อินหลิวเฟิงและกู้หยวนหมิงต่างมองข้อความตรงหน้าที่ส่งมาจากเม่ยเอ๋อร์อย่าไม่อยากจะเชื่อนัก พวกเขาพูดขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันว่า “สำนักคุณอู๋ไร้ยางอายเช่นนี้เลยหรือ”
ถึงแม้ทุกคนรู้ว่า สำนักคุนอู๋คอยจับจ้องสำนักชางอู๋อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสำนักชางอู๋แต่เดิมเป็นผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ถูกตัดชื่อออกจากสำนักคุนอู๋
ทว่าผู้อาวุโสท่านนี้กลับเป็นยอดคน หลังจากที่ถูกตัดชื่อออกแล้ว เขาไม่เพียงสร้างวิชาลับชางอู๋แห่งต้าเซี่ยอันเลื่องชื่อ เขายังก่อตั้งสำนักชางอู๋ขึ้น และผลักดันส่งเสริมให้สำนักชางอู๋กลายเป็นหนึ่งในเจ็ดสำนักที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ต้าเซี่ย ในขณะที่สำนักคุนอู๋ยังมิสามารถทำได้
บัดนี้ หลังจากผ่านไปหลายปี หลังจากที่บรรพบุรุษยอดคนของสำนักชางอู๋ท่านนั้นจากไป นอกจากสำนักคุนอู๋จะนั่งไม่ติดแล้ว ยังหน้าด้านส่งผู้มีความสามารถขั้นถอดจิตมาเช่นนี้อีก…
“ข้าจำได้ว่า ราชสำนักมีกฎว่า ผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิตมิสามารถลงมือได้ หากไม่มีคำบัญชาเบื้องบนมิใช่หรือขอรับ” เอ้อร์เหมาถามด้วยความงุนงง
“จึงบอกว่าสำนักคุนอู๋ไร้ยางอายอยู่นี่ไงเล่า” อินหลิวเฟิงไม่คิดเลยว่า สำนักคุนอู๋จะใช้วิธีน่าอายเช่นนี้เพื่อแย่งชิงวิชาลับชางอู๋
ทว่า เยี่ยนอวี๋กลับพูดอย่างนิ่งเรียบว่า “เขาอาจจะได้รับราชโองการจากจักพรรดิก็เป็นได้”
เมื่อคิดถึงสิ่งที่ท่านพ่อใจเปราะและเยี่ยนจื่ออวี๋ต้องเจอในชีวิตที่แล้ว เยี่ยนอวี๋ก็มั่นใจว่า การกระทำของสำนักคุนอู๋ต้องได้รับความช่วยเหลือจากราชสำนักเป็นแน่
เมื่ออินหลิวเฟิงและกู้หยวนหมิงได้ยินดังนั้น พวกเขาก็เงียบ
“ศิษย์น้อง…” เยี่ยนจื่อเสามองไปที่น้องสาวอย่างตกตะลึง เขารู้ดีว่าหากราชสำนักยอมรับการกระทำของสำนักคุนอู๋ เช่นนั้นเกรงว่าสำนักชางอู๋กำลังตกที่นั่งลำบาก ส่วนเขา เขา…
“มิต้องคิดมาก” เยี่ยนอวี๋หันไปมองพี่รองก่อนจะพูดขึ้น จากนั้นนางก็เดินเข้าไปในประตู
เยี่ยนจื่อเสาสงบสติอารมณ์ ก่อนจะตามเข้าไป แต่ในใจกลับเป็นกังวลนัก “ขั้นถอดจิตหรือ เม่ยเอ๋อร์จะเสียเปรียบหรือไม่นะ”
“ไม่หรอก แต่เราเองก็ต้องเร่งมือเสียหน่อย สำนักคุนอุ๋ไม่ได้มีเพียงผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิตคนเดียวแน่นอน” เยี่ยนอวี๋มีแผนการในใจ พลังจิตวิญญาณของนางแผ่ซ่าน
“เป็นจุดรวมตัวใต้ดินที่ใหญ่มากจริงๆ เสียดายที่มีเพียงความว่างเปล่า” อินหลิวเฟิงมองขนาดของสิ่งก่อสร้างใต้ดิน และชั้นวางสิ่งของที่ว่างเปล่ารอบทิศ เขาก็รู้ทันทีว่าถึงแม้ซากปรักหักพังที่อยู่ข้างบนมีไว้เพื่อตบตาผู้คน แต่จุดรวมตัวที่นี่ถูกรื้อถอนไปแล้วจริงๆ
“มีห้องปรุงยาไม่น้อยเลย” กู้หยวนหมิงพบว่ามีหม้อยาหลายใบ และหม้อยาเหล่านี้มีร่องรอยเพิ่งถูกใช้
เยี่ยนอวี๋จึงจับจ้องไปที่หม้อยาใบหนึ่ง ก่อนจะกระโดดลงไปพร้อมมือที่อุ้มเด็กน้อยไว้เพื่อสำรวจในหม้อ นางก็รู้ทันทีว่า หม้อยาใบนี้ใช้ปรุงยาแปรสภาพมนุษย์วานรหวาไหวมาก่อน
และในขณะเดียวกัน อินหลิวเฟิงก็ตะลึงงัน เมื่อเขาค้นพบว่า กูไหน่ไนท่านนี้ของเขาแผ่ซ่านกลิ่นอายพลังฝึกฌาน นี่มัน… ไม่ใช่หรอกกระมัง ก่อนหน้านี้นางไม่มีกลิ่นอายพลังฝึกฌานเลย มีเพียงคลื่นพลังจิตวิญญาณเท่านั้น!?
“นางพัฒนาได้รวดเร็วนัก” กู้หยวนหมิงพูดได้เพียงว่า ก่อนหน้านี้ที่แม่นางเยี่ยนท่านนี้อยู่ตำหนักไท่ชาง คงได้รับโอกาสอันดีเป็นแน่!
กู้หยวนหมิงอิจฉา แต่ก็รู้ว่าชะตานี้ถูกลิขิตผู้สืบทอดไว้แต่แรกแล้ว เขามีโอกาสได้ประจักษ์ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
…
และในขณะที่คุณชายทั้งสองตกตะลึงอยู่นั้น เยี่ยนอวี๋ก็พบว่า เศษกากยาในหม้อยาผิดปกติ นางจึงอดขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ “ประหลาดนัก”
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองมารดาของเขา ก่อนจะออกแรงยื่นมืออวบอ้วนออกไปลูบข้างหม้อยา เมื่อถูเศษยาจนมือเปื้อนแล้ว เขายังจะเอาเข้าปากด้วย
“ทานไม่ได้” เยี่ยนอวี๋ห้ามเด็กน้อยไว้ ก่อนจะเช็ดมือให้เด็กน้อย “เพิ่งทานอิ่มมิใช่หรือ เหตุใดยังตะกละเช่นนี้”
“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่า เสี่ยวเป่าอยากช่วยนี่นา!
เยี่ยนอวี๋ย่อมไม่ให้เสี่ยวเป่าช่วย เยี่ยนจื่อเสาที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นว่า “ข้าสัมผัสได้ว่า มันเหมือนกัน” เขาถูกบังคับให้ทานยาแปรสภาพ เขาย่อมมีสิทธิ์พูด
“ยุ่งยากเล็กน้อย” เยี่ยนอวี๋พูดพลางเก็บตัวอย่างเศษกากยา และห่อไว้เรียบร้อย ก่อนจะกระโดดออกจากหม้อยา เยี่ยนจื่อเสาตามออกไป และก็มิได้พูดเรื่องเมื่อครู่นี้ต่อไป
เยี่ยนอวี๋กลับดูเหมือนมีเรื่องหนักใจมากมาย เพราะว่านางได้กลิ่นไม่พึงประสงค์จากกากยาเหล่านี้ นางพยายามครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง…
“จิ๊ด!” ลูกหนูน้อยส่งเสียงร้องขึ้น ดึงความสนใจของเยี่ยนอวี่ไป
เอ้อร์เหมาที่เคลื่อนตัวไปคนแรก เขาก็ร้องเสียงหลง “เฮ้ย!”
“เกิดอะไรขึ้น” อินหลิวเฟิงไม่เข้าใจ ก่อนจะเคลื่อนตัวตามไป จากนั้นเขาก็ส่งเสียงร้องดังขึ้น เพราะพวกเขาเห็นไข่มโหฬารสีดำมีควันลอยอยู่รอบๆ ดูแปลกพิลึก
“แม่ง!” อินหลิวเฟิงรู้สึกว่า ช่วงนี้เขาถดถอยกลายเป็นคนไร้การศึกษาเสียแล้ว เพราะเอาแต่พ่นคำหยาบไม่หยุดหย่อนเลย
เสียงความเคลื่อนไหวราวกับหัวใจเต้น ตุบ ตุบ จากในไข่ยักษ์ใบนั้น มันยังคงใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทว่าเมื่อเยี่ยนอวี๋เดินเข้าไป ความเคลื่อนไหวนี้ก็หยุดลงในทันใด
“เอ่อ…” อินหลิวเฟิงมองไปที่เยี่ยนอวี๋ตามสัญชาติญาณ
เยี่ยนอวี๋ก็เลิกคิ้วมองไข่ยักษ์ใบนั้น นางเห็นหมอกควันสีดำรอบตัวมัน กำลังลอยกลับเข้าไปในเปลือกไข่ด้วยความเชื่องช้า
“มันกลัวเจ้า” กู้หยวนหมิงรู้ในทันที!
เยี่ยนอวี๋ก็ทราบแล้วเช่นกัน และนางก็มั่นใจว่า ไข่ฟองนี้คือการมีอยู่ที่สำคัญที่สุดของจุดรวมตัวสำนักคุนอู๋แห่งนี้ เมื่อครั้นนางกำลังจะเก็บไข่ใบนี้ใส่ในถุงวิเศษ จุดรวมตัวแห่งนี้ก็เกิดความผิดปกติขึ้น!
ฉ่า!
แซ่ดๆ…
บริเวณพื้นผิวของจุดรวมตัวแห่งนี้ ไม่เพียงแต่มีหมอกควันสีดำฟุ้งกระจาย มันยังเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ทำให้ต้าซือมิ่งราชสำนักที่ยังมีพลังจิตวิญญาณหลงเหลืออยู่ที่นี่ พบว่าเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นแล้ว “หือ?”