ตอนที่ 203 มารดาของลูกฉลาดดี
ดวงตาของเยี่ยนเสี่ยวเป่าเป็นประกาย! กระทั่งยังตื่นเต้นจนหายใจลำบากอีกด้วย
อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นครั้งแรกที่บิดาแท้ๆ ของตนได้เข้าหาตนด้วยตัวเองเช่นนี้ จะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไรกัน
แต่น่าเสียดาย…
วิ้ง!
ขณะที่ต้าซือมิ่งกำลังปรากฏตัวออกมานั้น เยี่ยนอวี๋ก็ได้พาลูกน้อยของตนหายตัวไปจากที่เดิม
‘โอกาส’ เช่นนี้…ทำให้ต้าซือมิ่งรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก และทำให้เขาขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว “นี่กำลังแก้แค้นการ ‘หลบหนี’ ของข้าเมื่อก่อนอย่างนั้นหรือ”
หากเป็นเช่นนี้จริง…
ต้าซือมิ่งบางคนจะร้องไห้ก็ไม่ใช่หัวเราะก็ไม่เชิง แต่ไม่นานเขาก็ปฏิเสธการคาดเดาเช่นนั้น เพราะสามารถสัมผัสได้ว่าสองแม่ลูกนั้นได้หายตัวไปจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง
อีกอย่างทั้งสองแม่ลูกนี้ยังไปที่โลกโบราณเล็กๆ ที่ไม่รู้นามอีกด้วย!
“ไม่ได้หลบข้า? ไม่สิ…หลบข้าจริงๆ” ต้าซือมิ่งที่กำลังไตร่ตรองอยู่ เพราะสัมผัสได้ถึง ‘ทางเข้า’ โลกน้อยๆ ที่อยู่ใกล้ๆ จึงคาดเดาความคิดของมารดาของเจ้าก้อนน้อยได้
“นางยังคงสงสัยในเจตนาของข้า ดูท่าแล้วการที่นำกระบี่ไท่ชางของนางไปคงจะอธิบายได้ไม่กระจ่างแล้วสินะ” ต้าซือมิ่งที่เข้าใจสาเหตุแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างจนหนทาง รู้ว่าถูกมารดาของลูกชี้ให้เป็นผู้ต้องสงสัยสูงสุดไปแล้ว
ดังนั้น จากที่มารดาของลูกมอง เขาที่หลบๆ ซ่อนๆ มาโดยตลอดกลับไล่ตามพวกเขาสองแม่ลูกกะทันหันเช่นนี้ ทั้งยังอยากปรากฏตัว ‘อย่างมาก’ เสียด้วย ต้องมีอะไรมิชอบมาพากลแน่ๆ
รวมทั้งมารดาของลูกยังมีเรื่องต้องจัดการ ใช่แล้ว…
“ทิ้งข้าไว้นอกโลกน้อยๆ ดีที่สุดแล้ว เป็นการวางแผนที่ปลอดภัยที่สุด” ต้าซือมิ่งที่เดิมทีหมดหนทางแล้วยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ฉลาดดี
ต้าซือมิ่งที่กล่าวชมเยี่ยนอวี๋ในใจนั้น นัยน์ตาพลันปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว น้ำเสียงก็ดีขึ้นเป็นอย่างมาก “หากก่อนที่จะไปสำนักชางอู๋ล่ะก็ ข้าซือมิ่งคงจะไม่มีวิธีจัดการกับเจ้าจริงๆ แต่น่าเสียดายที่ข้าซือมิ่งสามารถเข้าไปได้จริงๆ เสียด้วย”
คำพูดนี้เยี่ยนอวี๋ไม่ได้ยิน มิเช่นนั้นนางคง ‘ระเบิด’ อีกเป็นแน่ แต่ถึงแม้นางจะไม่รู้ว่าต้าซือมิ่งบางคนจะมีความสามารถนี้ก็ตาม แต่นางก็ใช่ว่าไม่มีวิธีรับมือเลย
แม้นต้าซือมิ่งบางคนจะแสดง ‘เจตนาดี’ ของตนออกมาอย่างชัดเจนก็ตาม แต่สำหรับเยี่ยนอวี๋เขาก็ยังคงเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่เคยพบเจอกันซึ่งหน้ามาก่อน และสิ่งที่นางจะทำในตอนนี้มิอาจประมาทเลินเล่อได้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นนางจะต้องระวังมากเป็นพิเศษ!
ดังนั้นหลังจากที่นางเข้าไปยังโลกโบราณน้อยๆ ที่ต้าซือมิ่งบางคนเรียกนั้น นางยังได้เพิ่มผนึกพิเศษให้กับทั้งโลกน้อยๆ นี้ด้วย! เมื่อมีคนทำลายผนึกเข้ามาได้ นางก็จะรับรู้ได้ทันที
“อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่รู้ความคิดของท่านแม่เลยแม้แต่นิดเริ่มร้อนรน “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” ท่านพ่อคนงาม! ท่านพ่อคนงามถูกสกัดไว้แล้ว…
เยี่ยนอวี๋ที่ ‘เข้าใจ’ ความหมายของลูกน้อยได้บ้าง แต่นางเพียงแค่จุมพิตบนศีรษะโล้นของลูกน้อยเท่านั้น และกล่าวปลอบใจว่า “เสี่ยวเป่าเด็กดี รอให้ท่านแม่เสร็จงานจากที่นี่ก่อนค่อยพาเจ้าไปพบเขานะ”
“อ้ะเนะเนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบิกตากว้างแสดงออกว่า จริงหรือ
เยี่ยนอวี๋พยักหน้าแน่ใจ “แน่นอนสิ! อีกอย่างต้าซือมิ่งผู้นี้ดูเหมือนจะไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ อีกแล้ว ดังนั้นครั้งนี้พวกเราน่าจะ ‘พบ’ เขาได้อย่างราบรื่น แต่ตอนนี้แม่ยังไม่ว่างต้องรอเดี๋ยวก่อน เสี่ยวเป่าไม่รีบร้อนได้หรือไม่”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างมีเหตุผล จากนั้นก็นอนอยู่ในอ้อมกอดของมารดาแต่โดยดี
เยี่ยนอวี๋รักใคร่ในตัวลูกน้อยที่ทั้งนุ่มนิ่มและเชื่อฟังเช่นนี้นัก และได้ ‘จุ๊บ’ ลูกน้อยสองสามฟอดอย่างไม่รู้ตัว ความกังวลและความหนักหน่วงในใจถูกปัดเป่าออกไปมาก
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าในตอนนี้เพิ่งสังเกตเห็นว่ารอบๆ มืดไปทั้งสี่ด้าน! ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นและขยับตัวอย่างไม่คุ้นเคยนัก “อ้ะ?”
“เสี่ยวเป่าไม่กลัวนะ” เยี่ยนอวี๋พลางปลอบประโลมลูกน้อยพลางพุ่งไปยังใจกลางของช่องว่างอย่าง ‘ต่อเนื่อง’ ทั่วทั้งสี่ด้านค่อยๆ เปล่งประกายด้วยแสงระยิบระยับคล้ายกับหิ่งห้อย
เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงตื่นเต้นขึ้นมาทันที หากไม่ใช่เพราะท่านแม่ของเขามีเรื่องต้องจัดการ มิอาจรบกวนได้ล่ะก็ เขาคงกลิ้งออกไปจับ ‘หิ่งห้อย’ แล้ว
ตามด้วยแสงจากหิ่งห้อยที่แน่นหนากันจน ‘เต็มท้องฟ้า’ นั้น เยี่ยนอวี๋ก็หยุดลงไม่บินอีกต่อไป เพราะนางได้อยู่ที่ใจกลางช่องว่างของโลกโบราณน้อยๆ นี้แล้ว
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ขยับตัวราวกับรับรู้ได้ และขยับศีรษะไปอีกทางหนึ่ง จากนั้นเขาก็… “อ้ะ” พบเห็น…เฟยเฟยอันงดงามที่ใหญ่กว่ามากๆ คู่หนึ่ง!
ซึ่งนั่นคือปีกอิงหลงขนาดยักษ์ที่ดูใหญ่กว่าปีกอิงหลงที่ขึ้นแสดงบนสำนักจวินเป่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า! สีขาวเงินดุจหิมะสว่างไสวราวกับแสงสว่างจากทวยเทพ
“ว่าแล้วเชียว…” เยี่ยนอวี๋สายตาถอดถอนใจ และมองไปยังปีกตรงหน้าด้วยความปวดใจ มั่นใจได้! ว่านี่คือปีกคุ้มกันที่สร้างจากพลังแห่งปีกที่ถูกตัดให้ขาดของผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นั้นของนาง
แต่ทว่าเห็นได้ชัดว่าสภาวะของปีกคู่นี้ผิดปกติ เพราะทั้งด้านในของมันมีแสงสีดำดุจเส้นไหมกำลังสัญจรไปมาอย่างต่อเนื่อง มันติดอยู่ข้างใน! ทั้งยัง…
ไม่รอให้เยี่ยนอวี๋มองดูอย่างละเอียดต่อไป ‘เส้นใย’ สีดำที่สัญจรไปมาอยู่ในปีกอิงหลงขนาดยักษ์นี้ พวกมันได้กลายเป็นใยคล้ายใยแมงมุม แล้วปกคลุมไปยังเยี่ยนอวี๋สองแม่ลูก
“อ้ะเนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบใช้มือหนึ่งปิดศีรษะโล้นน้อยๆ ไว้ อีกมือหนึ่งปกป้องมารดาของเขาไว้ด้วยท่าทางเป็นกังวลมาก!
แต่ทว่านางมีวิธีรับมือตั้งนานแล้ว ขณะที่นางถูก ‘ใยแมงมุม’ สีดำคลุมไว้นั้น นางก็ได้เขียนยันต์ขึ้นมาแล้วหนึ่งแผ่น กลายเป็นเปลวไฟนับพันเปลวแผดเผา ‘ใยแมงมุม’ สีดำนี้อย่างง่ายดาย
นี่ยังไม่นับว่า…
ตอนที่ 204 เขามาอย่างเงียบๆ!
เยี่ยนอวี๋ที่กอดลูกน้อยไว้แน่น ขณะที่ ‘ใยแมงมุม’ ถูกทำลายนั้นยังสร้างรอยประทับสีม่วงดำให้กับปีกอิงหลงขนาดยักษ์ที่งดงามได้อีก!
วิ้ง รอยประทับเข้าไปในกระดูก และหายไปใน ‘แสง’ ของปีกอิงหลง ความรวดเร็วเช่นนี้เหนือกว่าปฏิกิริยาของ ‘เส้นใย’ สีดำ ทำให้ฝ่ายหลังไม่อาจป้องกันและหยุดการ ‘โจมตี’ ของเยี่ยนอวี๋ได้ทันเวลา
หลังจากนั้น…
แน่นอนว่าไม่มีหลังจากนั้น
วิ้ง ปีกอิงหลงขนาดยักษ์ที่เปล่งแสงอันศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้เปล่งประกายแสงสีขาวออกมาเป็นชั้นๆ จากในสู่นอก และกำจัด ‘เส้นใย’ สีดำเหล่านั้นในทันที
ตามด้วยน้ำเสียงที่คมชัดปนสับสนดังออกมาจากปีกอิงหลงขนาดยักษ์อย่างน่าอัศจรรย์ “ปะ…ปฐมราชินี? นั่น…นั่นท่านหรือ”
“ข้าเอง” เยี่ยนอวี๋โล่งใจ “ดูเหมือนว่าเจ้ายังมีเทวญาณเหลืออยู่บ้าง”
“จริงด้วย! เป็นท่านจริงๆ ด้วย!” น้ำเสียงตื่นเต้นของอิงหลงส่งเสียง วิ้งๆ ออกมาไม่หยุด เพราะเหตุนี้ทำให้สั่นสะท้านไปทั่วทั้งโลกโบราณน้อยๆ นี้ “ท่านไม่ได้สิ้นชีพ! ท่าน…”
“อย่าได้ตื่นเต้นไป” น้ำเสียงราวกับน้ำประดุจเสียงบรรเลงของเยี่ยนอวี๋ ด้วยพลังสะกดใจคนอันแข็งแกร่ง ไม่นานก็ทำให้โลกโบราณน้อยๆ ที่สั่นสะท้านนี้สงบลง
เยี่ยนอวี๋ถึงได้ถามขึ้น “บอกข้าทีว่าเกิดอะไรขึ้น”
หลังจากนั้น…
“ข้าน้อยเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน” อิงหลงอาวุโสตอบกลับอย่างละอาย “ข้าน้อยจำได้เพียงว่า เดิมทีข้าน้อยอยู่ในพื้นที่ที่ท่านดับสูญ และตามหากลิ่นอายของท่าน พวกเราทุกคนต่างก็ไม่เชื่อว่าท่านจะดับสูญไปจริงๆ!…แต่เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็อยู่ที่นี่แล้ว”
“จำไม่ได้อย่างนั้นหรือ” เยี่ยนอวี๋ตกใจมาก “เจ้าจำอะไรไม่ได้เลยหรือ”
“ขอรับ” อิงหลงอาวุโสยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ “ข้าน้อยไร้ประโยชน์ แต่ทว่าข้าน้อยสัมผัสได้ว่าเทวญาณของข้าน้อยถูกสะกดไว้ในค่ายกลนี้ และมีกลื่นอายที่ชั่วร้ายมากอยู่ข้างใน”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ อิงหลงอาวุโสจึงอดมิได้ที่จะตักเตือนปฐมราชินี “ข้าน้อยรู้สึกว่าหากถูกพลังอันชั่วร้ายนี้ครอบงำ เกรงว่าจะเป็นการยากที่จะควบคุมสติได้ ท่านจำต้องนำพลังของข้าน้อยกลับมาเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าน้อยถูกหลอกใช้”
“เจ้าไม่มั่นใจในการต่อสู้ครั้งนี้?” สีหน้าเยี่ยนอวี๋เงียบขรึม “เจ้ารู้หรือไม่ว่าตำแหน่งที่เจ้าอยู่ในตอนนี้คือตำแหน่งใด”
“…เป็นทางเข้าที่ท่านผนึกแดนมืดวิญญาณอสูร?” อิงหลงอาวุโสไม่แน่ใจนัก เพราะมันไม่มีความทรงจำที่สมบูรณ์จริงๆ ภาพความทรงจำของมันขาดหายไป
เยี่ยนอวี๋กลับคาดไม่ถึงว่าสถานการณ์ของผู้ใต้บังคับบัญชาจะแย่เพียงนี้ เห็นได้ชัดว่ามันถูกถอน ‘การรับรู้’ ทุกอย่างทิ้งหมดแล้ว ที่สามารถฟื้นขึ้นมาได้นั่นต้องขอบคุณนางที่เห็นแก่ความสะดวกสบาย จึงได้ผนึกวิญญาณไว้ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกตน นางจึงสามารถปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้นได้
“…ปฐมราชินี?” อิงหลงอาวุโสที่ไม่ได้รับการตอบกลับจากเยี่ยนอวี๋เป็นเวลานานก็เริ่มลนลาน ทั้งยังหวาดกลัวเล็กน้อย “ข้าน้อยไร้ความสามารถ ขอปฐมราชินีโปรดลงโทษข้าน้อยด้วย!”
“ไม่” เยี่ยนอวี๋ส่ายศีรษะทันที “ไม่เกี่ยวกับเจ้า ข้าสัมผัสได้ว่าพลังของผู้ที่ผนึกเจ้านั้นซับซ้อนมาก เช่นนี้…ข้าจะเพิ่มกุญแจควบคุมสติให้เจ้าก่อน เพื่อช่วยให้เจ้าต้านทานต่อการพังทลายของค่ายกลต้องห้ามนี้ได้ ป้องกันไม่ให้มันหลอกใช้เจ้าก่อความวุ่นวายอีก”
“ขอรับ!” อิงหลงอาวุโสตอบรับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เพราะมันรู้อย่างแน่ชัดแล้วว่าระหว่างที่เทวญาณของมันสิ้นสติไป มันต้อง ‘ก่อเรื่อง’ ไว้ไม่น้อยแน่ หลังจากนี้ต้องได้รับโทษแน่นอน! แม้มันจะไม่รู้เรื่องก็ตาม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็เคยทำผิดอยู่ดี
“เจ้าสั่นอะไรของเจ้า” เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ “เจ้ากลัวว่าพลังของข้าจะยังไม่ฟื้นฟู พลาดทำให้เจ้ากลายเป็นบ้าอย่างนั้นหรือ”
“หา?” อิงหลงอาวุโสมึนไปชั่วขณะ เพราะมันสังเกตได้ว่าปฐมราชินีตรงหน้านี้กำลังล้อมันเล่นอยู่หรืออย่างไร นี่ทำให้มัน ‘มองไปยัง’ ปฐมราชินีอย่างไม่รู้ตัว
ก่อนหน้านี้ อิงหลงอาวุโสไม่แม้แต่จะกล้า ‘มอง’ ปฐมราชินีเลย นี่เป็นความสามารถอย่างหนึ่ง! ดังนั้นจนถึงบัดนี้มันเพิ่งสังเกตเห็นว่าพลังของปฐมราชินีได้…ได้ลดลงเป็นอย่างมาก!
ไม่ๆๆ นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ…
ที่สำคัญคือ!
มีเด็กน้อยคนหนึ่งอยู่ในอ้อมกอดของปฐมราชินี!
ให้ตายเถอะ!
อิงหลงอาวุโสมึนงง!
ที่ทำให้อิงหลงอาวุโสมึนงงยิ่งกว่าคือ ปฐมราชินีของพวกมัน! ปฐมราชินีราชวงศ์หยวนแห่งจวนไท่ชาง เทพธิดาผู้สร้างโลกองค์นี้ยังคงยิ้มและแนะนำกับมันว่า “นี่เป็นลูกน้อยของข้า…เสี่ยวเป่า”
“เสี่ยวเป่า นี่คือท่านลุงเสี่ยวอิง”
“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่ารีบส่งเสียงอย่างรู้ความ และมองปีกขนาดยักษ์อันงดงามนี้อย่างตื่นเต้น ใบหน้าน้อยๆ สีแดงอมชมพูช่างน่าชังเสียจริง
อิงหลงอาวุโส “…”
เห็นได้ชัดว่ามันสูญเสียความสามารถในการคิดไปแล้ว เพราะปฐมราชินีตรงหน้านี้กับปฐมราชินีในความทรงจำของมันต่างกันอย่างลิบลับ! ถึงแม้รูปโฉม กลิ่นอาย และพลังจะเหมือนกันก็จริง แต่ความรู้สึกต่างกันมาก
ราว…ราวกับว่าเป็นมารดาผู้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนท่านหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
“เสี่ยวอิง?” เยี่ยนอวี๋ที่ไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตนได้เรียกผู้ใต้บังคับบัญชาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้รับการตอบกลับ เสียงจึงสูงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
อิงหลงอาวุโสได้สติในทันควัน “ขอรับ!”
“เร็วเข้า ข้าจะร่ายคาถาให้เจ้าตอนนี้เลย” เยี่ยนอวี๋กล่าวสั่ง
“ขอรับ!” อิงหลงอาวุโสทำได้เพียงเก็บความสับสนไว้ในใจ แล้วเริ่มปฏิบัติตามคำสั่งของปฐมราชินี
เยี่ยนอวี๋เองก็นั่งขัดสมาธิลงไป แล้วสร้างเกราะป้องกันให้กับลูกน้อยก่อน พร้อมกับกล่าวตักเตือนว่า “เสี่ยวเป่าห้ามไปไหนมั่วซั่วนะ ต้องคอยอยู่ข้างท่านแม่ไว้ เข้าใจหรือไม่”
“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกวางบนพรมนุ่มพยักหน้าจริงจัง มือข้างหนึ่งจับปลายกระโปรงของท่านแม่คนงามไว้ แล้วนอนนิ่งอยู่ใกล้ๆ ท่านแม่คนงามของเขาอย่างเชื่อฟัง
เยี่ยนอวี๋ถึงได้วางใจแล้วหลับตาลง แต่กลับไม่รู้ว่า…
ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักบางคนได้ทะลุเข้ามายังพื้นที่ว่างแห่งนี้อย่างเงียบๆ แล้ว และสัญญาณเตือนของนางก็ไม่เป็นผลเสียด้วย