ตอนที่ 169 กล้ายั่วยุจะกินเจ้าเสีย!
“เด็กดี” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นเกลี้ยงของบุตรชาย ทั้งยังไม่ได้รับของขวัญชิ้นนี้เอาไว้ในทันที “ไม่มีเงื่อนไขใดๆ หรือ”
“ไม่มีขอรับ แขกผู้สูงศักดิ์กล่าวเพียงแค่ว่า นายน้อยท่านนี้จะเข้าใจขอรับ” แท้จริงแล้วพนักงานดูแลต้อนรับห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งก็งุนงงมากเช่นกัน เพราะคำสั่งที่เขาได้รับเป็นเช่นนี้จริงๆ แต่เขาครุ่นคิดดูแล้ว เด็กทารกคนหนึ่งฉลาดอย่างไรก็เกรงว่าคงจะไม่เข้าใจหรอก
แต่ทว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับเข้าใจความหมายของต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักบางคนจริงๆ เขาโบกมือไปทางพนักงานดูแลต้อนรับห้องหมายเลขหนึ่งด้วยท่าทางตื่นเต้น เร่งให้รีบยกปลามาให้เขา!
เยี่ยนอวี๋กลับขมวดคิ้วเอ่ยว่า “อืม เจ้าวางปลาไว้บนโต๊ะ และแสดงความขอบคุณต่อแขกผู้สูงศักดิ์ในห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งแทนข้ากับบุตรชายข้าด้วย”
“ขอรับ” พนักงานดูแลต้อนรับของห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งวางอ่างปลาขนาดเล็กลงตามคำบอก หลังจากนั้นก็ถอยออกไป
“อ๊ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองท่านแม่ของเขาอย่างตื่นเต้น เอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจว่า “อะเนะ! อะเนะ…?” ท่านแม่ๆ ท่านพ่อคนงามของข้าเป็นคนให้ รีบให้เสี่ยวเป่าเล่นได้ไหม?
แต่เยี่ยนอวี๋ไม่ได้ทำตามความต้องการของบุตรชาย “เสี่ยวเป่าอย่าเพิ่งรีบร้อน ให้แม่ดูสักนิดก่อน”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าคิดจะพูดอะไรเล็กน้อย
แต่เยี่ยนอวี๋ส่งบุตรชายตัวน้อยในอ้อมแขนให้กับเม่ยเอ๋อร์แล้ว นางลุกขึ้นยืน ไปตรวจสอบปลาเยว่ซวิ่น[1]ตัวน้อย
ครู่หนึ่งหลังจากนั้น…
อินหลิวเฟิงก็ถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่ว่า “มีปัญหาหรือ?”
“ไม่มี” เยี่ยนอวี๋เก็บจิตเหนือสำนึกกลับคืนมา สามารถยืนยันได้แล้วว่าปลาตัวนี้ไม่มีปัญหา แต่แขกผู้สูงศักดิ์ในห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งกลับทำให้นางรู้สึกว่ามีปัญหา
ข้อแรก ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่ต้องการมอบปลาเยว่ซวิ่นให้กับเสี่ยวเป่าด้วยความบริสุทธิ์ใจ เหตุใดจึงไม่ได้มอบปลาให้ทันทีหลังจากที่ได้ครอบครองปลาเยว่ซวิ่นเล่า? ปลาตัวนี้เคยเข้าไปในห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งชั่วครู่หนึ่ง ถึงได้ถูกส่งมา
ข้อสอง ไม่เพียงแต่ไม่เสนอเงื่อนไข ทั้งยังเชื่อว่าเสี่ยวเป่าจะเข้าใจ? นางที่เป็นถึงมารดายังไม่เข้าใจ เสี่ยวเป่ายังเด็กขนาดนี้ จะเข้าใจได้อย่างไร ประหลาด
แต่ทว่า เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เข้าใจอย่างแท้จริงก็มองไปทางท่านแม่ของเขาอย่างปรารถนา “อะเนะ! อะเนะเนะ…” เสี่ยวเป่าอยากเล่นปลาสวยๆ ตัวนั้น…
เยี่ยนอวี๋จะทำอย่างไรได้?
นางทำได้เพียงแค่นำอ่างปลามาไว้ตรงหน้าบุตรชาย “เสี่ยวเป่าชอบปลาตัวนี้มากหรือจ๊ะ”
“อะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้ารัว ทั้งยังยื่นมืออวบออกไปจับปลาอย่างรวดเร็ว
เยี่ยนอวี๋รีบยกมือห้าม พลางเอ่ยว่า “เล่นอย่างนี้ไม่ได้ จะเปียกชื้น เป็นหวัดไม่สบายเอาได้”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับอ่างปลาแล้วถามว่า “อะเนะ?” เช่นนั้นจะเล่นอย่างไร?
เยี่ยนอวี๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้สอนว่า “แบบนี้ เสี่ยวเป่าดูปลาตัวนี้แล้วก็คิดว่าเจ้าลูบถูกตัวมันแล้ว”
“อ๊ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบิกตากว้าง และไม่รู้ว่าฟังเข้าใจหรือไม่
แต่ถึงอย่างไรอินหลิวเฟิงก็ยังคงไม่เข้าใจ “กูไหน่ไน [2]นี่ท่าน…” เขาอยากจะพูดว่า ท่านจะให้ท่านบรรพบุรุษตัวน้อยคิดเช่นไรกัน?
แต่ทว่า…
ซ่า!
ปลาตัวน้อยในอ่างปลาขนาดเล็กกลับได้รับความตื่นตระหนกราวกับถูกคนลูบกะทันหัน! มันกระโจนขึ้นมาจากในอ่างปลา นำพาเสียงหยดน้ำที่สาดกระเซ็นมาด้วย
“ฮ่า! เนะ…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าหน้าบาน
อินหลิวเฟิง “…”
บ้าเอ๊ย!
อย่าบอกเขานะว่า!
ท่านบรรพบุรุษตัวน้อยท่านนี้เรียนรู้การใช้พลังจิตใจเล่นกับปลาตัวนี้เป็นแล้ว!
ซึ่งความจริงนั้น เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็เรียนรู้จนนำไปใช้ได้แล้วจริงๆ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่รวบรวมพลังจ้องไปที่อ่างปลานั้นกำลังทำตามสิ่งที่เขาคิด หยอกปลาเย่วซวิ่นที่อยู่ในอ่างปลาตัวนั้น ปลาเยว่ซวิ่นที่ถูกเขา “ไล่ตาม” ตัวนั้น ว่ายไปว่ายมาจนคิดอยากจะกระโดดออกจากอ่างปลาอยู่หลายครั้ง
แต่เป็นเพราะอ่างปลาอ่างนี้มีกลควบคุม ดังนั้นไม่ว่าปลาเยว่ซวิ่นจะกระโดดอย่างไรก็กระโดดได้เพียงแค่ความสูงระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็ถูกสะท้อนกลับไปในอ่างปลา
ไม่นานนัก ปลาเยว่ซวิ่นที่ถูกหยอกล้อจนโมโหอย่างเห็นได้ชัดก็แยกเขี้ยวปลาอันแหลมคมไปทางเยี่ยนเสี่ยวเป่า! ลักษณะท่าทางเช่นนั้นมีความอัปลักษณ์อยู่หลายส่วน แตกต่างกับภาพลักษณ์เป็นอย่างมาก
“เอ่อ…” อินหลิวเฟิงเป็นกังวลว่าท่านบรรพบุรุษตัวน้อยจะถูกทำให้ตกใจ
ทันใดนั้นเยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับยื่นมือออกมาด้วยความเร็วสูง! คว้าไปทางปลาเยว่ซวิ่นที่อยู่ในอ่างปลา ทำให้เยี่ยวอวี๋ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่ครั้งนี้นางไม่ได้ยับยั้งบุตรชาย นางอยากเห็นว่าลูกน้อยของนางจะจับปลาเยว่ซวิ่นที่โมโหจนหลุดการควบคุมได้หรือไม่
และความจริงก็คือ…
ซ่า!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่คว้าหมับเข้าที่ปลาเยว่ซวิ่นได้ก็ส่งปลาตัวนั้นตรงเข้าปาก!
คราวนี้…
โอ๊ย
ตอนที่ 170 ท่านพ่อคนงามของข้ามาแล้ว!
เพี๊ยะ!
เยี่ยนอวี๋ตีลงบนมืออวบอ้วนของบุตรชายอย่างเบามือ และหิ้วปลาตัวนั้นไปด้วยความรวดเร็ว
สำหรับเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อ้าปากเล็กๆ อยู่นั้นก็ทำได้เพียงแค่กลืนอากาศเข้าไป ไม่ได้กลืนถูกปลาตัวนั้น เขาพองลมที่แก้มกลมๆ มองท่านแม่ของเขา “เนะ! อาเนะ…”
“ปลาที่ยังมีชีวิตอยู่จะกินได้อย่างไรกัน ป่าเถื่อน” เยี่ยนอวี๋จิ้มไปที่หน้าผากนุ่มนิ่มของบุตรชายเบาๆ พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำบนมือบุตรชายให้สะอาดแล้ว ถึงได้สั่งว่า “เม่ยเอ๋อร์ ต้มปลาเยว่ซวิ่น[3]เป็นซุปปลาให้เสี่ยวเป่ากิน”
“อะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากระพริบตาปริบๆ ขณะมองไปทางเม่ยเอ๋อร์ด้วยท่าทางดีใจ
กลิ่นอายพิฆาตเย็นเยียบตรงหว่างคิ้วของเม่ยเอ๋อร์จางหายไปอย่างหมดจด ปลาเยว่ซวิ่นที่กล้าท้าทายเยี่ยนเสี่ยวเป่าถูกนางหิ้วไปชำแหละท้อง บดกระดูกให้กลายเป็นผงแล้ว…
และในตอนนี้เองที่อินหลิวเฟิงที่เพิ่งจะค้นหาเสียงตัวเองพบเอ่ยขึ้นว่า “ท่านบรรพบุรุษตัวน้อยสมกับเป็นบุตรของท่านกูไหน่ไน[4]เสียจริง” เด็กขนาดนี้ พลังก็ยอดเยี่ยมเช่นนี้แล้ว
“รวดเร็วจริงๆ…” เยี่ยนจื่อเสาก็เอ่ยออกมาอย่างยากจะบรรยายได้ในประโยคเดียว “ถ้าหากว่าเป็นข้า เกรงว่าคงจะหยุดเอาไว้ไม่ทัน ทำได้เพียงมองเสี่ยวเป่าแทะปลาเย่วซวิ่นดิบๆ นั้นตาปริบๆ แล้ว” ภาพตรงหน้านั้นไม่สามารถมองตรงๆ ได้จริงๆ
“เช่นกัน” เอ้อร์เหมาปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากเพราะถูกทำให้ตะลึงแล้วจริงๆ
ทันใดนั้นเขาก็เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจนายน้อยของพวกเขาขึ้นมา ฮูหยินน้อยเก่งกาจก็ช่างเถอะ บุตรชายบุญธรรมก็ยังยอดเยี่ยมขนาดนี้ คืนวันหลังจากนี้ก็มีเพียงแค่ถูกรังแกตลอดเสียแล้ว น่าอนาถจริงๆ
…
ก๊อกๆ
“ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน พืชตะไคร่น้ำของท่านขอรับ”
จวินฮวนผู้นำพืชตะไคร่น้ำมาเยือนด้วยตนเองนั้นเคาะประตูห้องส่วนตัวในขณะที่คนภายในห้องล้วน ‘รู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านไป’ ทำให้อินหลิวเฟิงที่ฟังออกว่าเป็นเสียงของเขารู้สึกตะลึง “จวินฮวน?”
“เป็นข้าน้อยเองขอรับ” จวินฮวนรับคำอยู่นอกประตู
อินหลิวเฟิงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้จวินฮวน “เหตุใดเจ้าจึงมาส่งพืชตะไคร่น้ำด้วยตนเองกัน หรือว่าทำสิ่งใดผิดในสำนักจึงถูกลงโทษให้มาเป็นพนักงานในงานประมูล?”
“ไม่ใช่” จวินฮวนทำความเคารพอินหลิวเฟิงอย่างสำรวมกิริยา “คารวะนายน้อย”
“ไม่ต้องทำความเคารพพอเป็นพิธีเหล่านี้ รีบเข้ามา” อินหลิวเฟิงโบกมือแล้วลากจวินฮวนเข้ามาในห้องขณะเอ่ย “เช่นนั้นเจ้ามาทำอะไร? หรือว่าไม่ได้เจอข้านานมากแล้วจึงคิดถึงข้ากัน?”
“นั่นก็ไม่ใช่” จวินฮวนดึงมือตนเองกลับมาและแสดงท่าทางจริงจัง “นายน้อย ธรรมเนียมมารยาทที่ควรปฏิบัตินั้นไม่สามารถละเว้นได้ ท่านมีฐานะเป็นถึงนายน้อยแห่งเมืองโยวตู มิอาจละเลยธรรมเนียมเช่นนี้ได้”
“ข้าก็เป็นแบบนี้” อินหลิวเฟิงแสดงอากัปกิริยาไม่สนใจ นั่งเกียจคร้านอยู่ข้างกายเยี่ยนอวี๋ต่อไป ทั้งยังยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “เจ้าคงไม่ได้มาเทศน์ข้าโดยเฉพาะหรอกนะ?”
“มิใช่” จวินฮวนเบนสายตา ประคองกล่องใส่พืชตะไคร่น้ำไปทางเยี่ยนอวี๋ พลางเอ่ยว่า “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนยังต้องการพืชตะไคร่น้ำมากกว่านี้หรือไม่ขอรับ”
“พวกท่านยังมีอีกหรือ” เยี่ยนอวี๋ตะลึงเล็กน้อย
“มิผิด ความจริงแล้ว นี่เป็นเพียงพืชตะไคร่น้ำกลุ่มเล็กๆ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในคลังสินค้าจวินเป่าเก๋อเท่านั้น” จวินฮวนบอกเล่า
เยี่ยนอวี๋ตะลึงอยู่บ้างจริงๆ “เช่นนั้นพวกเจ้าวางแผนจะเจรจาแลกเปลี่ยนอย่างไร”
“เรื่องนี้ข้าน้อยไม่สามารถตัดสินใจได้ ข้าน้อยเพียงแค่มาแจ้งให้ทราบเท่านั้น ถ้าหากว่าปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนสนใจ สามารถลงไปเจรจาต่อรองการค้าที่ด้านในได้” จวินฮวนตอบ
“ได้ ข้าจะตามเจ้าไป” เยี่ยนอวี๋ไม่คิดพิจารณาเลยแม้แต่น้อย เพราะนางต้องการพืชตะไคร่น้ำจริงๆ อีกทั้งนางก็อยากจะรู้ว่า จวินเป่าเก๋อได้พืชตะไคร่น้ำนี้มาจากที่ใด
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินกลับส่งเสียง “อ๊ะ” ออกมา เขามองไปทางเม่ยเอ๋อร์ที่ต้มซุปปลา และหันไปมองท่านแม่ของเขา พลางเอ่ยว่า “อะเนะเนะ…” ข้าวของเสี่ยวเป่ายังไม่เสร็จ
เยี่ยนอวี๋ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยถามว่า “เช่นนั้นเสี่ยวเป่าจะรอแม่อยู่ที่นี่ หรือว่าจะออกไปกับแม่ก่อน อีกครู่หนึ่งค่อยกลับมากิน?”
“อ๊ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าคิดอยู่ครู่หนึ่งและพาดร่างนุ่มนิ่มอยู่ในอ้อมแขนท่านแม่ของเขา เห็นได้ชัดว่าต้องการตามท่านแม่ของเขาไปแล้วค่อยกลับมากินข้าว
รอยยิ้มบนดวงหน้าของเยี่ยนอวี๋งดงามขึ้นหลายส่วน แต่นางเพิ่งจะอุ้มบุตรชายขึ้นมาเพื่อตามจวินฮวนไป เจ้าตัวน้อยบางคนกลับร้อง “อ๊ะ” ขึ้นมากะทันหัน!
ในเวลาเดียวกันนั้น ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักก็เพิ่งจะเข้าไปในห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่ให้จวินอั้นหยวนสั่งคนให้มานำปลาเยว่ซวิ่นไป ความจริงแล้วตัวเขายังมาไม่ถึงห้องโถง
และสาเหตุที่เขาเพิ่งจะมาถึงในตอนนี้…
ก็เป็นเพราะเขากำลังตรวจสอบเรื่องหนึ่งอยู่
———————————–
[1] ปลาเยว่ซวิ่น คือ ปลาสเตอร์เจียน
[2] กูไหน่ไน เป็นคำใช้เรียกสตรีที่ออกเรือนแล้ว
[3] ปลาเยว่ซวิ่น คือ ปลาสเตอร์เจียน
[4]กูไหน่ไน เป็นคำใช้เรียกสตรีที่ออกเรือนแล้ว