ต้าซือมิ่งสีหน้าพลันเปลี่ยน เขาตอบทันทีว่า “ไม่!”
“เช่นนี้ก็ถูกแล้ว!” อินสวินอี้ทนรับความอึดอัดที่จู่ๆ ก็แผ่ออกมาจากตัวต้าซือมิ่ง เขาพูดเกลี้ยกล่อมไม่หยุดว่า “เรื่องนี้ท่านจะมัวลังเลมิได้ สตรีน่ะมีไว้ง้อ ท่านมิต้องสนใจเรื่องอื่น นางคลอดลูกชายที่ดีเช่นนี้มาให้ท่านแล้ว ยังมีสิ่งใดฝ่าฟันมิได้อีก?”
ต้าซือมิ่งพยักหน้าเห็นด้วย ทว่าเขาพยักหน้าไปได้เพียงครู่หนึ่งก็ตัวนิ่งงัน เขายังคงไม่เข้าใจอยู่ดี ในฐานะที่เขาเป็นเพียงพรหมจารีคนหนึ่ง เขามิได้อุทิศตนทำสิ่งใดเลย เหตุใดจึงได้ลูกชายมาคนหนึ่งเล่า แต่ไม่ว่าเรื่องนี้จะประหลาดอย่างไร… ต้าซือมิ่งก็มั่นใจเรื่องหนึ่งว่า เขาชอบเจ้าก้อนมอมแมมนั่นไม่น้อย เจ้าก้อนนุ่มนิ่มนั่นก็รู้สึกดีกับเขาเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ต้าซือมิ่งที่แต่เดิมรู้สึกแปลกประหลาด แม้กระทั่งรู้สึกเหลือเชื่อ แต่หากเป็นพ่อลูกกันจริงๆ เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว
“เอาอย่างนี้ ข้าช่วยจัดการให้พวกท่านดีไหม” อินสวินอี้ผู้มีไมตรีจิตก็พูดขึ้นจากข้างๆ ด้วยความถนัดในการสังเกตสีหน้าท่าทางของเขาก็ทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าต้าซือมิ่งที่อารมณ์แปรปรวนท่านนี้หวั่นไหวแล้ว
แต่แล้ว ต้าซือมิ่งกลับปฏิเสธว่า “มิต้อง”
“ว่าอย่างไรนะ?” อินสวินอี้ลนลานขึ้นมาทันที “ท่าน…”
“ข้าจัดการเองได้” ต้าซือมิ่งที่มีแผนการในใจแล้วก็เก็บกระจกวิจิตรเรือนนั้น ก่อนจะค่อยๆ ลุกยืนขึ้น
“ท่านจะไปดักนางตอนนี้เลยหรือ”
“ไม่เกี่ยวกับเจ้า” ต้าซือมิ่งที่กลับคืนสู่สภาพสง่างามและสงบเหลือบมองอินสวินอี้ “เรื่องวันนี้…”
“วันนี้เกิดเรื่องอะไรหรือ ข้าไม่รู้เรื่องเลย!” อินสวินอี้ที่รู้ทันก็แสดงจุดยืนของตนทันที
ต้าซือมิ่งพยักหน้า ก่อนจะหายตัวไป…
ฟู่ว! อินสวินอี้ถอนหายใจพลางรู้สึกผ่อนคลายลง เขาพึมพำกับตัวเองว่า “ข้ามแม่น้ำได้แล้วก็รื้อสะพานทิ้งจริงๆ หมดประโยชน์จากข้าแล้วก็ทิ้ง แม้แต่โอกาสให้ข้าอยากรู้อยากเห็นก็ไม่มี”
ทว่าเมื่อคิดถึงความสามารถของต้าซือมิ่ง อินสวินอี้ก็คิดว่าถึงแม้จะอยากรู้ แต่ไม่ขอยุ่งจะดีกว่า มิเช่นนั้นอาจจะถูกฆ่าปิดปากจริงๆ ใครจะไปจินตนาการได้ว่าบุคคลสูงส่งดั่งทวยเทพเช่นต้าซือมิ่งท่านนี้จะคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องให้ภรรยายกโทษให้ ภาพเช่นนี้เป็นภาพเช่นใดกัน
ซึ๊ดดด…
อินสวินอี้สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะส่ายศีรษะ ไม่อยากแม้แต่จะคิดจริงๆ! ทว่าอินสวินอี้ยังคงอยากรู้อยู่ดี อยากรู้จนคันยิกๆ ไปทั่ว
ในขณะเดียวกัน…
ต้าซือมิ่งก็หาแม่ลูกเยี่ยนอวี๋เจอแล้ว ทว่าเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้กำลังคุยธุระกับจวินอั้นหยวน(ที่ถูกดักไว้) ต้าซือมิ่งมิได้ลักพาตัวนางไป เขารอคอยอย่างอดทนอยู่ในความว่างเปล่า
“แค่ก” จวินอั้นหยวนที่รู้ว่าก่อนหน้านี้ตนถูกหลอกล่อก็กำลังยิ้มเจื่อน “ท่านปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน เรื่องของท่านและต้าซือมิ่งคงไม่รุนแรงใช่หรือไม่ เมืองโยวตูเป็นเมืองเล็ก…” คงรับไม่ไหวหากพวกท่านสองคนปะทะกัน
“วางใจเถอะ ข้าไม่สู้กับเขาหรอก” เยี่ยนอวี๋เข้าใจความนัยของคำพูดของเขา “เท่าที่ดูตอนนี้ จุดประสงค์ของข้ากับเขาน่าจะตรงกัน แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความคิดของข้า ส่วนเขาจะคิดอย่างไร ข้าไม่ทราบ”
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี” จวินอั้นหยวนวางใจลงไม่น้อย เพราะเท่าที่เขาทราบ ต้าซือมิ่งท่านนั้นก็มิได้อยากสู้ มิเช่นนั้นคงสู้กันนานแล้ว!
เยี่ยนอวี๋ก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้ต่อ “แล้วพืชตะไคร่น้ำเหล่านี้…”
จวินอั้นหยวนไม่รอให้เยี่ยนอวี๋พูดจบ เขาก็พูดขึ้นว่า “ถือเสียว่าหอจวินเป่ามอบให้ท่านปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน”
“หืม?” เยี่ยนอวี๋เลิกคิ้วมองจวินอั้นหยวน “ข้าไม่รับของให้เปล่า”
“ฮ่าๆๆ…” จวินอั้นหยวนหัวเราะดังลั่น “อันที่จริงก็ไม่ถือว่าให้เปล่า ถือเสียว่าหอจวินเป่าของเรามอบให้สหายเป็นของขวัญแรกพบแล้วกัน แน่นอนว่าหากท่านปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนไม่อยากเป็นเพื่อนกับหอจวินเป่าของพวกข้าก็ย่อมปฏิเสธได้”
เยี่ยนอวี๋เลิกคิ้วอีกครั้ง “ไม่ขาย?”
“อันที่จริงท่านปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนมิต้องรู้สึกหนักใจ หอจวินเป่าพวกข้าย่อมไม่ทำให้สหายลำบากใจ ไม่ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น เพียงแค่ไม่ซ้ำเติมกันก็ถือเป็นสหายแล้ว” จวินอั้นหยวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“พวกเจ้าทำการค้าเช่นนี้ ไม่ขาดทุนหรือ” เยี่ยนจื่อเสาได้ยินดังนั้น เขาก็ถามกลับด้วยความสงสัยเล็กน้อยว่า “หากมีสหายซ้ำเติมเช่นนี้จริงๆ พวกเจ้าก็จนปัญญามิใช่หรือ เช่นนั้น…” สมบัติล้ำค่าที่ให้ไปก็เท่ากับเสียไปเปล่าๆ สิ
จวินอั้นหยวนกลับพูดว่า “หอจวินเป่าของเราย่อมมีมาตรฐานที่เรายึดมั่น มิใช่ใครก็ได้ที่จะได้รับ ‘มิตรภาพ’ ของหอจวินเป่า แน่นอนว่า หากเราดูคนผิดไป หอจวินเป่าก็ย่อมรับความสูญเสียไหว”
“ใช่แล้ว” อินหลิวเฟิงก็อดไม่ไหว “กูไหน่ไน อย่างอื่นเราไม่พูด แต่ความจริงใจของข้า เจ้าย่อมรู้ดี แม้จะลงรายละเอียดมิได้ แต่สำนักจวินจื่อและตระกูลอินของข้าไม่แตกคอกันแน่นอน”
แต่แล้ว เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้ยินดังนั้นกลับทำหน้ามุ่ยและถลึงตาใส่อินหลิวเฟิง
อินหลิวเฟิง “…”
เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะโล้นน้อยๆ ของเด็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองอินหลิวเฟิงอย่างมีความนัย
อินหลิวเฟิง “…”
เขาทำอะไรผิดต่อพ่อคุณทูนหัวท่านนี้หรือ ทำเอาพ่อคุณทูนหัวท่านนี้ไม่พอใจเขาสักเรื่อง!
จวินอั้นหยวนย่อมไม่เข้าใจ ‘สัญญาณ’ เหล่านี้ ทว่าเยี่ยนอวี๋ก็พยักหน้าตอบว่า “ได้”
จวินอั้นหยวน “?”
“ข้าติดหนี้บุญคุณหอจวินเป่า” ในขณะที่เยี่ยนอวี๋พูด นางก็เก็บพืชตะไคร่น้ำเรียบร้อย
จวินอั้นหยวนก็ยิ้ม “ดี!”
“อ้ะเนะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าอยากจะเปิดหีบสมบัติใบใหญ่ที่ท่านแม่ของเขาเก็บลงไป เขาอยากรู้ว่าข้างในคืออะไร เสี่ยวเป่ากินได้หรือไม่นะ
เยี่ยนอวี๋เชี่ยวชาญเรื่อง ‘ความสนใจ’ ของลูกดี นางเก็บหีบสมบัติลงไปในถุงวิเศษอย่างไร้ร่องรอยทันที จากนั้นนางก็ลุกขึ้นพูดว่า “หากไม่มีเรื่องอื่นใดแล้ว พาข้าไปแม่น้ำเย่ว์หมิง”
“เชิญ” จวินอั้นหยวนก็มิได้ชักช้า
เพียงแต่ว่า…