชิงตวาดใส่ เขาจ้องเขม็งไปที่ผู้อาวุโสเก้าด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความอำมหิต
“พวกเจ้าคิดว่าอยู่ในบัญชีรายชื่อคัดเลือกหญิงงามแล้วจะทำให้นางรอดพ้นจากโทษคดีลอบสังหารลูกสาวข้าและยืมมีดฆ่าองครักษ์ชางอู๋อันใหญ่หลวงนี้ได้อย่างนั้นหรือ”
“อะไรนะ” เหล่าประชาที่มุงดูยิ่งมึนงงกว่าเดิม
รูม่านตาของเยี่ยนอู้หดลงทันที “เยี่ยนชิง! เจ้าพูดพล่อยอะไรกัน”
“พูดพล่อยอย่างนั้นหรือ” เยี่ยนชิงยิ้มเยือกเย็น สายตาประหนึ่งพยัคฆ์ร้ายคู่นั้นไร้ความอ่อนโยน มีเพียงความเย็นยะเยือกที่พร้อมคร่าชีวิต “เยี่ยนชิงถังศิษย์หอผู้อาวุโสจ้างวานมือสังหารจากสำนักเหยี่ยวหลายร้อยนายฆ่าองครักษ์ชางอู๋และพี่น้องของตน เจ้าคิดว่าที่ผ่านมาข้าออกจากสำนักไปทำอะไรอย่างนั้นหรือ”
“เจ้า…” เยี่ยนอู้ตกตะลึง!
ผู้อาวุโสเก้าคิดไปไกลกว่านั้น “เจ้าพาคนออกไปมากมายเช่นนี้ เพื่อล้อมจับสำนักเหยี่ยวหรือ!”
“เจ้าบังอาจ!” เยี่ยนอู้รีบกล่าวกลบเกลื่อนราวกับจับฟางช่วยชีวิตไว้ “เยี่ยนชิง ในฐานะที่เจ้าเป็นเจ้าสำนัก แต่กลับไม่สนใจความปลอดภัยของสำนัก ทั้งยังลอบพายอดฝีมือไปทะเลาะวิวาทกับกองกำลังแข็งแกร่งท่านอื่นอีก เจ้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้!”
“ท่านผู้อาวุโสพูดจาแย่นัก” บรรดายอดฝีมือของหอเจ้าสำนักที่เร่งตามมาในที่สุดก็มาถึงแล้ว ต่างเข้ามาปกป้องนายท่านของพวกเขา “สำนักเหยี่ยว สิ้นซากแล้ว!”
นี่มัน…
ซึ๊ด!
เมื่อได้ยินคำพูดของยอดฝีมือหอเจ้าสำนักแล้ว ผู้คนในนั้นก็ตกใจสูดหายใจเข้าอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขารู้สึกว่าวันนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นจริงๆ!
เยี่ยนอู้ล้มนั่งลงบนเก้าอี้อย่างรับไม่ได้ ดวงตาเบิกโพลง “เป็นไปไม่ได้…” สำนักเหยี่ยวแข็งแกร่งเช่นนี้! กลุ่มนักฆ่าที่โหดเหี้ยมแข็งแกร่งที่สุดในดินแดนชางอู๋เหตุใดจึงถูกทำลายได้
เยี่ยนชิงเป็นเจ้าสำนักชางอู๋ เรื่องเช่นนี้เขาย่อมไม่โกหก มิหนำซ้ำศีรษะของยอดมือสังหารผู้โหดเหี้ยมแต่ละคนที่เหล่ายอดฝีมือของหอเจ้าสำนักแสดงให้เห็นก็พิสูจน์ทุกอย่างแล้ว!
สถานการณ์พลิกผันเช่นนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋ประหลาดใจ แต่ดวงตาของนางและลูกได้ถูกฝ่ามือใหญ่ของเยี่ยนชิงปิดเอาไว้
“พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่! ไม่เห็นหรือว่าคุณหนูใหญ่ยังอยู่ นางและหลานชายข้าตกใจขึ้นมาจะทำอย่างไร”
“ท่านเจ้าสำนักโปรดอภัยด้วยขอรับ” เหล่ายอดฝีมือของหอเจ้าสำนักต่างขอโทษ พวกเขามิบังอาจขัดใจเรื่องคุณหนูใหญ่ต่อเจ้าสำนักได้
หลังจากลูกน้องเก็บศีรษะอาบเลือดกลับไปแล้ว เยี่ยนชิงจึงมองไปที่เยี่ยนอู้อย่างพึงพอใจ “จะให้ฆ่าทิ้งหรือไปต้าฮวง ข้าให้เจ้าเลือกเอง”
เยี่ยนอู้จ้องเยี่ยนชิงตาเขม็ง เขาอยากจะตอบโต้กลับนัก…
เยี่ยนชิงยิ้มเย้ยหยัน ประกาศชัดถ้อยชัดคำว่า “แม้ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งบอกว่าเจ้าคอยหนุนหลังชิงถังอยู่ แต่เงินทองและสายสัมพันธ์ของมือสังหารที่นางจ้างวานนั้นคงสืบสาวถึงตัวเจ้าผู้เป็นบิดาของนางได้ไม่ยาก ตลอดชีวิตที่เหลือของเจ้าจงสำนึกและเสียใจอยู่ในคุกเถอะ!”