ตอนที่ 157 ลงมือช่วยแก้ปัญหาน้ำ?
จวินอั้นหยวนที่ถูกถามจนมึน เขารวบรวมสติมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้หูฝาดแล้วกล่าวว่า “ยังขอรับ ท่านทราบดีว่ากฎระเบียบของคลังเก็บจวินเป่าจะทำรายการออกมาตอนที่งานค้าขายเริ่มขึ้นเสมอ แน่นอน หาก…หากท่านต้องการทราบล่วงหน้าก่อน ข้าน้อยจะรีบไปถามให้เดี๋ยวนี้ขอรับ”
“อืม” ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักที่พยักหน้าทันควัน ทำให้จวินอั้นหยวนมึนงงอีกครั้ง
และไม่ใช่จวินอั้นหยวนคนเดียวเท่านั้นที่มึนงง แต่อินสวินอี้องค์จักรพรรดิแห่งเมืองโยวตูที่นั่งอยู่ตรงข้ามจวินอั้นหยวนก็มึนงงด้วยเช่นกัน เพราะเรื่องที่พวกเขาได้พูดคุยกันเมื่อครู่นี้ไม่ใช่หัวข้อเรื่องงานค้าขายจวินเป่าเลยสักนิด!
พวกเขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ตั้งแต่ที่ปรากฏตัวออกมา เหตุใดต้าซือมิ่งที่เงียบขริมมาโดยตลอด บทจะพูดยาวๆ ทีหนึ่งกลับพูดถึงเรื่องรายการค้าขายจวินเป่าได้กันเล่า
หรือต้าซือมิ่งต้องการบอกเป็นนัยกับพวกเขาว่า หากจะให้เขาช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมก็ต้องถวายของดีในรายการค้าขายจวินเป่าให้กับเขาทั้งหมด?
ทว่าไม่รอให้คนชั้นสูงแห่งเมืองโยวตูได้คาดเดาชัดเจน ต้าซือมิ่งก็วนกลับมาที่หัวข้อเดิม “มีความลึกลับอยู่ใต้แม่น้ำเย่ว์หมิงจริง ให้คนของพวกเจ้าถอยออกมาเสียก่อน”
“หา?” อินสวินอี้และจวินอั้นหยวนตามไม่ทัน
แต่ต้าซือมิ่งก็ไม่ได้มีท่าทีจะพูดซ้ำอีกรอบเช่นกัน หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ได้หายตัวไปทันทีราวกับมีเรื่องเร่งด่วนอย่างไรอย่างนั้น เหลือเพียงอินสวินอี้และจวินอั้นหยวนที่มองหน้ากันด้วยความมึนงง
ผ่านไปพักใหญ่…
อินสวินอี้ที่เพิ่งได้สติถึงได้ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ดังนั้น ต้าซือมิ่งได้ตอบตกลงแล้วใช่หรือไม่”
“ใช่แล้วกระมัง มิเช่นนั้นเขาจะมาพบเราสองคนทำไมกัน” จวินอั้นหยวนรู้สึกว่าต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้กับสำนัก นี่มันเรื่องใหญ่เชียวนะ!
“แล้วเหตุใดต้าซือมิ่งถึงได้ยอมช่วยเหลือพวกเรากันล่ะ” อินสวินอี้ยังคงไม่เข้าใจ
“ท่านอ๋องขี้ลืมมากเพียงนั้นเชียวหรือ ต้าซือมิ่งเขาก็ได้พูดเมื่อครู่แล้วมิใช่หรือว่าเป็นเพราะนายน้อยได้ไปขอร้องเขาต่อหน้า! จะว่าไปแล้ว นายน้อยเองก็มีความอดทนไม่เบาเลยนะ แม้แต่ต้าซือมิ่งก็ถูกเขาเชิญมาจนได้” จวินอั้นหยวนถอนหายใจเล็กน้อย
ต้องทราบเสียก่อนว่าต้าซือมิ่งนั้นแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ไม่ไว้หน้า! คาดไม่ถึงว่า…
นายน้อยที่พวกเขามองว่าไม่ได้เรื่อง แต่ความจริงแล้วกลับได้เรื่องมากที่สุด ได้ขอร้องต้าซือมิ่งให้มายังเมืองโยวตูด้วยเบาะแสอันเล็กน้อยนั่นได้จริงๆ!
เยี่ยม!
เยี่ยมจริงๆ!
…
หลังจากที่รู้สึกประทับใจอยู่ภายในใจ จวินอั้นหยวนก็กล่าวด้วยสีหน้าปกติว่า “ไม่พูดเรื่องนี้กันแล้ว ท่านอ๋อง ข้าน้อยกลับสำนักเพื่อนำคนที่อยู่ใต้แม่น้ำออกมาตามที่ต้าซือมิ่งบอกก่อน คนของท่านก็คงออกมากันแล้วสินะ”
“ได้” อินสวินอี้โบกมือตอบ แต่ในสมองยังคงมีเรื่องราวมากมาย เพราะก่อนเกิดเรื่องบุตรชายของเขาคนนั้นมิได้บอกอะไรกับเขาเลย!
ตามที่อินสวินอี้รู้จักบุตรชายของตนแล้ว หากเรื่องนี้เป็นฝีมือของเจ้าเด็กนั่นจริง เขาต้องรีบมาเอาหน้าแล้วสิ? เหตุใดจึงอดทนได้ถึงเพียงนี้กัน!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ อินสวินอี้ก็รีบสั่งลงไปว่า “ทหาร! ไปสืบดูซิว่าหลิวเฟิงถึงไหนแล้ว”
“ทูลท่านอ๋อง นายน้อยถึงหน้าประตูเมืองตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว บัดนี้คงเดินทางกลับจวนไปแล้วขอรับ”
“บอกเขาให้เร่งฝีเท้า…อะไรนะ” อินสวินอี้ที่เพิ่งได้สติลุกพรวดขึ้นมา “หลิวเฟิงกลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ”
“ขอรับท่านอ๋อง ทว่า…” องครักษ์แห่งจวนอ๋องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำต้องพิจารณาถ้อยคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “ทว่าได้ยินมาว่านายน้อยยังพาหญิงงามกลับมาด้วยนางหนึ่ง รวมถึง…หลานชายของท่านอ๋องด้วยขอรับ”
อินสวินอี้ที่ยิ่งฟังคำรายงานดวงตาก็ยิ่งเบิกกว้างนั้น รู้สึกท่าไม่ดี “เหลวไหล! เหลวไหลสิ้นดี!”
“นี่…นี่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงขอรับ คุณหนูสามแห่งตระกูลเฉาพบเข้าพอดีและทะเลาะวิวาทกันชุลมุนวุ่นวายแล้วด้วยขอรับ” องครักษ์แห่งจวนอ๋องจึงต้องรายงานตามจริงอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เหลวไหล! นั่นจะเป็นหลานชายของข้าได้อย่างไร หากเป็นเช่นนั้นจริง ข้าคงได้หัวเราะจนบรรลุเป็นแน่!” ทำเอาอินสวินอี้ที่รู้เรื่องภายในไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
เขารู้ตั้งนานแล้วว่าบุตรชายของเขาต้องกลับมายังเมืองโยวตูพร้อมกับบุตรสาวอายุสิบแปดของเจ้าสำนักแห่งสำนักชางอู๋ที่เพิ่งได้รับขนานนามเป็นนักปรุงยาในตำนาน ปราชญ์มหาสำนักแห่งสำนักหมอหลวงนั่นหรือก็คือเยี่ยนจื่ออวี๋
ดังนั้น เขาจึงรู้ดีว่าหญิงงามผู้นั้นก็คือปราชญ์มหาสำนักแห่งสำนักหมอหลวงคนใหม่นั่นเอง! และหลานชายที่ว่านั้นก็คือบุตรชายของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนนั่นเอง
ส่วนบิดาของเด็กเป็นใครนั้น
“รอเดี๋ยว!”
อินสวินอี้คิดขึ้นได้กะทันหัน หรือว่าจะเป็นหลานชายของเขาจริงๆ!
นี่มัน…
“กลับจวน!”
ตอนที่ 158 เพราะว่าต้าซือมิ่งมาแล้ว!
อินสวินอี้ครุ่นคิด ไอ้หนุ่มตระกูลเขาคนนี้นอกจากเรื่องชอบใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ แล้วก็ไม่มีเรื่องอื่นที่ไม่ดี ทั้งยังเก่งเรื่องเอาใจหญิงสาวอีกด้วย หน้าตาก็หล่อเหลา! ไม่แน่หลานชายน้อยคนนี้ อาจเป็นหลานชายของเขาจริงๆ ก็ได้!
จากนั้นอินสวินอี้ก็ตื่นเต้นขึ้นมาและไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น! อย่างน้อยเขาก็มีหลานชายแล้ว และมารดาของหลานชายของเขาก็เป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
“หลิวเฟิงเอ๋ยหลิวเฟิง ครั้งนี้เจ้าต้องพยายามเพื่อพ่อเสียหน่อยแล้ว” อินสวินอี้พลางเดินกลับจวนพลางครุ่นคิด หากเมืองโยวตูมีฮูหยินน้อยเช่นนี้คนหนึ่งจริงๆ ล่ะก็ เขาคงได้ตายตาหลับแล้วจริงๆ
อินสวินอี้ที่มีความรู้สึกอันเฉียบคมเกี่ยวกับเรื่องในพระราชวัง เขารู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสำนักชางอู๋ตั้งนานแล้ว ดังนั้นเขาไม่เพียงรู้ว่าทางพระราชวังได้แต่งตั้งปราชญ์มหาสำนักอายุสิบแปดคนหนึ่งขึ้นเป็นพิเศษ
แต่เขายังรู้! ว่าปราชญ์มหาสำนักอายุน้อยผู้นี้เป็นกุญแจสำคัญของสำนักชางอู๋ที่จะโค่นล้มสายลับสามหมื่นนายของคุนอู๋ได้ แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้รับข่าวสารที่ละเอียดกว่านี้จากบุตรชายของเขาก็ตาม แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสำนักชางอู๋นั้น ล้วนเกี่ยวข้องกับปราชญ์มหาสำนักอายุน้อยผู้นี้แน่นอน
และยัง…
อินสวินอี้มั่นใจ หากมิใช่ว่ามีความเกี่ยวข้องกันมากและไม่ธรรมดา บุตรชายของเขาคนนั้นต้องรีบส่งสาส์นเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดของสำนักชางอู๋มาให้เขาแล้ว
ทว่าเจ้าเด็กนั่นกลับมิได้ส่งสาส์นมาเสียที ซึ่งบ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา! ต้องพูดต่อหน้าเท่านั้น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ อินสวินอี้ก็ยิ่งตื่นเต้นไปใหญ่ “สะใภ้ที่เก่งกาจเพียงนี้ ต้องรักษาอาการบ้าบอของหลิวเฟิงได้แน่นอน ทั้งยังจะทำให้เมืองโยวตูพัฒนาขึ้นอีกขั้นด้วย”
“ท่านอ๋อง ท่านพูดว่าอะไรนะขอรับ?” องครักษ์จวนอ๋องที่ได้ยินเรื่องราวมากมายโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาจึงรู้สึกว่า เขารู้มากเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะถูกฆ่าปิดปากหรือไม่
เดิมที องครักษ์คนนี้อยากแสร้งทำตัวไม่ได้ยินใดๆ เช่นกัน แต่เขาพบว่า ท่านอ๋องของเขามีทีท่าที่จะพูดต่อไปอีก เขากลัวว่าจะได้ยินมากเกินไป ดังนั้นจึงได้รีบเตือนเสียหน่อย! กระมัง…
ทว่าอินสวินอี้ก็กล่าวอย่างไม่สนใจ “เจ้าฟังไม่ผิดหรอก ข้าพอใจในหญิงสาวที่นายน้อยของพวกเจ้าเลือกจริงๆ เจ้าไปสืบมาทีว่าใครที่เป็นคนส่งข่าวลือนี้ออกมา ต้องตบรางวัลให้อย่างงาม”
“หา?” องครักษ์จวนอ๋องมึนงง
“หาอะไรหา! ยังไม่รีบไปอีก!” อินสวินอี้กลับกล่าวว่า “ข้าเองคิดไม่ถึงเลยว่าแผนการดีเยี่ยมโดยการใช้ความคิดเห็นของประชาชนเช่นนี้ จะหาภรรยาที่เก่งกาจให้กับหลิวเฟิงได้ เยี่ยมจริงๆ! เป็นแผนการที่เยี่ยมจริงๆ”
“เช่นนั้นแล้ว ให้ข้าน้อยไปดำเนินการประเดี๋ยวนี้เลย?” องครักษ์จวนอ๋องถามเพื่อความแน่ใจ
“ให้ไว!” อินสวินอี้คิด แม้เด็กนั่นจะไม่ใช่หลานชายของตัวเองก็ไม่เป็นไร ลำพังความสามารถของมารดาของเด็ก เขาอินสวินอี้ก็ไม่ใช่คนล้าสมัยนัก สะใภ้คนนี้เขาไม่มีปัญหา
เพราะในช่วงหนุ่มสาว จะมีใครที่ไม่พบเจอชายเจ้าชู้สาวเจ้าชู้กันบ้างเล่า แม่นางนั่นก็ดีพร้อม คนหนุ่มสาวเขาสามารถคบกันได้ก็พอแล้ว! เขาไม่มีปัญหาหรอก
เมื่อคิดอย่างใจจดใจจ่อเช่นนี้แล้ว…
ในศีรษะของอินสวินอี้ได้คิดถึงความสัมพันธ์อันกลมเกลียวกันในครอบครัวใหญ่ไปแล้ว ทว่าเมื่อเขากลับถึงจวนอ๋องกลับได้ยินว่าเจ้าลูกชายตัวดีคนนั้นยังไม่กลับมา
“มิใช่ว่าถึงหน้าประตูเมืองตั้งแต่เมื่อครู่แล้วมิใช่หรือ” อินสวินอี้มิอาจเข้าใจได้
“ทูลท่านอ๋องขอรับ นายน้อยถูกสกัดอยู่หน้าประตูเมืองไปครู่หนึ่ง บัดนี้ได้ไปเดินเที่ยวกับเอ่อ…หญิงงามคนนั้นแล้วขอรับ” องครักษ์เฝ้าประตูยิ่งพูดศีรษะก็ยิ่งก้มต่ำ เขาไม่มีหน้าพูดต่อไปแล้วจริงๆ
เฮ้อ…นายน้อยของพวกเขาจริงๆ เลย! ออกไปนานเพียงนี้เพิ่งจะกลับมายังไม่รีบกลับจวนคารวะท่านอ๋องอีก แถมยัง…ยัง…เฮ้อ ไม่เสียชื่อที่เป็นนายน้อยเจ้าสำราญที่ใช้ชีวิตเสเพลจริงๆ
หลังจากนั้น สิ่งที่ทำให้องครักษ์เฝ้าประตูคาดไม่ถึงเลยคือ จักรพรรดิแห่งเมืองโยวตูได้ยินดังนั้นกลับหัวเราะดังออกมา “ฮ่าๆๆ…เดินเที่ยวหรอกหรือ! ดี…ดีจริงๆ! ไม่เสียชื่อที่เป็นลูกของข้าจริงๆ รู้วิธีเอาใจหญิงสาวมากที่สุดแล้ว
ทหาร! เรียกพ่อบ้านเหอไปจ่ายเงินให้กับนายน้อยของพวกเจ้าที ครั้งนี้เขาจะใช้จ่ายอย่างไรก็ตามใจเขา เพียงแค่สามารถเอาใจคนผู้นั้นให้มาเป็นคนในตระกูลอินของเราได้ก็เป็นพอ ข้าจะจ่ายให้เขาเอง!”
“นี่มัน…” เหล่าองครักษ์เฝ้าประตูต่างพากันเสียงหลง และสงสัยอย่างแรงกล้าว่าท่านอ๋องของพวกเขาเพี้ยนไปเพราะนายน้อยเสียแล้ว…
แต่หารู้ไม่ว่าท่านอ๋องของพวกเขาดีใจจริงๆ!
“ฮ่าๆๆ…” อินสวินอี้ที่หัวเราะไม่หยุดตลอดทางมีสีหน้าพอใจ ผู้ที่ไม่รู้เกรงว่าคงคิดว่าเขาได้เด็ดดอกไม้ที่พึงพอใจกลับมาอีกแล้ว
…
ทว่าบัดนี้ อินหลิวเฟิงที่กำลังเดินเที่ยวกับเยี่ยนอวี๋สองแม่ลูกจริงๆ เขากำลังแนะนำเรื่องราวและสิ่งของที่น่าสนใจของเมืองโยวตูให้กับพวกเขา และไม่ลืมที่จะซื้อของเล่นให้กับเจ้าตัวน้อยด้วย
“จิ๊ดจิ๊ด!” หนูตัวน้อยที่เล่นๆ กินๆ ไปด้วยตื่นเต้นมากเช่นกัน “จิ๊ดจิ๊ด…” โยวตูสนุกกว่าหวังตูอีก ของกินก็มากมายด้วย!
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับหนูตัวน้อยทิ้ง ไม่ให้มันแอบกินขนมไข่ของตัวเอง
แต่เยี่ยนอวี๋ไม่ให้เขากินเยอะจึงจับหนูตัวน้อยกลับมาแบ่งปันกับเขา
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงทำหน้าย่นขึ้นมาทันทีแล้วจ้องหนูตัวน้อยเขม็ง หวังให้เขารู้ตัวเองหน่อย กินน้อยๆ หน่อย!
“จิ๊ด!” หนูตัวน้อยกัดฟัน แกล้งไม่รู้ไม่เห็นและกินๆๆ ต่อไป
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่โกรธจนอยากจะกินให้ไว!
แต่น่าเสียดายที่เยี่ยนอวี๋ไม่อนุญาต “เสี่ยวเป่า ห้ามกินคำใหญ่ๆ นะ เดี๋ยวจะสกปรกเอานะจ๊ะ”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าโกรธหนูตัวน้อยที่กินไวกว่า
เยี่ยนอวี๋จึงถามกลับว่า “มันเป็นหนูตัวน้อยจอมสกปรก แต่เจ้าเป็นเด็กน้อยแสนน่ารัก เจ้าจะสู้กับมันหรือ”
“…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงได้กินช้าลง ทั้งสง่าและน่ารัก
คนรอบๆ เห็นเช่นนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้…
“อะแฮ่ม” อินหลิวเฟิงที่กระแอมเบาๆ แล้วค่อยย้อนกลับไปยังหัวข้อหลัก เขากล่าวต่อไปว่า “เช่นนั้นแล้วจวินฮวนมิได้นำรายการสินค้ามอบให้แก่เจ้าหรือ”
“ให้แล้ว” เยี่ยนอวี๋จึงได้นำรายการสินค้าที่ถูกลูกน้อย ‘ทอดทิ้ง’ ออกมาจากถุงวิเศษแล้วยื่นให้กับอินหลิวเฟิง
หลังจากที่อินหลิวเฟิงอ่านจบก็พูดออกมาอย่างไม่ปิดบังว่า “เกิดอะไรขึ้น เขาเองก็รู้แล้วว่าเจ้าเป็นปราชญ์มหาสำนักแห่งสำนักหมอหลวง เหตุใดจึงไม่ให้ห้องพักที่ใหญ่ที่สุดแก่เจ้าล่ะ” หรือว่า…