“แย่แล้ว!”
ใบหน้าชราของหยางเทียนชื่อก็ซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม!
เขารับรู้ได้ว่า หงส์เพลิงองค์นี้กำลังชิงพลังค่ายกลทะลวงอากาศธาตุสองลักษณ์ และยังช่วงชิงได้สำเร็จแล้วด้วย!
แม่งเอ๊ย!
มารดามันเถอะ…
หยางเทียนชื่อที่ก่นด่าคำหยาบไม่หยุดในใจก็ตะโกนขึ้นว่า “ทลายค่ายกลทะลวงอากาศธาตุสองลักษณ์เสีย สร้างค่ายกลคุ้มกันหมู่!” ไม่เช่นนั้นคงพังราบเป็นหน้ากลองแน่! ให้ตายเถอะ…
ปู่เย่าเหลียนและวั่วปู้เหลยได้ยินดังนั้นก็รีบเก็บศาสตราเวทในตำนานทันที พวกเขาสัมผัสได้ว่า หงส์เพลิงองค์นั้นไม่เพียงแย่งพลังค่ายกลของพวกเขา มันยังแย่งศาสตราเวทของพวกเขาด้วย มารดามันเถอะ!
ดังนั้น ตั้งแต่ครั้นเมื่อหยางเทียนชื่อเอ่ยปาก ตาเฒ่าสองคนนี้ก็เก็บศาสตราเวทอย่างฉับไว ก่อนที่พวกเขาจะเหินลงพื้นดิน
ฟ้ารู้ว่า พวกเขาอยากทำเช่นนี้มานานแล้ว
ตั้งแต่เมื่อครั้นพวกเขาสบตากับหงส์เพลิงองค์นั้น พวกเขาก็กลัวแล้ว ทว่าครั้นพวกเขาเพิ่งคิดจะหนี…
หวีด!
หงส์เพลิงที่ไม่ได้ตาบอดองค์นั้นก็พ่นไฟใส่ตาเฒ่าสองคนนั้น
“กรร…”
ทั้งสองรู้สึกเพียงก้นและข้างหลังร้อนวูบ ราวกับไฟกำลังจะแผดเผาทั้งตัว
“เสกค่ายกลวาโยทรงอานุภาพ!”
“เร็วเข้า! เร็ว…”
หยางเทียนชื่อคอยกำกับกองกำลังอย่างไม่ลดละความพยายาม จนก่อเป็นค่ายกลขนาดใหญ่! แผ่ขยายปกป้องวั่วปู้เหลยและปู่เย่าเหลียนที่ล้มลงกลางอากาศ
ฟู่!
ค่ายกลอันทรงพลังของคุนอู๋ถาโถมเข้าไปราวกับฟองอากาศ ปกคลุมข้างหลังของวั่วปู้เหลยและปู่เย่าเหลียนที่กำลังมอดไหม้ไว้ และขวางกั้นเพลิงไฟที่หงส์เพลิงพ่นออกมา
“เฮ้อ…”
หยางเทียนชื่อพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในเมื่อผู้พิทักษ์สองท่านนี้เป็นยอดฝีมือขั้นถอดจิตที่แม้แต่สำนักคุนอู๋ก็มิอาจสูญเสียไปได้!
แต่แล้วหงส์เพลิงที่โมโหเดือดดาลก็ทำให้หยางเทียนชื่อสะอึกกับลมหายใจที่พ่นออกมาอย่างโล่งอกเมื่อครู่ทันที ทำเอาเขาเกือบจะสลบไป
หงส์เพลิงที่แย่งชิงพลังงานมาได้สำเร็จ มันฟาดทะเลเพลิงและสายฟ้าลงไปที่กองทัพคุนอู๋ ชั่วขณะนั้นเอง…
เปรี้ยง ปร้าง!
ครืนนน!
“…”
พายุฝนฟ้าคะนองก็โหมกระหน่ำกลับไปทางกองทัพคุนอู๋
นี่… นี่มัน…
“เร็วเข้า!”
“รักษาค่ายกลวาโยทรงอานุภาพไว้เต็มกำลัง!”
หยางเทียนชื่อที่อยากจะร้องไห้แล้วก็ออกคำสั่งอย่างเพียรพยายาม
วั่วปู้เหลยและปู่เย่าเหลียนที่ไม่ทันได้ปรับลมหายใจก็สังเวยศาสตราเวทในตำนานอีกครั้ง เลือดกระอักออกมาไม่ขาดสาย พวกเขาสู้สุดกำลัง!
ครืน! เสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง
พายุฝนผ้าคะนองที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่าหนึ่งถ้วยชา ทำเอาเนินเขาที่กองทัพคุนอู๋รวมตัวกันนั้น พังราบเป็นหน้ากลองทันที ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นหลุมด้วย
ฝุ่นฟุ้งกระจาย
ควันลอยโขมง
ราวกับดินแดนแห่งความตาย
…
“เอ่อ…”
เหล่าชั้นผู้ใหญ่สำนักชางอู๋ที่เอาแต่ตกตะลึง พวกเขาก็… ก็ชี้ไปที่ผืนดินที่หายไปนั้นอย่างงุนงง ก่อนจะถามเยี่ยนชิงว่า “ตายหมดแล้วหรือ”
“ไม่… ไม่ทราบ” เยี่ยนชิงแสดงตนว่า แม้เขาเป็นประมุขสำนัก แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆ!
แม้แต่เยี่ยนหงชวนเองก็ไม่แน่ใจ ถึงแม้เขาหวังเหลือเกินว่ากองทัพคุนอู๋จะล่มสลายหมดสิ้น แต่เขาก็รู้สึกว่ากองทัพคุนอู๋มิใช่กองทัพที่ถูกโจมตีได้ง่ายดายเช่นนี้
ทว่าคลื่นแรงระเบิดนั่นน่ากลัวเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม หากเป็นกองกำลังทหารใต้บังคับบัญชาของสำนักคุนอู๋จริงๆ ก็คงตายหมดแน่ๆ พวกเขาไม่มีทางทนได้ถึงสิบลมหายใจ
“หงส์เพลิงองค์นั้นเล่า” เยี่ยนชิงรู้สึกว่า เมื่อเทียบกับจุดจบของหองทัพคุนอู๋แล้ว เขาสนใจหงส์เพลิงน่ารักตัวนั้นมากกว่า สุดยอดมารดามันเลย!
“หายไปแล้ว” เยี่ยนหงชวนสังเกตเห็นจึงตอบเขา “หลังจากที่ระเบิดกองทัพคุนอู๋แล้ว มันก็หายไป”
“อืม” เยี่ยนชิงมองกลับมาอย่างผิดหวังเล็กน้อย เขามองสำรวจดินแดนปิดตายและควันลอยโขมงผืนนั้น เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่ากองทัพคุนอู๋ตายหมดแล้วจริงๆ
และในขณะนั้นเอง… ณ ทางทิศตะวันตก เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ร้องไห้ไม่หยุดจนถึงบัดนี้ เขาก็ยังคงแผดเสียงร้องเสียงดัง
เยี่ยนอวี๋ปวดใจนัก แต่นางปลอบเด็กน้อยมาครึ่งค่อนวันแล้ว เขาก็ยังร้องไม่หยุดอยู่ดี
แงง…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ยิ่งร้องยิ่งดังนั้น เขาร้องจนดวงตาปูดบวม เสียงก็แหบแห้ง ทว่าเขายังคงร้องไห้ต่อไป ไม่ว่ามารดาของเขาจะกล่อมอย่างไร ก็ยังร้องไห้อยู่เช่นนั้น!
เยี่ยนอวี๋ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีแล้ว “เสี่ยวเป่า เจ้าหยุดร้องดีหรือไม่ แม่ขอร้องล่ะ”
“แงง!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าร้องไห้ต่อไป!
เยี่ยนจื่อเสาและคนอื่นๆ ช่วยอะไรไม่ได้ ไม่มีผู้ใดมีวิธีหยุดเยี่ยนเสี่ยวเป่าได้
“ท่านประมุขน้อยตกใจจนขวัญหาย ผีเข้าหรือไม่” อินหลิวเฟิงคิดว่า หรือว่าควรตีเจ้าเด็กคนนี้ให้สลบเสียก่อน ถึงแม้จะดูใจดำไปเล็กน้อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เขาร้องไห้ต่อไปเช่นนี้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ อินหลิวเฟิงจึงเสนอวิธีนี้ออกไป และจากนั้นเขาก็ถูกเยี่ยนเสี่ยวเป่ามองตาขวาง ฝ่ายหลังยังชี้นิ้วไปที่เขา ท่ามกลางความยุ่งเหยิงของตนเอง
อินหลิวเฟิง “…”
จบกัน เขาถูกจดบัญชีอีกแล้ว
“เสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าหยุดร้องเถอะนะ” เยี่ยนอวี๋ที่ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมต่อไป นางไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดีแล้ว นางร้อนรนจนเดินวนไปวนมา สภาพของเยี่ยนอวี๋ที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดีก็ทำลายความสุขุมเยือกเย็นของนางไปสิ้น นางถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ทำเอากู้หยวนหมิงรู้สึกสงสารจับใจ
ในขณะเดียวกัน ต้าซือมิ่งราชสำนักที่ออกมาจาก ‘รูหนอน’ ก็ขมวดคิ้วมองไปที่บริเวณเกี้ยววิหคสุริยัน “เหตุใดถึงร้องนานเช่นนี้เล่า”
เขา… ควรไปดูเสียหน่อยหรือไม่…