ตอนที่ 211 เขาคือสามีของท่านหรือ
นางเห็นผังโครงสร้างของค่ายกลต้องห้ามแล้ว ทว่า…
“ปีศาจระกาตัวนั้นใช้อะไรเป็นตาค่ายกลกันนะ ถึงกับขัดขวางการมองด้วยจิตแท้ของข้าได้ ดูท่ามันคงมีตัวช่วย”
เยี่ยนอวี๋ที่กำลังครุ่นคิดปลุกผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าตื่นขึ้น “เสี่ยวอิง เจ้าเคยสัมผัสกับกลิ่นอายของตาค่ายกลนี้หรือไม่”
มังกรโบราณที่ยังงัวเงียและยังถูกเยี่ยนอวี๋บังคับให้ตื่นนั้น มันก็ส่งจิตสัมผัสไปที่บริเวณที่เยี่ยนอวี๋มองไปทันที ผ่านไปครู่หนึ่ง…
“เหมือนจะคุ้นๆ ขอรับ แต่ข้าน้อยคิดไม่ออก” มังกรโบราณรู้สึกละอายใจนัก
เยี่ยนอวี๋กลับไม่ใส่ใจนัก “เจ้าถูกผนึกไว้นานเกินไป ความจำเลอะเลือนย่อมเป็นเรื่องอภัยให้ได้”
“ข้าน้อยละอายใจนัก” แม้มังกรโบราณเพิ่งตื่น ทว่าหลังจากที่เยี่ยนอวี๋ค่อยๆ ผ่อนคลายการควบคุมมันลง มันก็ได้ความทรงจำเมื่อครู่กลับมาคืนมา เมื่อรู้ว่าตนถูกระกาตัวหนึ่งเล่นงานมานานเพียงนี้ ช่าง…น่าละอายใจกว่าเดิม
ทว่ามังกรโบราณอดถามขึ้นไม่ได้ว่า “ท่านรู้จักปีศาจระกาตัวนั้นหรือไม่ขอรับ”
“ข้าไม่เคยรู้จักปีศาจอัปลักษณ์เช่นนี้มาก่อน!” เยี่ยนอวี๋ตอบจริงจัง
มังกรโบราณ “…”
เหตุใดจึงรู้สึกว่าท่านเปลี่ยนไปนะ นางกำลังล้อเล่นอยู่หรือ
ทว่าเยี่ยนอวี๋พูดจริงจัง! นางไม่อยากแม้แต่จะคิดถึงระกาอัปลักษณ์ตัวนั้นด้วยซ้ำ นางจึงเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “เจ้าจงเรียกความทรงจำคืนมา บัดนี้พลังของข้ายังไม่ได้คืนมาทั้งหมด จำต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกเล็กน้อยจึงจะช่วยเจ้ากำจัดบ่วงได้ เจ้าต้องรออีกเล็กน้อย”
“ข้าน้อยขอบคุณขอรับ” มังกรโบราณยิ่งละอายใจ “ข้าน้อยไร้ประโยชน์จริงๆ ยังต้องรบกวนท่านลงมือเอง ข้าน้อย…”
“พอแล้ว” เยี่ยนอวี๋ไม่อยากฟังต่อ “เจ้าเองก็ต้องคอยสังเกตและระวังปีศาจในตาค่ายกลนั่นด้วย เกรงว่านั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เจ้าสูญเสียตัวตนไป แล้วข้าจะรีบกลับมา”
“ขอรับ ท่านโปรดวางใจ ข้าน้อยไม่ทำให้ท่านผิดหวังอีกแน่นอน” มังกรโบราณให้สัญญาจากใจจริง
เยี่ยนอวี๋วางใจลงเล็กน้อย “ข้านำปีกของเจ้ามาแล้ว เจ้าต้องการตอนนี้ หรือรอออกไปแล้วค่อยว่ากัน”
“ออกไปแล้วค่อยว่ากันเถิด ท่านโปรดช่วยเก็บรักษาไว้ แม้ข้าน้อยจำอะไรไม่ได้ชั่วคราว แต่สัญชาติญาณบอกว่าควรให้ท่านปกป้องปีกไว้”
“อ้อ? เช่นนี้ที่คนของโยวตูนำปีกของเจ้าไปได้ คือความตั้งใจของเจ้าอยู่แล้วหรือ” นัยน์ตาเยี่ยนอวี๋มีแสงประกายวาบผ่าน นางรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย “ไม่เลวนี่”
มังกรโบราณหน้าแดง หากมันมีหน้าจริงๆ น่ะนะ “ท่านกล่าวเกินไปแล้ว ข้าน้อยมิสมควรได้รับคำชมจากท่าน หากข้าน้อยไม่เลวจริงๆ ก็คงไม่ตกระกำถึงเพียงนี้ เป็นเทพแห่งขุนเขาและท้องทะเลแท้ๆ แต่กลับ…”
มังกรโบราณละอายใจที่จะพูดคำพูดที่เหลือต่อไปแล้ว
“ข้ายังดับสูญได้ แล้วจะมีอะไรเป็นไปไม่ได้เล่า” เยี่ยนอวี๋ยิ้มบางๆ ปลอบประโลมผู้ใต้บังคับบัญชาเก่า
มังกรโบราณกลับคิดอะไรขึ้นได้ “จะว่าไปแล้ว เมื่อสามหมื่นปีก่อน ท่านดับสูญได้อย่างไรขอรับ มีผู้ใดลอบทำร้ายท่านหรือ พวกเราสงสัยว่าเป็นเทียนตี้เจ้าโจรผู้นั้น! เขา…”
“มิใช่ อย่าคิดไปเอง” เยี่ยนอวี๋ปฏิเสธ “พวกเจ้าคงไม่ได้ทำลายวิมานสวรรค์ของเขาไปแล้วหรอกนะ?”
“…ใช่” มังกรโบราณตอบอย่างตรงไปตรงมา
เยี่ยนอวี๋ “…” เทียนตี้ผู้น่าสงสาร
“ไม่เกี่ยวกับเขา” เยี่ยนอวี๋ทำได้เพียงยืนยันความบริสุทธิ์ย้อนหลังให้เทียนตี้ “อีกอย่าง เขาก็ไม่มีความสามารถเช่นนั้น แม้เขาจะมีเล่ห์เหลี่ยมมากก็ตาม แต่พวกเจ้าก็ไม่ควรคิดอคติต่อเขา”
“เช่นนั้นคือเศษสวะตัวไหนกัน” มังกรโบราณยังคงคิดว่าเทียนตี้น่าสงสัยมากที่สุด!
เยี่ยนอวี๋กลับถามกลับไปว่า “สวรรค์เก้าชั้นฟ้า สี่สมุทรแปดพิภพ เจ้าคิดว่ามีเศษสวะคนไหนลอบโจมตีข้าในตอนนั้นได้”
“…ไม่มีขอรับ” มังกรโบราณจำเป็นต้องพูดความจริง “พวกเราจึงคิดว่ามีเพียงเทียนตี้จอมเจ้าเล่ห์เท่านั้น บางที อาจจะ น่าจะ ควรจะ สามารถใช้แผนการลอบทำร้ายท่านได้”
เยี่ยนอวี๋ “…”
เทียนตี้ผู้น่าสงสาร
“ไม่เกี่ยวกับเขาจริงๆ” เยี่ยนอวี๋ถอนหายใจ “ถึงแม้ข้ายังคงสงสัยเมื่อคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น แต่ข้ามั่นใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับเทียนตี้และเหล่าทวยเทพ แต่เหมือนกับเวรกรรมมากกว่า”
“เวรกรรม?” มังกรโบราณส่ายศีรษะอย่างมึนงง “ข้าน้อยไม่เข้าใจ”
“แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่เข้าใจ เจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร” เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างไม่สบอารมณ์นัก จู่ๆ ก็รู้สึกว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าก็โง่เง่าไม่น้อย
มังกรโบราณกลับพยักหน้าอย่างโง่เง่า ก่อนจะพูดว่า “ก็จริง”
เยี่ยนอวี๋ “…”
“ใช่แล้ว ผู้ที่ตามหลังท่านมานั้น เป็นสามีของท่านหรือ”
มังกรโบราณคิดว่าคำถามนี้เป็นคำถามสำคัญ มันจึงถามอย่างตั้งใจ “ท่านตาดีนัก เหมือนกับว่าท่านนั้นจะแข็งแกร่งกว่าเทียนตี้ แต่ข้าน้อยมีคำถาม เหตุใดเขาจึงดูแปลกๆ”
“เขาไม่ใช่…” แต่เดิมเยี่ยนอวี๋จนคำพูดอยากจะกล่าวว่าต้าซือมิ่งคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง ทว่าประโยคหลังของผู้ใต้บังคับบัญชาทำให้นางถามกลับด้วยสัญชาติญาณทันทีว่า “แปลกอย่างไร”
“เหมือนเป็นเทพ แต่ก็ไม่ใช่เทพ อืม… ข้าน้อยก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันขอรับ แต่นี่คงเป็นจุดที่ดึงดูดท่านใช่หรือไม่” มังกรโบราณพูดอย่างไตร่ตรองมาดีแล้ว
เยี่ยนอวี๋ “…”
นาง… ยังไม่เคยสังเกตจริงๆ
แต่ว่า…
ตอนที่ 212 เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์มองมาที่ข้าสิ!
เยี่ยนอวี๋ที่ถูก ‘สะกิด’ จู่ๆ นางก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา “เสี่ยวอิง ข้าขอใช้พลังของเจ้าหน่อย” เพื่อดูว่าต้าซือมิ่งคนนั้นประหลาดอย่างไร
เยี่ยนอวี๋รู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าสัมผัสถึงความผิดปกติของคนๆ นั้น แต่มันไม่สามารถรู้ได้ว่าผิดปกติอย่างไร ส่วนพลังจิตของนางเองก็เพิ่งฟื้นตัวได้เพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น พลังสัมผัสของนางจึงยังอ่อนแออยู่มาก
“เชิญใช้ขอรับ” มังกรโบราณกล่าวอย่างเต็มใจ
เยี่ยนอวี๋ ‘รับ’ พลังของผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าได้อย่างราบรื่น พลังสัมผัสของนางแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!
“หืม?”
ต้าซือมิ่งที่สัมผัสได้ นัยน์ตาของเขาก็มีประกายแสงวาบผ่าน เขาลุกขึ้นยืนจากท่านั่งขัดสมาธิก่อนจะมองไปที่ปีกแห่งมังกรขนาดยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ
เขาพบว่ามารดาของเด็กน้อยควบคุมพลังของมังกรได้อย่างสมบูรณ์! อีกทั้งราวกับว่าฝ่ายหลังจะเป็น ‘ผู้อนุญาต’ ให้ใช้ เรื่องนี้ทำให้เขาต้องลบล้างการคาดเดาก่อนหน้า “เกรงว่าจะไม่ใช่กลับชาติมาเกิด?”
“อ้ะ! อ้ะ…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่สัมผัสถึงเช่นกัน เขาก็พยายามลุกขึ้นยืนด้วยลำตัวที่โอนเอนไปมา แม้กระทั่งนั่งเขายังนั่งไม่เป็น นับประสาอะไรกับการยืนขึ้นมา
ทว่านี่ก็มิได้ขัดขวางเด็กน้อยแต่อย่างใด เขากู่ร้องดีใจ “อ้ะเนะเนะ!? อ้ะเนะเนะ!…” ท่านแม่คนงามกลายเป็นคนบินๆ สวยๆ แล้ว!? ท่านแม่คนงามรีบพาเสี่ยวเป่าบินๆ สิ!…
หากเยี่ยนอวี๋สัมผัสถึงสภาพของเด็กน้อยในยามนี้ นางคงเข้าใจความต้องการของเด็กน้อย น่าเสียดายที่ในขณะที่นางรับพลังของมังกรโบราณมานั้น นางพบว่า…
วิ้ง!
วิ้ง! วิ้ง…
มีกลิ่นอายอันรุนแรงกำลังลงมาจากทางทิศเหนือ มันตกลงกลางอากาศเหนือเมืองโยวตู!
เยี่ยนอวี๋ก็ฉุกคิดถึงสถานการณ์ดินแดนต้องห้ามของโยวตูที่อินหลิวเฟิงเคยเล่าให้นางฟัง “ดูท่าจักรพรรดิหยวนคังจะถือโอกาสขณะที่โยวตูเกิดอุทกภัยโจมตีโยวตูแล้ว”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เยี่ยนอวี๋ที่แต่เดิมไม่แปลกใจกลับพบว่า พลังที่ทะลุอากาศมาเหล่านั้นต่างตกลงไปริมแม่น้ำเย่ว์หมิง จากนั้นนางก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีกองกำลังเมืองหลวงประจำอยู่ริมแม่น้ำเย่ว์หมิงมานานแล้ว คนกลุ่มนี้ทยอยกันเดินออกมาจากในค่ายทหาร หัวหน้าหนึ่งในนั้นยังเป็นสตรีอายุน้อยนางหนึ่งด้วย?
“กู้เซ่าซือ”
“กู้เซ่าซือมิ่ง ไม่พบกันนาน”
“กู้เซ่าซือมิ่ง…”
เซ่าซือมิ่งตำหนักซือมิ่งนายหนึ่ง รวมทั้งผู้แข็งแกร่งสำนักคุนอู๋และสำนักชิงเหลียนที่มาถึงก่อนต่างทยอยกันทักทายกู้หยวนซู
ส่วนผู้แข็งแกร่งของสำนักเหยาไถเซียนที่ได้รับบัญชาจากจักรพรรดิก็คารวะอย่างนอบน้อม “คารวะศิษย์พี่ใหญ่ขอรับ”
“ตามสบาย” แม้กู้หยวนซูมีสีหน้าซีดเซียวเล็กน้อย แต่นางยังคงมีสติดี นางกล่าวทักทายทุกคนด้วยท่าทีนอบน้อม “ไม่คิดว่าทุกท่านจะมาถึงเร็วเพียงนี้”
“ฝ่าบาทเรียกตัวด่วน บัญชาให้พวกข้ารีบมาคอยฟังคำสั่งเซ่าซือมิ่ง พวกข้าย่อมมิบังอาจเพิกเฉย ไม่ทราบว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร”
“ใช่แล้ว ไม่ทราบว่าต้องการให้พวกข้าทำอะไร กู้เซ่าซือมิ่งมิต้องเกรงใจ” เหล่าผู้แข็งแกร่งต่างพากองกำลังชั้นยอดนับร้อยคนมา แม้คนจะไม่มาก แต่ทุกคนก็แข็งแกร่งไม่เบา!
ไม่เพียงเท่านี้ อินหลิวเฟิงที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนักยังสัมผัสถึงคลื่นเคลื่อนเวหาจากรอบทิศเมืองโยวตู
“นายท่านน้อย แย่แล้ว!” เอ้อร์เหมาเข้าปกป้องอินหลิวเฟิงอย่างว่องไว เขาคิดจะพานายท่านน้อยของตนออกไปจากที่นี่อย่างลับๆ เพื่อไปรวมตัวกับท่านอ๋อง แต่แล้วกู้หยวนซูก็หันมามองอินหลิวเฟิงแล้ว “นายท่านน้อยอินจะไปไหนหรือ”
“ไม่เกี่ยวกับเจ้า!” เอ้อร์เหมาระวังตัวทันที เขาพยายามส่งสายตาเป็นสัญญาณให้อินหลิวเฟิงหนี “นายท่านน้อยรีบหนีไป สตรีนางนี้มาไม่ดี! รีบไปซะ!”
ทว่ากู้หยวนซูกลับยืนอยู่ข้างหน้าอินหลิวเฟิงแล้ว “ไปกับข้าเถิด”
“ไสหัวไป!” เอ้อร์เหมาขนลุกตั้งชัน เขากำลังจะเผยตัวตนที่แท้จริง
ทว่าพลังจิตใจอันทรงพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวกู้หยวนซูทันใดนั้นก็สะเทือนไปทางเอ้อร์เหมา ความแข็งแกร่งของมันทำเอาอินหลิวเฟิงหน้าซีดเผือด “น้ำค้างแข็ง!”
อินหลิวเฟิงที่พยายามกระตุ้นชีพจรรู้ดีว่าหากเอ้อร์เหมาถูกคลื่นพลังจิตใจนี้โจมตี ลูกน้องที่แต่เดิมโง่เขลามากคนนี้ก็คงใช้การไม่ได้อีกแล้ว เขาจะต้องกลายเป็นคนโง่จริงๆ แน่
“เป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ” กู้หยวนซูกลับไม่เห็นพลังของอินหลิวเฟิงในสายตา นางกวาดมือข้างหนึ่งไปทางอินหลิวเฟิง ส่วนพลังจิตยังคงแผ่ไปทางเอ้อร์เหมา นางรู้ว่าฝ่ายหลังมีสายเลือดของต้าเผิง[1]อยู่ ถือว่าแข็งแกร่งพอควร
แต่แล้วเม่ยเอ๋อร์ที่ปรากฏอยู่เหนือศีรษะของกู้หยวนซูก็ฟันดาบลงไปจวนจะผ่ากู้หยวนซูเป็นสองท่อน
“ตายเสียเถิด!”
“อะไรกัน” กู้หยวนซูหน้าถอดสี นางหายวับไปในทันที ไม่สนใจอินหลิวเฟิงและลูกน้องของเขาอีก แม้แต่ปีศาจระกาเก้าเศียรในอนุสติของนางก็ตกตะลึง “พลังสังหารแก่กล้านัก!”
“ศิษย์พี่ใหญ่ พวกข้ามาช่วยแล้ว!” คนของเหยาไถเซียนรีบเข้าช่วยทันที พวกเขาดูกระฉับกระเฉงมาก
ผู้แข็งแกร่งที่เหลือก็เพิ่งตั้งสติได้ “เจ้าโจรกบฏบังอาจนัก ยอมแพ้เสียแต่โดยดี”
ศึกสงครามกำลังจะเริ่มขึ้น…
วิ้ง
แสงสีสดใสราวสีรุ้งเปล่งประกายเจิดจ้าออกมาจากแม่น้ำเย่ว์หมิง มันสว่างวาบเข้าไปในตาของคนที่กำลังจะลงมือจนเขาตาแทบบอดในทันที แสบตาเกินไปแล้ว! เจิดจ้ามากเลย!
นัยน์ตาเม่ยเอ๋อร์เป็นประกาย “คุณหนูใหญ่!”
“กูไหน่ไน?” อินหลิวเฟิงชะงัก
เพราะว่าเยี่ยนอวี๋ลงมายืนอยู่ข้างหน้าเขา ราวกับกำลังปกป้องเขาเอาไว้?
นี่มัน… เป็นเรื่องจริงหรือ
“นายท่านน้อย ท่านเกาะสตรีกินจริงๆ ด้วย” เอ้อร์เหมาทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว
เอ้อร์เหมาที่ไม่ตกใจเห็นเต็มสองตาว่าคุณหนูใหญ่ลงมายืนอยู่ข้างหน้านายท่านน้อยของตนจริงๆ ท่าทางราวกับ ‘วีรสตรี’ ที่กำลังปกป้องลูกวัว หากคุณหนูใหญ่เยี่ยนไม่ได้อุ้มเจ้าตัวน้อยไว้ ท่าทางของนางคือวีรสตรีชัดๆ
ส่วนเยี่ยนเสี่ยวเป่าที่จู่ๆ ถูกเยี่ยนอวี๋อุ้มออกมาจากใต้น้ำ เขาก็กำลังมึนงง มึนงงมาก มึนงงไปหมด เขากำลังคิดว่าแล้วท่านพ่อรูปงามของเขาล่ะ? หายไปแล้ว? เยี่ยนเสี่ยวเป่ากำลังจะร้องไห้…
วิ้ง!
ทันใดนั้น แสงสีม่วงเจิดจรัสแสงหนึ่งก็พุ่งออกมาจากแม่น้ำเย่ว์หมิง ทำเอาเหล่าผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งขยี้ตาไปก็ถูกแสงสว่างสะท้อนจนแสบตาแทบบอดอีกครั้ง
และเมื่อแสงเจิดจรัสแสงนี้ปรากฏขึ้น เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็หยุดร้องทันที “อ้ะเนะเนะ!” ท่านพ่อรูปงามไม่ได้หายไป!
——————————————-
[1] ต้าเผิง คือพญานกขนาดใหญ่ในตำนาน เล่ากันว่าร่างของมันเกิดขึ้นจาก คุน ปลาในตำนานโบราณอาศัยอยู่บริเวณเป่ยหมิง มีขนาดใหญ่มาก