“ฝันไปเถอะ!”
เยี่ยนชิงไม่ยินยอม เขาปฏิเสธอย่างเฉียบขาดว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของข้าไม่แต่งงานกับสุนัขเยี่ยงเจ้าหรอก แล้วก็ข้าขอประกาศเรื่องหนึ่ง ข้ายอมรับการสู่ขอของซวงเสวียนจวินไปแล้ว ข้ามิอาจกลับคำพูดได้”
“ท่านลุง ศักดิ์ศรีของท่านสำคัญกว่าอนาคตของสำนักชางอู๋หรือ สถานการณ์ตรงหน้านั้นคับขัน ข้าคิดว่าแม้โยวตูทราบข่าวก็ต้องเข้าใจความลำบากใจของท่านเจ้าสำนักเยี่ยนที่กลับคำได้” กู้หยวนเหิงเอ่ยอย่างรอบคอบ
กู้หยวนเหิงไม่เชื่อว่า เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะขอเยี่ยนจื่ออวี๋แต่งงานมิได้! ไม่ว่าอย่างไร ครั้งนี้เขาต้องแต่งงานกับเยี่ยนจื่ออวี๋ให้จงได้
เยี่ยนซูซูคิดไม่ถึงว่า กู้หยวนเหิงยอมทำตามสัญญาที่มิอาจสำเร็จได้ เพียงเพื่อต้องการแต่งงานกับเยี่ยนจื่ออวี๋ แสดงว่ากู้หยวนเหิงรักเยี่ยนจื่ออวี๋มากจริงๆ เรื่องนี้ทำให้นางคับข้องใจนัก นางถึงกับหวังว่าเยี่ยนชิงจะยืนหยัดไม่ยินยอมต่อไป!
แต่แล้ว ผู้อาวุโสรองก็เกลี้ยกล่อมเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมมากว่า “เสี่ยวชิง หากกู้จ่างสื่อสาบานว่าจะดูแลจื่ออวี๋อย่างดี บางทีนี่ก็อาจมิใช่การสมรสที่เลวร้ายก็ได้ อีกทั้ง เจ้าเป็นบิดาของนังหนูอวี๋ สำนักเหยาไถเซียนมิอาจเมินเฉยต่อหายนะของเจ้าได้แน่ ทุกสิ่งย่อมมีทางออก”
“ใช่แล้ว เจ้าสำนัก แม้ก่อนหน้านี้กู้จ่างสื่อเคยทำเรื่องแย่ๆ มาก่อน แต่โบราณว่าไว้ว่า คนชั่วกลับใจมีค่ายิ่งกว่าทอง ทุกๆ ด้านของกู้จ่างสื่อก็เหมาะสมกับนังหนูอวี๋” ประมุขหอราชทัณฑ์พูดสำทับ
ในขณะเดียวกัน เกราะคุ้มกันเมืองก็มีประกายแสงแลบผ่าน แม้ปรมาจารย์วิญญาณจะแข็งแกร่ง แต่ก็มิอาจรับมือกับสำนักคุนอู๋ที่มาเพื่อการนี้ไหว
ครืนนน…
สายฟ้าและเพลิงไฟเหนือสำนักชางอู๋ปิดล้อมเมืองทั้งเมืองไว้แล้ว! แม้แต่ลัทธิเซิ่งเหลียนที่อยู่ติดกับเขตชางอู๋ก็มียอดฝีมือสัมผัสถึงความเคลื่อนไหวนี้ได้แล้ว
ด้วยความกดดันเช่นนี้ มีผู้อาวุโสรุ่นก่อนท่านหนึ่งอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “เสี่ยวชิง เจ้ายอมสละแม้กระทั่งชีวิตตนเองแล้ว บัดนี้เพียงแค่ต้องหาคู่ครองให้ลูกสาวของเจ้า เขายังสามารถคุ้มครองเจ้าให้ปลอดภัยได้ เหตุใดจึงลังเลเล่า”
“ใช่แล้ว ท่านลุงเยี่ยน ข้าสาบานต่อฟ้า เพียงแค่ท่านหมั้นหมายน้องจื่ออวี๋ให้ข้า ข้าจักดูแลและรักใคร่นางอย่างดี หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าผ่าตาย!” กู้หยวนเหิงกล่าว
เปรี้ยง!
ครืนนน!…
สายฟ้าน่าสะพรึงผ่าลงสำนักชางอู๋อย่างกำเริบ ทำลายสิ่งก่อสร้างไปไม่น้อย และยังมีสายฟ้าสายหนึ่งผ่าลงเหนือศีรษะของกู้หยวนเหิงจริงๆ !
แคร่ก…
เกราะคุ้มกันของสำนักชางอู๋แตกร้าวเป็นรูกว้าง!
กู้หยวนเหิงเหงื่อตกบริเวณหน้าผาก…
ผู้อาวุโสรองอดเร่งไม่ได้ “เสี่ยวชิง ยอมเขาเถิด”
“ไม่!” เยี่ยนชิงกัดฟันกรอด “ไม่มีผู้ใดบังคับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์แต่งงานกับคนที่นางไม่ชอบได้ นี่คือหลักเกณฑ์พื้นฐานของข้า! หากหลักพื้นฐานข้อนี้จะทำให้สำนักชางอู๋ล่มสลาย ข้ายินดีเป็นคนบาปของสำนักชั่วนิรันดร์!”
“เจ้า…” ผู้อาวุโสรองและคนอื่นอีกสามคนที่เกลี้ยกล่อมเยี่ยนชิงต่างหมดคำพูด
เยี่ยนชิงพูดขึ้นว่า “ขออภัย ข้าสละตำแหน่งได้บัดเดี๋ยวนี้ และไล่ตนเองออกจากสำนักได้ แต่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็จะจากสำนักไปพร้อมข้า ห้ามผู้ใดตัดสินใจงานสมรสของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์”
เยี่ยนชิงไม่เคยลืมความตั้งใจแรกเริ่มอันง่ายดายตอนที่เขาเป็นเจ้าสำนัก เขาเพียงต้องการปกป้องลูกสาวของตนเอง เพราะว่าลูกสาวเป็นแม่สาวน้อยไร้พลังแต่กำเนิด ชีวิตของนางถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องพบเจออุปสรรคมากมาย ทว่าเขาเป็นบิดาของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เขาต้องปกป้องนาง ให้นางมีชีวิตสงบสุขชั่วนิรันดร์
เมื่อหน้าที่ของเจ้าสำนักเป็นปรปักษ์กับความตั้งใตแรกเริ่มของเขา เขาย่อมมิอาจยินยอมได้!
หาก… หากเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ยังคงชอบกู้หยวนเหิงเจ้าสุนัขตัวนี้ดังเดิม เขากลั้นใจยินยอมก็ได้! ทว่าตอนนี้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่ได้ชอบเขาแล้ว ดังนั้น… เยี่ยนชิงที่พร้อมสละตำแหน่งแล้วก็พูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโสรอง ข้า…”
เยี่ยนหงชวนที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น พูดแทรกขึ้นว่า “พอแล้ว เรื่องมาถึงขั้นนี้ ยังจะปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์หรือ เสี่ยวชิง เจ้าตัดสินใจแทนเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์มิได้”
“อะไรนะ” ทุกคนงุนงง
กู้หยวนเหิงก็ชะงัก “ท่านผู้อาวุโสเยี่ยน ท่านหมายความอย่างไร”
“จื่ออวี๋เป็นศิษย์สายเลือดสำนักหมอหลวง งานสมรสของนางมิใช่สิ่งที่สำนักชางอู๋ตัดสินใจได้ อีกทั้งคุณค่าของนางอยู่เหนือป้ายกายสิทธิ์สำนักเหยาไถเซียนของเจ้ามากโข วันนี้สำนักชางอู๋ของข้าอาจสูญสลาย แต่ในวันข้างหน้าสำนักชางอู๋ของข้ายังคงยืนหยัดในเขตชางอู๋ด้วยตนเองได้”
เยี่ยนหงชวนชี้แจงอย่างสงบนิ่ง แม้การกล่าวเช่นนี้จะเร็วเกินไป ในเมื่อจวบจนบัดนี้สำนักหมอหลวงยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่เขาเชื่อเหลนสาวบ้านตนคนนี้
“ท่านผู้อาวุโสเยี่ยน…” กู้หยวนเหิงสีหน้าซีดเผือด เดิมทีเขาคิดว่าคนของสำนักชางอู๋ยังไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของเยี่ยนจื่ออวี๋ ในเมื่อราชสำนักยังไม่ออกราชโองการแต่งตั้งชัดเจน เขายอมเดิมพันเรื่องนี้เพียงเพราะเกี้ยววิหคสุริยันคันนั้น!
แต่แล้ว… เหมือนกับว่าสำนักชางอู๋จะลงเดิมพันใหญ่กว่าเขา!
กู้หยวนเหิงอ้ำอึ้งอยู่ครึ่งค่อนวัน
จวบจนตอนนี้ เยี่ยนหงชวนที่มั่นใจว่าปรมาจารย์วิญญาณมิอาจต้านทานต่อไปได้แล้ว ก็มองไปที่เหล่าศิษย์น้องสำนัก “เตรียมเปิดศึกเถิด แม้เกราะคุ้มกันจะแตกแล้ว กองทัพใต้บังคับบัญชาคุนอู๋ก็คงถูกลดทอนพลังไปไม่น้อย สำนักของเรารวมตัวอยู่ที่นี่กันครบ เหตุใดจึงต้องเกรงกลัวเล่า”
“ใช่แล้ว! เปิดสงครามมารดามันเสีย!” ประมุขหอสัตว์แห่งบรรพกาลคำราม “ข้าหมดความอดทนกับความครึ่งๆ กลางๆ เช่นนี้มานานแล้ว สู้ก็สู้! ที่นี่คือแผ่นดินของพวกเราสำนักชางอู๋ สำนักคุนอู๋อย่าริอาจคิดฝัน!”
“แต่ว่า…” ผู้อาวุโสรองกังวลเล็กน้อย เพราะว่าเขารู้ดีว่า แม้พลังของกองทัพสำนักชางอู๋จะถูกลดทอนลง แต่ก็ยังอยู่เหนือสำนักชางอู๋มากนัก!
ทว่าเขายังไม่ทันพูดออกมา กองทัพคุนอู๋ที่กำลังทะลายเกราะคุ้มกันของสำนักชางอู๋นั้น กลับเกิดความปั่นป่วนขึ้น ทะเลเพลิงและสายฟ้าหยุดชะงักงันลง จากนั้น…
ฟิ้ว!
เงาดำร่างหนึ่งปรากฏกลางอากาศ ก่อนจะยืนต่อหน้าเหล่าผู้อาวุโสสำนักชางอู๋ จากนั้น เยี่ยนหงชวนและคนอื่นๆ ที่กำลังตะลึงงันนั้นก็เห็น…