อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าขุมพลังของสตรีผู้นี้จะแกร่งกล้าเพียงใด ภายใต้การคุ้มครองของกระบี่ไท่ชาง นางถูกกำหนดให้ไม่สามารถทำร้ายเยี่ยนอวี๋ได้ เยี่ยนอวี๋ยืนนิ่งพลางสัมผัสถึงนางสนมในวังหลังของต้าซย่าที่ตอนนี้ได้ยืนขึ้นด้วยความระแวดระวัง
แต่อีกฝ่ายสามารถจ้องไปที่จิตสำนึกและตำแหน่งที่ยืนอยู่ของเยี่ยนอวี๋ได้! ตวาดอย่างฉุนเฉียว “นั่นใคร ออกมา! ข้าเห็นเจ้าแล้ว! ถ้ายังไม่ออกมาอีก อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
แต่เยี่ยนอวี๋ไม่ตอบใดๆ นางไม่มีทางเผยตัวตน แม้ว่าทิศทางที่อีกฝ่ายกำลังจ้องมองจะเป็นสถานที่ที่จิตสำนึกของนางยืนอยู่จริงๆ
“เหนียงเหนียง!” แต่ข้างนอกตำหนัก มีเสียงตื่นตระหนกดังขึ้นว่า “เหนียงเหนียง ท่านเป็นอะไรไปหรือเพคะ”
เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่ามีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ด้านนอก เห็นได้ว่านางสนมคนนี้เป็นที่โปรดปรานมาก แต่ไม่ตรงกับข้อมูลของราชสำนักที่นางให้เม่ยเอ๋อร์ไปตรวจสอบ
ตามข่าวที่เยี่ยนอวี๋ได้รับมา จักรพรรดิหยวนคังแห่งต้าซย่า พระองค์ไม่เคยโปรดปราณนางสนมคนไหนเป็นพิเศษ ถึงขนาดที่ไปรวบรวมหญิงงามจากทุกหนทุกแห่งมาอย่างโจ่งแจ้ง ราวกับว่าเขาไม่พึงใจนางสนมที่อยู่ในวังหลวงเลย
แต่เยี่ยนอวี๋ก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่นาง ‘เห็น’ ในตอนนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นนางเพียงแค่ต้องระมัดระวังว่านางสนมคนใดจะเป็นที่โปรดปรานในอนาคตอันใกล้ และทุกอย่างจะถูกเปิดเผย
…
ขณะที่เยี่ยนอวี๋กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ แท้จริงแล้วนางสนมที่หานางไม่พบได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะตามหานาง และเปิดประตูวังเพื่อให้กลุ่มทหารองครักษ์เข้าไปค้นหาในวังหลวง
เยี่ยนอวี๋ยังไม่จากไป นางต้องการฟังข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิด แต่บทสนทนาต่อไปนี้ไม่มีความหมายสำหรับนาง ดังนั้นนางจึงถอนจิตสำนึกกลับมายังร่างปัจจุบัน
พรึบบบ เยี่ยนอวี๋ตัวจริง หลังจากจิตสำนึกที่หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้กลับเข้ามาสู่ร่าง นางอาเจียนออกมาเป็นเลือดเพราะได้รับผลกระทบ ขุมพลังเคล็ดวิชาต้องห้ามของฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งเกินไป และร่างกายที่อ่อนแอของนางก็ทนไม่ไหว
“อ๊ะ!” เจ้าตัวเล็กตกใจลืมตาขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาสัมผัสได้ว่าท่านแม่คนงามของเขาบาดเจ็บ เขาอยากจะลุกขึ้นมาดู
แต่เยี่ยนอวี๋ได้ยกมือขึ้นแล้วจับศีรษะอันโล้นเกลี้ยงน้อยๆ ของเขา “แม่ไม่เป็นไร นอนเถอะ”
“อา?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตื่นแล้วไม่ยอมกลับไปนอน เขายังคงนอนขยี้ตา จากนั้นตื่นขึ้นและมองท่านแม่คนงามของเขา
เยี่ยนอวี๋มองไปที่ดวงตาสีดำที่ใสสะอาดของลูกชาย พลันจิตใต้สำนึกก็นึกไปถึงเลือดเนื้อก้อนนั้น เลือดเนื้อก้อนนั้นไม่มีวันได้ลืมตาดูโลกใบนี้
“เสี่ยวเป่า” หัวใจของเยี่ยนอวี๋กระตุก นางอุ้มลูกที่น่ารักขึ้นมาและตระกองกอดเขาไว้ในอ้อมแขนของนาง นึกไม่ออกว่าจริงๆ ว่าเยี่ยนจื่ออวี๋ที่ถูกบังคับทำแท้งจะเจ็บปวดแค่ไหน
ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก ความสัมพันธ์ระหว่างสายเลือด ถูกตัดขาดอย่างไร้ความปรานีและโหดร้าย
“พวกเขาต้องชดใช้” เยี่ยนอวี๋พูดเบาๆ ดวงตาที่สวยงามของนางก็หม่นแสงลง
“อา?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าถูๆ ไถๆ มารดาของตน เงยศีรษะเล็กๆ ขึ้นมองที่มารดา และถามด้วยความสงสัย “อะเนะเนะ?”
“ไม่เป็นไร” เยี่ยนอวี๋จูบใบหน้าที่อ่อนนุ่มของลูก จากนั้นจึงสัมผัสศีรษะโล้นเล็กๆ ของลูกเบาๆ ความไม่สบายและความเจ็บปวดในใจของนางก็ค่อยๆ หายไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็จูบลูกอีกครั้งและพูดว่า “แม่ยังต้องดูอะไรอีกหน่อยเสี่ยวเป่านอนก่อนสักประเดี๋ยวดีหรือไม่”
“…” เยี่ยนเสี่ยวเป่านอนอยู่ในอ้อมแขนของมารดาโดยไม่พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการไปไกลจากอ้อมกอดอันหอมหวานของท่านแม่คนงามของเขา
นั่นทำให้เยี่ยนอวี๋หัวเราะเบาๆ นางจึงไม่ได้อุ้มลูกกลับนอนไปที่เตียงเล็ก ใช้มือข้างหนึ่งจับศีรษะโล้นเกลี้ยงน้อยๆ ของลูก ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจับร่างกายที่อ่อนนุ่มของเขา พร้อมกับพูดว่า “ถ้าเช่นนั้นเสี่ยวเป่าอย่าเพิ่งขยับ แม่จะอุ้ม เจ้าลองดู”
“อ้า!” เยี่ยนเสี่ยวเลิก ‘แสร้งทำเป็นตาย’ แล้วขยับเข้าไปในอ้อมอกของมารดาเพื่อหาท่าทางที่สบายที่สุด และบอกว่าเขาจะไม่ขยับอีกต่อไป “อ๊ะเนะเนะ!”
เยี่ยนอวี๋จึงอุ้มลูก ปลดปล่อยจิตสำนึกอีกครั้ง และ ‘ดู’ ชีวิตที่เกิดใหม่อีกครั้งของเยี่ยนจื่ออวี๋ นางอยากรู้ว่าแม่นางน้อยน้อยเกิดใหม่ได้อย่างไร
แต่จิตสำนึกเพิ่งจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดเท่านั้น นางก็ถูกจับได้อย่างเฉียบไว! ขุมพลังแห่งความมืดจากทางเหนือกลุ่มหนึ่งพุ่งมารวมตัวกันที่นาง
อ๊ะ เยี่ยนอวี๋อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ตื่นแล้วจริงๆ ถึงกับคิดจะอาศัยเส้นใยจิตสำนึกของข้ามาหาเบาะแสตัวตนของข้าเชียวหรือ”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เยี่ยนอวี๋จะให้บทเรียนอย่างแน่นอน!
แต่ตอนนี้ เมื่อพิจารณาจากคนรอบข้างแล้ว เยี่ยนอวี๋ไม่ได้ปล่อยขุมพลังโต้กลับ แต่สงบสติอารมณ์ของนางกลับคืนมา ตั้งใจที่จะ ‘มอง’ เหตุการณ์หลังจากวันนั้น
นางไม่รู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของอีกฝ่าย และนางไม่ต้องการทิ้งอะไรให้อีกฝ่ายสามารถค้นหาร่องรอยของนางได้ แม้ว่าจะอยู่ในชาติที่แล้วก็ตาม
ดังนั้นเยี่ยนอวี๋จึงดึงจิตสำนึกกลับมาได้อย่างรวดเร็ว นางลูบลูกที่อยู่นิ่งๆ ไม่ไหวติง บีบแก้มนุ่มนิ่มพร้อมกับกล่าวว่า “เสี่ยวเป่าขยับได้แล้วจ้ะ”
“อ้า!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากอดมือมารดาอย่างมีชีวิตชีวา เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า “อะเน้ะเน้ะ” ท่านเสร็จธุระแล้วหรือ ไปจับท่านพ่อรูปงามกันได้แล้วสิ
เยี่ยนอวี๋จึงอุ้มร่างๆ เล็กๆ อันนุ่มนิ่มของลูกแล้วยืนขึ้น และเงยหน้าขึ้นมองกระบี่ไท่ชาง ซึ่งฝ่ายหลังเข้าใจทันที ปล่อยเสียง หึ่งงง อย่างไม่เต็มใจ
มันรู้ว่ามันจะถูกแยกออกจากเจ้านายของมันชั่วคราว
เยี่ยนอวี๋พูดโดยไม่ลังเลใดๆ “ไปเถอะ ไปรอข้า”
หึ่งงง กระบี่ไท่ชางที่ค่อยๆ หายไปพร้อมกับเสียงหึ่งๆ มันกำลังจะซ่อนกลับเข้าไปในความว่างเปล่าอีกครั้ง แต่เพียงครึ่งทาง ดวงตาของเยี่ยนอวี๋ก็มืดมนทันที!
ในขณะเดียวกัน ขุมพลังแห่งความมืดจากทางเหนือกลุ่มหนึ่ง! มันสำรวจเข้ามาถึงยังต้าฮวงแห่งนี้แล้ว และกำลังจะเข้าใกล้ม่านวงแหวนที่กระบี่ไท่ชางปลดปล่อยออกมา กำลังจะแตะต้องม่านวงแหวนแล้ว
กระบี่ไท่ชางสว่างวาบขึ้นทันที!
“ไปให้พ้น” น้ำเสียงอันเยือกเย็นสง่างามดั่งเสียงพิณดังออกมาอีกครั้ง
ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนัก เขาไม่เพียงแต่โบกสะบัดแขนเสื้อ แต่ยังใช้ขุมพลังบดขยี้แสงแห่งความมืดที่เข้ามาด้วยแสงสีม่วงอ่อนๆ ที่เขาปลดปล่อยออกมา และนำมันกลับไปสู่ตี้ชิวแห่งเมืองหลวง
นั่นทำให้ดวงตาที่งดงามของเยี่ยนอวี๋เป็นประกาย…