เม่ยเอ๋อร์มาแล้ว และพาเชลยคนหนึ่งมาด้วย เยี่ยนชิงรู้จักเชลยคนนี้ดี “หยางถิงอวิ๋น?”
“อะไรนะ”
ประมุขหอสัตว์แห่งบรรพกาลถลึงตามอง “น้องชายมารดาเดียวกันของเจ้าสำนักคุนอู๋ หยางถิงอวิ๋นหรือ”
“เอ่อ…”
เหล่าผู้อาวุโสสำนักชางอู๋ไม่น้อยมองไปที่สาวใช้ชุดดำเงียบๆ รู้สึกชื่นชมความสามารถในการจับอ๋องได้ก่อนจับโจรของนางอย่างยิ่ง!
มิน่าเล่าจู่ๆ สำนักคุนอู๋จึงเกิดความปั่นป่วน ที่แท้ก็เพราะหยางถิงอวิ๋นถูกจับไปนี่เอง
ส่วนเม่ยเอ่อร์ที่ถูกทุกคนจ้องมองนั้นก็พูดอย่างเยือกเย็นว่า “หากพวกเขายังตีเมือง ก็สังหารเขาสังเวยธงเสีย”
“เจ้ามันต่ำช้า!” หยางถิงอวิ๋นก่นด่าในขณะที่ยังวิงเวียนศีรษะและกระอักเลือด ฟ้ารู้ว่าเขาในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชากองกำลังหลักถูกลักพาตัวไปจากกองกำลังทหารได้อย่างไร!
“บิดาเจ้าสิต่ำช้า! แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิตของพวกเจ้าก็ออกโรงเองแล้ว ยังบังอาจกล่าวหาพวกข้าต่ำช้ารึ” ประมุขหอสัตว์แห่งบรรพกาลด่ากราดอย่างไม่ทนอีกต่อไป
“พวกเจ้า…” หยางถิงอวิ๋นทำท่าจะพูดอะไร
ประมุขหอสัตว์แห่งบรรพกาลไม่อยากฟังต่อไปแล้ว เขาถอดถุงเท้ากลิ่นเหม็นหึ่งออกมา ยัดเข้าไปในปากของศัตรู เยี่ยนชิงและคนอื่นๆ ถูกกลิ่นถุงเท้ารมจนถอยหลังไปหลายจั้ง
“อ๊อก…” หยางถิงอวิ๋นอาเจียนทันที!
แต่แล้วสิ่งของที่เขาอาเจียนออกมา กลับต้องกลืนกลับลงไป ในเมื่อปากของเขาถูกยัดด้วยถุงเท้าไว้ เขาจึงมิสามารถอาเจียนออกมาได้
“สุดยอด…”
เยี่ยนชิงพูดได้เพียงว่า “จ่านเลี่ยงซาน เจ้ามันของจริง”
ประมุขหอสัตว์แห่งบรรพกาลที่ถูก ‘ชื่นชม’ สีหน้าเขานิ่งเฉย “ถึงแม้จะไม่น่าชื่นชมนัก แต่ข้าอยากทำเช่นนี้กับคนของสำนักคุนอู๋มานานแล้ว”
และผลจากการลักพาตัวหยางถิงอวิ๋นมาก็ทำให้ค่ายกลทะลวงอากาศธาตุสองลักษณ์สะเทือน
วั่วปู้เหลยและปู่เย่าเหลียนที่แต่เดิมหลับตาปล่อยพลังธาตุสายฟ้าและธาตุไฟนั้น ก็ตะลึงจนต้องลืมตาขึ้น และเพิ่งพบว่ากองทัพของฝ่ายตนเองชุลมุนไปทั่วแล้ว
“นี่มัน…” วั่วปู้เหลยขมวดคิ้ว “เสี่ยวปาล่ะ”
ปู่เย่าเหลียนกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบว่าหยางถิงอวิ๋นที่เป็นศูนย์กลางของกองกำลังทหารใต้บังคับบัญชาหายไปแล้ว?
ผ่านไปครู่หนึ่ง ทั้งสองจึงพบว่าหยางถิงอวิ๋นถูกลักพาตัวเข้าไปในสำนักชางอู๋แล้ว?
“ตั้งแต่เมื่อใดกัน” ปู่เย่าเหลียนพบว่าตนไม่รู้ตัวเลย!
วั่วปู้เหลยก็จับต้นชนปลายไม่ถูก “จะทำอย่างไรดีเล่า”
“ยุติการโจมตีหรือ” ปู่เย่าเหลียนถามกลับอย่างงุนงง
ต้องรู้ว่าถึงแม้ค่ายกลทะลวงอากาศธาตุสองลักษณ์จะร้ายกาจเพียงใด แต่หากพึ่งเพียงผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิตสองคนและศาสตราเวทในตำนานสองชิ้น ก็ไม่สามารถต้านทานได้!
มิหนำซ้ำ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มีเพียงสายเลือดสายเดียวกับหยางถิงอวิ๋นจึงสามารถควบคุมกองทัพทหารใต้บังคับบัญชาเสริมกำลังของค่ายกลได้
นี่ก็เป็นเหตุผลที่ผู้คนสายเลือดเดียวกับหยางถิงอวิ๋นสามารถตั้งมั่นในสำนักคุนอู๋ได้ พวกเขาสามารถรวบรวมพลังจิตวิญญาณของผู้ฝึกฌานของทายาทสำนักคุนอู๋ทั้งหมดได้!
วั่วปู้เหลยจึงจำเป็นต้องพูดว่า “ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ถอนหรือไม่ถอนกำลัง แต่เกรงว่าเรามิสามารถคุมค่ายกลได้อีกแล้ว เสียดายเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะสำเร็จแล้ว!”
“ใครกันแน่ที่ลักพาตัวอวิ๋นถิงไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้!” ปู่เย่าเหลียนไม่เข้าใจเลยจริงๆ หยางถิงอวิ๋นในฐานะที่เป็นถึงตำแหน่งกองกำลังหลัก หยางถิงอวิ๋นผู้ถูกปกป้องมากที่สุดกลับถูกลักพาตัวไปอย่างเงียบเชียบเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
วั่วปู้เหลยเองก็มิอาจเข้าใจ เขารู้เพียงว่า เกราะคุ้มกันสำนักชางอู๋ที่ถูกพวกเขาตีแตกเป็นรูโบ๋นั้น กำลังสมานอีกครั้ง
บัดนี้…
“หรือว่าให้ทหารชั้นผู้น้อยบุกเข้าไปก่อน ไม่ต้องรอให้เกราะคุ้มกันแตกแล้ว บุกเข้าไปได้เท่าไรก็เท่านั้น?” วั่วปู้เหลยเสนอ ไม่เช่นนั้นความพยายามทั้งหมดที่ทุ่มเทจะสูญเปล่า ทว่าเมื่อสิ้นเสียงพูด เสียงชายชราที่ค่อนข้างอ่อนแอเสียงหนึ่งพลันลอยมากลางอากาศ “มิต้อง ข้าช่วยพวกเจ้าเอง”
เสียงนี้มัน…
“ท่านประมุขสูงสุด?” ปู่เย่าเหลียนเงยหน้ามองอย่างตะลึงงัน ก็เห็นสีหน้าย่ำแย่ของหยางเทียนชื่อตามคาด อีกทั้งเขายังอยู่ในตำแหน่งกองกำลังหลักของทหารใต้บังคับบัญชาคุนอู๋
การปรากฏตัวของหยางเทียนชื่อ ย่อมสร้างความฮึกเหิมให้กับทหารใต้บังคับบัญชาคุนอู๋ที่กำลังแตกตื่น แม้พวกเขายังคงไม่รู้ว่า ท่านจอมพลกองกำลังหลักแต่เดิมของพวกเขาอยู่ที่ใดก็ตาม
ทว่าหยางเทียนชื่อน่าเกรงขามมากว่าหยางถิงอวิ๋นนัก ถึงแม้ในตอนนี้เขาจะอ่อนแอ แต่พลังของเขายังคงอยู่เหนือกว่าหยางถิงอวิ๋น ดังนั้นเมื่อเขาปล่อยพลังสายเลือดออกมา พลังการก่อตัวที่ระเบิดออกมาของทหารใต้บังคับบัญชาคุนอู๋ก็พุ่งขึ้นสูงในทันที
“นี่มัน…” วั่วปู้เหลยอยากจะพูดว่า หยางถิงเหลยจะทำอย่างไร
ทว่าปู่เย่าเหลียนพูดขึ้นว่า “เหล่าวั่ว รีบรวบรวมสติ! เรามาทำลายเกราะคุ้มกันปรมาจารย์วิญญาณสำนักชางอู๋ให้สิ้นในคราเดียว ช่วยเสี่ยวปาออกมากันเถอะ!”
“ใช่แล้ว สำนักชางอู๋คงไม่กล้าลงมือกับถิงอวิ๋นหรอก” วั่วปู้เหลยคิดได้ดังนั้น เขาก็ประสานพลังเข้ากับปู่เย่าเหลียนอีกครั้ง!
ครืน!
ทะเลเพลิงที่แต่เดิมกำลังสลายไปนั้นพลันปะทุขึ้นใหม่อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง แรงเสริมที่หยางเทียนชื่อนำพามานั้น กำลังทำให้ค่ายกลทะลวงอาอาศธาตุสองลักษณ์แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว!
“ให้ตายเถอะ!” เม่ยเอ๋อร์ปล่อยฝ่ามือไปที่หัวใจของหยางถิงอวิ๋นอย่างเดือดดาลในทันที ในขณะเดียวกันก็เหินออกไป เตรียมจะจับหยางเทียนชื่อมา
ทว่าเยี่ยนหงชวนดักเม่ยเอ๋อร์ไว้ “ไม่ต้องไปแล้ว ครั้งนี้พวกเขาคงระวังเจ้าแล้ว”
“ใช่แล้ว เม่ยเอ๋อร์ เจ้ากลับไปข้างกายเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก่อนดีกว่าหรือไม่” เยี่ยนชิงพูด จัดแจงทุกสิ่งให้ลูกสาวของตน
แต่เขาไม่รู้ว่า ในขณะนั้นเอง! บัดนี้…
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!”