เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 197 ซือมิ่งข้ากำลังทำงานอยู่ ตอนที่ 198

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 197 ซือมิ่งข้ากำลังทำงานอยู่

ในฐานะที่เป็นนักบวชอาวุโสแห่งกลุ่มนักบวชเมืองโยวตู เขาเคยเป็น ‘ศิษย์’ ในตำหนักซือมิ่งในเมืองหลวงมาก่อน ซึ่งอ่อนไหวต่อกลิ่นอายของต้าซือมิ่งบางคน

ทว่าแม้นว่าเขาจะรู้ล่วงหน้าแล้วว่าต้าซือมิ่งนั้นอยู่ที่เมืองโยวตูจริง เขาก็ยังไม่อยากเชื่อ แต่กลิ่นอายของต้าซือมิ่งเขากำลังลอยขึ้นจากแม่น้ำเย่ว์หมิงอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

“ต้าซือมิ่ง…” นักบวชเมืองโยวตูมองดูฉากตรงหน้าที่ราวกับปาฏิหาริย์ด้วยท่าทางตะลึงงันจนไม่รู้สึกตัว

แต่ความจริงแล้ว แม้แต่คนธรรมดาทั่วไปที่อยู่ไกลจากแม่น้ำเย่ว์หมิงก็สามารถมองเห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ข้ามฟากฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลานี้ได้

คลื่นแสงสีม่วงที่คล้ายผ้าและทะเลดาวบนท้องฟ้านั่น แรกเริ่มมันพุ่งขึ้นจากผิวน้ำของแม่น้ำเย่ว์หมิง ราวกับความฝันที่หม่นมัวแต่งดงาม

จากนั้น ชั้นหมอกอันมืดมิดดั่งเวทมนตร์นี้ก็ถูกดึงขึ้นจากผิวแม่น้ำราวกับถูกดึงสิ่งชั่วร้ายออกมาปานนั้น

“แม่เจ้า…”

“นั่นคืออะไรน่ะ!”

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชาวบ้านเมืองโยวตูต่างก็ตะลึงพรึงเพริด

จะว่าอย่างไรดี…

พวกเขารู้สึกว่ากำลังดูดาราจักรบนพื้นดินอย่างไรอย่างนั้น ความรู้สึกนั้นยากที่จะอธิบายได้ โดยรวมแล้วอัศจรรย์มาก! อัศจรรย์จริงๆ!

“เก่งกาจมาก!”

สำนักจวินจื่อที่รับผิดชอบเรื่องการอารักขาประชาชนก็ตะลึงกับฉากนี้เช่นกัน และด้วยพลังการมองเห็นของพวกเขาก็ยิ่งเห็นปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ราวกับทะลุผ่านแม่น้ำเย่ว์หมิงทั้งสายนี้ได้ชัด

แม่น้ำทั้งสายเชียวนะ!

แม่น้ำเย่ว์หมิงอันยาวเหยียดนี้นะ!

ราวกับถูกปกคลุมไปเสียหมดแล้ว!

ให้ตาย!

บิดามันเถอะ…

ขอถามต้าซือมิ่งผู้นี้หน่อยได้หรือไม่ว่าพลังของเขามีขีดจำกัดหรือไม่!

แม่น้ำเย่ว์หมิงนี้ทอดยาวไปทั่วทั้งราชวงค์ต้าซย่าและเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในอาณาเขตต้าซย่าเชียวนะ!

“…”

อินหลิวเฟิงที่กำลังยุ่งอยู่ที่ค่ายภูเขาหนานซานก็ตะลึงเช่นกัน เขารู้ว่าต้าซือมิ่งเก่งกาจ แต่คาดไม่ถึงว่าจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ ขอโทษนะ…

เพราะเขารู้น้อยเกินไปเอง! แม้แต่จินตนาการยังตามฝีมือที่แท้จริงของต้าซือมิ่งไม่ทันเลย

แต่ทว่า อินหลิวเฟิงที่สีหน้าค่อยๆ สับสนขึ้นมาถึงได้เข้าใจเสียทีว่าอุทกภัยที่เหล่านักบวชเมืองโยวตูได้ทำนายไว้นั้นน่ากลัวมากเพียงใด!

อินหลิวเฟิงคาดเดา ชั้นหมอกมืดมิดที่ถูกต้าซือมิ่งดึงออกมานี้ต้องเป็น ‘ผู้ร้าย’ ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและน้ำท่วมหนักอย่างแน่นอน

แต่โชคดีที่ ‘ผู้ร้าย’ คนนี้กำลังถูกต้าซือมิ่งจัดการอยู่ มิเช่นนั้น…อินหลิวเฟิงก็ไม่อาจคิดได้ว่าหมอกมืดมิดนี้จะนำพาซึ่งความหายนะมามากเพียงใด!

อย่าว่าแต่หายนะเลย! อินหลิวเฟิงรู้สึกว่าทั้งต้าซย่าอย่างน้อยต้องมีสามในสองอาณาเขตขึ้นไปที่จะได้รับผลกระทบและการถูกทำลายเป็นผลลัพธ์ที่มิอาจเลี่ยงได้

“น่ากลัวเหลือเกิน…” เอ้อร์เหมากลืนน้ำลายไม่หยุด “ต้าซือมิ่งน่ากลัวเหลือเกิน”

“ไม่หรอก” อินหลิวเฟิงที่ถูกบิดาของตนเอาเปรียบไปหนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว เขาไม่แสดงความรู้สึกหน่อยคงไม่ได้ “ดีนะที่ข้าไม่เคยบาดหมางกับคนผู้นี้”

“มิเช่นนั้นท่านถูกแขวนแล้วโบยตียังจะเบาไป” เอ้อร์เหมาตอบตามจริง

อินหลิวเฟิง “…”

คนใช้ที่ซื่อสัตย์มากไปนี้ไม่อยากเก็บไว้จริงๆ

ว่าไปแล้ว เหตุใดครั้งนี้เขายังพาเอ้อร์เหมามาด้วยล่ะ

…ไม่ว่าในใจอินหลิวเฟิงจะบ่นมากเพียงใด เขาก็คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเมืองเมืองโยวตูที่เห็นฉากนี้ก็กำลังคิดถึงเขาอยู่เช่นกัน “ไม่รู้ว่าต้าซือมิ่งจะหัวรั้นหรือไม่ แล้วชีวิตน้อยๆ ของหลิวเฟิงจะรักษาไว้ได้หรือไม่”

“ท่านอ๋อง ท่านว่าอย่างไรนะ” ทหารอารักขาถามกลับอย่างไม่เข้าใจ

กษัตริย์เมืองโยวตูรีบตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “อะไรที่ไม่ควรรู้! ก็อย่าถามสุ่มสี่สุ่มห้า อยากถูกฆ่าปิดปากหรืออย่างไร”

ทหารอารักขา “…”

เขาคิดว่าท่านอ๋องมีเรื่องจะบัญชา คาดไม่ถึงว่าอาการพูดเองเออเองกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว

ระหว่างพูด อินสวินอี้ก็สัมผัสได้ถึงความแปรปรวนบนอากาศยิ่งชัดเจนมากขึ้น เขาจึงรีบกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “มีสติหน่อย ควักสติของพวกเจ้าออกมาซะ!”

“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!” ทหารอารักขาของจวนอ๋องต่างเงยหน้าแล้วครุ่นคิด จากนั้นก็นำรูจมูกชี้ไปยังจุดศูนย์กลางของความแปรปรวนบนอากาศ

อินสวินอี้พยักหน้าพอใจ “ใช่แล้ว ต้องเป็นแบบนี้สิ ทำต่อไป!”

จากนั้น…

วิ้งๆ ความแปรปรวนอย่างต่อเนื่องบนอากาศ พุ่งออกมาทางที่เหล่าทหารอารักขาได้ยื่นรูจมูกออกไป! ทหารอารักขารอบๆ จึงรีบดึงสติกลับมา ยืนหยัดที่จะไม่ใช้ตามองอีกฝ่าย จะต้องใช้รูจมูก ‘มอง’ เท่านั้น!

ผ่านไปครู่หนึ่ง เงาคนเงาแรกก็ ‘วิ้ง’ ปรากฏออกมา

ตอนที่ 198 กอบกู้ ‘ภรรยาและลูก’

“ต้าซือมิ่ง?!” กู้หยวนซูที่เดินออกจากค่ายกลเคลื่อนเวหามาก่อนคาดไม่ถึงจริงๆ! นางออกมาก็สัมผัสได้ถึงต้าซือมิ่งเลยทันที ทำให้นางไม่สนใจอินสวินอี้และคนอื่นอีกเลย

“เป็นต้าซือมิ่งจริงๆ ด้วย ต้าซือมิ่งอยู่ที่โยวตูจริงๆ” กู้หยวนซูใจสั่น นางคาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าต้าซือมิ่งที่หาตัวยากเย็นเพียงนี้กลับมาอยู่ในที่เดียวกันกับนางได้

นางไปสำรวจยังพื้นที่รกร้างตามสัญชาตญาณ ต้าซือมิ่งก็อยู่ที่พื้นที่รกร้างจริง

นางถูกสั่งให้มาโยวตู ต้าซือมิ่งก็อยู่ที่โยวตู!

“เซ่าซือมิ่งกู้?” อินสวินอี้ที่เรียกไปหลายหนแล้วอยากจะมองบน เคยพบคนบ้าผู้ชายมาก่อน แต่ไม่เคยพบคนบ้าผู้ชายถึงเพียงนี้มาก่อน

น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะเรียกไปกี่หน กู้หยวนซูก็ไม่รู้สึกตัวราวกับไม่ได้ยิน หรือนางอาจได้ยิน แต่แสร้งทำเหมือนไม่ได้ยินก็เป็นได้

อินสวินอี้ไม่ลองเรียกอีกต่อไป เขาเองก็หันไปดูการกระทำดุจเทพเจ้าของต้าซือมิ่งด้วย หลังจากนั้นเขาก็พบว่ามาตราส่วนของ ‘ดาราจักร’ ผืนนั้นยิ่งมายิ่งใหญ่ขึ้นแล้ว

ผ่านไปนานพอควร กู้หยวนซูถึงได้มองย้อนกลับไปอย่างภาคภูมิใจและกล่าวต่ออินสวินอี้ว่า “ดูท่าแล้วข้าคนนี้จะเดาถูกจริงๆ เสียด้วย โยวตูไม่มีความสามารถที่จะหยุดอุทกภัยครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน อุทกภัยครั้งนี้ก็ยังต้องให้ต้าซือมิ่งลงมือด้วยตนเอง”

‘มิเช่นนั้น ข้าจะส่งสาส์นไปให้ทางราชสำนักทำไมกัน ข้ากินอิ่มเกินไปหรือ’ อินสวินอี้มองบนอยู่ในใจต่อไป ใบหน้าของเขาแข็งกระด้างราวกับรูปปั้น

“ขอถามเซ่าซือมิ่งกู้หน่อยได้หรือไม่ว่าในที่สุดก็ส่งคนมาช่วยหยุดอุทกภัยของเมืองโยวตูแล้วใช่หรือไม่”

“…กษัตริย์เมืองโยวตูเข้าใจผิดแล้ว” กู้หยวนซูสำลักไปครู่หนึ่ง แต่นางก็เรียกสติกลับมาได้โดยเร็ว “ตั้งแต่ก่อตั้งต้าซย่ามาเผ่าโบราณตระกูลอินก็มีหน้าที่รับผิดชอบเมืองโยวตูอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กษัตริย์เมืองโยวตูไม่เพียงแต่เพลิดเพลินกับอำนาจของตนเท่านั้น แต่ยังต้องแบกรับหน้าที่การปกครองเมืองอีกด้วย

แต่บัดนี้ภายใต้การปกครองของเจ้าผู้เป็นกษัตริย์เมืองโยวตูรุ่นที่สิบสองนั้นกลับเกิดอุทกภัยที่จะนำภัยมาสู่ต้าซย่าได้ โยวตูอ๋อง! เจ้าสำนึกผิดหรือไม่!”

“เหลว…” ทหารอารักขาที่ปกป้องอินสวินอี้คิดจะตำหนิกู้หยวนซู

แต่อินสวินอี้ห้ามไว้ “ดังนั้นแล้ว เซ่าซือมิ่งกู้รับคำสั่งจากฝ่าบาทให้มาลงโทษข้า แต่ไม่ได้มาช่วยหยุดอุทกภัยจากคำสั่งของต้าซือมิ่งอย่างนั้นรึ”

ในคำพูดนั้นมีนัยแฝงอยู่ กู้หยวนซูตื่นตัวในทันทีพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “โยวตูอ๋อง พูดเช่นนี้ก็ไม่สามารถลบล้างความผิดของท่านได้ ตำหนักซือมิ่งทำตามคำสั่งของต้าซือมิ่งก็เพื่อคนทั่วไป”

“ถูกต้อง! ในแง่ของผลประโยชน์ของคนทั่วไปแล้ว ตำหนักซือมิ่งและราชสำนักไม่เคยยุ่งเกี่ยวเลยสักนิด” เฉิงคั่วที่มาถึงทีหลังพร้อมกับกองทัพราชสำนักก็มาสำทับด้วย

อินสวินอี้เยาะเย้ยในใจ กำลังจะพูดทางการเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น แต่ทว่า…

“…”

ร่างประดุจเทพเซียนร่างหนึ่งลอยขึ้นสู่อากาศอย่างไร้เสียง!

ต้าซือมิ่งที่เสร็จสิ้น ‘ภารกิจที่ภรรยามอบหมายให้’ แล้วกำลังลอยตัวขึ้นสูงไปยัง ‘ดาราจักร’

“ดูเร็ว! เทพเซียน! ใช่หรือไม่ๆๆ!”

“ให้ตายเถอะ! แม่จ๋า…”

ชายหนุ่มที่สายตาดีและเหล่าผู้ฝึกฌานล้วนตะลึงกับท่าทางลอยตัวขึ้นสูงประดุจเทพเซียนของต้าซือมิ่ง ทั้งยังตกลงปลงใจว่าเทพเซียนได้จุติแล้ว!

ส่วนคำพูดอื่น พวกเขาไม่อาจยอมรับ!

นี่ต้องเป็นเทพเซียนแน่ๆ!

นี่เป็นฝีมือของทวยเทพจริงๆ…

ความจริงแล้ว ต้าซือมิ่งนั้นได้แสดงฝีมือแห่งทวยเทพแล้วจริงๆ ชั่ววินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นนั้น เขาก็ได้ย่อส่วนดาราจักรบนแม่น้ำเยว์หมิงให้เล็กลงเหลือขนาดเพียงลูกหนังเล็กๆ สวยงามและเก็บเข้าถุงไป

“มารดามันเถอะ!”

“เก่งกาจมาก!”

นอกจากนี้ก็ไม่มีผู้ใดสามารถสรรหาคำชื่นชมอื่นได้อีก

กู้หยวนซูตกตะลึงยิ่งกว่าใคร…

รวมทั้งผู้คนในราชสำนักที่มีผู้พิทักษ์ข้างกายสองคนอยู่ด้วยก็ตะลึงกับฉากนี้เช่นเดียวกัน!

ส่วนต้าซือมิ่งนั้น หลังจากที่เขาเก็บ ‘เจ้าสิ่งนั้น’ เรียบร้อยแล้วก็กลับลงไปยังใต้แม่น้ำทันที…

ดูท่าแล้วคงยังจัดการภรรยาและลูกไม่สำเร็จสินะ อินสวินอี้เพ่งมองอย่างรู้ทัน เขาทำได้เพียงพึมพำอยู่ในใจ มิเช่นนั้นแม้เขาจะมีสักร้อยชีวิตก็คงไม่พอที่จะฆ่า

“ต้าซือมิ่งนี้คือ…” กู้หยวนซูตกตะลึง จากที่นางสังเกตมา ต้าซือมิ่งควรจะบินลงมาถึงตรงเบื้องหน้านางสิถึงจะถูก

น่าเสียดาย ต้าซือมิ่งไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นนางด้วยซ้ำ เขายังจัดการกับ ‘ภรรยาและลูก’ ไม่สำเร็จตามที่อินสวินอี้คิดจริง ดังนั้นเขาที่เพิ่งผ่าน ‘บททดสอบ’ จึงได้ลงไปจัดการ ‘ภรรยาและลูก’ ต่อที่ใต้แม่น้ำแล้ว

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท