การปลุกปั่นของปีศาจระกาเก้าเศียรทำให้กลุ่มพลังต้องห้ามที่ถูกขังอยู่ในร่างกายของเยี่ยนอวี๋เปล่งประกายแสงพิฆาตอันชั่วร้าย ฆาตกรที่ลอบทำร้ายเยี่ยนจื่ออวี๋ในครานั้นก็คือปีศาจระกาเก้าเศียรตรงหน้านี้ไม่ผิดแน่นอน
แม้จะคาดเดาไว้แต่แรก แต่เมื่อความจริงปรากฏ เยี่ยนอวี๋ยังคงรู้สึกสะเทือนใจนัก และความสะเทือนใจนี้มาจากปณิธานของร่างนางหรือก็คือปณิธานของเยี่ยนจื่ออวี๋!
ตูม!
เยี่ยนอวี๋บีบวิชาต้องห้ามจนแตกและยังเรียกกระบี่ไท่ชางออกมา “ไท่ชาง! ลูกแก้วชั่วร้าย” กระบี่ไท่ชางที่ซ่อนอยู่ในความว่างเปล่ามาตลอดจึงปรากฏตัวขึ้น
กระบี่ไท่ชางก่อตัวขึ้นจากไอหมอกสีดำม่วง พร้อมกับส่งเสียง วิ้ง จังหวะที่มันปรากฏตัวนั้นก็พุ่งทะลวงร่างวิญญาณของปีศาจระกาในทันที!
เร็ว!
รวดเร็วยิ่งนัก!
ปีศาจระกาเก้าเศียรไม่ทันตั้งตัวได้ด้วยซ้ำ มันก็ถูกแทงทะลวงแล้ว “เจ้า…” มันพ่นหมอกมืดมัวขุ่นออกมาไม่หยุด มิอาจเปล่งเสียงใดๆ ออกมาได้ จากนั้นก็สลายตัวไปโดยสิ้นเชิง
“ไม่”
“ไม่…”
เสียงกรีดร้องเคียดแค้นของปีศาจระกาเก้าเศียรก็หายไปพร้อมกับร่างวิญญาณของมันอย่างรวดเร็ว มันพังทลายลงทันทีราวกับกระแสน้ำลง
ในฐานะที่กระบี่ไท่ชางเป็นกระบี่ของปฐมราชินีหยวนชู! มันเข่นฆ่าปีศาจมานับไม่ถ้วน ปีศาจระกาเก้าเศียรย่อมมิอาจทนพิษบาดแผลได้ ทว่าปีศาจระกาเก้าเศียรคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะถูกกระบี่ไท่ชางสังหาร เพราะเท่าที่มันรู้ แม้ต้าซือมิ่งท่านนั้นสามารถใช้กระบี่ไท่ชางได้ แต่ก็ไม่สามารถสั่งกระบี่ไท่ชางได้แน่นอน และยิ่งไม่สามารถทำให้กระบี่ไท่ชางสังหารมันเพียงดาบเดียวเช่นนี้ได้!
แต่ว่า… มันคิดผิดไปแล้ว
จนเมื่อก่อนที่มันจะสลายไป มันถึงเพิ่งรู้ว่าที่ผ่านมาไม่ใช่ต้าซือมิ่งท่านนั้น แต่คือสตรีตรงหน้าคนนี้ที่ใช้กระบี่ไท่ชางได้ เพราะว่า… นางก็คือปฐมราชินีหยวนชู!
“ไม่…”
เสียงร้องไม่เต็มใจของปีศาจระกาเก้าเศียรดังออกมาจากลูกแก้วชั่วร้ายที่เยี่ยนอวี๋ดึงออกมาไม่ขาดสาย แต่มันก็ทำได้เพียงร้องอย่างทุกข์ทรมาน ร่างวิญญาณของมันที่ถูกทำลายในทันทีมิอาจหลอมรวมกับลูกแก้วชั่วร้ายได้ทันด้วยซ้ำ
เพียงกระบี่ไท่ชางเล่มเดียว ถึงแม้จะมีอิทธิฤทธิ์เพียงส่วนหนึ่งของอดีต แต่ก็เพียงพอที่จะทำลายลูกแก้วชั่วร้ายของปีศาจระกาเก้าเศียร ทำให้ดวงจิตของมันสลายหายไป เหลือเพียงเสียงร้องทุกข์ทรมานดังก้องในโถง
อั่ก…
กู้หยวนซูเองก็กระอักเลือดสีดำออกมาก่อนจะสลบไปในทันที
ทว่าตอนนี้ไม่มีใครสนใจนาง เพราะอิงหลงโบราณที่อยู่ข้างนอกกำลังคลุ้มคลั่ง!
แม้แต่เยี่ยนอวี๋ ขณะที่นางเก็บกระบี่นั้นนางก็เรียกภาพไท่จี๋หยวนชูอีกครั้ง และส่งเสียงเรียกไปที่อิงหลงโบราณ “เสี่ยวอิง! ตื่น…”
กรรร! มังกรโบราณกระพือปีกขนาดใหญ่กลายร่างเป็นมังกรพิโรธ ดวงตาของมันแดงฉาน ในหัวมีเพียงภาพที่นายหญิงของพวกมันถูกทำร้าย มิอาจได้ยินเสียงของเยี่ยนอวี๋เลย
เสียงคลุ้มคลั่งดังกึกก้องดับเสียงของเยี่ยนอวี๋
วิญญาณอิงหลงโบราณที่บ้าคลั่งนั้น มันถึงกับทำลายโซ่ตรวนที่เยี่ยนอวี๋ผนึกไว้ก่อนหน้านี้ แม้แต่ตราผนึกที่เยี่ยนอวี๋ผนึกไว้ในอนุสติของมันก็ล้วนกลายเป็นที่มาของความเดือดดาลและความคลุ้มคลั่งของมัน
เพราะเสียงก้องเหล่านั้นดังออกมาจากตราผนึกนี้ ทำให้เยี่ยนอวี๋ที่สัมผัสได้รู้สึกใจสลาย “เช่นนี้นี่เอง! ที่แท้ก็ใช้ข้าเป็นประโยชน์”
มิน่าล่ะ…
เยี่ยนอวี๋เพิ่งเข้าใจในบัดนี้! ผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าของนางจะถูกแทรกแซงจนสูญเสียความรงจำได้อย่างไร ไม่ใช่เพราะมันไม่ระวังตัว ไม่ใช่เพราะมันไม่แข็งแกร่งพอ แต่เพียงเพราะมันภักดีต่อนางเกินไป
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของนางต่างดื้อรั้น…
เยี่ยนอวี๋มิอาจสงบอารมณ์ลงได้ นางมิอาจลงมือกับลูกน้องเก่าที่ดื้อรั้นได้ นางจึงทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมมัน
กรรร!
อิงหลงที่คลุ้มคลั่งยังคงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดไม่หยุด ทำให้แม่น้ำเย่ว์หมิงมิอาจสงบนิ่งได้ คลื่นมหึมาโหมซัดขึ้นมาลูกแล้วลูกเล่า มันมีขนาดสูงกว่าพื้นดินกว่าหมื่นจั้ง เพียงพอที่จะทำลายเมืองโยวตูทั้งเมืองได้
หากไม่ใช่เพราะมีผู้แข็งแกร่งที่อยู่บนแม่น้ำเย่ว์หมิงที่แบ่งเป็นหกจุดตามภาพที่เยี่ยนอวี๋ให้ โดยสอดคล้องกับภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลบนท้องฟ้าสยบคลื่นที่เชี่ยวกรากไว้ แม่น้ำเย่ว์หมิงคงทำลายเมืองโยวตูไปตั้งแต่แรกแล้ว แม้กระทั่งอาณาจักรโยวตูก็คงเป็นเมืองใต้น้ำไปแล้ว
ทว่าถึงแม้ภาพภูเขาและท้องทะเลสามารถสยบความชั่วร้ายได้ แต่ก็ไม่สามารถสยบอิงหลงโบราณที่มาจากกองภูเขาและท้องทะเลได้ ดังนั้นเสียงคำรามของมันจึงทำให้แม่น้ำเย่ว์หมิงสั่นไหวไม่หยุด
ตูม!
ตูม!…
คลื่นน้ำกระทบกำแพงสูงหมื่นจั้งที่พยายามปิดกั้นมันไว้ น้ำกระเซ็นออกมาไม่หยุด เหมือนจะพังทลายลงในไม่ช้า! ทำเอาอินสวินอี้ตกใจจนหน้าถอดสี
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ อินสวินอี้ก็ชักดาบออกมา! ข้างหลังของเขาก็มีทหารชั้นยอดหนึ่งหมื่นนายจากค่ายใหญ่หนานซานมาแล้ว
โห่!
ทหารหมื่นนายชักดาบออกมาพร้อมกัน พร้อมส่งเสียงทุ้มต่ำเรียกขวัญกำลังใจ
ทั้งหมดนี้เป็นกองหลังที่อินสวินอี้เตรียมการไว้ เขาเตรียมการไว้ว่าหากหลังจากการผนึกล้อมของทุกฝ่ายล้มเหลว พวกเขาต้องเข้ามาช่วยเหลือ! ต้องสู้ด้วยเลือดเนื้อเพื่อรักษาโยวตูไว้
นอกจากนี้…
เคร้ง!
ในสำนักจวินจื่อ นักฝึกฌานสำนักจวินจื่อกว่าหมื่นนายที่รวมตัวกัน พวกเขาก็เตรียมพร้อมแล้ว! พวกเขาต้องสังหารปีศาจที่อยู่ใต้ดิน ปกป้องเหล่าประชาไว้
ถึงแม้การปรากฏตัวของเยี่ยนอวี๋และต้าซือมิ่งจะทำให้อินสวินอี้และสำนักจวินจื่อมีความมั่นใจมากก็ตาม แต่พวกเขาก็มิเคยฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่สองคนนั้น พวกเขาเองก็ต้องเตรียมตัวเช่นกัน ทว่าขณะที่อินสวินอี้ชูดาบขึ้นพร้อมประกาศให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมนั้น…
วิ้ง!
กระบี่ไท่ชางที่ลอยขึ้นมาจากแม่น้ำเย่ว์หมิงก็ประกายแสงสีม่วงอร่ามรุ่งโรจน์ราวกับถูกประดับด้วยดวงดาว จากนั้นมันก็แทงเข้าไปที่ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเล
วิ้ง!
ตูม…
ภาพลวงภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลที่ลอยอยู่เหนือเมืองโยวตูค่อยๆ คายรังสีศักดิ์สิทธิ์ออกมา
แม่น้ำทุกสาย ภูเขาทุกลูก และท้องทะเลกว้างใหญ่ที่แต่เดิมไม่ชัดเจนมากนัก และเงาร่างอสูรทุกองค์ส่องสว่างขึ้นมา
ไม่เพียงเท่านี้…
“ไป”
แสงสีม่วงเจิดจ้าที่ต้าซือมิ่งสังเวยยังปกป้องภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลไว้ ทำให้คนโยวตูรู้สึกเหมือนอาบไอหมอกสีม่วงที่แผ่ขยายอย่างไรอย่างนั้น
ในขณะเดียวกัน…
“ลงมา!”
ต้าซือมิ่งในขณะนี้ยืนอยู่บนกำแพงน้ำสูงหมื่นจั้งแล้ว ร่างของเขาปรากฏแสงสีม่วงเจิดจ้า ก่อนจะผนึกกำแพงน้ำที่กำลังแตกทลาย และกดมันลงไปอย่างรวดเร็ว
กรรร!
กรรร….
อิงหลงโบราณที่คลุ้มคลั่งยังคงคำรามไม่หยุด ภาพเงาอิงหลงขนาดยักษ์เคลื่อนไหวบนแม่น้ำเย่ว์หมิงตลอดเวลา มันท้าทายพลังต้าซือมิ่งตลอดเวลา ทำเอาเยี่ยนเสี่ยวเป่าตกใจอ้าปากค้าง “อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” บินๆ ใหญ่ๆ! บินๆ ตัวใหญ่กำลังวิ่งพล่าน…
ต้าซือมิ่งขมวดคิ้ว “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เกิดเรื่องแล้วรึ” เขารู้ดีว่าอิงหลงโบราณตัวนี้เป็นลูกน้องของมารดาเด็กน้อย ตามหลักแล้วควรจะถูกกำราบตั้งนานแล้ว ทว่าตอนนี้…
ดวงตาสีม่วงของต้าซือมิ่งมีแสงวาบผ่าน เขาพอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นจึงดึงพลังอีกชั้นหนึ่งออกมา แสงสีม่วงในตาของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ซี้ด! อินสวินอี้ที่อยู่ใกล้กับต้าซือมิ่งมากที่สุด เขารับรู้ถึงกลิ่นอายดุร้ายจากตัวต้าซือมิ่งได้ก่อนผู้ใด ทำให้ขณะที่เขากำลังสูดหายใจเข้าลึกก็รู้สึกสั่นสะท้านไปหมด!
“นี่มัน…”
เฉินฉุนเฟิงที่สัมผัสถึงกลิ่นอายที่เปลี่ยนแปลงไปของต้าซือมิ่งก็สะท้านไปเช่นกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เช่นนี้ต่างจากต้าซือมิ่งผู้เสมือนเทพท่านนี้มาก
ความจริงก็เป็นดังเช่นนั้น เมื่อฝ่ามือของเขาผนึกลงบนคลื่นยักษ์ เสียงคำรามอันดุร้ายและเกรี้ยวกราดก็สั่นสะเทือนออกมาจากรอบกายเขา! กรรร…
ครืน!
‘เสียงคำราม’ อันน่าสะพรึงของต้าซือมิ่งราวกับอัญเชิญอสูรเทพจากสวรรค์ทั้งปวงออกมา ทั้งอสูรร้ายโบราณและบรรพบุรุษอสูรร้าย ทำเอาอสูรทั่วอาณาจักรโยวตูแตกตื่น
บัดนี้ แม้แต่อินสวินอี้ผู้แข็งแกร่งที่มีสายเลือดอสูรโบราณยังรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ราวกับมีเทพผู้สร้างโลกกำลังกดดันเขา
ไม่เพียงเท่านี้…
กรรร!
เสียงคำรามที่ไม่ถือว่าแข็งแกร่งไปกว่าเดิมของต้าซือมิ่ง สุดท้ายมันยังรวบรวมร่างเงาอสูรเทพของมังกรเขียว เต่าดำ เสือขาว และหงส์แดงออกมา
กรรร…
อิงหลงโบราณที่ทรุดลงเมื่อเผชิญกับเหล่าอสูรเทพจตุรทิศ มันกลับระเบิดพลังคลุ้มคลั่งกว่าเดิม ราวกับเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งก็ยิ่งสำแดงอานุภาพ! แต่แล้วต้าซือมิ่งก็พูดเสียงดุ “ยังไม่ลงไปอีกรึ!”
ครืน!
เสียงตำหนิด้วยความดุดันนั้น แสดงให้เห็นถึงพลังกดทับจากผู้อยู่เบื้องบนสวรรค์ และยังปรากฏพลังเหนือธรรมชาติคล้ายคลึงกับเยี่ยนอวี๋ นั่นก็คือพลังสร้างโลก
กรรร…
ความคลุ้มคลั่งในเสียงคำรามของอิงหลงโบราณถูกกำจัดออกไปทันที เหลือเพียงเสียงเล็กเสียงน้อยราวกับลูกสุนัข เมื่อถูกอสูรเทพทั้งสี่ปราบมันก็กลับลงไปในแม่น้ำดังเดิม
ซู่ เสียงน้ำไหลกลับลงไป ทำเอาเหล่าทหารที่อยู่ริมแม่น้ำตัวเปียกชุ่ม ทว่าในฤดูแรกเริ่มใบไม้ผลิที่ยังคงหนาวเหน็บอยู่นั้น พวกเขากลับไม่รู้สึกหนาวเลย เพียงเพราะหัวใจที่ฮึกเหิมและคลั่งไคล้!
บัดนี้ ทุกคนที่อยู่ริมแม่น้ำต่างแหงนมองต้าซือมิ่งที่อยู่กลางอากาศ ต้าซือมิ่งราชสำนักผู้หล่อเหลาและยังคงความดุร้ายผู้นั้น!