เสียงดาบเล่มใหญ่ตัดผ่านอากาศส่งเสียงดังน่ากลัว พลังอำมหิตที่กวาดราบทุกสิ่งนั้นทำเอาหยางเทียนชื่อที่ยื่นมือออกไปแล้วรีบดึงมือกลับมาโดยสัญชาติญาณทันที จะกล้าลองดีกับคมดาบได้อย่างไร
ฟิ้ว…
จังหวะที่หยางเทียนชื่อหดมือกลับไป แสงสีรุ้งสายนั้นก็หายวับไปในทันที หยางเทียนชื่อทำได้เพียงมองดูเฉยๆ ในเมื่อเขามิสามารถทำอะไรได้แล้ว
ดาบเล่มใหญ่ที่ลอยวนกลับมาในมือของเม่ยเอ๋อร์ก็บังเอิญฟันโดนสัตว์ประหลาดโอวปาซือเข้า สัตว์ประหลาดพ่นหินหลอมเหลวกลิ่นคาวออกมาอีกครั้ง ทุกอย่างคำนวณไว้อย่างลงตัว…
ฟิ้ว…
แสงสีรุ้งที่หายวับไปก็พุ่งไปทางทิศตะวันตกของสำนักชางอู๋ ส่งสารไปให้เยี่ยนอวี๋
ในขณะเดียวกัน กลุ่มของเยี่ยนอวี๋ก็ไปถึงแหล่งซ่องสุมลึกลับของสำนักคุนอู๋โดยมีกู้หยวนหมิงเป็นผู้นำทาง ทว่าแหล่งซ่องสุมนี้ถูกทำลายไปแล้ว
อินหลิวเฟิงมองซากปรักหักพังที่ถูกทำลายไปเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “ดูท่าหลังจากที่พวกเขาใช้ยาแปรสภาพมนุษย์วานรหวาไหวแล้ว ก็เก็บกวาดเสียเรียบร้อย”
“ข้าไม่ทราบเรื่องที่พวกเขาทำลายที่แห่งนี้เลย” กู้หยวนหมิงมองไปที่เยี่ยนอวี๋อย่างรู้สึกผิด เยี่ยนอวี๋กลับไม่สนใจ นางเดินเข้าไปท่ามกลางซากปรักหักพังแล้ว
“จิ๊ด!” ลูกหนูสีดำที่ถูกเยี่ยนเสี่ยวเป่าจับไว้ เมื่อมันเข้าไปในซากปรักหักพังแล้ว ก็ส่งเสียงร้องจิ๊ดๆ อย่างกระสับกระส่าย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าคิดว่ามันอยากหนีจึงจับหางของมันไว้แน่นกว่าเดิม ทำเอาลูกหนูที่คิดหนีถูกเขากำไว้แน่นจนหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวด
“จิ๊ด!” ลูกหนูโมโหมาก มันอ้าปากจะกัดเยี่ยนเสี่ยวเป่า ครั้นเมื่อมันกำลังจะงับลงไปก็ถูกเยี่ยนเสี่ยวเป่าใช้ฝ่ามือตบจนสลบไป
“ฮึ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหน้ามุ่ย ท่าทีดุดัน
“…อืม” อินหลิวเฟิงเห็นแล้วก็ขนหัวลุก เขาพลันรู้สึกว่าสักวันหนึ่งฝ่ามือนี้อาจจะอยู่บนศีรษะเขาก็ได้ จนเขาต้องส่ายศีรษะเพื่อไล่ความคิดประหลาดนี้ออกไปทันที
“จิ๊ด!” ลูกหนูดื้อรั้นตัวนั้นก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง มันชี้ไปทางซากปรักหักพัง และเบิกดวงตาประกายแสงสีแดงระเรื่อ มือกอดหน้าอกอย่างโอหัง ท่าทีราวกับกำลังบอกว่า ‘ไม่ฟังข้า พวกเจ้าจะซวย’
เพียะ! เยี่ยนเสี่ยวเป่าตบมันอีกครั้ง
อินหลิวเฟิง “…”
“ข้างล่างมีอะไรจริงๆ หรือไม่” เยี่ยนจื่อเสาถามขึ้นจากด้านข้าง
“จิ๊ด!” ลูกหนูที่กระโดดขึ้นมาก็มองไปที่เยี่ยนจื่อเสา อยากจะชมเขา แต่ถูกดึงหางกลับไป ทำเอามันโกรธจนส่งเสียงร้องจิ๊ดๆ
“มีสิ่งลึกลับซ่อนอยู่จริงๆ” เยี่ยนอวี๋โบกมือเลื่อนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ข้างหน้าออก
เยี่ยนจื่อเสารู้ทันที เขาปล่อยฝ่ามือแยกพื้นดินออก จากนั้นก็เห็นทางเข้าอุโมงค์ตามคาด?!
“ลองลงไปดู” เอ้อร์เหมาเดินนำหน้าคนอื่น คนอื่นๆ เดินตามหลังเข้าไป
อินหลิวเฟิงสำรวจรอบทิศ เขาเห็นร่องรอยการขุดเจาะที่เห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือมนุษย์ จึงถอนหายใจพูดว่า “ลึกลับจริงๆ ด้วย”
“จิ๊ดๆ!” ลูกหนูแยกเขี้ยวใส่เยี่ยนเสี่ยวเป่า ครั้งนี้เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่ได้ตบมัน เพียงแค่มองค้อนใส่
“จิ๊ดๆ” ลูกหนูเกามือของเยี่ยนเสี่ยวเป่าเบาๆ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้อง “อ้ะ” และปล่อยลูกหนูหลุดมือไป
อินหลิวเฟิง “???”
ลูกหนูที่มุดตัวออกมาได้ก็วิ่งหนีไปอย่างไร้ร่องรอยทันที ทำเอากู้หยวนหมิงตกตะลึง “เจ้าสัตว์น้อยตัวนี้คล่องแคล่วจริงๆ !”
“ตามมันไป” เยี่ยนอวี๋พูด
“หืม?” อินหลิวเฟิงไม่เข้าใจ “มันหนีไปแล้วมิใช่หรือ ตามมันไปหรือ” หมายถึงจะให้หนีไปด้วยด้วยกันหรือ
น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของอินหลิวเฟิง แม้แต่เอ้อร์เหมาที่เดินอยู่ข้างหน้าก็รู้ว่าช่วงเวลาเช่นนี้มิควรเผยสติปัญญาต่ำต้อยของตน ตามไปก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า
ผ่านไปไม่นาน หลังจากที่ทุกคนที่ตามลูกหนูไปผ่านเส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดแล้วก็เดินเข้าไปถึงถ้ำใต้ดินสำเร็จ และพบว่ามีประตูต้องห้ามที่ไม่ธรรมดากั้นอยู่!
“มันนำทางหรือนี่…” อินหลิวเฟิงมึนงงไปหมดแล้ว
“จิ๊ด!” ลูกหนูยืนมือเท้าเอวอย่างโอหังอยู่หน้าประตู ท่าทีราวกับกำลังบอกว่า ‘ข้าบอกแล้ว ข้างล่างมีบางสิ่งบางอย่าง พวกเจ้าไม่ยอมเชื่อ’
ทว่ามันเพิ่งส่งเสียงร้องไป สิ่งที่คล้ายหัวงูพลันปรากฏตัวขึ้นและขู่เสียง ฟ่อ ใส่!
ทุกคนตกใจสะดุ้งเฮือก อินหลิวเฟิงเดินถอยไปข้างหลังศิษย์เซิ่งเหลียนสองนายที่ถูกมัดลากเข้าไป ท่าทีขนหัวลุก “บิดามันเถอะ! มีงูอีกหรือนี่”
“ไม่ใช่ของจริง เป็นเพียงค่ายกล” กู้หยวนหมิงมองภาพลวงตาข้างหน้า เขาสามารถแยกแยะได้ พูดขึ้นว่า “นี่คือค่ายกลมายาอสรพิษของสำนักคุนอู๋”
“เจ้าทำลายได้หรือ” อินหลิวเฟิงถาม
“…ไม่ได้” กู้หยวนหมิงส่ายศีรษะ “นี่คือวิชาของสำนักคุนอู๋ที่ไม่เปิดเผยต่อภายนอก แม้สำนักของข้าพยายามศึกษามาโดยตลอด แต่วิชานี้มีความพิสดารมากนัก ยากที่จะทำลาย”
“พิสดารแค่ไหนกันเชียว” เยี่ยนอวี๋พูดอย่างตรงไหตรงมา นางอุ้มเด็กน้อยเดินเข้าไปในประตูต้องห้ามบานนั้นแล้ว
“เสี่ยว… ศิษย์น้อง…” เยี่ยนจื่อเสากำลังจะตามไป ถึงแม้เขารู้ว่าน้องสาวมีวิธีอยู่แล้ว จึงเดินเข้าไปอย่างไม่สนใจสิ่งใด แต่เขาก็ยังอดเป็นห่วงด้วยสัญชาติญาณมิได้
ทว่าเยี่ยนอวี๋เพิ่งเดินเข้าไป ร่างงูที่แต่เดิมสายตาดุร้ายตัวนั้นก็มลายหายกลายเป็นควันเพราะการเข้าใกล้ของนาง ค่ายกลมายาอสรพิษสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
“นี่มัน…” กู้หยวนหมิงตะลึงงันอีกครั้ง นี่คือค่ายกลมายาอสรพิษที่ผู้อาวุโสสำนักของพวกเขาไม่สามารถไขได้เชียวนะ! พังทลายได้ง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ
กู้หยวนหมิงคิดไม่ตก ทว่าก็มิได้ขัดขวางการเดินเข้าไปของเยี่ยนอวี๋ เพียงแต่ในขณะที่นางกำลังจะเดินเข้าไปในประตูบานนั้น แสงสีรุ้งสายหนึ่งก็แวบผ่านทุกคน พุ่งตรงไปทางเยี่ยนอวี๋!
“ระวัง!” เยี่ยนจื่อเสาขวางหน้าแสงสีรุ้งสายนั้นไว้ด้วยสัญชาติญาณ ทุกคนก็ปล่อยคลื่นพลังคุ้มกันอันทรงพลังออกมา
ทว่าแสงสีรุ้งพลันแตกดัง ปัง กลายเป็นคำพูดหนึ่ง ‘คุณหนูใหญ่! สำนักชางอู๋มีเหตุด่วน มีตาแก่ขั้นถอดจิตมาเยือนล่วงหน้า สงสัยว่าเป็นหัวขโมยเฒ่าของคุนอู๋’
นี่มัน…