เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 160 เด็กคนนี้ทำไมถึงคล้ายต้าซือมิ่งเพียงนี้กัน! ตอนที่ 161

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 160 เด็กคนนี้ทำไมถึงคล้ายต้าซือมิ่งเพียงนี้กัน!

อินหลิวเฟิง “…”

เขากุมหัวใจน้อยๆ ไว้อีกครั้ง!

กล่าวตามจริง สติปัญญาของคุณหนูใหญ่เยี่ยนคนนี้ ดีเยี่ยมเหมือนดั่งความงามของนางจริงๆ! ทำให้เขามิอาจรับมือได้

ที่สำคัญคือ เขาสามารถแต่งเรื่อง พูดปดต่อหน้าคนรอบข้างได้ แต่กลับไม่เป็นผลเมื่ออยู่กับนาง! จึงทำได้เพียงพูดความจริง

“หึ” และเยี่ยนอวี๋ที่ได้รับ ‘การยืนยัน’ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมาทันที

ทำเอาอินหลิวเฟิงรู้สึกขนลุกซู่และกล่าวอธิบายว่า “ถึงแม้ข้าจะคาดหวัง แต่ที่ข้าตัดสินใจจะดูแลพวกเจ้าสองแม่ลูกนั้นก็ต้องดูแลดีๆ ข้าไม่ได้หมายความอย่างอื่นเลย! จริงๆ นะ!”

“ข้ารู้” เยี่ยนอวี๋ไม่ได้สงสัยอินหลิวเฟิง “เจ้าทำตามในสิ่งที่ข้าบอกเป็นพอ”

“เช่นนั้น…” อินหลิวเฟิงที่กำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่ก็ถามขึ้น “เช่นนั้นหากต้าซือมิ่งก็ลงมือช่วยด้วยล่ะ?”

“ย่อมได้” เยี่ยนอวี๋กล่าวเฉยชา “หากเขาอยากจะช่วยเมืองโยวตูของเจ้าจริงก็เป็นเรื่องดีเช่นดี หากพูดในทางฝีมือเขามีความสามารถที่จะช่วยเหลือได้จริงๆ”

“อ้อ…อ้อๆ” อินหลิวเฟิงพยักหน้าต่อเนื่อง รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นไส้ตรงกลางที่กำลังถูกกดทับด้วยทั้งสองข้างอย่างไรไม่รู้ ซึ่งดูเหมือนต่างจากที่เขาคิดไว้นัก

เดิมที เขาคิดไว้อย่างสวยงามว่าหากนำตัวคุณหนูใหญ่เยี่ยนมา ต้าซือมิ่งก็จะมาช่วยเหลือด้วย สุดท้าย? ต้าซือมิ่งยังไม่ทันตอบตกลงช่วยเลย กูไหน่ไนเยี่ยนก็…ก็จะเปิดศึกกับต้าซือมิ่งแล้ว?

ยามค่ำ รอจนอินหลิวเฟิงพาเยี่ยนอวี๋และคนอื่นๆ กลับไปยังจวนอ๋อนนั้นก็ดึกมากแล้ว

แต่ไม่ว่าจะดึกเพียงนี้ เจ้าก้อนน้อยที่เล่นจนชอบใจไม่อยากจะกลับ เขายังฝืนตั้งศีรษะที่ง่วงนอนมากแล้วอยู่ในอ้อมกอดของท่านแม่คนงามแล้วพึมพำว่า “อ้ะเนะเนะ…” เสี่ยวเป่าจะเล่นอีก…

เยี่ยนอวี๋จึงกล่อมลูกน้อยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “พรุ่งนี้ค่อยให้ลุงอินพาเจ้าออกมาเล่นอีกนะ วันนี้เรากลับกันก่อน ดึกมากแล้ว เสี่ยวเป่าต้องกลับไปนอนก่อนนะ”

“อ้ะเนะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เบิกตากว้างแสดงออกว่าเขายังไม่ง่วงนอน!

“ฮะ” เยี่ยนจื่อเสาที่อยู่ด้านนอกเงียบมาตลอดทาง เห็นเช่นนี้จึงหัวเราะออกมา “เสี่ยวเป่าเป็นเด็กดีนะ ไปนอนก่อน พรุ่งนี้จะพาเจ้าออกมาเล่นอีกแน่นอน”

“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าขยี้ตายังไม่อยากนอน

เยี่ยนอวี๋กลับจุมพิตที่ศีรษะโล้นของเขา “เสี่ยวเป่าเป็นเด็กดีนะลูก นอนอิ่มๆ พรุ่งนี้ท่านแม่ค่อยพาเจ้าออกมาเล่นอีก มิเช่นนั้นต่อไปจะให้นั่งรถอย่างเดียว ไม่ให้ลงไปอีก”

“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบกุมเสื้อของท่านแม่ของเขาไว้ ราวกับตกใจอย่างไรอย่างนั้น

เยี่ยนอวี๋จึงลูบๆ แผ่นหลังที่แข็งทื่อเล็กน้อยของเขา “เสี่ยวเป่าไม่ชอบนั่งรถเพียงนั้นเชียวหรือ”

“อ้ะเนะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าขยี้ตาตอบ ‘อ้ะเนะเนะ’ นั่งรถไม่สนุก มีเพียงหนูตัวน้อยเท่านั้น แต่ว่ามีท่านแม่อยู่ด้วย เสี่ยวเป่าไม่รังเกียจ

แน่นอนว่าเยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจในภาษา ‘เด็กทารก’ นางทำได้เพียงคาดเดาว่า ลูกน้อยของนางน่าจะเพราะนั่งรถม้าจนหวาดกลัว น่าจะอึดอัดจนทนไม่ไหวแล้ว

ทำให้เยี่ยนอวี๋รู้สึกเจ็บปวดใจจนลูบศีรษะโล้นของลูกน้อย แล้วกล่าวให้คำมั่นสัญญาว่า “เช่นนั้นเสี่ยวเป่าต้องนอนอิ่มๆ ต่อไปเราจะพยายามนั่งรถให้น้อยลงนะ”

“เนะ…ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตอบกลับเบาๆ ไปสองเสียงก็จะหลับตาแล้ว ความจริงเขาง่วงนอนมากแล้ว เพียงแต่เขาเพิ่งจะหลับตาเท่านั้นเอง…

“นายน้อยกลับจวน!”

“ต้อนรับนายน้อยกลับจวน!”

เสียงรายงานที่ดังก้องกังวานจากจวนอ๋อง ทำให้เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ง่วงนอนมากแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที เขาจึงเบิกตากลมโตทั้งสองขึ้นอีกครั้งแล้วมองไปทางต้นเสียง “อ้ะเนะเนะ?”

เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นของลูกน้อยอย่างหมดหนทาง “เจ้านะเจ้า…”

“ไม่เกี่ยวกับข้านะ!” อินหลิวเฟิงรีบอธิบายขึ้นและลงจากรถม้าก่อน อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่จวนอ๋องกันแน่ เพราะปกติแล้วแม้จะกลับมาในช่วงเช้าก็ไม่มีการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่เพียงนี้ด้วยซ้ำ!

เมื่ออินหลิวเฟิงลงจากรถม้า เขาก็พูดอะไรไม่ออกอีก…

เพราะอินสวินอี้อ๋องแห่งเมืองโยวตูกำลังยืนรออยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องก่อนแล้ว!

“ท่านพ่อ…” อินหลิวเฟิงลูบๆ ที่ขมับ

ในขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋ก็ได้อุ้มเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กระปรี้ประเปร่าขึ้นอีกครั้งลงมาจากรถม้า

“อ้ะ!” เมื่อเยี่ยนเสี่ยวเป่าลงจากรถม้า ก็เป็นอย่างที่คาดไว้ เขามองไปยังผู้พิทักษ์จวนอ๋องที่ดูแข็งแกร่งจากตื่นเต้น รวมถึงจวนอ๋องแห่งเมืองโยวตูที่สว่างไสว

และอินสวินอี้ที่ไม่แม้แต่จะมองบุตรชายเลยด้วยซ้ำ กำลังจ้องมองเยี่ยนอวี๋และเจ้าก้อนน้อยอยู่ เมื่อเขากำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างก็ไม่รู้จะพูดอะไรเสียแล้ว เพราะเขาสังเกตเห็นว่า…

เด็กน้อยที่ขาวประดุจหยกหิมะตรงหน้านี้ ไม่ดูคล้ายกับอินหลิวเฟิงบุตรชายของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยมากเช่นกัน และความคุ้นเคยนี้ยัง…ยังทำให้เขานึกถึงต้าซือมิ่งที่เพิ่งพบกันไม่นานมานี้ด้วย!?

นี่มัน…

ตอนที่ 161 จะต้องเป็นบุตรชายของต้าซือมิ่งอย่างแน่นอน!

สมองของอินสวินอี้ขาวโพลนไปชั่วครู่หนึ่ง!

สวรรค์เท่านั้นที่รู้…

ตลอดชีวิตในการทำศึกสงครามของเขาเคยมีประสบการณ์สมองขาวโพลนมาสองครั้ง!

ครั้งแรกคือเป็นพยานในเหตุการณ์ที่ต้าซือมิ่งมีชัยชนะเหนือหยวนคังฮ่องเต้ รวมถึงตอนที่มอบทหารให้กับทางราชสำนัก!

และในครั้งนี้…

ก็มีความเกี่ยวข้องกับต้าซือมิ่งท่านนั้นเช่นกัน

อินสวินอี้ไม่รู้ว่าจะอธิบายคำว่า “บัดซบ”! ในใจได้อย่างไร

ถึงขนาดที่อินหลิวเฟิงตะโกนเรียก “ท่านพ่อ” อยู่หลายครั้ง อินสวินอี้ก็ยังไม่ได้ยิน

ทำให้อินหลิวเฟิงต้องเดินมาข้างกายท่านพ่อตนเอง กระซิบเสียงเบาข้างหูท่านพ่อเขาว่า “ท่านพ่อ! ท่านทำอันใดกัน ท่านคงจะไม่ได้ชอบรูปโฉมอันงดงามของคุณหนูใหญ่เยี่ยนหรอกนะ?!”

เมื่อนึกถึงรสนิยมของท่านพ่อที่ไม่ด้อยไปกว่าตนเองแล้ว อินหลิวเฟิงก็จำใจต้องตบลงบนไหล่ท่านพ่ออย่างแรงครั้งหนึ่ง “ท่านพ่อ! ท่านตื่นเถอะ! คุณหนูใหญ่เยี่ยนไม่ใช่บุคคลที่ท่านจะสามารถฝันถึงได้!”

“รู้แล้ว…” อินสวินอี้ที่ตะลึงงันอยู่ตอบรับตามสัญชาตญาณ

คราวนี้ทำให้อินหลิวเฟิงตกใจสะดุ้งโหยง “ท่านพ่อ! ไม่ใช่มั้ง ท่านชอบ…”

ผัวะ!

อินสวินอี้ที่ได้สติคืนกลับมาในที่สุดก็โบกบุตรชายที่ใช้การไม่ได้ไปฝ่ามือหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทั้งด่าด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดเบาๆ ว่า “พูดจาเลื่อนเปื้อนอันใดกัน”

อินหลิวเฟิงนวดศีรษะ พลางเอ่ยว่า “ตัวท่านเอง…”

“พอแล้ว!” อินสวินอี้ตัดบทบุตรชาย ทั้งยังเอ่ยอย่างโยนความรับผิดชอบว่า “ยังไม่ยอมแนะนำอีกว่าปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนคือท่านใด หรือข้าต้องดูให้ละเอียดรอบคอบเอง?”

อินหลิวเฟิง “…”

เขาไม่เชื่อ! ท่านพ่อจิ้งจอกของเขาจะมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร

แต่ว่าเยี่ยนอวี๋กลับอุ้มเจ้าตัวน้อยก้าวขึ้นมาแสดงความเคารพ “เยี่ยนอวี๋ คารวะเจ้าเมืองโยวตู”

“อาเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็เอ่ยเลียนแบบทักทายได้เหมือนมากเช่นกัน พลังงานจิตวิญญาณอันโดดเด่นของเจ้าตัวน้อย ทำให้อินสวินอี้ที่มองอยู่นั้น สมองดัง วิ้งๆ เหมือนจะระเบิด เขารู้สึกจริงๆ! รู้สึกจริงๆ นะว่า เด็กน้อยคนนี้เหมือนกับต้าซือมิ่งบางท่านมาก

แต่ไหนแต่ไรมา อินสวินอี้ล้วนอาศัยเรื่องสายตาดีจนมีชื่อเสียงเลื่องลื่อ เขาเชื่อในสายตาของตนเองเป็นอย่างมาก เขามั่นใจมาก! เด็กคนนี้นอกจากนัยน์ตาที่ไม่ใช่สีม่วง ส่วนที่เหลือล้วนเหมือนกับใบหน้าของต้าซือมิ่งราวกับโขกมาจากพิมพ์เดียวกัน

แน่นอนว่ายังมีความแตกต่าง เด็กทารกน่ะ ย่อมอ้วนจ้ำม่ำ ผิวขาวนุ่มนิ่ม ถ้าหากไม่ดูให้ละเอียด ความสนใจของคนปกติล้วนรวมอยู่ที่ภาพลักษณ์ภายนอกที่อ้วนจ้ำม่ำของเด็กน้อย และละเลยองคาพยพที่เป็นจุดเด่นทั้งห้าของเด็กไป

แต่ว่า แต่ว่าอินสวินอี้ไม่ได้มองข้ามจุดนี้! ที่สำคัญก็คือคนที่มีสายตาดีเช่นเขา เพิ่งจะพบกับต้าซือมิ่งท่านนั้นในช่วงบ่ายไป! เพิ่งจะพบกัน นี่ นี่ก็…

นี่ทำให้อินสวินอี้อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า! ต้าซือมิ่งท่านนั้นจงใจใช่หรือไม่ ดังนั้น…

“ความจริงแล้ว การที่ต้าซือมิ่งให้จัดการบัญชีรายชื่อล่วงหน้าก็เพื่อสองแม่ลูกคู่นี้?” ในห้วงความคิดของอินสวินอี้ปรากฏความเชื่อมโยงนี้ออกมาตามจิตใต้สำนึก หลังจากนั้นสัญชาตญาณของเขาก็บอกว่า เกรงว่าการคาดเดานี้เป็นความจริง!

และถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้จริงๆ เด็กคนนั้นจะต้องเป็นบุตรชายของต้าซือมิ่งอย่างแน่นอน

มารดามันเถอะ…

ทันใดนั้นอินสวินอี้ที่กุมหน้าผากก็เอ่ยอำพรางว่า “อืมๆ เด็กคนนี้น่ารักเกินไปแล้วนะ! ข้า ข้าไม่เคยเจอเด็กที่น่ารักขนาดนี้มาก่อนเลย ทหาร ไปนำไข่มุกแว่วเสียงจันทรามามอบให้กับเด็กน้อยผู้นี้! เป็นของขวัญในการพบหน้า”

“ซี๊ด…” อินหลิวเฟิงสูดลมหายใจลึก เอ่ยด้วยความอิจฉาเล็กน้อยว่า “ท่านพ่อ! ท่านลำเอียงจริงๆ ไข่มุกแว่วเสียงจันทราเม็ดนั้น ตอนเด็กข้าขอท่าน ท่านก็ไม่ยอมให้ ตอนนี้ท่านกลับให้…”

“อ๋า?” เสียงนุ่มนิ่มแสดงความสงสัยของเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เอ่ยออกมาได้เหมาะเจาะหยุดการประท้วงของอินหลิวเฟิงได้สำเร็จ

นี่ยิ่งทำให้อินสวินอี้รู้สึกว่า เกรงว่าเด็กคนนี้จะเป็นบุตรชายของท่านผู้นั้นจริง! เขาสูดลมหายใจลึก พลางเอ่ยว่า “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนและบุตรชายตัวน้อยของท่าน เมืองโยวตูยินดีต้อนรับการมาเยือนของพวกท่าน เที่ยวเล่นได้ตามสบาย เที่ยวเล่นได้ตามใจชอบ มีสิ่งใดที่ต้องการก็บอกกับหลิวเฟิง อย่าได้เกรงใจเด็ดขาด”

“ท่านอ๋องเกรงใจเกินไปแล้ว” แม้เยี่ยนอวี๋จะรู้สึกว่าเจ้าเมืองโยวตูท่านนี้แปลกพิกลอยู่บ้าง แต่นางก็ไม่ได้กล่าวอันใดให้มากความ “คราวนี้ต้องรบกวนพวกท่านแล้ว”

“ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนต่างหากที่เกรงใจ เกรงใจเกินไปแล้ว เหอะๆ…” อินสวินอี้ปรับกิริยาท่าทางอย่างรวดเร็ว “แม้เมืองโยวตูของข้าจะเจริญรุ่งเรืองสู้หวังตูไม่ได้ แต่ก็มีเอกลักษณ์มาก โดยเฉพาะงานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่าที่สำนักจวินจื่อจัดขึ้น แต่ไหนแต่ไรก็เป็นที่ชื่นชอบของสำนักใหญ่ต่างๆ และผู้ฝึกฌาน ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนน่าจะได้รับบัตรเชิญงานประมูล พอถึงเวลานั้นต้องไปร่วมงานให้ได้เล่า จะไม่ทำให้ท่านกับบุตรชายของท่านผิดหวังแน่นอน ถ้าหากว่ามีสิ่งใดที่ต้องการเป็นพิเศษ ก็สามารถบอกกับหลิวเฟิงตรงๆ ได้เลย”

อินสวินอี้ที่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกลึกซึ้งของต้าซือมิ่งบางท่านอย่างเลือนรางรู้สึกว่า เขาจะต้องจัดการดูแลสองแม่ลูกคู่นี้ให้เหมาะสม แต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจทำเกินไปได้ ถึงอย่างไรจิตใจของท่านผู้นั้นก็คาดเดาได้ยากกว่าองค์จักรพรรดิเสียอีก

แต่ทว่า…

“เนะ!”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท