เยี่ยนชิงทุบตีคนแล้วยังก่นด่าอย่างโมโหว่า “ไอ้ลูกหมาตัวดี! ยามให้เจ้าแต่งงานกับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้าไม่อยากแต่งมิใช่หรือ เหตุใดจึงโผล่มาตอนนี้กัน! เจ้าคนไร้ยางอาย! เจอเมื่อใดข้าจะตีเมื่อนั้น!”
“…” เหล่ายอดฝีมือแห่งหอเจ้าสำนักซับเหงื่อเล็กน้อยกลับไม่รู้สึกผวาแล้วและยังคิดว่าเจ้าสำนักของพวกเขาพูดถูก เจ้ากู้จ่างสื่อไร้ยางอายจริงๆ มิเช่นนั้นเหตุใดก่อนหน้านี้จึงคอยเกาะแกะคุณหนูใหญ่ แต่กลับไม่ยอมสู่ขอเสียที เมื่อพบว่าตอนนี้คุณหนูใหญ่กลายเป็นนักปรุงยาก็รีบวิ่งแจ้นมาสู่ขอ แม้เพียงคืนเดียวยังอดใจรอไม่ไหวช่างเป็นผู้หวังผลประโยชน์เสียจริง! เป็นไอ้ลูกหมาจริงๆ ด้วย หน้าไม่อาย ถุย!
“เจ้า…” ขบวนสู่ขอของกู้หยวนเหิงทำท่าจะแก้ตัว
แต่ชุ่ยชุ่ยที่เข้ามามุงดูก็รีบพูดขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ของเราบอกแล้วว่านางจะไม่แต่ง เจ้าสำนักของเราพูดถูก เมื่อก่อนท่านไม่ยอมสู่ขอคุณหนูใหญ่ แต่เมื่อพบว่าคุณหนูใหญ่กลายเป็นนักปรุงยาก็รีบมาสู่ขอ ท่านทำเช่นนี้มิได้ รัง…รังแกคนเกินไปแล้ว”
ประโยคสุดท้ายเป็นคำพูดจากใจของชุ่ยชุ่ย ถึงแม้นางจะพูดติดขัด แต่กลับเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง นางรู้สึกไม่ยุติธรรมจริงๆ กับความเสียสละของคุณหนูใหญ่ที่เคยทำเพื่อเขา นางจึงจำเป็นต้องพูด
“นี่มัน แท้จริงแล้วกู้จ่างสื่อเป็นคนประเภทได้แล้วทิ้ง เขาจึงไม่ยอมสู่ขอกับศิษย์น้องจื่ออวี๋?! แต่ตอนนี้พบว่าศิษย์น้องจื่ออวี๋คือนักปรุงยาจึงได้กลับมาสู่ขอ?” เหล่าศิษย์ชายพลันคิดว่าตนได้ยินความจริงอันน่าเหลือเชื่อเข้าแล้ว
“ไม่ใช่หรอก หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ดูน่าเกลียดเกินไปแล้ว…” เหล่าผู้ดูแลรู้สึกไม่อยากจะเชื่อนัก แต่เหมือนกับว่าความจริงจะเป็นเช่นนั้น คาดไม่ถึงเลยจริงๆ
“ไม่จริง! พวกเจ้าพูดเพ้อเจ้อ!” เยี่ยนซาซาที่รีบเร่งมาถึงก็ตอบโต้กลับไปอย่างแค้นเคือง “กู้จ่างสื่อจะเป็นคนเช่นนั้นได้อย่างไร อันที่จริงเขาไม่ชอบเยี่ยนจื่ออวี๋เลย แต่เยี่ยนจื่ออวี๋หน้าไม่อายขึ้นเตียงเขาต่างหาก!”
“แต่ว่า…” ผู้คนที่มุงอยู่คิดในใจ นัยน์ตาของพวกเขาเป็นประกายวิบวับ แม้แต่กู้จ่างสื่อเองก็ยังไม่โต้แย้งเลย
หารู้ไม่ว่ากู้หยวนเหิงถูกตีจนมึนงงไปแล้ว ยังจะมีใจโต้แย้งอีกหรือ เขาเองก็ไม่เคยคิดว่าในวันหนึ่งเยี่ยนจื่ออวี๋จะไม่ชอบเขา เขาจึงมั่นใจว่าการสู่ขอครั้งนี้จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะเขามาด้วยตนเองแล้ว!
แต่แล้วเยี่ยนชิงก็ไล่เขาออกไปและยังถือไม้กวาดเดินออกจากหอเจ้าสำนักด้วยท่าทีจะไล่ตีเขาต่อ ทำเอาคนที่กู้หยวนเหิงพามาด้วยสะดุ้งโหยง “ไปกันเถอะ! รีบไปเร็ว! เจ้าสำนักเยี่ยนคนนี้เสียสติไปแล้ว!”
“ข้าจะตีพวกเจ้าไอ้ลูกหมา” เยี่ยนชิงวิ่งไล่ตีเขา
ทำเอาคนของกู้หยวนเหิงรีบแบกเขาขึ้นหลังและวิ่งจากไปอย่างฉับไวทันที
“บัดซบจริงๆ!” เยี่ยนชิงยังคงก่นด่าไม่หยุด จากบิดาผู้บ้าคลั่งคนหนึ่งดูเป็นบิดาผู้รักลูกขึ้นมาทันที ทำให้ผู้คนไม่คิดว่าเขาเป็นฝ่ายผิด
อันที่จริงก็ถูก ลูกสาวบ้านไหนถูกรังแกคนเป็นบิดาย่อมบันดาลโทสะ แม้เจ้าสำนักเยี่ยนจะเป็นเจ้าสำนัก แต่เขาก็เป็นบิดาคนหนึ่งเหมือนกันและยังเป็นบิดาที่รักลูกสาวมากด้วย
กู้หยวนเหิงจึงถูกตีเสียเปล่าและยังถูกตราหน้าว่าเป็นชายประเภทได้แล้วทิ้ง เห็นแก่ตัวและไร้คุณธรรม กว่าเขาจะตั้งสติได้ก็สายไปเสียแล้ว
“ฮึ่ม!” เยี่ยนชิงกลับยังไม่พอใจนัก สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ คือถลกหนังของเขาออกเสีย เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งยังคิดอาจเอื้อมดอกฟ้าเช่นลูกสาวของเขา ฮึ่ม!
เมื่อเยี่ยนชิงเห็นบ่าวรับใช้จึงถามขึ้นอย่างละอายใจเล็กน้อยว่า “ชุ่ยชุ่ย เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์พูดจริงหรือว่านางจะไม่แต่งกับเขา” แม้เขาจะไม่ยอมให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์แต่งกับไอ้ลูกหมาตัวนี้ก็ตาม! แต่เขากลัวว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จะยังคงชอบไอ้ลูกหมาตัวนั้น หากเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่สนใจเขาเพราะเรื่องเช่นนี้อีกต่อไปล่ะก็ เขาคง…
จู่ๆ เจ้าสำนักเยี่ยนก็รู้สึกลำบากใจน้ำตารื้นขอบตา
ชุ่ยชุ่ยกำลังก้มหน้าก้มตาอย่างนอบน้อม นางจึงไม่เห็น แต่นางตอบอย่างแน่วแน่ว่า “ใช่เจ้าค่ะ! คุณหนูใหญ่บอกแล้วว่าจะไม่แต่งและคุณชายน้อยเองก็ไม่ชอบกู้จ่างสื่อเช่นกันเจ้าค่ะ”
“จริงหรือ!” เยี่ยนชิงร้องดีใจ แต่เขายังคงไม่สบายใจจึงเดินมุ่งไปทางเรือนของเยี่ยนอวี๋โดยสัญชาตญาณ ไปดูด้วยตนเองย่อมรู้สึกวางใจมากกว่า
เม่ยเอ๋อร์ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเรือนสังเกตเห็นบิดาของคุณหนูใหญ่กำลังทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าประตู ท่าทีประหนึ่งโจรขโมย
ทางเยี่ยนอวี๋…
นางก็เห็นแล้วเช่นกัน
จากนั้นนางก็รู้สึกปวดศีรษะ
เพราะนางไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะอยู่ร่วมกับบิดาผู้มีกายกำยำแต่มีองค์หญิงตัวน้อยอยู่ในใจ เอะอะก็ร้องไห้ได้ทุกเมื่อเช่นนี้อย่างไรดี นางรู้สึกเป็นเรื่องท้าทายนัก
นางเคยคิดว่า แม้นางจะเกิดใหม่เป็น ‘ลูกสาว’ ของคนผู้นี้ แต่นางก็ไม่ได้อยากเป็นลูกสาวที่แท้จริงของเขา เพียงแค่ดูแลตามระเบียบก็เพียงพอแล้ว
ทว่าตอนนี้…
หากจู่ๆ นางทำตัวเหินห่างแล้วบิดาคนนี้ร้องไห้อีกจะทำอย่างไร
“อ้ะ!” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยก็เห็นเขาแล้ว ท่านตาขี้แยคนนั้น เขาอยากจะยื่นมืออวบอ้วนของเขาออกไป แต่แล้วก็ถูกผ้าห่อตัวรัดเขาไว้แน่นไม่สามารถยื่นมือออกไปได้
“เนะๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่ค่อยพอใจ เหตุใดจึงต้องห่อตัวเขาไว้ตลอดเวลาด้วย
เมื่อเยี่ยนชิงได้ยินเสียงเด็กน้อย เขาก็ก้าวเข้ามาในเรือนทันที “จ้า! ตามาหาแล้ว!” เนื่องจากครั้งที่แล้วเจ้าตัวน้อยไม่ค่อยพอใจที่ให้เขาเป็นท่านปู่ เขาจึงเป็นท่านตาแต่โดยดีเสียก่อนดีกว่า
เยี่ยนอวี๋ “?”
เสี่ยวเป่าเรียกเมื่อใดกัน
เยี่ยนเสี่ยวเป่า “?”
เขาไม่ได้เรียกใครนี่
แต่แล้วเยี่ยนชิงก็ไม่สนใจ เขาพูดต่อทันทีว่า “เสี่ยวเป่ากำลังคิดถึงตาอยู่ใช่หรือไม่ มามะให้ตาอุ้มมา”
ดวงตากลมโตของเยี่ยนเสี่ยวเป่ากลอกไปมา บังเอิญกับมือน้อยๆ ที่อวบอ้วนของเขาดิ้นออกมาจากผ้าห่อตัว เขายื่นมือไปข้างหน้าเยี่ยนชิง “อ้ะเนะเนะ…” เห็นแก่ท่านตาที่ไล่คนร้ายออกไปได้ให้อุ้มก็ได้
“!” เยี่ยนชิงรู้สึกประหลาดใจกับการได้รับความรักอย่างไม่คาดฝัน เขาเบิกตาโตอย่างตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าหนูน้อยคนนี้จะฟังรู้เรื่อง! เช่นนั้น ก่อนหน้านี้ที่เสี่ยวเป่าไม่ยอมให้เขาอุ้มก็เพราะไม่ชอบที่เขาบอกว่าเขาเป็นท่านปู่อย่างนั้นหรือ
นี่มัน…
เยี่ยนชิงชะงักตกใจ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่ถูกอุ้มไปเสียทีก็เบะปากร้องเรียกขึ้นอีกครั้ง “อ้ะ!” จะอุ้มไม่ใช่หรือ
“อุ๊ย!” เยี่ยนชิงเพิ่งดึงสติกลับมารีบรับเจ้าตัวน้อยมาอย่างตื้นตัน จากนั้นก็แอบเหลือบมองลูกสาวแวบหนึ่ง พบว่าสีหน้าของลูกสาวยังคงแน่วนิ่งดูไม่ออกเลยว่าโกรธอยู่หรือไม่
เยี่ยนชิงไอกระแอมขึ้นทีหนึ่งแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างกล้าหาญว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ พ่อปฏิเสธการสู่ขอของกู้หยวนเหิงไปแล้ว”
“ดีแล้วเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
เยี่ยนชิงพูดต่อทันทีว่า “พ่อยังตีเขาไปยกหนึ่งด้วย!”
“ดีมากเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ยิ่งพอใจ
เยี่ยนชิงพูดขึ้นอีกทันทีว่า “พ่อยังบอกไปว่า หากเจอเขาเมื่อใดพ่อจะตีเมื่อนั้นและห้ามไม่ให้เขามาอีก!”
“เยี่ยมจริงๆ เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋พึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
ดวงตาประหนึ่งพยัคฆ์ร้ายคู่นั้นของเยี่ยนชิงเป็นประกายขึ้นมาทันที “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ลูกไม่โกรธเคืองพ่อหรือ”
“ไม่โกรธ ท่านพ่อทำได้ดีมากเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋พูดปลอบจากใจจริง
เยี่ยนชิงดีใจขึ้นมาทันที แต่แล้วดวงตาพยัคฆ์คู่นั้นของเขาก็แดงขึ้นอีกครั้ง เพราะเขานึกถึงคำพูดก่อนหน้าของลูกสาวสุดที่รัก เขาจึงอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “เขาไม่มีสิทธิ์รังเกียจเจ้า แต่ก่อนไม่มีสิทธิ์! ตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิ์นั้นเช่นกัน!”
เยี่ยนอวี๋ชะงักไปครู่หนึ่ง ภาพความทรงจำปรากฏขึ้นคำพูดที่ ‘นาง’ ปฏิเสธการสู่ขอของกู้หยวนเหิง ตอนนั้นร่างนี้ยังเป็นของเยี่ยนจื่ออวี๋ ‘นาง’ บอกว่า ‘นาง’ ไม่อยากแต่งงานกับกู้หยวนเหิงที่รังเกียจ ‘นาง’
นอกจากนี้ยังมีภาพความทรงจำสั้นๆ ที่จู่ๆ ก็ปะติดปะต่อเข้าด้วยกันเป็นเรื่องราวแจ่มชัด…