ตอนที่ 164 เสี่ยวเป่าสร้าง “ความสะเทือนเลือนลั่น” ทั้งงาน… / ตอนที่ 165 สมองมีปัญหาจะนำพาหายนะมาสู่ทั้งตระกูล
ตอนที่ 164 เสี่ยวเป่าสร้าง “ความสะเทือนเลือนลั่น” ทั้งงาน…
เสียง กริ๊ง ดังกังวาน สกัดความรู้สึกเคียดแค้นไม่เป็นธรรมของเฉาผิงผิงให้หยุดลงได้พอดี ทั่วทั้งห้องโถงประมูลเข้าสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว
ทุกคนล้วนรู้ว่าเสียง กริ๊ง นี้เป็นการแสดงว่าการประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ในฐานะที่เฉาอิงเหรินเป็นพี่ชายของเฉาผิงผิง เขาจึงเตือนสติน้องสาวเสียงเบาว่า “เข้าไปในห้องส่วนตัวก่อน”
“เชอะ!” เฉาผิงผิงแค่นเสียงเย็นไปทางชั้นสองด้วยท่าทางที่ปล่อยวางไม่ลงครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับไปในห้องส่วนตัว
ส่วนบนเวทีที่ทำการประมูลสมบัติในห้องโถงชั้นหนึ่งก็มีชายชราร่างเตี้ยทว่าแข็งแรงคนหนึ่งเดินขึ้นไป บนมือของเขาถืออ่างปลาขนาดเล็กที่ปิดผนึกเอาไว้อ่างหนึ่ง
“นั่นคือสมบัติที่จะประมูลชิ้นแรกหรือ!” ผู้เข้าร่วมไม่น้อยล้วนทำการคาดเดา
ความสนใจของทุกคนในงานล้วนรวมอยู่ที่ชายชราเล็กเตี้ยผู้นั้น รวมถึงอ่างปลาขนาดเล็กอ่างนั้นด้วย
กริ๊ง!
ถัดจากเสียง กริ๊ง ที่สิ้นสุดลง ชายชราเล็กเตี้ยผู้นั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “ผู้ฝึกฌานทุกท่าน อรุณสวัสดิ์ ข้าน้อยเป็นหัวหน้าผู้ประเมินคุณค่า และหัวหน้าผู้ดูแลการประมูลสมบัติของงานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่า…ผังอี้”
…
“ผังอี้ นักหลอมศาตราวุธขั้นสูง ฝีมือลึกล้ำ ศาสตราวุธที่สร้างสำเร็จแทบจะใกล้เคียงกับระดับตำนาน ความสามารถในการประเมินสมบัติล้ำค่าแตกฉาน ทั้งยังสามารถระบุได้อย่างแม่นยำถึงระดับของสมบัติที่นำมาประมูลในงานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่าที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงบอกได้ว่าพวกมันเป็นของจริงหรือของปลอมด้วย”
หลังจากที่ผังอี้แนะนำตนเองจบแล้ว อินหลิวเฟิงก็อธิบายความเป็นมาของผังอี้โดยละเอียดให้กับพวกเยี่ยนอวี๋และคนอื่นๆ เพื่อให้เยี่ยนอวี๋และคนอื่นๆ มั่นใจมากขึ้น
“มิน่าล่ะ เขาถึงได้แนะนำฐานะของตนเองว่าเป็นผู้ประเมินคุณค่าและผู้ดูแลการประมูลสมบัติ” เยี่ยนจื่อเสาเอ่ย และมองเห็นว่าผังอี้ที่อยู่บนเวทีกำลังเปิดผ้าคลุมอ่างปลาขนาดเล็กจากความสามารถในการมองเห็นที่ดีเยี่ยม
“!” คนที่อยู่ในห้องโถงประมูลสมบัติทั้งหมดล้วนกลั้นลมหายใจเพราะการกระทำของผังอี้! ทุกคนล้วนตั้งตารอคอยว่า ของประมูลชิ้นแรกคือสิ่งใด?
แม้กระทั่งเยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของทุกคน เขากำแขนเสื้อท่านแม่คนงามของเขาแน่น ใช้ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังอ่างปลาขนาดเล็กอ่างนั้น
พรึบ!
ผังอี้เปิดผ้าคลุมออกหมดโดยไม่พูดไม่จาในตอนที่อารมณ์ของทุกคนตึงจนถึงจุดสูงสุด ทำให้เกิดเสียงหอบตะลึง และเสียงร้อง อ๊า ด้วยความตกใจของเยี่ยนเสี่ยวเป่า
เยี่ยนอวี๋ลูบหลังบุตรชาย ช่วยให้เขาผ่อนคลาย…
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าตื่นเต้นจนคว้ามือท่านแม่ของเขา และถีบขายืนขึ้นมาแล้ว!
“อ๊ะอ๊ะอ๊ะ…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็นปลาตัวหนึ่ง! เป็นปลาที่สวยมาก! เป็นปลาเรืองแสงที่มีสีสันงดงามตระการตา
สีนั้นมองดูแล้วงดงามเหมือนกับท่านแม่คนงามของเขา ทำให้เขาถีบขาอย่างตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมจนโต๊ะดัง ตึงๆ “อะเนะ! อะเนะเนะ! อะเนะ…”
ทั่วทั้งห้องโถงการประมูลล้วนถูกเสียงร้องอ่อนเยาว์และแปลกใหม่ ทั้งยังดังกังวานเป็นพิเศษ ทำให้ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ ที่เดิมคิดจะส่งเสียงตะโกนตะลึงค้างไป
เป็นธรรมดาที่ภายในงานจะเหลือเพียงแค่เสียงร้องของเยี่ยนเสี่ยวเป่า “อะเนะ! เนะ…”
“ได้ๆๆ เสี่ยวเป่าไม่ต้องตื่นเต้น แม่จะซื้อให้เสี่ยวเป่า” เยี่ยนอวี๋ไม่เคยเห็นท่าทางตื่นเต้นเช่นนี้ของบุตรชายมาก่อน ตื่นเต้นถึงขั้นยืนตรงขึ้นมาได้โดยที่ขาไม่อ่อนแรงด้วย
“เนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับชี้ไปทางปลาที่งดงามด้านล่างอย่างควบคุมไม่อยู่ “เนะ…” สวยมากเลย เสี่ยวเป่าอยากเล่น สวยมาก…
“ได้ๆๆ” เยี่ยนอวี๋ลูบบุตรชายตัวน้อยที่ตื่นเต้น ในแววตาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งการตามใจ ท่าทางที่หน้าบานเป็นกระด้งของบุตรชายนางนั้นน่ารักที่สุดเช่นกัน
“ท่านบรรพบุรุษตัวน้อย…” อินหลิวเฟิงกุมศีรษะ ไม่รู้ว่าจะพูดกับกูไหน่ไน[1]ผู้นี้อย่างไร แม้ว่าท่านจะอยากแข่งประมูล เช่นนั้นท่านก็ไม่จำเป็นต้องประกาศเสียงดังลั่นให้ผู้อื่นรู้ก็ได้! คราวนี้ท่าไม่ดีแล้ว คนทั้งห้องโถงประมูลล้วนรู้หมดแล้วว่า “ตะพาบ”[2] ท่านนี้ต้องการปลาตัวนี้
ส่วนผู้ดูแลการประมูลสมบัติผังอี้ที่อยู่ล่างเวทีก็ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ พลางเอ่ยว่า “ดูท่างานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่าของพวกเราในวันนี้จะได้ต้อนรับผู้แข่งขันที่อายุน้อยที่สุดแล้ว”
“อะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ารู้ว่ากำลังเอ่ยถึงเขาจึงตอบรับด้วยท่าทางดีอกดีใจ
นี่ทำให้เกิดเสียงหัวเราะเอื้ออาทรจากทั้งงาน มีคนหัวเราะพลางเอ่ยว่า “เด็กน้อยคนนี้ฟังดูแล้วมีชีวิตชีวาจริงๆ ทั้งยังฉลาดมากด้วย เด็กขนาดนี้ก็ยังรู้จักเลือกของดีเสียแล้ว”
ทว่าท่ามกลางเสียงชมเชยด้วยความปรารถนาดี ก็มีเสียงกระแนะกระแหนเสียดหูดังลอยออกมาจากห้องส่วนตัวชั้นสาม “หึ ลูกนอกสมรสที่ไม่รู้ว่าพ่อเป็นใคร ก็มีเพียงแค่สตรีร้ายกาจที่หน้าไม่อายเท่านั้นที่กล้าพาออกมาโอ้อวดเพื่อดึงความสนใจจากผู้คน”
ตอนที่ 165 สมองมีปัญหาจะนำพาหายนะมาสู่ทั้งตระกูล
เมื่อวาจานี้ถูกกล่าวออกมา…
มือของเยี่ยนจื่อเสาก็บีบกันจนเกิดเสียงดัง กร๊อบ!
อินหลิวเฟิงรีบห้ามพี่ชายท่านนี้เอาไว้ ในเวลาเดียวกันก็วางมาดแสดงอำนาจของนายน้อยตระกูลอินออกมา ตำหนิเสียงเข้มว่า “เมื่อใดกันที่กระทั่งอันธพาล หมาแมวทั่วไปก็สามารถมาเข้าร่วมงานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่านี้ได้”
“ข้า…” เฉาผิงผิงที่อยู่ชั้นสามคิดจะเปิดหน้าต่างแสดงฐานะของตนเอง!
แต่เฉาอิงเหรินห้ามนางเอาไว้ได้ทันเวลา พร้อมกับเอ่ยขออภัยทันที “ขออภัย นายน้อยอิน น้องสาวของข้ามาจากชนบท ไม่รู้ประสีประสา โปรดอภัยให้ด้วย”
“ให้อภัยคงไม่ไหว ถ้าหากว่าให้ข้าได้ยินน้องสาวของท่านด่าทอแขกผู้สูงศักดิ์ของข้าไปเรื่อยอีกครั้ง ตระกูลเฉาแห่งเป่ยเหาก็ถอนตัวออกจากกลุ่มเมืองโยวตูเสีย ครั้งนี้ใช้กิจการขนส่งทางน้ำของตระกูลเฉาเป็นค่าตอบแทนแล้วกัน นับตั้งแต่วันนี้ กิจการขนส่งทางน้ำตระกูลเฉาของท่านบนแม่น้ำเย่ว์หมิงเป็นของคุณหนูใหญ่เยี่ยนทั้งหมด” อินหลิวเฟิงปล้นชิงอำนาจดูแลกิจการขนส่งทางน้ำของตระกูลเฉาอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา
ค่าตอบแทนที่หนักหนาสาหัสเช่นนี้! ทำให้เฉาอิงเหรินหน้าซีดเผือดในเสี้ยวพริบตา…
เฉาผิงผิงกรีดร้องเสียงแหลมอย่างนั่งไม่ติด “นายน้อยอิน! ท่านทำแบบนี้ไม่ได้นะ ท่าน…”
“แท้จริงแล้ว ข้าทำได้” อินหลิวเฟิงตัดบทพูดเฉาผิงผิง “เจ้าดูหมิ่นขุนนางขั้นสูงของราชสำนักต่อหน้าฝูงชน ตามกฎหมายต้าซย่าสามารถลงโทษริบทรัพย์มากกว่าครึ่งของตระกูล หรือประหารสามชั่วโคตร ในฐานะที่ข้าเป็นนายน้อยเมืองโยวตู บริหารดูแลเป่ยเหาจึงสามารถลงโทษแทนโอรสสวรรค์ได้”
เสียงของอินหลิวเฟิงดังชัดราวกับเสียงฟ้าผ่าที่ผ่าลงบนสองพี่น้องเฉาอิงเหรินจนตกตะลึงในทันที ทั้งยังทำให้ทุกคนในห้องโถงประมูลล้วนส่งเสียงอื้ออึง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ถึงจะมีคนรู้สึกตัวแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ขุนนางชั้นสูงของราชสำนัก คุณหนูใหญ่เยี่ยน…หรือว่า! มารดาของคุณชายน้อยที่ฉลาดเฉลียวท่านนี้ก็คือผู้ที่เข้ารับตำแหน่งคนใหม่ของสำนักหมอหลวง…ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน?!”
“อะไรนะ?”
“ฮือฮา…”
ภายในห้องโถงประมูลฮือฮาแตกตื่นกันไม่หยุด
ต้องรู้ว่า ช่วงเวลาที่เยี่ยนอวี๋ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนจนถึงวันนี้ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว!
ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นลัทธิเซิ่งเหลียนที่อยู่ทางใต้สุดก็ล้วนได้รับข่าวสารแล้ว
สถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองเช่นเมืองโยวตู ย่อมต้องได้ยินข่าวนี้เร็วยิ่งกว่า
บวกกับคนที่สามารถปรากฏตัวในงานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่าได้ แม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปในห้องส่วนตัวได้ แต่ก็ล้วนมีหน้ามีตา เป็นผู้ฝึกฌานที่มีตำแหน่ง พวกเขาย่อมรู้ชัดยิ่งกว่า
ดังนั้น…
“ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนที่อายุเพียงสิบแปดปี! เป็นผู้หลอมโอสถในตำนานผู้นั้นน่ะหรือ?”
“มารดามันเถอะ! ข้ารู้สึกหายใจลำบากเล็กน้อย!”
“ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน เป็นท่านหรือ ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน…”
หลายคนพยายามมองผ่านบานหน้าต่างชั้นสอง แหงนมองบารมีของเยี่ยนอวี๋ ส่วนคนที่อยู่ในตำแหน่งดีๆ พวกเขาล้วนแหงนมองเห็นหมดแล้ว
เยี่ยนเสี่ยวเป่า
ถึงอย่างไรความน่ารักของเยี่ยนเสี่ยวเป่าก็กลบเกลื่อนความเพียบพร้อมของท่านแม่เขาเอาไว้ได้แล้ว
แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่เขานั่งอยู่บนโต๊ะด้านหน้าท่านแม่เขา! อีกอย่างเสื้อคลุมสีแดงตัวหนาที่เข้าสวมอยู่ก็กระเซอะกระเซิงจึงบดบังใบหน้าท่านแม่คนงามของเขาได้พอดี
ดังนั้นทุกคนจึงได้เห็นเพียงแค่เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่น่ารักน่าชัง รวมถึงมือของเยียนอวี๋ที่อุ้มประคองเยี่ยนเสี่ยวเป่าเอาไว้
“…”
ผู้เข้าร่วมงานที่ตื่นเต้นรู้สึกถูกสาดความน่ารักใส่ แม้จะรู้สึกเสียดาย แต่ก็ไม่โกรธแม้แต่น้อย
ผู้ดูแลการประมูลก็เคาะเสียง กริ๊ง ดังขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งยังดึงงานให้กลับเข้าสู่ประเด็นหลัก “ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบเล็กน้อย ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนมาเยือนงานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่า ไม่ได้ให้ทุกท่านมามุงดู แต่ว่าเรื่องของตระกูลเฉานี้บอกกับพวกเราว่า สมองเป็นสิ่งที่ดี แต่จะต้องมั่นใจว่าตอนที่มันประมวลผลไม่มีปัญหา มิเช่นนั้นจะประสบกับหายนะทั้งตระกูลได้ทุกเวลา ต่อมา พวกเรามาประมูลสมบัติต่อกันเถอะ…”
บรรยากาศภายในห้องโถงประมูลถึงได้สงบลงอย่างสามัคคีกัน ทุกคนล้วนยิ้มเข้าใจ ไม่ใช่เหตุผลนี้หรอกหรือ คุณหนูตระกูลเฉาที่มาจากชนบทท่านนี้ เหอะๆ…
ส่วนผู้ดูแลการประมูลผังอี้ที่กล่าวจบแล้ว ก็เผยปลาที่มีชีวิตชีวาในอ่างปลาขนาดเล็กตัวนั้นออกมา พลางเอ่ยว่า “คิดๆ ดูแล้ว หลายคนในห้องโถงนี้ ไม่จำเป็นต้องให้ข้าน้อยแนะนำ ก็รู้แล้วว่านี่คือปลาอะไร
แต่ว่าข้าน้อยยังต้องพูดพล่ามไร้สาระอยู่ดี นี่คือปลาเยว่ซวิ่น[3]จากแม่น้ำเย่ว์หมิง วางไข่ร้อยปี ฟักไข่ร้อยปี เติบโตร้อยปี พันปีถึงจะกลายเป็นซวิ่นที่มีสีสันงดงาม เหมาะสมที่จะเคี่ยวน้ำแกงให้กับผู้ฝึกฌานธาตุน้ำ สามารถเพิ่มฌานตบะให้กับธาตุน้ำถึงขั้นหนึ่ง อ่อนโยนไม่ทำร้ายร่างกาย เหมาะสมกับทุกสมรรถภาพร่างกาย ทั้งยังมีประสิทธิผลล้างไขกระดูก ผู้ที่กินเข้าไปมีโอกาสที่จะยกระดับเป็นอัจฉริยะ เป็นสมบัติล้ำค่าขั้นสูง”
“เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลย!”
“ไม่เลวเลย! ข้าอยากจะซื้อไปให้หลานชายข้า”
เสียงตอบรับภายในห้องโถงประมูลไม่เลว แต่ไม่มีใครเริ่มประมูล เพราะทุกคนล้วนรู้ว่า นายน้อยของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนถูกใจปลาตัวนี้
อินหลิวเฟิงค่อนข้างภูมิใจ หันไปเอ่ยขอรางวัลกับเยี่ยนอวี๋ “กูไหน่ไน [4]ท่านดูสิ หากว่าไม่ใช่ข้า คราวนี้ท่านจะต้องกลายเป็นตะพาบ[5]ที่ถูกเชือดแน่ๆ ท่านดูสิ ตอนนี้ไม่มีใครกล้าแย่งชิงกับบรรพบุรุษตัวน้อยแล้ว”
“อำนาจเป็นของดี” เยี่ยนจื่อเสาที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้น
“ข้ามีเงิน” เยี่ยนอวี๋กลับเอ่ยขึ้นเช่นนี้
อินหลิวเฟิง “…”
ก็ได้ ดูเหมือนว่าเขาจะรบกวนความสนใจที่อยากจะเป็นคนที่ถูกหลอกได้ง่ายของแม่นางเข้าแล้ว
ในขณะที่อินหลิวเฟิงถูกทำให้สะอึกจนพูดไม่ออก เม่ยเอ๋อร์ก็หยิบกิ่งไม้แห้งยื่นออกไปนอกหน้าต่าง พลางเอ่ยว่า “หญ้าหางจิ้งจอก มีพิษ อายุพันปี”
คำกล่าวนี้ทำให้ผู้คนไม่น้อยในห้องโถงประมูลสูดลมหายใจลึก “ซี๊ด… หญ้าหางจิ้งจอกพันปีที่มีพิษในตำนาน ทำให้ตายคาที่ได้ในตำนานเลยนะ!”
“สาวใช้ที่ถือหญ้าหางจิ้งจอกท่านนี้ นางมีความกล้าจริงๆ! สิ่งมีพิษเช่นนี้ นางยังจับด้วยมือเปล่า…” มีคนถูกการกระทำอันบ้าระห่ำของเม่ยเอ๋อร์ทำให้ตกตะลึง
ส่วนผังอี้ที่รับผิดชอบการประมูลกลับยิ้ม พลางกล่าวเสียงดังว่า “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนใจกว้าง นับกันตามมูลค่า หญ้าหางจิ้งจอกไม่ด้อยไปกว่าปลาเยว่ซวิ่น ถ้าหากว่าไม่มีผู้แข่งประมูลคนอื่นๆ เช่นนั้นปลาเยว่ซวิ่นก็…”
“เดี๋ยวก่อน!”
————————–
[1] กูไหน่ไน เป็นคำใช้เรียกสตรีที่ออกเรือนแล้ว
[2] ตะพาบ มักจะใช้เปรียบเทียบกับบุคคลที่ถูกหลอกลวงได้ง่าย
[3] ปลาเยว่ซวิ่น คือ ปลาสเตอร์เจียน
[4]กูไหน่ไน เป็นคำใช้เรียกสตรีที่ออกเรือนแล้ว
[5]ตะพาบ มักจะใช้เปรียบเทียบกับบุคคลที่ถูกหลอกลวงได้ง่าย