บทส่งท้าย 27 หลงตี้มาโอ๋เป่า ด่านเคราะห์เจ้าสี่
เมื่อคิดได้เช่นนี้ มังกรทองตัวอ้วนยิ่งเสียใจ น้ำตาของมันไหลเหมือนท่อแตก ไม่เพียง ‘บำรุง’ ลูกผมของเด็กน้อย ยังช่วยล้างตัวน้อยๆของเขาด้วย
เสี่ยวหรงเยี่ยน “?”
เขาที่สับสนและงุนงงไม่สามารถโต้ตอบใดๆ ได้
หรงหวงปล่อยตัวเด็กน้อยตั้งแต่ที่มังกรทองอวบอ้วนเข้ามา ‘แย่งคน’ บัดนี้เขาเองก็รู้สึกโชคดีที่ปล่อยมือออกแต่แรก มิเช่นนั้นเขาคงถูกล้างด้วยน้ำตามังกรด้วยแน่นอน
คนทั่วไปไม่สามารถจินตนาการถึงต่อมน้ำตาของมังกรทองตัวน้อยอวบอ้วนได้ ผ่านไปเพียงไม่นาน…
เยี่ยเชียนหลีที่เร่งเดินทางมาถึงก็เห็นว่าหลานชายน้อยของนางร่วงลงบ่อน้ำตัวเปียกแฉะ และยังเช็ดน้ำตาของมังกรบนใบหน้าของตนอย่างเงอะงะ
เยี่ยเชียนหลีพูดไม่ออก “เจ้าอ้วน…”
เห็นได้ชัดว่ามังกรทองอวบอ้วนที่ร้องไห้อย่างหนักไม่ได้ยิน มันยังใช้อุ้งมือของมันตบหลังของเด็กน้อยไม่หยุด ท่าทางกำลังปลอบเด็กน้อยอย่างใส่ใจ หากมันไม่ร้องเป็นสุนัข ทุกคนคงเชื่อว่ามันกำลังปลอบเด็กน้อยจริงๆ
เสี่ยวหรงเยี่ยนที่เปียกไปทั้งตัวก็… ยังคงงุนงง แต่ก็พูดขึ้นว่า “ไม่ ไม่ร้อง”
แม้เด็กน้อยไม่รู้จักมังกรทองอวบอ้วน แต่เขารู้สึกได้ว่ามังกรทองตัวอ้วนที่อุ้มเขานอกจากจะไม่มีเจตนาร้ายต่อเขาแล้ว มันยังดูสงสารเขามาก
ดังนั้นแม้ไม่รู้ว่าเหตุใดมังกรทองตัวอ้วนร้องไห้หนักเช่นนี้ เด็กน้อยยังคงปลอบมัน มือเล็กๆ คู่นั้นยังลูบเกล็ดของมันราวกับมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
“โฮฮฮ…” มังกรทองตัวอ้วนที่ร้องไห้จนพูดไม่ได้ยังคงร้องต่อไป มันเสียใจมากจริงๆ มันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่า อี้เอ๋อร์ตัวโตขนาดนั้นที่ออกไปผ่านด่านเคราะห์ ไม่รู้ว่าไปผ่านด่านเคราะห์แบบไหนมาถึงผอมจนตัวเล็กกระจิ๋วเท่านี้ แม้แต่ผมที่เขาหวงแหนที่สุดก็ไม่มีแล้ว น่าอนาถจริงๆ
“เจ้าอ้วน” เยี่ยเชียนหลีที่เดินเข้ามาใกล้เรียกเสียงดัง
มังกรทองตัวอ้วนที่ได้ยินในครานี้ มันก็มองไปที่เยี่ยเชียนหลี ร้องไห้หนักกว่าเดิม “โฮฮฮ…”
เยี่ยเชียนหลี “…”
แม้ไม่รู้ว่าเหตุใดมังกรทองตัวอ้วนจึงร้องไห้หนักเช่นนี้ แต่ก็ปลอบใจก่อนแล้วกัน
ขณะที่คิด เยี่ยเชียนหลีก็ปลอบด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอ้วนไม่ร้องนะ เจ้าดูสิเจ้าทำเสี่ยวเป่าเปียกไปหมดแล้ว ทำคนอื่นเขาตกใจด้วย มีอะไรค่อยๆ พูด ปล่อยมือก่อนดีหรือไม่”
“โฮฮฮ…” มังกรทองตัวอ้วนที่สะอึกสะอื้นยังคงกอดเด็กน้อยไว้แน่น น้ำตาไหลไม่หยุด หน้าตาเหมือนคนตรอมใจกำลังจะตาย
เยี่ยเชียนหลีลูบศีรษะมังกรทองตัวอ้วน “เสียใจเรื่องอะไรขนาดนี้หรือ”
“โฮ” มังกรทองตัวอ้วนคิดในใจว่า เสี่ยวอี้เอ๋อร์ผอมจนกลายเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าจะไม่เสียใจได้อย่างไร
ขณะที่คิดเช่นนี้ มังกรทองตัวอ้วนก็ยิ่งสงสารมนุษย์ตัวน้อยในอ้อมกอด มันค้นสมุนไพรในตัวมันออกมาจนหมด และยังหยิบโอสถอสูรนิรนามเม็ดใหญ่เม็ดหนึ่งป้อนเด็กน้อย
เยี่ยเชียนหลีหนังตากระตุก จู่ๆ ก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมา
ทว่า… เยี่ยเชียนหลีไม่ทันมีปฏิกิริยาใดๆ
หง่ำ…
เด็กน้อยที่อ้าปากน้อยๆ ก็กลืนโอสถอสูรเม็ดนั้นลงไปแล้ว
เยี่ยเชียนหลี “?”
นางตะลึงงัน ขณะที่นางกำลังตะลึง เจ้าอ้วนก็ป้อนเด็กน้อยต่อไป
หง่ำ…
หง่ำ…
เด็กน้อยทานสมุนไพรหลายประเภทลงไปพร้อมกัน เยี่ยเชียนหลีรีบห้ามทั้งสอง เปลือกตานางสั่นไม่หยุด
ทว่ามังกรทองตัวอ้วนที่ถูกห้าม มันก็ร้องไห้อีกครั้ง “โฮ…” เสี่ยวอี้เอ๋อร์ผอมขนาดนี้ ทำไมยังไม่ป้อนเขาอีก หรือว่ากลัวว่าเสี่ยวอี้เอ๋อร์อ่อนแอจนบำรุงไม่ได้ เสี่ยวอี้เอ๋อร์ไม่ใช่แค่ผอม ร่างกายยังอ่อนแอด้วยหรือ?
เมื่อคิดได้เช่นนี้… มังกรทองตัวอ้วนเกือบจะแหกปากร้องไห้
โชคดีที่เยี่ยเชียนหลีเข้าใจก่อน นางรีบอธิบายว่า “เจ้าอ้วน เจ้าจำผิดแล้ว นี่ไม่ใช่อี้เอ๋อร์ นี่คือเสี่ยวเป่า ลูกของอี้เอ๋อร์”
มังกรทองตัวอ้วน “?”
หมายความว่าอะไรนะ
เยี่ยเชียนหลีเห็นสีหน้าของมังกรทองตัวอ้วนก็รู้ว่าตนเองทายถูกจึงพูดย้ำอีกครั้งว่า “หมายความตามที่เจ้าได้ยิน ทารกน้อยที่เจ้าอุ้มไม่ใช่เสี่ยวอี้เอ๋อร์ เขาคือลูกของอี้เอ๋อร์”
“ลูกของอี้เอ๋อร์?” เสียงค่อนข้างหน่อมแน้มราวกับคนหนุ่มสาวของมังกรทองตัวอ้วนในที่สุดก็พูดด้วยเสียงที่ชัดเจนได้ว่า “ไม่ใช่เสี่ยวอี้เอ๋อร์ผอมจนตัวเล็กลงหรอกหรือ”
เยี่ยเชียนหลีเพิ่งเข้าใจสิ่งที่มังกรทองตัวอ้วนคิด มันไม่เพียงจำผิดคน ยังคิดว่าอี้เอ๋อร์ผอมจนตัวเล็กลง มิน่ามันถึงร้องไห้หนักขนาดนี้…
หรงมั่วที่หายตัวมาหาพร้อมเยี่ยเชียนหลี เขาก็มองมังกรทองตัวอ้วนอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้เลยว่ามังกรตัวนี้คิดอย่างไร หากเจ้าเสือดาวน้อยตัวนั้นของเขาผอมจนตัวเล็กเหมือนเสี่ยวเป่า…
หรงมั่วรู้สึกปวดศีรษะตุบๆ เส้นเลือดบนหน้าผากก็ปูดขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่กล้าคิดต่อไป
พรวด… อวิ๋นจื่อซีหัวเราะ เดิมทีนางตกใจกับมังกรทองตัวอ้วนจริงๆ เพราะว่าไม่รู้ว่าเหตุใดมันจึงร้องไห้หนักเช่นนี้ ทำเอานางถึงกับไม่กล้าเข้าไปรบกวน ตอนนี้เพิ่งรู้ว่ามันปล่อยไก่เสียเอง
เยี่ยเชียนหลีตบศีรษะมังกรทองตัวอ้วนเบาๆ อย่างขบขัน “สมองเจ้านี่ไม่เหมือนคนอื่นเลยจริงๆ อี้เอ๋อร์จะตัวเล็กลงขนาดนี้ได้อย่างไร”
มังกรทองตัวอ้วนลูบหนวด ก้มหน้ามองเสี่ยวหรงเยี่ยนที่อยู่ในอ้อมอก จากนั้นก็พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกสับสน “ไม่ใช่อี้เอ๋อร์จริงๆ หรือ ดูเหมือนกันเลย”
“ไม่ใช่จริงๆ อี้เอ๋อร์แต่งงานแล้ว นี่คือลูกของเขาและภรรยาของเขา ชื่อหรงเยี่ยน ชื่อเล่นเสี่ยวเป่า ต่อไปเจ้าก็เป็นลุงแล้ว” เยี่ยเชียนหลีเอ่ย
มังกรทองตัวอ้วนตกอยู่ในภวังค์และสับสนครู่หนึ่ง “แล้วอี้เอ๋อร์ล่ะ”
“พักผ่อนอยู่กับภรรยา เดี๋ยวเจ้าก็ได้เจอ” เยี่ยเชียนหลีตอบ
“ข้าไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี” มังกรทองตัวอ้วนพูดพลางมองเด็กน้อยอีกครู่หนึ่ง
เจ้าตัวน้อยเองก็กำลังมองสบตามันอยู่นานก่อนจะพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ลุง อ้วน หรือ”
ดวงตากลมโตของมังกรทองตัวอ้วนเบิกกว้างหนึ่งเท่า “เรียกข้าว่า ลุงจริงๆ หรือ?”
เสี่ยวหรงเยี่ยน “?” เขามองไปที่ท่านย่าของเขาด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ
เยี่ยเชียนหลีเห็นสายตาขอความช่วยเหลือของหลานชาย รู้สึกหลานชายน่าสงสารเป็นพิเศษ ตัวยังเปียกอยู่เลย นางจึงทำท่าจะอุ้มเด็กน้อยกลับมาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้
ทว่า… มังกรทองตัวอ้วนไม่ยอม “ข้าอุ้มเอง”
“เช่นนั้นก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสี่ยวเป่าก่อน เจ้าดูสิเจ้าร้องไห้จนทำเอาเสื้อผ้าเปียกไปหมด” เยี่ยเชียนหลีพูดพลางหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาจากหน้าอกของนาง
อย่าถามว่าเหตุใดนางจึงมีเสื้อผ้าของเด็กน้อยติดตัว เพราะคำตอบคือมันคือเสื้อที่อี้เอ๋อร์ตอนเด็กยังใส่ไม่หมดไงเล่า
มังกรทองตัวอ้วนจึงไม่ได้ปฏิเสธ เขายังช่วยเจ้าตัวน้อยถอดเสื้อผ้า
เสี่ยวหรงเยี่ยนงงงัน “ทำไม ถอดเลย ไม่ แอบๆ คน เยอะแยะ…”
เสี่ยวหรงเยี่ยนที่คัดค้านอย่างตะกุกตะกัก สุดท้ายก็คัดค้านไม่สำเร็จ เพราะมังกรทองตัวอ้วนและเยี่ยเชียนหลีเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาเสร็จอย่างรวดเร็วแล้ว เด็กน้อยไม่ทันต่อต้านเลย
เสี่ยวหรงเยี่ยนทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจทันที ท่าทางโมโหมาก
เยี่ยเชียนหลีจูบเจ้าตัวน้อยและยิ้มเบาๆ “คนเยอะที่ไหนกัน ก็แค่ปู่ย่า และปู่ทวดย่าทวดและลุงอ้วนเท่านั้นเอง”
“โกรธ” เสี่ยวหรงเยี่ยนเบือนหน้า ไม่อยากเห็นท่านย่า
เยี่ยเชียนหลีเห็นก็รู้ทันทีว่าเจ้าตัวน้อยมีศักดิ์ศรี นางรีบให้สัญญาว่า “ขอโทษเสี่ยวเป่าจ๊ะ ย่าเห็นเสื้อหลานเปียกไปหมดกลัวหลานจะไม่สบายจึงไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่น ต่อไปจะไม่ทำเช่นนี้อีก เสี่ยวเป่าให้อภัยย่าครั้งหนึ่งได้หรือไม่จ๊ะ”
“ข้า… ข้าก็เช่นกัน” มังกรทองตัวอ้วนรีบสำทับ กลัวว่าเจ้าตัวน้อยในอ้อมอกคนนี้จะอารมณ์ร้าย ต้องทุบเขาแน่ๆ
โชคดีที่เสี่ยวหรงเยี่ยนยังถือว่าอ่อนโยน หลังจากถูกปลอบโยนแล้ว ใบหน้าก็กลับมาปกติ “ครั้งหน้า ห้าม”
“จ้ะๆๆ ตามที่เสี่ยวเป่าพูดเลย” เยี่ยเชียนหลีตอบเสร็จจูบเด็กน้อยเบาๆ “ครั้งนี้ย่าผิดเอง ลืมไปว่าเสี่ยวเป่าของเราไม่เด็กแล้ว จะเปลื้องผ้าเสี่ยวเป่าต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ไม่ได้”
“อ ภัย” ทันทีที่เสี่ยวหรงเยี่ยนหายโกรธก็จะคุยด้วยง่าย เขายิ้มให้ท่านย่าหลีของเขาและยังยื่นมืออ้วบอ้วนไป
ทว่าเด็กน้อยเพิ่งจะยื่นมือออกไป เยี่ยเชียนหลียังไม่ทันรับไว้ มังกรทองตัวอ้วนก็ใช้อุ้งมือของตนจับมือที่ยื่นออกมาของเด็กน้อยกลับไปในอ้อมแขนตนเอง “ข้าอุ้มเอง”
เยี่ยเชียนหลีนวดระหว่างคิ้วเบาๆ นางไม่ได้แย่ง “เจ้าอุ้มก็ได้ แต่อย่าป้อนของเลอะเทอะให้เสี่ยวเป่าอีก เสี่ยวเป่ากินข้าว”
“แต่ที่ข้าป้อนเมื่อครู่นี้ เสี่ยวเป่าก็ชอบเหมือนกัน” มังกรทองตัวอ้วนตอบจริงจัง เห็นได้ชัดว่ามันคิดจะป้อนเด็กน้อยอีก
เจ้าตัวน้อยก็พูดขึ้นว่า “ชอบ…”
เยี่ยเชียนหลี “…”
โชคดีที่หรงมั่วพูดขึ้นว่า “เช่นนั้นเสี่ยวเป่าชอบอาหารไม่ปรุงหรือชอบอาหารที่ปู่ทวดหวงทำให้เจ้า”
“ปู่ทวด หวง” เสี่ยวหรงเยี่ยนตอบอย่างไม่ลังเล
หรงมั่วมองไปที่มังกรทองตัวอ้วน “เจ้าอ้วน?”
“ข้ารู้แล้ว” มังกรทองตัวอ้วนเก็บสมุนไพรเสร็จยื่นให้หรงหวง
หรงหวงที่มองแหวนเก็บของขมวดคิ้วเล็กน้อย สุดท้ายก็รับมันไว้
ทันทีที่เจ้าตัวน้อยเห็นเขารับไปก็รีบพูดว่า “ข้าวๆ…”
“ทำให้เจ้าเดี๋ยวนี้” หรงหวงจิ้มหน้าผากของเจ้าตัวน้อยเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์นัก
หนวดมังกรสีดำยักษ์เส้นหนึ่งยื่นมาข้างหน้าเด็กน้อย มันพันตัวเขาไว้ เสี่ยวหรงเยี่ยนชะงัก เขาถูกอุ้มขึ้นบนท้องฟ้า
ในอุ้งมือมังกรทองตัวอ้วนว่างเปล่า มันโมโหทันที “หลงตี้ เจ้าแย่งเสี่ยวเป่าของข้า”
เด็กน้อยที่ถูกหลงตี้ชิงตัวไปจริงๆ ครานี้เขาถูกหลงตี้ใช้หนวดมังกรพันรอบตัวเขามาข้างหน้าดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
เสี่ยวหรงเยี่ยนที่จู่ๆ ขึ้นไปบนท้องฟ้าไม่ได้ตกใจ เขายังมองหลงตี้ที่พันตัวเขาขึ้นมาอย่างประหลาดใจ ก่อนจะเรียกเสียงหน่อมแน้มว่า “ปู่น้อย หลง…”
หลงตี้ที่เดิมทีชอบเจ้าตัวน้อยตัวนี้มากอยู่แล้วหัวเราะ “จ้า”
“ฮี่…” เสี่ยวหรงเยี่ยนหัวเราะ
“หลงตี้” มังกรทองตัวอ้วนที่ไล่ตามขึ้นมาไม่พอใจมาก “เจ้าแย่งเสี่ยวเป่าของข้าได้อย่างไร ทำตัวไม่เหมาะสมกับวัยเลย”
หลงตี้ไม่ได้สนใจมัน เพียงแค่ใช้หนวดอีกเส้นหนึ่งลูบผ่านศีรษะโล้นๆ ของเด็กน้อย รู้สึกเหมือนกับได้กลับไปเห็นนายน้อยครั้งแรก
พริบตาเดียวก็ผ่านไปหลายพันปีแล้ว…
มันได้เห็นลูก หลาน เหลน ของราชา
กาลครั้งหนึ่งมันไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าราชาจะมีรัชทายาท
บัดนี้สี่ชั่วอายุคนอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน
หลงตี้รู้สึกเหมือนอยู่ในภวังค์…
มันยังรู้สึกด้วยว่าความทรงจำเมื่อพันกว่าปีที่แล้วนั้นชัดเจน มีชีวิตชีวาและตื่นตาตื่นใจมากกว่าเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน
เมื่อก่อน ทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
วันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
…
“หลงตี้ เจ้าดูเสร็จแล้ว ส่งเสี่ยวเป่าคืนให้ข้าเร็วเข้า” มังกรทองตัวอ้วนทำท่าจะแย่งเด็กน้อยในมือของหลงตี้ ขณะที่เขาตกอยู่ในภวังค์ แต่มันอยู่ห่างจากหลงตี้มาก แย่งมาไม่ได้
เจ้าตัวน้อยจึงเห็นมังกรทองตัวอ้วนไล่จับหนวดของหลงตี้ไม่หยุด พยายามแย่งเขามาจากหนวดของหลงตี้ จู่ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจ “ฮ่า…”
หลงตี้ตั้งสติได้จากเสียงหัวเราะที่ทั้งอ่อนโยนและอ่อนหวาน เมื่อเห็นมังกรทองตัวอ้วนพยายามแกะหนวดของมันออกก็ปล่อยคลื่นพลังเบาๆ ออกมาผลักมังกรทองตัวอ้วนออกไป
มังกรทองตัวอ้วนกระเด็นถอยและกลิ้งออกไป ท่าทางทั้งน่ารักและน่าสนุก ทำเอาเสี่ยวหรงเยี่ยนสนุกสนานจนหัวเราะ ‘ฮ่าๆ’
มังกรทองตัวอ้วนมีกำลังฮึกเหิม มันโถมใส่อีกครั้ง
เด็กน้อยจับหลงตี้ไว้อย่างตื่นเต้น “อ้ะ อ้ะ จับ…”
หลงตี้ยิ้มเบาๆ หนวดมังกรอีกเส้นหนึ่งยื่นออกมาผลักมังกรทองตัวอ้วนออก ไม่ได้ปล่อยให้มันถึงตัวเด็กน้อย
“ฮ่า” เสี่ยวหรงเยี่ยนหัวเราะอย่างสนุกสนาน “จับ ไม่ได้…”
เดิมทีมังกรทองตัวอ้วนโมโหมาก แต่เด็กน้อยหัวเราะอย่างมีความสุข ความโกรธของมันหายไปหมด มันจึงเริ่มเล่นกับเด็กน้อยและหลงตี้อย่างครื้นเครง
เยี่ยเชียนหลีเห็นสามคนนี้กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานจึงไม่ได้เข้าไปหาอีก แต่กลับหัวเราะในอ้อมแขนของฝ่าบาทของนางพลางพูดว่า “นี่เป็นตอนจบที่ดีที่สุดที่ข้าอยากเห็นในช่วงหลายปีนี้”
หลายปีมานี้ เนื่องจากหาอี้เอ๋อร์ไม่เจอ นางอยู่รอดได้ด้วยการทำได้เพียงคิดว่าเขามีชีวิตที่ดี
หรงมั่วเข้าใจความรู้สึกของเสือดาวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนคนนี้ เขาโอบนางแน่น แหงนมองทั้งสามที่กำลังเล่นกันอยู่บนท้องฟ้า รู้สึกทุกอย่างสงบสุข ในที่สุดก็วางใจลงได้
…
อวิ๋นจื่อซีที่อยู่ไม่ไกลมองสามคนที่อยู่เหนือศีรษะแล้วกลับมามองสองสามีภรรยาตรงหน้า รู้สึกปลง ครั้นกำลังจะพูดอะไรก็ได้ยินเสียงของผีผีดังขึ้น “ท่านแม่”
อวิ๋นจื่อซีปวดศีรษะ มีเพียงคำถามหนึ่งผุดขึ้น เหตุใดลูกชายคนโตและลูกสะใภ้คนโตมีชีวิตสงบสุขได้ มีความสุขกับ ‘วัยเกษียณ’ แล้ว ข้ากลับยังต้องคอยกังวลกับเจ้าเด็กน้อยสามคนนี้นะ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ อวิ๋นจื่อซีอดถลึงตาใส่หรงหวงไม่ได้ เป็นเพราะเจ้านี่ ให้นางให้กำเนิดเด็กแฝดสามคนพร้อมกันทีเดียว ทำเอาตอนนี้นางยังต้องคอยเป็นห่วงเรื่องงานแต่งงงานของสามคนนี้
“ท่านแม่ ช่วยลูกด้วย สาวที่ข้าหมายปองนอกจากจะไม่ยอมแต่งงานกับข้าแล้วยังคิดจะฉวยโอกาสหนีตอนที่ไม่มีคนอยู่” ตอนแรกหรงเจ๋อร้อนรน แต่เมื่อพูดถึงตอนท้ายก็หน้าสลด เพราะเขารู้สึกว่าสายตาของท่านแม่เขาแปลกๆ
หรงหวงเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี “เจ้าโตขนาดนี้แล้ว จีบสาวยังไม่เป็นอีกหรือ”
“…” หรงเจ๋อหน้าสลด
ถึงอย่างไรอวิ๋นจื่อซีก็รีบร้อนอยากจะอุ้มหลานสาว หรงเจ๋อเองก็เป็นหนึ่งในสองคนที่มีโอกาสมีหลานสาวให้นาง ดังนั้นแม้นางจะพูดประชดประชันบุตรชายว่าไม่ได้เรื่อง แต่ก็ยังถามว่า “คนอื่นเขาพูดหรือยังว่าเหตุใดไม่ตกลง”
“ไม่ได้พูดขอรับ”
“เจ้าก็ไม่ได้ถาม?”
“ถามแล้ว นางไม่บอกขอรับ” หรงเจ๋อทุกข์ใจ
อวิ๋นจื่อซีช่วยไม่ได้ ได้แต่พูดว่า “เอาเถิด แม่จะช่วยถามแม่นางให้เจ้าเอง”
“ได้ขอรับ ขอบคุณท่านแม่” หรงเจ๋อหน้าระรื่นทันที ความรู้สึกเหมือนว่ามีท่านแม่ออกโรงทุกอย่างจะคลี่คลาย
ทว่าสองแม่ลูกเพิ่งจะตกลงกันว่าจะไปถามลองเชิงแม่นางแอนนา หรงหวงกลับขมวดคิ้วและจู่ๆ ก็เรียกเขาตัวน้อยออกมาจากระหว่างคิ้วตนด้วยพลังวิเศษ
อวิ๋นจื่อซีเห็นดังนั้นก็ชะงักฝีเท้าลง ทำเอานางกังวลไปด้วย กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรอีก มิเช่นนั้นเหตุใดหวงหวงจึงทำเช่นนี้
“อ้ะ”
เสียงหน่อมแน้มของเด็กน้อยกลับดังขึ้นในครานี้
จากนั้น…
หึ่ง
ลำแสงสีขาวปรากฎขึ้นเหนือท้องฟ้า
เสียงดุจพระพุทธเจ้าของหรงหวงค่อยๆ ดังขึ้นทีละคำ “ด่านเคราะห์ของน้องสี่ปรากฏแล้ว”