บทที่ 761 ไม่ต้องพิจารณาแล้ว
เฝิงอี้ผิงเอ่ยว่า “เธอ…”
กลับเป็นซือหมิงหลี่เสียอีกที่มองเยี่ยหวันหวันอย่างไม่สะทกสะท้าน “ได้ ฉันจะพนันกับเธอ แต่ถ้าเธอแพ้ก็ต้องไสหัวไปจากบริษัทซะ!”
“ได้ค่ะ ถ้าฉันชนะก็ต้องทำตามที่ฉันพูด ถ้าฉันแพ้ฉันจะไปจากบริษัทและไม่ยุ่งเกี่ยวกับงานของบริษัทอีก” เยี่ยหวันหวั่นตบโต๊ะตกลง
“งั้นก็ดี ฉันพนันด้วย!” เฝิงอี้ผิงก็เปิดปากแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับหยกดิบ แต่กลับพูดจาโอหังกล้าพนัน หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ เชียว!
อย่าว่าแต่นักพนันหยกมือใหม่เลย แม้แต่อาจารย์พนันหยกมือหนึ่งยังไม่กล้าตบอกพูดว่าตัวเองชนะขาดลอยได้
อย่างไรเสียอาชีพพนันหยกสามส่วนคือความสามารถ อีกเจ็ดส่วนก็คือโชค
เวลานี้ โหวเม่าเฟิงกับเซวียลี่มองเยี่ยหวันหวันด้วยสีหน้าตกตะลึง
ไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสตระกูลซือกับคณะกรรมการบริหารระดับสูงจะกดผู้หญิงคนนี้ไว้ไม่อยู่…
แต่โหวเม่าเฟิงมองเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น อย่างไรเสียนี่ก็เป็นศึกหักหน้าของพวกตระกูลซือ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสักนิดเดียว
“เซวียลี่ เปิดวิดีโอไว้ตลอด ฉันละอยากรู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นคนนี้จะชนะขาดได้ยังไง”
ในวิดีโอ บุคคลระดับสูงของตระกูลซือคนหนึ่งเอ่ยเสียงเย็น
“ได้ครับ” เซวียลี่พยักหน้ารับคำ
เวลานี้มีผู้ชมมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนห้อมล้อมร้านฮุ่ยชุ่ยจนอัดแน่นทั้งในและนอก
พวกอี้จือฮวากับนักพรตใจบริสุทธิ์คุ้มกันเยี่ยหวันหวันอย่างเกินจริงที่สุด ราวกับว่ามีใครจ้องจะเอาชีวิตเธอ
“เถ้าแก่ว่าน ฉันเอาหยกดิบกองนี้หมดเลย สะดวกซื้อขายกันตอนนี้เลยไหมคะ” เยี่ยหวันหวั่นมองว่านเฮ่ออวิ๋น
“คือว่า…คุณหนูเยี่ยจะไม่ลองพิจารณาดูอีกนิดจริงๆ เหรอ…” ว่านเฮ่ออวิ๋นถอนหายใจ
ถึงแม้ว่าว่านเฮ่ออวิ๋นอยากได้เงินก้อนโตมาก ถ้าขายออกไปในราคาเดิมได้ เขาก็จะจ่ายหนี้ดอกเบี้ยมหาโหดที่ยืมมาก่อนหน้านี้ได้หมด หนำซ้ำยังจะมีเงินทุนทำกิจการเพิ่มขึ้นไม่น้อย ถ้าเป็นแบบนี้ ร้านพนันหยกของเขาก็จะสามารถดำเนินกิจการไปอย่างมั่นคงราวๆ สองปี…
แต่สถานการณ์ฝั่งเยี่ยหวันหวั่นเป็นอย่างไร ว่านเฮ่ออวิ๋นก็กระจ่างแจ้งดี
อย่าว่าแต่เบื้องบนและผู้อาวุโสของตระกูลซือเลย ต่อให้เป็นเขาก็ยังไม่คาดหวังกับหยกดิบกองนี้นัก ลำพังแค่รูปลักษณ์และผิวสัมผัส ร้านฮุ่ยชุ่ยก็ต้องประเมินอย่างจริงจังหลายครั้งทีเดียว…
“ไม่ต้องพิจารณาแล้วค่ะ ซื้อขายตอนนี้เลยได้หรือเปล่า” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
“ก็ได้…” ว่านเฮ่ออวิ๋นพยักหน้า
ในเมื่อรู้ว่าซื้อหยกดิบได้แล้ว เยี่ยหวันหวันก็ไม่เสียเวลา ซื้อขายกับว่านเฮ่ออวิ๋น ณ ที่นั้นทันที
หลังผ่านไปประมาณสิบห้านาที การแลกเปลี่ยนซื้อขายหยกดิบก็นับว่าเสร็จสิ้น
ฝั่งของหวงซื่อซินก็ซื้อหยกดิบจากร้านฮุ่ยชุ่ยแล้วเช่นกัน ตอนนี้ หยกดิบกองนั้นที่แต่เดิมเฉินรั่วซีคุยได้มาถูกหวงซื่อซินซื้อไว้หมดแล้ว
โหวเม่าเฟิงมองเยี่ยหวันหวันก่อนจะยิ้มเย็น “ในเมื่อคุณหนูเยี่ยมั่นใจขนาดนี้ งั้นไม่สู้ผ่าเปิดหยกในร้านผมเลย ผมจะให้คุณยืมช่างตัดหยกในร้านเอง ผมอยากเปิดหูเปิดตามากว่า หยกดิบกองนี้ที่คุณหนูซื้อจากว่านเฮ่ออวิ๋นจะมีของชั้นยอดอะไรออกมา!”
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ฉันไม่เอาช่างตัดหยกของร้านคุณนะ ถ้าของชั้นยอดของฉันเสียหายขึ้นมา ฉันเกรงว่าคุณจะรับผิดชอบไม่ไหว” เยี่ยหวันหวันเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าๆ…ในขยะกองนี้จะมีของชั้นยอดอะไรได้…เกรงว่าเมื่อวานคุณหนูเยี่ยคงเหนื่อยจนหลับไม่สนิท ตอนนี้เลยฝันกลางวันซะแล้ว” นัยน์ตาโหวเม่าเฟิงเต็มไปด้วยแววดูถูก
เยี่ยหวันหวั่นก็คร้านจะจัดการโหวเม่าเฟิง มองตรงไปทางว่านเฮ่ออวิ๋น “เถ้าแก่ว่าน รบกวนคุณเรียกช่างตัดหยกของร้านคุณมาหน่อยได้ไหมคะ”
————————————————————
บทที่ 762 ฉับเดียวไม่จนก็รวย
ได้ยินดังนั้น ว่านเฮ่ออวิ๋นก็พยักหน้า “คุณหนูเยี่ยวางใจได้ รับรองเลยว่าผมจะเรียกช่างตัดหยกที่ดีที่สุดมาให้คุณ”
พูดจบ ว่านเฮ่ออวิ๋นก็ออกจากร้านฮุ่ยชุ่ยไป
เวลานี้ผู้คนโดยรอบกำลังสนทนา คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าผู้หญิงตระกูลซือคนนี้สมองอาจได้รับการกระทบกระเทือน
ถึงแม้กองหยกดิบในร้านฮุ่ยชุ่ยนี้จะราคาแพง แต่ส่วนมากเป็นหยกเปิดผิว
หยกเปิดผิวที่ว่าคือการขัดผิวหยกหนึ่งรอยบนหยกดิบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสังเกตสีสันในเนื้อหินและรายละเอียดบางส่วนของมันผ่านรอยเปิดผิวนั้น
ส่วนสินค้าของว่านเฮ่ออวิ๋นเป็นหยกดิบสำหรับพนันล้วนๆ แทบทั้งสิ้น หยกดิบไม่ได้ผ่านการจัดการใดๆ ด้านในหินมีสภาพอย่างไรไม่มีใครทราบ
คนหนึ่งเป็นหยกพนันล้วนที่มีความเสี่ยงสูง อีกคนเป็นหยกเปิดผิวที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงตระกูลซือคนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงคิดว่าหยกพนันล้วนของตนเอาชนะหยกเปิดผิวของร้านฮุ่ยชุ่ยได้
ตอนที่ฝั่งของเยี่ยหวันหวั่นกำลังรอ ฝั่งของหวงซื่อซินก็เริ่มผ่าหินแล้ว
“เถ้าแก่หวง ผ่าออกมาแล้ว!”
เพิ่งผ่าหินก้อนแรก ช่างตัดหยกของร้านฮุ่ยชุ่ยก็ประกาศข่าวดีแล้ว
“เถ้าแก่หวง! ยินดีด้วย! หยกเนื้อน้ำแข็งสีเขียวปลอด เนื้อดี ความโปร่งใสมากพอและสูงมาก ขนาดก็ใหญ่ เอาไปทำกำไลข้อมือได้อย่างน้อยก็สิบเส้น เศษที่เหลือทำป้ายประดับได้สองสามอันด้วย ราคาพุ่งแน่!”
ช่างตัดหยกผ่าหยกดิบก้อนแรกสำเร็จ อีกทั้งยังผ่าได้หยกเจไดต์คุณภาพนับว่าไม่เลวออกมาหนึ่งก้อน
หวงซื่อซินเห็นแบบนั้นก็อารมณ์ดีมาก แม้แต่โหวเม่าเฟิงยังมีสีหน้าได้ใจ ลูกค้าที่มุงรอบๆ ก็พากันถอนใจด้วยความอิจฉาเหลือแสน
“ยังไงร้านฮุ่ยชุ่ยก็คือร้านฮุ่ยชุ่ยละนะ ไม่แปลกที่อัตราได้หยกเขียวจะสูงที่สุดในร้านหยกดิบทั่วทั้งเมือง H!”
“ก็แหงอยู่แล้ว ร้านขายของสะสมก็เป็นหน้าตาของพวกเราเมือง H เชียวนะ!”
“จิ๊ๆ พริบตาเดียวราคาก็พลิกไปสิบเท่าแล้ว! มิน่าคนเขาถึงว่ากันว่าพนันหยกฉับเดียวไม่จนก็รวย…”
“ฉันละอยากดูว่าตระกูลซือจะได้อะไรออกมา!”
หลังเห็นร้านฮุ่ยชุ่ยผ่าได้หยกเจไดต์คุณภาพไม่เลว ผู้คนโดยรอบก็พากันวิพากษ์วิจารณ์
เวลานี้ ว่านเฮ่ออวิ๋นเร่งรุดพาช่างตัดหยกฝีมือดีที่สุดในร้านพวกเขามาแล้ว
ทั้งสองเพิ่งเข้ามาก็เห็นราคาพุ่งทะยานของหยกดิบที่หวงซื่อซินขาย
ก้นบึ้งดวงตาว่านเฮ่ออวิ๋นพลันมีแววสลดวาบผ่าน มองเยี่ยหวันหวันด้วยสีหน้าวิตกกังวล
ช่างตัดหยกที่ว่านเฮ่ออวิ๋นพามามีอายุราวหกสิบกว่า เมื่อก่อนธุรกิจร้านไม่ดี เขาจึงไม่ได้ตัดหยกให้ลูกค้านานแล้ว ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าเถ้าแก่เปิดร้านแล้ว เขาก็ตื่นเต้นยิ่งกว่าใครๆ
ความฝันของช่างตัดหยกทุกคนคือการตัดหยกดิบแล้วได้หยกชั้นดีออกมา
“คุณหนูเยี่ยสวัสดีครับ ผมเป็นช่างตัดหยกชื่อว่าหวังฮู่ครับ” ชายชรามองเยี่ยหวันหวันพลางยิ้มเอ่ยอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะอาจารย์หวัง ครั้งนี้ต้องรบกวนคุณแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าเป็นนัย
“เป็นยังไงบ้างคุณหนูเยี่ย เริ่มผ่าได้แล้วใช่ไหม? ทุกคนอดใจรอดูหยกชั้นเลิศของคุณหนูไม่ไหวแล้วนะ!” โหวเม่าเฟิงหัวเราะได้ถากถางไม่ธรรมดา
“ช่างตัดหยกมาแล้ว ย่อมได้อยู่แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน
“คุณหนูเยี่ย งั้นพวกเราเริ่มผ่ากันเลยไหม” ช่างตัดหยกร้านฮุ่ยชุ่ยมองทางเยี่ยหวันหวั่นพลางถาม
“เริ่มได้เลย ผ่าเปิดเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าน้อยๆ
หลังจากที่เยี่ยหวันหวันเอ่ยจบ ในที่สุดช่างตัดหยกก็เริ่มทำงาน
สายตาของพวกเซวียลี่ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ โหวเม่าเฟิง และหวงซื่อซินล้วนตกอยู่บนหยกดิบในมือหวังฮู่
…………………………………..