ตอนที่ 100 จับพ่อคนงามไว้สิ!
กู้หยวนหมิงที่กำลังจ้องมองพื้นดินนั้นกลับไม่สามารถเห็นแสงสีม่วงระยิบระยับที่ไหลล้นออกมาได้ แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองเห็น! เขาจับมือของเม่ยเอ๋อร์ไว้แน่น
“ใช่แล้ว” เยี่ยนจื่อเสาตอบ “อาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ถึงแม้จะเป็นห่วงน้องสาวมาก แต่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมาหลายครั้ง เขาก็สามารถยับยั้งความรู้สึกของตนเองได้ด้วยความตระหนักรู้ที่เกิดขึ้น น้องเล็กไม่ใช่น้องเล็กผู้ ‘อ่อนแอ’ ที่ต้องคอยปกป้องตลอดเวลาคนนั้นอีกแล้ว
ถึงแม้การรับรู้เรื่องนี้จะทำให้เยี่ยนจื่อเสาปวดใจยิ่งกว่าเดิมก็ตาม แต่เขาก็รู้ดีว่า ทั้งหมดนี้จะต้องเกิดขึ้นในวันหนึ่ง ตั้งแต่ตอนที่เขาไม่สามารถอยู่ข้างกายนางเมื่อครั้งน้องเล็กต้องการเขามากที่สุดแล้ว
เขาเองก็ดีใจที่เห็นน้องเล็กเติบโต ถึงแม้ว่าเขาเองก็เหมือนท่านพ่อที่ไม่อยากเห็นการเติบโตเพราะถูกบีบบังคับเช่นนี้ แต่ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถปกป้องนางได้ดี เช่นนั้น…
พวกเขาก็ต้องทำให้นางเติบโตได้ดีกว่าเดิม เก่งกว่าเดิม แข็งแกร่งกว่าเดิม ใช้ความพยายามทั้งหมดช่วยนางไปได้สูงขึ้นและดีขึ้น ทำให้อันตรายทุกอย่างไม่สามารถเอื้อมถึงนางได้
และในขณะที่เยี่ยนจื่อเสาทอดถอนใจกับตนเองนั้น กู้หยวนหมิงก็ขมวดคิ้วถามขึ้นว่า “ข้าสัมผัสอะไรไม่ได้เลย พวกเจ้าล่ะ”
“ข้าก็ไม่ได้เช่นกันขอรับ” เอ้อร์เหมาตอบอย่างตรงไปตรงมา
กู้หยวนหมิงจึงมองไปที่เม่ยเอ๋อร์ เม่ยเอ๋อร์ก็ส่ายศีรษะอย่างถือเป็นการไว้หน้าเขา
ส่วนอินหลิวเฟิงนั้นได้ตกอยู่ในภวังค์ตกตะลึงเสียแล้ว ท่าทางเหม่อลอยเช่นนั้นทำให้กู้หยวนหมิงหมดคำพูด เขามองกลับมาที่เดิม
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าส่งเสียงร้อง เพราะเขาพบว่ากลิ่นอายของพ่อคนงามของเขารุนแรงขึ้นแล้ว เขาพยายามดิ้นรนเอื้อมไปข้างหน้า แต่ด้วยหน้าที่เม่ยเอ๋อร์จึงกอดเขาไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงจับเม่ยเอ๋อร์อย่างร้อนรน “อ้ะเนะเนะ” ปล่อยเสี่ยวเป่าลงไปนะ
เสียดายที่เม่ยเอ่อร์ไม่เข้าใจ
ในขณะนั้นเอง
บริเวณที่กระบี่ไท่ชางซ่อนตัว เงาแสงสีม่วงอร่ามก็ปรากฏขึ้น ทำเอากระบี่ไท่ชางตกใจส่งเสียง วิ้ง ไม่หยุด และมันก็อยากจะหายตัวไปจากพื้นที่ตรงนี้ทันที
แต่เมื่อกระบี่ไท่ชางส่งเสียง แสงบริสุทธิ์อร่ามวงหนึ่งก็มัดตัวมัน รอบตัวมีรังสีสีม่วงแผ่ซ่าน
วิ้ง! ทันใดนั้นกระบี่ไท่ชางก็เปล่งรังสีดุร้ายน่าสะพรึง ทั่วทั้งบริเวณแทบจะพังทลาย แต่ความผิดปกติเช่นนี้ ก็ถูกเงาใครบางคนที่ปรากฏขึ้นควบคุมไว้
“เจ้าอย่าตระหนก” เงาร่างที่ควบคุมกระบี่ไท่ชางเผยร่างเดิมออกมา และการปรากฏตัวของเขานั้น ก็ทำให้กระบี่ไท่ชางชะงักงัน
มันมองชายหนุ่มผมดำสวมชุดสีดำเข้มตรงหน้าท่านนี้ด้วยความงงงัน รู้สึกคุ้นหน้านัก แต่มันยังคงระแวดระวัง ตั้งท่าพร้อมโจมตีทุกเมื่อ
ต้าซือมิ่งราชสำนักที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่เองก็มิได้ทำเรื่องเกินเลยแต่อย่างใด แต่เขารู้สึกได้ว่า เจ้าของของกระบี่เล่มนี้กำลังรุดมา
“ไหวพริบดีนี่” ต้าซือมิ่งราชสำนักเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่กระบี่ไท่ชาง พูดด้วยเสียงไพเราะดุจเสียงพิณ “ไปกับข้า”
วิ้ง! กระบี่ไท่ชางย่อมคัดค้าน เพราะมันมีเจ้าของเพียงคนเดียว
แต่แล้วต้าซือมิ่งก็ร่ายคาถาโบราณท่อนหนึ่งใส่กระบี่ไท่ชาง ทำให้ความเป็นปรปักษ์ของกระบี่ไท่ชางมลายหายไปในทันที จากนั้น…
เมื่อเยี่ยนอวี๋ตามมาถึง นางก็เห็นแสงสีม่วงกระเพื่อมกำลังพัดม้วนกระบี่ไท่ชางของนางไป และกระบี่ไท่ชางเองก็เหมือนจะมิได้ขัดขืน?
“บังอาจ!” เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้ว สายตาสาดประกายอำมหิต นางกระโดดเหินเข้าหาแสงสีม่วงกระเพื่อมแสงนั้น บริเวณนั้นพังทลายต่อเนื่องอย่างไร้ซึ่งการควบคุม
และนี่ก็คือต้นตอที่เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างบนมองเห็นแสงวิบวับ
ทว่าเยี่ยนอวี๋ไม่สามารถหยุดต้าซือมิ่งผู้ลึกลับท่านนั้นไว้ได้ เขายังคงหายไปในความมืดมิด
“เวหาสะกดรอย!” เยี่ยนอวี๋ตามเข้าไปในความมืดอย่างไม่ยอมแพ้ ใต้เท้าปรากฏรอยคลื่นสีม่วงดำกระเพื่อมเป็นวง และทุกๆ ที่ที่นางเดินผ่าน ดอกไม้ต้นหญ้าหลากหลายแปลกตาแสนงามก็บานสะพรั่ง
หากมีเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอยู่ที่นี่ พวกเขาย่อมรู้ว่า นั่นคือดอกไม้ต้นหญ้าที่ถูกเสกสร้างขึ้นครั้งเริ่มแรกสร้างโลก พวกมันมีชีวิตอยู่ก่อนจะเกิดความโกลาหล
ส่วนเวหาสะกดรอย ท่าร่างที่เยี่ยนอวี๋คิดค้นขึ้นเองนั้น เป็นท่าที่ใช้ดอกไม้ต้นหญ้าแปลกตาเก่าแก่เหล่านี้ทำให้นางทะลวงทุกอุปสรรค เดินไปได้ทุกๆ ที่ที่นางต้องการไป
น่าเสียดายที่พลังของนางในตอนนี้ ไม่สามารถใช้ท่าร่างเวหาสะกดรอยได้เป็นเวลานานนัก ดังนั้น…
“คลาดกันเสียแล้ว?” เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม “คนคนนี้สามารถหลบหลีกท่าร่างเวหาสะกดรอยได้เช่นนั้นหรือ”
เยี่ยนอวี๋ไม่คิดเลยว่า ราชสำนักในโลกมนุษย์น้อยๆ แห่งนี้ จะมีบุคคลเช่นนี้อยู่ด้วย แต่เมื่อคำนึงถึงวิชาต้องห้ามในตำนานมากมายที่ปรากฏในราชสำนักแห่งนี้… เยี่ยนอวี๋ก็ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
ทว่าสิ่งที่เยี่ยนอวี๋ไม่รู้คือ ในขณะที่นางไล่ตามเขาไม่ทันนั้น ต้าซือมิ่งราชสำนักท่านนั้นก็มุดออกมาจากที่เดิมแล้ว
“อ้ะ!” เมื่อเยี่ยนเสี่ยวเป่ารับรู้ได้ เขาก็ปล่อยพลังออกมาเต็มเปี่ยม ทลายการคุมขังของเม่ยเอ๋อร์ออกในทันที และกระโดดเข้าใส่แสงสีม่วงกระเพื่อมที่ไม่มีคนรอบข้างคนใดเห็น ซึ่งก็คือต้าซือมิ่งราชสำนักที่เพิ่งมุดออกมาจากในดินนั่นเอง…ทำเอาต้าซือมิ่ง พ่อของลูกที่เพิ่งหนีออกมางุนงงไปหมด!
ต้าซือมิ่งราชสำนักเองก็ไม่คิดเลยว่า เขาที่แม้กระทั่งแม่ของลูกก็หลบหนีมาได้แล้ว แต่สุดท้ายกลับถูกเด็กน้อยจับเข้าเต็มเปา
โชคดีที่เขาตั้งสติได้ทัน ในขณะที่เจ้าก้อนน้อยกระโดดเข้าใส่เขา เขาก็ใช้วิชาปลีกตัวตัดขาดจากภายนอกทันที
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงซบเข้าอกพ่อรูปงามของเขาอย่างมีความสุขทันที จากนั้นเขาก็จับบิดาของเขาไว้แน่น “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…”