เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – บทส่งท้าย 25 งานเลี้ยงวันเกิดครบขวบปีและชื่อจริงของเสี่ยวเป่า

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

บทส่งท้าย 25 งานเลี้ยงวันเกิดครบขวบปีและชื่อจริงของเสี่ยวเป่า

เยี่ยนอวี๋กอดแขนสามีเอาไว้อย่างรับไม่ไหวเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วย “!” กับ “?” ขณะพิจารณามองศัตรูคู่อาฆาตในวันวาน รวมถึงกว่าครึ่งเป็นท่านอาหนุ่มอีกคนของตนเอง

เยี่ยนอวี๋คาดไม่ถึงจริงๆ ว่า นางเพิ่มจะจากไปแค่ “ครู่เดียว” แอนนากับท่านอารองจะมีวาสนาต่อกันเช่นนี้ได้ เช่นนั้นในภายภาคหน้า นางจะต้องเรียกแอนนาว่าอาสะใภ้ใช่หรือไม่

เยี่ยนอวี๋ “…”

ดังนั้น ดูเหมือนนางจะถูกแอนนาเอาเปรียบเสียแล้ว

เห็นอยู่ชัดๆ ว่าพ่ายแพ้ให้กับนาง แต่ถึงกับมี ‘ตำแหน่งสูง’ ขนาดนี้แล้ว!?

จู่ๆ ก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อย…

หรงอี้ที่รู้สึกได้ว่าภรรยาไม่สบอารมณ์ก็จุมพิตจอนผมนาง “โง่งม”

เยี่ยนอวี๋ “?” สามีถึงกับบอกว่าข้าโง่งม!

จึงยิ่งไม่สบอารมณ์ยิ่งกว่าเดิม…

หรงอี้มองออกถึงอารมณ์ในแววตาของภรรยาก็เกือบจะหัวเราะออกมา “เจ้าคิดดูสิ นางมีอายุพอๆ กับเจ้าชัดๆ แต่กลับเป็นเพราะลำดับผู้อาวุโสสูงเกินไปจึงถูกเรียกอย่างให้เกียรติว่า อาสะใภ้ สรุปว่าใครเอาเปรียบใครกันแน่”

“…เมื่ออธิบายเช่นนี้ ก็ดูเหมือนข้าจะเอาเปรียบนะ?” เดิมเยี่ยนอวี๋ไม่ได้คิดอะไรมากกับอายุ หากเมื่อครู่ไม่ได้ถูกท่านแม่หลีกับท่านย่าซี “กระตุ้น” ไปรอบหนึ่ง นางก็ยิ่งไม่คิดอะไร ดังนั้นความจริงแล้ว นางจึงไม่ได้รู้สึกว่าเป็นฝ่ายเอาเปรียบ

ทว่า…

เยี่ยนอวี๋รู้ว่า แอนนาสนใจเรื่องที่ถูกคนอื่นบอกว่าอายุมากเป็นพิเศษ

ดังนั้นหากเรื่องนี้สำเร็จ แอนนาจะต้องอึดอัดใจตายแน่นอน

เมื่อคิดเช่นนี้ นัยน์ตาของเยี่ยนอวี๋ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถึงขั้นก้าวเข้าไปทักอย่างยินดี “อาสะใภ้แอนนา ยินดีด้วยเจ้าค่ะ”

แอนนาเดิมก็โมโหจะตายแล้ว นางที่กำลังสำลักเพลิงโทสะพุ่งสูงถลึงตาจ้องหรงเจ๋อเขม็งจึงไม่สังเกตเห็นว่ามี ‘คนกลุ่มหนึ่ง’ มาเยือน

ดังนั้น การเอ่ยแสดงความยินดีของเยี่ยนอวี๋จึงถูกแอนนาตะคอกกลับไปทันที “อาสะใภ้บ้าบออะไร! เยี่ยนอวี๋ นี่เจ้า…”

แอนนาที่พูดได้ครึ่งประโยคพลันชะงักไป นางรีบหันหน้ากลับไปก็เห็นว่าเยี่ยนอวี๋กำลังยิ้มให้นาง หนังศีรษะจึงชาวาบ ระเบิดโทสะออกมา ”เยี่ยนอวี๋ เจ้าหัวเราะเยาะข้า!“

“เปล่านะเจ้าคะ อาสะใภ้แอนนาอย่าเข้าใจผิด“ เยี่ยนอวี๋ยืนหยัดไม่ยอมรับว่า ตนเองกำลังหัวเราะแอนนาจริงๆ อย่างเสียหัวเราะกับหัวเราะเยาะนั้นไม่เหมือนกัน

แอนนาหน้าเขียวคล้ำ “หุบปากเจ้าไปเสีย! หากเรียกอาสะใภ้อีกครั้ง เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะแตกหักกับเจ้า!”

“อารองของข้าดีมาก ท่านมีที่อะไรไม่พอใจ อารองจะต้องยินยอมเปลี่ยนแน่นอน” เยี่ยนอวี๋ยังคงยิ้ม อีกอย่างนางก็รู้สึกว่า แอนนาที่โมโหจนแทบกระทืบเท้านั้นเป็นแอนนาที่น่ารักที่สุดเท่าที่นางเคยเห็น มิน่าอารองถึงได้ชอบขนาดนี้

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เยี่ยนอวี๋ก็ก้าวเข้าไปโอบเอวแอนนา “อาสะใภ้แอนนา ท่านอย่าได้ปฏิเสธเลย ข้าตีกับท่านมาหลายล้านปี ยังไม่เคยเจอด้านที่น่ารักขนาดนี้ของท่านมาก่อน เมื่อมีอารองของข้าอยู่ด้วย ท่านก็เผยมันออกมาเสียแล้ว หรือว่าจะเป็นสตรีแต่งหน้าเพื่อคนที่รักกัน”

“เจ้าหุบปากนะ!“ แอนนาจะถูกทำให้โมโหตายแล้ว ”สตรีแต่งหน้าเพื่อคนที่รักบ้าบออันใดกัน เจ้าไม่รู้จักพูดก็อย่าได้พูดเหลวไหล! ข้ากับอารองเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันสักนิดเดียว!“

“อาสะใภ้แอนนา คราวนี้ท่านผิดแล้ว พวกท่านนอนด้วยกันแล้วจะเรียกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร” เยี่ยนอวี๋ถามกลับด้วยท่าทางเคร่งขรึม สีหน้าจริงจังยิ่ง แต่ในใจกลับหัวเราะงอหงาย

ในสายตาหรงอี้ ท่าทางเย้าแหย่เช่นนี้ของเยี่ยนอวี๋ทำให้เขาโค้งมุมปากขึ้น ในนัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความรักและทะนุถนอม

สำหรับอวิ๋นจื่อซี นางยังคงตะลึงอยู่! ถึงขั้นถูกทำให้ตกใจยิ่ง ดังนั้นหรงหวงจึงฉวยโอกาสนี้ช่วยนางนวดทรวงอกและตบหลังให้

ส่วนแอนนาที่ถูกเรียกว่า ‘อาสะใภ้แอนนา’ ไม่หยุดก็แทบจะระเบิดอารมณ์แล้ว อาสะใภ้ “เยี่ยนอวี๋! ไม่อนุญาตให้เจ้าพูดอีก!“

“อืม หลานสะใภ้เชื่อฟังอาสะใภ้เจ้าค่ะ“ เยี่ยนอวี๋พยักหน้าจริงจังและเดินกลับไปข้างกายสามี โดยไม่พูดอะไรอย่างเชื่อฟัง

แอนนา ”!“ ทำไมถึงได้มีคนมามากมายขนาดนี้!?

หรงเจ๋อที่มึนงงเล็กน้อยก็ตะโกนเรียก “ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ อี้เอ๋อร์ หลานสะใภ้ บุตรชายอี้เอ๋อร์”

เมื่อเรียกแต่ละคนเสร็จ หรงเจ๋อก็รู้สึกตัวขึ้นมาแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าหรงอี้ทันที เขาเบิกตากว้างมองเด็กชายตัวน้อยในอ้อมแขนของเขา “นี่คือ คือบุตรชายของเจ้าหรือ อี้เอ๋อร์”

“เมื่อครู่อารองเรียกแบบนี้ไม่ใช่หรือ” หรงอี้ถามกลับ

หรงเจ๋อเบิกตากว้างขึ้นกว่าเดิม “เจ้าคืออี้เอ๋อร์จริงๆ หรือ!?”

“ไม่เช่นนั้นเล่า?” หรงอี้ถามกลับอีกครั้ง

หรงเจ๋อรู้สึกเหมือนเห็นภาพมายามากจึงก้าวเข้าไปหยิกแก้มหรงอี้ “จะเป็นไปได้อย่างไร เจ้าคือซาลาเปาจอมขี้เกียจสินะ!” อี้เอ๋อร์ที่อารมณ์รุนแรงคนนั้นจะยิ้มอบอุ่นให้เขาได้อย่างไร ตัวปลอมแน่ๆ!

นัยน์ตาของหรงอี้ยังคงมีรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นพลันเปลี่ยนไป! เผยให้เห็นนัยยะลึกซึ้งที่ทำให้หรงเจ๋อรู้สึกกลัวออกมา ทำให้เขารีบหดมือกลับมาทันที “ดังนั้น เจ้าคืออี้เอ๋อร์จริงๆ หรือ แล้วนี่คือบุตรชายของเจ้ากับหลานสะใภ้หรือ”

“จริงแท้แน่นอนขอรับ” หรงอี้มีน้ำอดน้ำทนกับอารองที่โง่งมคนนี้มากนิดหน่อยดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

หรงเจ๋อน่ะหรือ ความจริงแล้ว เขาก็ไม่ได้ไม่แน่ใจ เขาเพียงแค่ไม่กล้าที่จะเชื่อ! และประหลาดใจเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้ มองดูแล้วเหมือนคนรูปงามที่โง่งมคนหนึ่งจริงๆ

อย่างไรก็ตาม เทียนตี้ที่ยืนมองอยู่ข้างๆ จนถึงตอนนี้ก็รู้สึกว่า อารองตระกูลหรงท่านนี้ ครึ่งหนึ่งต้องแบ่งสมองให้อาจารย์พ่อของเขาแน่นอน ฝ่ายหลังถึงได้หน้าเนื้อใจเสือ เสแสร้งเก่งเกินไป จะต้องกินสมองของอารองตระกูลหรงไปแน่นอน

สุดท้าย..

ยังคงเป็นผู้นำตระกูลหรงหวงท่านนี้ที่ตัดสินใจ “อวี๋เอ๋อร์ กลับบ้านเจ้าก่อน”

“เจ้าค่ะ ท่านปู่หวงตามข้ามา” เยี่ยนอวี๋รับคำแล้วนำทางทันที ขณะเดียวกันก็พาแอนนา เทียนตี้ เซ่าเฮ่า คิเมียราและพิกซีที่อยู่ในเหตุการณ์ไปด้วยโดยไม่จำเป็นต้องอธิบาย

สำนักชางอู๋

เยี่ยนจื่อเยี่ย เยี่ยนจื่อเสา เหล่าขุนเขาและท้องทะเลและหยวนสื่อเทียนจุนล้วนมาถึงกันแล้ว

เพราะเมื่อครู่เยี่ยนอวี๋ส่งข่าวไปให้พวกเขา พวกเขาทั้งหมดย่อมมาถึงที่นี่ทันที

ทว่าสองสามีภรรยาเยี่ยนชิงที่ไม่ได้รับข่าวสารอะไร รวมถึงเม่ยเอ๋อร์กับชุ่ยชุ่ยนั้นเต็มไปด้วยความงุนงง “ทำไมถึงได้มากันหมดล่ะ”

“หรือว่าจะ…” เยี่ยนชิงหาญกล้าคาดเดาข้อหนึ่งรีบเงยหน้ามองไปบนฟ้าทันที หัวใจชราดวงหนึ่งเต้น “ตึกตัก” จนแทบจะหลุดออกจากทรวงอก

จางอวิ๋นเมิ่งก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างมีการคาดเดา นางรู้ดียิ่ง หากไม่ใช่ว่าบุตรีกลับมา คนเหล่านี้จะมากันครบหมดขนาดนี้ได้อย่างไร ทั้งยังมีท่าทางตื่นเต้นและเฝ้าคอยอีกด้วย

ในเวลาเดียวกันนั้น หยวนสื่อเทียนจุนก็คล้ายจะรู้สึกได้ “มาแล้ว!”

และเสียงของเขายังไม่ทันเงียบลง ขบวนของเยี่ยนอวี๋ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าสองสามีภรรยาเยี่ยนชิง

เยี่ยนชิง “!” สิ่งที่คาดเดาเอาไว้ถึงกับกลายเป็นจริงเสียแล้ว! นี่…

นี่…

บริเวณนั้นเงียบสงัดไปพักหนึ่ง!

ครู่หนึ่งหลังจากนั้น…

เสียงถวายความเคารพสะเทือนเลือนลั่นกลบเสียงตะโกนเรียกบุตรีของเยี่ยนชิงกับจางอวิ๋นเมิ่ง

ซีหวังหมู่พุ่งไปตรงหน้าเยี่ยนอวี๋ทันทีแล้วกอดขานางเอาไว้ “นายท่าน ท่านกลับมาเยี่ยมซีซีแล้ว!”

“มาแล้ว” เยี่ยนอวี๋ลูบเรือนผมหนาของซีหวังหมู่ด้วยสีหน้าอ่อนโยน

ซีหวังหมู่รู้สึกมีความสุขยิ่ง!

เยี่ยนอวี๋ปล่อยให้มันกอดขาตามใจชอบ ขณะเดียวกันก็มองไปทางท่านพ่อ ท่านแม่ และพี่ชาย ก่อนจะแนะนำหรงหวงและคนอื่นๆ ให้พวกเขารู้จัก “ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่รอง ท่านนี้คือท่านปู่ของสามี ท่านนี้คือท่านย่า ท่านนี้คือท่านพ่อ ท่านนี้คือท่านแม่ ท่านนี้คืออารอง”

นางเอ่ยรวดเดียว…

เยี่ยนชิงมองข้อสงสัยออกและมองปู่กับบิดาของลูกเขย ทั้งยังมองหลานชายตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของลูกเขยแล้วพลันทอดถอนใจออกมา “ชินเจีย[1] ตระกูลพวกท่านนับญาติกันง่ายดีจริงๆ ทั้งยังเหมือนกันเกินไปแล้ว”โนเวลพีดีเอฟ

จางอวิ๋นเมิ่งก็มึนงงเล็กน้อย พูดตามตรงบุรุษหลายท่านของชินเจียนั้นนอกจากอารองแล้วล้วนหน้าตาเหมือนราวกับพิมพ์เดียวกัน หากไม่ใช่ว่าบุคลิกกับการแต่งกายแตกต่างกัน เกรงว่าคงแยกยาก

“มิน่าละ…” เยี่ยนจื่อเสาตบหน้าขา พลางเอ่ย “มิน่าหลานชายของข้าถึงได้เหมือนน้องเขยขนาดนั้น! สิ่งที่สืบทอดต่อกันมาในครอบครัวนี่เอง! สิ่งที่สืบทอดต่อกันมาในครอบครัวนี่เอง! น่าอัศจรรย์จริงๆ!”

เยี่ยนจื่อเยี่ยก็เลิกคิ้วเช่นกัน เดิมเขานึกว่า การที่รูปโฉมของน้องเขยกับบิดาเหมือนกันนั้นนับว่ามีน้อยมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าทั้งตระกูลน้องเขยจะเป็นแบบนี้กันหมด อ้อ ไม่สิ อารองไม่เหมือน

ตระกูลนี่ช่าง…

จะเหมือนกันเกินไปแล้วกระมัง

เยี่ยนจื่อเยี่ยคิดว่า เขารู้รูปร่างหน้าตาหลังจากที่เสี่ยวเป่าโตแล้ว

ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางมองพวกหรงหวงยิ้มๆ หลังจากที่คนในครอบครัวนางตะลึงกันเรียบร้อยแล้วก็เอ่ยแนะนำต่อไป “ท่านปู่หวง ท่านย่าซี ท่านพ่อ ท่านแม่ อารอง พวกเขาก็คือคนในครอบครัวของข้าเจ้าค่ะ”

หรงหวงพยักหน้าทักทาย “ชินเจีย”

อวิ๋นจื่อซีรีบจัดการดวงใจที่ถูกบุตรชายสองคนทำให้สะดุ้งตกใจแล้วก้าวเข้าไปจับมือจางอวิ๋นเมิ่ง พร้อมกับเอ่ยยิ้มๆ “แม่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เจ้าคนนี้ในครอบครัวข้าไม่รู้จักพูดเท่าไร เห็นท่าทางเย็นชาห่างเหินเช่นนี้ ความจริงแล้วเป็นมิตรนะ พวกท่านอย่าได้ถือสา”

หรงเจ๋อเป็นฝ่ายจับมือเยี่ยนชิงก่อนอย่างรู้ใจโดยไม่ต้องบอกทันที “ถูกต้อง! ท่านพ่อหลานสะใภ้ ท่านพ่อข้าก็เป็นเช่นนี้ ไม่ได้มีเจตนาอันใด ในภายภาคหน้าพวกเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว อี้เอ๋อร์ของพวกข้ามาจุติในอดีตก็ต้องขอบคุณพวกท่านที่ต้อนรับ”

“เกรงใจแล้วๆ!” เยี่ยนชิงรู้สึกร้อนใจ เขาไม่ได้ต้อนรับอะไรลูกเขยเท่าไร

เยี่ยนจื่อเสาทำเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาอีกแล้ว “อารองหรง! ทำไมท่านถึงหน้าตาไม่เหมือนพวกเขาเล่า”

คำถามนี้…ทำให้หรงเจ๋อรู้สึกเหมือนตนเองถูกเก็บมาจึงแสดงออกด้วยท่าทางไม่ยินยอม “ข้ารวบรวมส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของท่านพ่อกับท่านแม่ข้าเอาไว้ต่างหาก! แค่เห็นก็รู้ว่าพวกเขาให้กำเนิดข้า! พี่ใหญ่กับหลานชายข้านั้นไม่เหมือนกัน ข้าสงสัยว่าท่านพ่อข้าเป็นคนให้กำเนิดพวกเขาเอง!”

เพียะ! หรงหวงกระชากบุตรชายคนรองออกไปอย่างไม่เกรงใจ “หุบปากสุนัขของเจ้าเสีย”

“หรือว่าไม่ใช่!?” หรงเจ๋อไม่ยอมแพ้ คิดว่าคำพูดของตนเองมีเหตุผลมาก!

เยี่ยนจื่อเสาหัวเราะจนตะคริวเกือบจะกิน “อารองหรง ท่านนี่ไม่เหมือนใครจริงๆ!”

“ที่ไหนกันๆ” หรงเจ๋อกำหมัดแสดงท่าทางว่า ตนเองถ่อมตนมากและได้รับการอบรบสั่งสอนจากครอบครัวเป็นอย่างดี

เยี่ยนจื่อเยี่ยรู้สึกว่าอารองหรงท่านนี้น่าสนใจมากจึงยิ้มๆ แล้วเอามือพาดบ่าเขา “อารอง”

“อื้อ!” หรงเจ๋อรับคำอย่างรวดเร็ว!

ทางด้านเยี่ยเชียนหลีก็ก้าวเข้าไปเอ่ยอย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับจางอวิ๋นเมิ่ง ชมเชยจางอวิ๋นเมิ่งเสียจนใบหน้าและนัยน์ตาล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเริ่มเอ่ยเรียก “ชินเจีย” ขึ้นมาอย่างสนิทสนมอบอุ่น

เยี่ยนชิงรู้สึกว่าเหมือนจะผิดปกติเล็กน้อย แต่ก็คิดไม่ออกว่าผิดปกติตรงไหน บวกกับผู้นำตระกูลหรงตรงหน้าท่านนี้พลันประลองกับเขาเช่นนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น ทำได้เพียงแค่เกร็งร่างเขม็ง เพื่อประลองกับเขา จะพ่ายแพ้เรื่องพลังอำนาจไม่ได้

หรงหวงเลิกคิ้วเล็กน้อย “ชินเจีย ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังขนาดนั้น”

“ใครระมัดระวังกัน” เยี่ยนชิงไม่ยอมรับ

หรงหวงยิ้มบางๆ แล้วเรียกบุตรชายคนโตเข้ามา

เยี่ยนชิงเห็นเช่นนี้ก็รีบเรียกเยี่ยนจื่อเยี่ยมาเช่นกัน

หรงมั่วเห็นแล้วก็ยิ้ม “ชินเจีย ได้ยินอวี๋เอ๋อร์เล่าว่า งานเลี้ยงวันเกิดครบรอบขวบปีของเสี่ยวเป่ายังไม่ได้จัด ไม่สู้จัดที่แห่งนี้ของชินเจียเป็นอย่างไร”

“เช่นนั้นก็ดีมาก!” เยี่ยนชิงตอบรับทันทีโดยไม่ต้องคิด ใบหน้าที่เกร็งเข็มงแย้มรอยยิ้มเบิกบานทันที ทว่า… “เสี่ยวเป่ายังไม่ครบขวบปีอีกหรือ”

“แค่ก!” เยี่ยนจื่อเยี่ยอดเตือนไม่ได้ “อย่างไรเสียเสี่ยวเป่าก็เป็นคนที่เติบโตบนโลกมนุษย์และสวรรค์ ตอนนี้น่าจะกำลังครบขวบปีนะขอรับ”

“อ้อๆ” เยี่ยนชิงไตร่ตรองดูแล้วก็ใช่จึงดีใจกับข่าวดีที่คาดไม่ถึงนี้ “ชินเจีย พวกท่านก็ให้เกียรติกันเกินไปแล้ว ถึงกับมาที่สำนักชางอู๋ของพวกข้าเพื่อจัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบขวบปีให้กับเสี่ยวเป่า!”

“เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว หลายปีมานี้อี้เอ๋อร์ได้รับการดูแลจากครอบครัวท่าน” หรงมั่วตอบกลับอย่างมีสุภาพ แสดงความสามารถออกมาอย่างโดดเด่น ทำให้คนรู้สึกดีด้วยง่ายเป็นพิเศษ

ตอนนั้นเยี่ยนชิงก็พึงพอใจในครอบครัวของลูกเขยมากจึงไม่ทำหน้าตึงอีก ทั้งยังซื่อตรงยิ่ง “จะว่าไปแล้ว ครอบครัวข้าก็ไม่เคยดูแลลูกเขยเลยล้วนมีแต่ลูกเขยที่ช่วยดูแลเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของพวกเราเป็นอย่างดี ข้าสิที่สมควรจะขอบคุณตระกูลหรงที่เลี้ยงดูบุตรชายที่ดีเช่นนี้ออกมา!”

“ที่ไหนกันๆ” ยากที่หรงมั่วจะโอภาปราศรัยกับผู้อื่น ทำให้หรงอี้ที่นิ่งเงียบอยู่ข้างๆ รู้สึกอบอุ่นใจ รู้ว่าท่านพ่อตัวปลอมทำเพื่อเขา

ตอนนี้เองที่เยี่ยนชิงเอ่ยขึ้นมา “จะว่าไปแล้วก็เรียกเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่ามาตลอด ยังไม่ได้ตั้งชื่อจริงของเสี่ยวเป่าใช่ไหม ชินเจียพวกท่านคิดว่าจัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบขวบปีกับตั้งชื่อจริงด้วยกันเลยเป็นเช่นไร”

“เช่นนั้นก็เอาตามที่ท่านว่าเลย” หรงมั่วรับคำเสียงใส

เยี่ยนชิงจึงตบบ่าหรงมั่วด้วยความดีใจยิ่ง “ชินเจีย ท่านจะดูหนุ่มเกินไปแล้ว ยืนคู่กับบุตรชายท่าน บอกว่าเป็นพี่น้องกัน ข้าก็เชื่อ”

“อย่างไรเสียภรรยาก็ชื่นชอบมองใบหน้า ต้องให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษา” หรงมั่วตอบด้วยท่าทางจริงจัง

เยี่ยนชิงระเบิดหัวเราะออกมา “ชินเจียมี ประสบการณ์นี่! ท่านต้องช่วยข้านะ ข้ารู้สึกว่าข้าใกล้จะกลายเป็นพ่อของเมิ่งเอ๋อร์แล้ว”

“ได้เลย ท่านแม่ข้าสกัดยาบำรุงความงามเก่งเป็นพิเศษ” หรงมั่วขายแม่แท้ๆ ของตนเอง

เยี่ยนชิงขบขันอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ สองฝ่ายพูดคุยอย่างเข้ากันได้ดี งานเลี้ยงวันเกิดครบรอบขวบปีอะไรนั่นจึงถูกตำหนักสวรรค์กับเหล่าขุนเขาและท้องทะเลร่วมมือกันรับผิดชอบทันที

ทั่วสำนักชางอู๋จึงเข้าสู่สภาวะคึกคักกันอย่างบ้าคลั่งทันที ที่สำคัญก็คืองานเลี้ยงนี้ยิ่งใหญ่มาก พื้นที่ของสำนักชางอู๋ที่เดิมกว้างใหญ่ก็ถูกจัดเสียจนแออัดเป็นพิเศษ

ดังนั้นทั้งเมืองชางอู๋ล้วนถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบขวบปีด้วย ตลอดทั้งงาน ประชาชนล้วนสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ได้เช่นกัน ผู้บำเพ็ญเพียร เทพผู้แข็งแกร่งจากโลกต่างๆ ที่ได้ยินข่าวก็พากันเดินทางมาร่วมงานกันไม่ขาดสาย

ตอนที่ครอบครัวของเยี่ยนอวี๋กำลังจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่อย่างอบอุ่น เจ้าสำนักชางอู๋ที่ถูกจัดให้อยู่ในห้องโถงตระกูลหรงกำลังเค้นสมองคิดชื่อจริงของเจ้าตัวน้อยบางคนอย่างสุดความสามารถ ตอนนี้ชื่อจริงที่ถูกเสนอขึ้นมาเกินร้อยล้วนถูกคัดค้านทั้งหมด

อวิ๋นจื่อซีหมดอาลัยตายอยากอย่างสิ้นเชิง “ข้าไม่ตั้งแล้ว!”

“ท่านพ่อ ท่านลองตั้งไหมขอรับ” หรงมั่วมองท่านพ่อผู้ใจดำของเขา

“ข้าคิดว่า ข้าสามารถตั้งเองได้” หรงอี้คิดว่า เขาเป็นพ่อของเสี่ยวเป่า ทำไมถึงไม่ใช้ชื่อที่เขาตั้งให้ล่ะ อีกอย่างชื่อจริงที่เขาตั้งให้ก็ดีมากไม่ใช่หรือ

หรงหวงนั้นไม่ได้ตั้งเลยสักชื่อเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ คราวนี้ก็ยังคงยืนหยัดที่จะไม่ตั้งชื่อเช่นเคย “ข้าตั้งชื่อให้บุตรชายทั้งสี่คนของข้าแล้ว อย่าให้ข้าช่วยพวกเจ้าคิดเชียว”

หรงมั่วจึงเอ่ยว่า “เช่นนั้นข้าตั้งเอง!”

“ท่านพ่อ!” หรงอี้รู้สึกว่า นี่เกรงว่าจะเป็นแผนร้ายของท่านพ่อปลอมๆ ของเขา พูดขึ้นมาแล้ว คนที่ปฏิเสธชื่อมาโดยตลอดก็คือท่านพ่อปลอมๆ คนนี้ของเขา

เยี่ยนอวี๋อยากหัวเราะ นางไม่เคยเห็นท่าทางใจร้อนเช่นนี้ของสามีมาก่อน อ้อ ก็ไม่ใช่…

เยี่ยนอวี๋ที่จู่ๆ ก็หน้าแดงระเรื่อ หันไปมองทางอื่น นางไม่สนใจว่าบุตรจะชื่ออะไร หากไม่ใช่ว่าท่านพ่อเจ้าน้ำตาเอ่ยขึ้นมา นางก็ไม่ได้รู้สึกว่าการเรียกเสี่ยวเป่าว่าเสี่ยวเป่าไปตลอดจะมีอะไรไม่เหมาะสม แซ่ก็เปลี่ยนกลับมาใช้แซ่ตระกูลหรง ก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ

ส่วนหรงมั่วที่ถูกเรียกเสียงดังว่าท่านพ่อก็ตบศีรษะบุตรชายไปครั้งหนึ่ง “ทำท่าทางดุร้ายทำไม เลือกชื่อนี้แล้วกัน”

ความจริงแล้วหรงมั่วก็แค่หยอกลูกเสือดาวตัวน้อยเท่านั้นเอง แต่ในใจได้เลือกชื่อหนึ่งเอาไว้แต่แรกแล้ว

หรงอี้มองชื่อที่ท่านพ่อตัวปลอมของเขาชี้ออกมาก็ค้นพบว่านั่นเป็นชื่อที่เขาตั้งจึงพอใจมาก

“หรงเยี่ยน” หรงหวงท่องชื่อนี้แล้วพยักหน้าเช่นกัน “ได้”

[1] ชินเจีย คือคำที่พ่อแม่ของฝ่ายชายหญิงใช้เรียกอีกฝ่าย

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท