หยางเทียนชื่อมองคนสำนักชางอู๋ด้วยสายตาคมกริบ! เขาไม่เชื่อว่าพวกเขาจะอาจหาญกบฏ! แน่นอนว่าหากพวกเขากล้าตอบว่า ‘ใช่’ เช่นนั้นก็ย่อมจัดการได้ง่ายกว่าเดิม
แต่แล้วเยี่ยนชิงกลับถามกลับอย่างน่าเกรงขามว่า “เช่นนั้นข้าขอถามท่านแม่ทัพใหญ่ ราชสำนักเป็นผู้ส่งกองทัพคุนอู๋มาใช่หรือไม่! ราชสำนักปล่อยให้สำนักคุนอู๋ไม่แยกถูกผิด โจมตีเมืองชางอู๋ของข้าอย่างบุ่มบ่ามวู่วาม? ขอถามท่านแม่ทัพใหญ่อีกประการ ราชสำนักเป็นผู้อนุญาตให้สำนักคุนอู๋อัญเชิญวิญญาณอสูรมาเข่นฆ่าสามัญชนบริสุทธิ์เมืองชางอู๋ของข้าใช่หรือไม่ ประการที่สาม ข้าขอถามท่านแม่ทัพใหญ่ ราชสำนักเป็นผู้อนุญาตให้สำนักคุนอู๋ทำลายสำนักข้าและเคล็ดวิชาลับใช่หรือไม่!”
คำถามทั้งสามข้อที่ดังชัดถ้อยชัดคำก็ทำให้เฉินคั่วพลันเงียบไปครู่หนึ่ง เพราะราชสำนักไม่ได้มีคำบัญชาใดๆ ต่อสำนักคุนอู๋เลย!
ทว่าหยางเทียนชื่อก็ตอบแทนเฉินคั่วอย่างจองหองว่า “ถ้าใช่แล้วทำไม พวกเจ้าจะกบฏหรือ รู้ไว้ว่าหากองค์จักรพรรดิประสงค์ให้ขุนนางตาย พวกเจ้าก็ต้องตาย”
“ใช่แล้ว นี่คือพระราชประสงค์!” เฉินคั่วก็เห็นด้วยกับคำพูดของหยางเทียนชื่อ “ข้าจะกล่าวอีกครั้ง วิถีทางที่ถูกต้องคือ จงยอมแพ้เสียเถิด”
“วิถีทางที่ถูกต้องมารดามันเถอะ!” ประมุขหอสัตว์บรรพกาลเดือดดาล อสูรหมาป่าที่เขาขี่อยู่ก็จ้องเขม็งไปที่เฉินคั่วและคนอื่นๆ อย่างโมโห
“บรู๊ววว…”
“เจ้า…” เฉินคั่วกำลังจะตวาดประณามด้วยความขุ่นเคือง
เยี่ยนชิงกลับพูดชัดถ้อยชัดคำว่า “ในเมื่อท่านแม่ทัพบอกว่าใช่ เช่นนั้นก็คือการบีบบังคับสำนักข้า! ตั้งแต่ที่ก่อตั้งสำนักชางอู๋มา สำนักชางอู๋ไม่เคยกระทำเรื่องขัดขืนใดๆ หากราชสำนักประสงค์ทำลายสำนักข้าเช่นนี้ สำนักข้าย่อมไม่ยอม!”
“ไม่ยอม!”
“ไม่ยอม! ไม่ยอม…” เสียงประท้วงด้วยความเกรี้ยวกราดดังขึ้นพร้อมเพรียงกันหลังจากสิ้นเสียงของเยี่ยนชิง พวกเขาส่งเสียงกู่ร้องไปทางเฉินคั่ว กองทัพแนวหน้าราชสำนัก และหยางเทียนชื่อ
“พวกเจ้าบังอาจนัก!” หยางเทียนชื่อหัวเราะเย็นชา ก่อนจะพูดกับเฉินคั่วว่า “ท่านแม่ทัพเฉิน สำนักกบฏกำเริบเสิบสานเพียงนี้ยังต้องพล่ามกับพวกเขาอีกหรือ! ทำลายพวกมันเสียจึงจะเป็นวิถีทางที่ถูกต้อง!”
“ท่านประมุขสูงสุดหยางพูดถูก” เฉินคั่วไม่พูดมากความอีก เขาทำท่าจะชักดาบออกมาเพื่อสั่งกองทัพ
ตู้มมม…
เสียงระเบิดที่จู่ๆ ดังขึ้นกลางอากาศก็ทำให้เฉินคั่วเงยหน้าขึ้นไปมอง จากนั้นเขาก็เห็นแสงสายฟ้าเส้นหนึ่งกำลังร่วงตกลงมาอย่างรวดเร็ว ผ่านไปชั่วครู่ แสงสายฟ้าร่วงหล่นบนพื้นดัง ครืน ก่อนจะฟาดลงมาใกล้ฝูงชนและแตกเป็นสายฟ้าแลบขนาดเล็กนับไม่ถ้วนจนปกคลุมบริเวณหลายร้อยลี้
นี่ยังไม่เท่าไหร่…
“ท่านประมุขสูงสุด ช่วยข้าด้วย…”
เสียงร้องขอความช่วยเหลืออันรันทดของผู้พิทักษ์ธาตุไฟฟ้าสำนักคุนอู๋วั่วปู้เหลยท่านนี้ทำเอาเฉินคั่วและคนอื่นๆ ตกตะลึงจนตาเบิกโพลง!
“นี่มัน…” เฉินคั่วมองไปที่หยางเทียนชื่ออย่างเหลือเชื่อ
หยางเทียนชื่อก็มองไปที่ต้นตอของเสียงอย่างเหลือเชื่อเช่นกัน จากนั้นเขาก็เห็นวั่วปู้เหลยถูกสาวใช้ชุดดำคนนั้นตวัดดาบลงไปเต็มสองตา!
เสียงฟ้าร้องครืนครั่นดังสะเทือนออกมาจากร่างของวั่วปู้เหลยอย่างต่อเนื่อง เขากลับทำได้เพียงปกป้องตนเองไว้ และไม่สามารถหยุดยั้งดาบเล่มใหญ่ของเม่ยเอ๋อร์ที่ใกล้เข้ามาได้เลย!
วั่วปู้เหลยที่เห็นดาบเล่มใหญ่ธรรมดาเล่มนั้นกำลังจะประชิดปลายจมูกของตน เขาก็ทำได้เพียงร้องขอความช่วยเหลือ “ท่านประมุขสูงสุด! ช่วยข้าเร็วเข้า…”
“เหล่าวั่ว!”
หยางเทียนชื่อเพิ่งจะตั้งสติได้ ครั้นเมื่อกำลังจะไปช่วยอีกฝ่าย…
น่าเสียดายที่เยี่ยนชิงชูถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงออกมาแล้ว
พรึบ เพลิงไฟที่ลุกโชนก็ขวางหยางเทียนชื่อไว้ทันที
ทันใดนั้นเอง…
“ไปตายซะ!”
เม่ยเอ๋อร์ที่ไม่ยั้งมือก็ผ่าศีรษะของวั่วปู้เหลยลงไปอย่างแม่นยำและไม่ลังเลทันที
…
ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะ
รวมถึงแม่ทัพราชสำนักเฉินคั่วก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง หยางเทียนชื่อเองก็เบิกตาโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ! เสียดาย…
“ไม่…”
เสียงกรีดร้องอันเศร้าโศกของวั่วปู้เหลยก็ทำให้คนที่ไม่อยากจะเชื่อรู้ตัวว่าทั้งหมดนี้คือความจริง
“บัดซบ!” หยางเทียนชื่อคำรามด้วยดวงตาแดงก่ำ “ไอ้คนชั้นต่ำ! เจ้าบังอาจ! เจ้าบังอาจ! บัดซบ! บัดซบจริงๆ… ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“โอวปาซือ!” หยางเทียนชื่อที่ทั้งเศร้าและโมโหก็เรียกวิญญาณอสูรของเขาออกมาอีกครั้ง หมอกดำทะมึนอันน่าสะพรึงก็ทำลายเพลิงของถ้วยจ่านสีม่วงในทันที
“กลับมา!” เยี่ยนชิงรีบเรียกถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงกลับมา
หยางเทียนชื่อกลับจับถ้วนจ่านเพลิงสีม่วงไว้ “คืนให้ข้าซะดีๆ!”
“ไสหัวไป!”
เม่ยเอ๋อร์ที่ฆ่าวั่วปู้เหลยในดาบเดียวก็พุ่งดาบไปทางมือของหยางเทียนชื่อ
ดาบเล่มใหญ่ที่ตวัดผ่านอากาศเสียดสีจนเกิดประกายไฟไปถึงข้างหน้าหยางเทียนชื่อในทันที ทำเอาเขาตกใจจนมิกล้าแย่งถ้วยจ่านเพลิงสีม่วงกลับมา ทำได้เพียงหดมือกลับและตะคอกอย่างเกรี้ยวกราดว่า “บัดซบ! บัดซบ! เจ้ามันคนชั้นต่ำ! ท่านแม่ทัพเฉิน ยังไม่ช่วยข้าอีกหรือ!”
หยางเทียนชื่อที่โกรธจนตัวสั่นรู้สึกเหมือนมีไฟสุมกลางทรวงอก แผดเผาจนอวัยวะของเขาจนแทบจะมอดไหม้! และเขาก็ไม่สามารถระบายความร้อนรุ่มนี้ออกมาได้ เพราะว่าเขารู้ตัวดีว่าตนมิอาจสู้สาวใช้ชุดดำตรงหน้านี้ได้
“ฟังคำสั่ง!”
เฉินคั่วก็ไม่รีรอ เขาสั่งการว่า “จับกุมสำนักโจรกบฏชางอู๋ทั้งหมด! ขัดขืนฆ่าไม่เว้น!”
“ขอรับ!”
กองกำลังแนวหน้าราชสำนักรับคำบัญชาพร้อมหยิบอาวุธออกมา! มวลคลื่นอากาศก็สั่นสะเทือนส่งเสียงดัง หึ่ง ขึ้นมาจากด้านหลังของกองทัพราชสำนัก ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพแนวหน้าราชสำนักยิ่งฮึกเหิม “กองทัพมาถึงแล้ว ทุกท่านอย่าได้กังวล ฆ่ามัน!”
หึ่ง!
หึ่ง! หึ่ง… เสียงค่ายกลเคลื่อนเวหาที่ดังขึ้นก็ส่งทหารประจำการราชสำนักมาอย่างรวดเร็วแล้ว! พวกเขามาถึงเร็วกว่าที่เยี่ยนอวี๋คาดคิดไว้ไม่น้อย
ศึกใหญ่โตเช่นนี้ทำให้เยี่ยนชิงอดขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ ทว่าต้าซือมิ่งราชสำนักที่ ‘มุงดู’ ศึกครั้งนี้อยู่กลางอากาศนั้นเลิกคิ้วขึ้นพลางมองไปทางทิศเหนือที่อยู่ไกลออกไป
ในขณะเดียวกัน…
ฟิ้ว!