ร่างหยางเทียนชื่อที่สูบโลหิตหัวใจเข้าไปในกลุ่มหมอกดำซูบผอมลงทันที รอบตัวเขาแผ่ซ่านไปด้วยลมปราณมืดมนผิดปกติ
กองทัพคุนอู๋ที่ถูกหมอกสีดำปกคลุมก็สัมผัสได้ว่าพลังของตนเองกำลังถูกลิดรอนอย่างรวดเร็ว! ทำให้พวกเขาวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ถึงแม้พวกเขาจะรู้ล่วงหน้าแล้ว แต่ก็ยังคงมิอาจควบคุมความตื่นตระหนกนี้ได้ เพราะถึงอย่างไรนี่คือการสูญเสียพลังและฌานตบะที่แท้จริง! เป็นพลังที่พวกเขามานะบากบั่นมาครึ่งค่อนชีวิต กว่าจะขึ้นมาระดับขั้นนี้ได้ แต่บัดนี้มันกำลังถูกสูบหายไปอย่างประหลาดเช่นนี้…
“ฟื้น… ฟื้นคืนได้จริงๆ หรือ”
คำถามนี้เป็นคำถามที่ทหารคุนอู๋ต่างสงสัย! แต่ในเมื่อพวกเขาอยู่ในค่ายกลแห่งนี้แล้ว ย่อมมิอาจหลีกหนีค่ายกลอันน่าสะพรึงนี้ได้
เสียงพลังการสูบที่น่ากลัวกว่าเดิมดังขึ้น เป็นการสูบที่ทำให้ทุกคนในนั้นกระตุกเกร็งไปทั้งตัว และยังมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง
“นี่มัน…” หยางชีฮั่นเริ่มตระหนก เขาเห็นได้ชัดว่าทหารของเขาซูบผอมลงไปมาก ทว่าเขาเองก็เห็นว่าท่านเจ้าสำนักสูงสุดก็ซูบผอมลงเช่นกัน หยางชีฮั่นจึงไม่ได้พูดอะไร ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว หยางเทียนชื่อกำลังเสียสละตนเองเพื่อสำนัก แต่แล้ว…
เมื่อผีเสื้อราตรีแดนนรกที่ถูกอัญเชิญมาตัวนั้นก่อตัวขึ้นสมบูรณ์แล้ว จู่ๆ มันก็มีหนวดนับไม่ถ้วนโผล่ออกมา ก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปที่ทุกคนในค่ายกล รวมถึงหยางเทียนชื่อผู้ที่อัญเชิญมันมาด้วย!
“!”
หยางชีฮั่นตาเบิกโพลง เขาแทบจะหยุดหายใจ ไม่ทันได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา
แซ่ด!
เสียงแทงทะลุอันน่าสะพรึงกลัวดังกังวานไปทั่วทั้งบริเวณ เหล่ากองทัพคุนอู๋ไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็กลายเป็นเนื้อเสียบไม้และถูกกินไปแล้ว…
เลือดย้อมผืนดินกลายเป็นสีแดงฉานในทันที
“เร็วเข้า!”
“สร้างค่ายกล! แค่ก…”
เมื่อหยางเทียนชื่อทำให้ทุกอย่างเป็นเช่นนี้แล้วก็รีบออกคำสั่งในทันที จากนั้นเขาก็กระอักเลือดสลบไปในทันที
หยางชีฮั่นเพิ่งจะเรียกสติกลับมาได้ เขาร้องตะโกนทันที “ป้องกันเร็วเข้า…”
ส่วนวั่วปู้เหลยและปู่เหย่าเหลียนใช้ศาสตราเวทสองสิ่งเพื่อสร้างตาข่ายอัคคีและอัคนีคุ้มกันอันแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่แรกแล้ว ไม่เช่นนั้นหยางเทียนชื่อคงกลายเป็นเนื้อเสียบไม้และคงถูกกินเป็นคนแรกแล้ว
ปู่เย่าเหลียนและวั่วปู้เหลยขยายตาข่ายคุ้มกันอย่างรวดเร็ว เป็นการขยายจากค่ายกลอัญเชิญวิญญาณแต่เดิมที่มีอยู่แล้ว
แซ่ด แซ่ด…
แสงไฟคุ้มกันก่อตัวเป็นตาข่ายคุ้มกันระหว่างผีเสื้อราตรีแดนนรกและกองทัพคุนอู๋ ทำให้ผีเสื้อราตรีแดนนรกที่ถูกอัญเชิญมานั้นจำเป็นต้องหยุดล่าเหยื่อ หลังจากนั้นมันก็ขยับปีกเล็กน้อย ก่อนจะมองไปทางเมืองชางอู๋!
…
“มารดามันเถอะ!”
“ตัวบ้าอะไรกัน”
“แว้งกัดเป็นด้วย!”
ประมุขหอสัตว์บรรพกาล ประมุขหอโอสถ และเยี่ยนชิงก็พากันร้องตะลึง!
ส่วนเยี่ยนหงชวนและประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ก็มองไปที่ผีเสื้อราตรีแดนนรกที่กำลังมองมาที่เมืองชางอู๋ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก พวกเขารู้สึกขนหัวลุกไปหมด
“มันคือวิญญาณอสูร!” ประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์แสดงสีหน้าหวาดผวา
“วิญญาณอสูร!” เยี่ยนชิงเอ่ยอย่างรอบรู้ว่า “วิญญาณแห่งอสูรที่ถูกเหล่าภูเขาและท้องทะเลนำโดยปฐมราชินีแห่งตำหนักไท่ชางศักราชหยวนชูปราบในตำนานน่ะหรือ”
“ใช่แล้ว!” ประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ยืนยันพลางรู้สึกหายใจลำบาก “ระวังมันไว้! หากข้าจำไม่ผิด อสูรที่มีชื่อว่าผีเสื้อกลางคืนแดนนรกตัวนี้ ความเก่งกาจขั้นสูงสุดของมันคือการกลืนกินพลังค่ายกล!”
“ว่าไงนะ” เยี่ยนชิงขนหัวลุกไปหมด และเขาก็นึกได้ว่า “ดังนั้นสำนักคุนอู๋ต้องการให้มันกลืนกินเกราะคุ้มกันของพวกเรารึ!”
“ใช่แล้ว!” น้อยครั้งที่ประมุขหอโอสถจะพูดอย่างยั้งสติไม่อยู่เช่นนี้ “คุนอู๋ยังสังเวยเลือดให้มันด้วย! พวกเจ้าดูตาของมันสิ แดงไปหมดแล้ว มันเป็นผีเสื้อราตรีแดนนรกในสภาวะบ้าคลั่ง ตาแก่หยางเทียนชื่อ ขอให้เจ้าไม่ตายดี!”
ประมุขหอสัตว์บรรพกาลเริ่มเข้าใจ “หมายความว่าตาแก่หยางเทียนชื่อจงใจให้ผีเสื้อกลางคืนนั่นกลืนกินทหารของตนเองหรือ”
“ใช่แล้ว!” ประมุขหออัญเชิญศักดิ์สิทธิ์มั่นใจมาก!
เม่ยเอ๋อร์มองไปที่ผีเสื้อราตรีแดนนรกที่กำลังบินมาทางเมืองชางอู๋ ดาบเล่มใหญ่ในมือแผ่ซ่านความเยือกเย็นอำมหิต และในขณะนั้นเอง ผีเสื้อราตรีแดนนรกก็ปรากฏตัวเหนือเกราะคุ้มกันเมืองชางอู๋แล้ว!
ชิ้ง!
สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมเสียงแสบแก้วหูนี้คือ หนวดของผีเสื้อราตีแดนนรกที่กำลังแทงเกราะคุ้มกัน ทำเอาผู้คนระทึกขวัญนัก!
สิ่งที่น่ากลัวคือ หลังจากที่หนวดของผีเสื้อราตรีแดนนรกทิ่มแทงเกราะคุ้มกันแล้ว มันก็กลายเป็นสีแดงทันทีราวกับหลอดดูดเลือดอย่างไรอย่างนั้น พลังของเกราะคุ้มกันถูกดูดและกลืนกินไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน…
หวีด!
ทันใดนั้น วิหคสุริยันที่ลากจูงเยี่ยนอวี๋และคนอื่นๆ อยู่ก็ตกใจ มันไม่ได้เร่งความเร็วเพื่อกลับสำนักชางอู๋ แต่มันกลับหันหลังบินหนีไปทางทิศตะวันตกอีกครั้ง?!
นี่มัน…