นังตั้งแต่พบหน้ากันวันแรกจวบจนวันนี้ราวกับผ่านไปแค่สามวันเท่านั้น
แต่เขาติดตามนางมาแล้วหลายเดือน ที่สำคัญคือ…
พวกเขายังมีลูกด้วยกันแล้วด้วย
“เริ่มเลยเถิด” ระหว่างที่หรงอี้กล่าว เขาก็ได้เจรจากับลูกน้อยในอ้อมกอดแล้วว่า “เสี่ยวเป่า พ่อกับแม่มีเรื่องต้องไปจัดการ เสี่ยวเป่าให้เม่ยเอ๋อร์อุ้มก่อนได้หรือไม่”
“อ้ะ” ถึงแม้จะไม่ยินยอมนักก็ตาม แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ยื่นมือไปทางเม่ยเอ๋อร์แต่โดยดี พร้อมทั้ง “อ้ะเนะเนะ…” บอกว่า พี่เม่ยเอ๋อร์ต้องไม่รัดเสี่ยวเป่าแน่นๆ อีกแล้วนะ ห้ามทำแบบนี้อีกนะ
แต่น่าเสียดาย เมื่อเม่ยเอ๋อร์รับเจ้าตัวน้อยมานางก็ตื่นเต้นจนรัดตัวเจ้าตัวน้อยค่อนข้างแน่น ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นแน่นมากก็ตาม แต่ก็ทำเอาเจ้าตัวน้อยที่มีชีวิตชีวาคนนี้ก้มหน้าอวนอ้วนลง
“ไม่จำเป็นต้องอุ้มแน่นมาก” ต้าซือมิ่งผู้ห่วงใยลูกน้อยชี้แนะเม่ยเอ๋อร์
แต่เม่ยเอ๋อร์กลับตอบว่า “ข้ากลัวว่าจะทำให้คุณชายน้อยร่วงลงไป! แต่วางใจได้ข้าไม่มีทางบีบคุณชายน้อยรุนแรงแน่นอน ท่านวางใจได้”
เยี่ยนเสี่ยวเป่า “…”
เขายังอยากจะหาพื้นที่ว่างเสียด้วยซ้ำ!
เพราะท่านลุงรองของเขารอไม่ไหวแล้ว เขาที่มีเลือดพุ่งออกมารอบตัว ทำให้กลิ่นอายแปรปรวนมากขึ้นไปอีก
ต้าซือมิ่งและเยี่ยนอวี๋รีบเบนความสนใจไปที่เยี่ยนจื่อเสาทันที แต่ฝ่ายหลังกลับกระอักเลือดออกมา ทำเอาเสี่ยวเป่าเป็นกังวลจน “อ้ะเนะเนะ” ส่ายศีรษะwx,k
น่าเสียดายที่เม่ยเอ๋อร์รัดแน่นเกินไป เขาจึงไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้…
“เริ่มได้” ต้าซือมิ่งที่น่าเกรงขามเรียกแสงแวววาวออกมาส่งไปที่เยี่ยนจื่อเสา
เยี่ยนอวี๋หยิบเข็มเงินขนาดใหญ่ (เรียกอีกอย่างว่าหลอดเงิน) ของนางออกมาอีกครั้ง ทำเอาต้าซือมิ่งที่ยังสงบนิ่งอยู่ได้ตากระตุก “เจ้า…”
เยี่ยนอวี๋ที่นำเข็มเงินใหญ่หนาแทงเข้าไปยังกระดูกสันหลังของเยี่ยนจื่อเสาอีกครั้ง ถึงได้ว่างถาม “เป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ”
“ไม่มีอะไร” ต้าซือมิ่งหรงเก็บความสนใจหลอดเงินไว้ นึกเห็นใจพี่รองเงียบๆ
ส่วนเยี่ยนจื่อเสาที่ส่งเสียงคำรามไปหนหนึ่งก็คู่ควรกับหลอดเงินนี้จริงๆ เขาเจ็บจริงๆ นะ! เจ็บจนแทบจะคงสติไว้ไม่อยู่
แต่เยี่ยนอวี๋ก็ได้กล่าวเตือนออกมา “พี่รอง รวบรวมพลังจิตไว้ และคงสภาวะโจมตีขั้นวิญญาณปฐมภูมิเอาไว้ ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าเอง”
เยี่ยนจื่อเสาที่ยังคงเจ็บปวดอยู่พยักหน้าเล็กน้อย ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะไม่สามารถได้ยินสิ่งที่พวกเยี่ยนอวี๋คุยกัน แต่เขาก็รู้ดีว่าน้องสาวของเขากำลังช่วยเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงเชื่อใจอย่างไม่ลังเล
ส่วนต้าซือมิ่งนั้นก็ยิ่งควบคุมได้อย่างราบรื่น เขาเริ่มใช้พลังวิเศษค่อยๆ ดึงดูดไขกระดูกของเยี่ยนจื่อเสาออกมา ในกระบวนการนี้เขายังต้องยึดร่างของเยี่ยนจื่อเสาให้มั่นคงด้วย และนำเขาเข้าสู่สภาวะดึงดูดไขกระดูก
ซี๊ดดด…
เยี่ยนจื่อเสาที่เจ็บปวดถึงขีดสุด ไม่เพียงแต่ต้องทนรับความเจ็บปวดนี้อย่างมีสติครบถ้วน ยังต้องคงพลังจิตใจไว้ให้อยู่ในสภาวะทะลวงขั้นพลังอีก ถึงจะไม่ทำให้กายเนื้อของเขาระเบิดได้
มิเช่นนั้นแทนที่จะกลับมามีกายเนื้อปกติและชำระเลือดมนุษย์วานรหวาไหว แต่จะกลับกลายเป็นกายเนื้อแตกสลายอย่างสมบูรณ์ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ดังนั้นแม้นจะทุกข์ทรมานมากเพียงใดเยี่ยนจื่อเสาก็ยังอดทนต่อไปสุดชีวิต ซึ่งนี่ทำให้ต้าซือมิ่งบางคนชื่นชม เดิมเขายังคิดว่าพี่รองจะทนไม่ไหว เขายังเตรียมแผนสำรองไว้แล้วด้วย
ในเมื่อตัดสินใจจะช่วยแล้ว หรงอี้ต้องมั่นใจอยู่แล้ว มิเช่นนั้นเขาอย่าคิดที่จะสู่ขอ ‘ภรรยา’ เลย เขาไม่มีทางเอาความสุขของตนมาล้อเล่นอย่างแน่นอน…
“มีสมาธิหน่อย”
ต้าซือมิ่งหรงที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ในระหว่างการคิดเรื่องนี้นั้นได้นำไขกระดูกบริสุทธิ์แรกเข้าไปยังหลอดเงินของเยี่ยนอวี๋แล้ว ฝ่ายหลังจึงรีบปล่อยพลังจิตไว้ที่หลอด จากนั้นก็แยกเลือดปนเปื้อนของมนุษย์วานรหวาไหวออกจากพี่รอง
กระบวนการนี้ต้องไว! และแม่นยำ!
ดังนั้น…
ขณะที่เข้าใกล้ระยะเวลาหนึ่งถ้วยชาแล้วนั้น
หรงอี้ที่ดึงเอาไขกระดูกบริสุทธิ์สุดท้ายออกมาได้นั้นได้ปล่อยพลังเทพออกมา หยุดร่างกายของเยี่ยนจื่อเสาเอาไว้ ราวกับผนึกทั้งตัวเขาเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น
“!” เม่ยเอ๋อร์เห็นเช่นนี้จึงได้ประเมินต้าซือมิ่งบางคน และรู้ตัวว่าตนสู้คนคนนี้ไม่ได้แน่ นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกพ่ายแพ้
แต่ทว่าขณะนี้นางต้องยอมรับว่าคนคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ เพราะ…
ปังงง!
พลังแห่งสวรรค์ที่เรียกมาจากการเลื่อนขั้นวิญญาณปฐมภูมิ รวมเข้ากับพลังของต้าซือมิ่งที่กำลังจะพุ่งไปดัง ‘ปัง’ แต่ก็ถูกพลังวิเศษอันอัศจรรย์ของต้าซือมิ่งบางคน ‘ระงับ’ ไว้ได้
ซึ่งก็คือต้าซือมิ่งเขาไม่เพียงแต่ ‘ผนึก’ ร่างของเยี่ยนจื่อเสาไว้ แต่ขณะที่ถูกดึงไขกระดูกบริสุทธิ์นั้น ยังควบคุมสภาวะระเบิดบรรลุขั้นของเยี่ยนจื่อเสาเอาไว้ได้ทั้งหมดด้วย
ความสามารถเพียงนี้ ทำเอาเม่ยเอ๋อร์ต้องประหลาดใจ และทำให้เยี่ยนจื่อเสาตะลึงงันด้วย!
“แข็งแกร่งมาก…”
นี่เป็นคำพูดที่เม่ยเอ๋อร์และเยี่ยนจื่อเสาพูดออกมาพร้อมกัน
“อ้ะเนะ!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่สามารถขยับได้อยากจะระบำมือให้กับท่านพ่อของเขาสักรอบ แต่เสียดายที่เขาขยับไม่ได้ เขาเพียงแค่ขยับเบาๆ เม่ยเอ๋อร์ก็รัดเขาไว้แน่นมากขึ้นอีก…
ส่วนเยี่ยนอวี๋นั้นเหมือนว่าจะชินชาเสียแล้ว หรืออาจเพราะว่านางกำลังเพ่งสมาธิ นางกำลังชำระเลือดมนุษย์วานรหวาไหวออกจากพี่รองอย่างตั้งอกตั้งใจ
เพราะเลือดของทั้งสองได้ผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แล้วจึงชำระได้ยาก หากไม่ใช่ว่าพลังจิตใจได้ฟื้นฟูอีกขั้นแล้วนั้น เยี่ยนอวี๋คงไม่กล้าที่จะเสี่ยงเช่นนี้
แต่ตอนนี้เลือดสีดำจางๆ กำลังไหลออกมาเพราะแรงดึงดูดด้วยอนุสติของเยี่ยนอวี๋
เวลาผ่านไปทีละน้อยๆ…
“ใกล้แล้ว!”
เม่ยเอ๋อร์คิดในใจ เวลาหนึ่งถ้วยชาจะผ่านไปแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา! ทำให้เจ้าตัวน้อยพบว่าพี่เม่ยเอ๋อร์รัดเขาแน่นขึ้นอีกแล้ว เสี่ยวเป่าลำบากใจนัก
ส่วนต้าซือมิ่งบางคนสีหน้าซีดเซียวลงอย่างเห็นได้ชัด! ทำให้เม่ยเอ๋อร์ที่คอยสังเกตการณ์อยู่รู้ว่าแม้นต้าซือมิ่งผู้นี้จะมีพลังยิ่งใหญ่ แต่ก็จะไม่ไหวแล้วเช่นกัน
จี๊ด! เจ้าหนูตัวน้อยเองก็ส่งเสียงร้องเพราะกังวลไปด้วย ทั้งยังกระโดดขึ้นไปยังศีรษะโล้นของเยี่ยนเสี่ยวเป่า ทำเอาเขาเครียดมาก! แต่เขาไม่สามารถขยับไปไหนได้
โชคดีที่เม่ยเอ๋อร์เห็นปฏิกิริยาของหนูตัวน้อยจึงได้จับมันออกไป
ขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋ก็ได้กล่าวขึ้น “ให้เวลาข้าอีกสามลมหายใจ!” นางรู้ว่าถึงเวลาแล้ว แต่นางยังอยากตรวจสอบอีกครั้ง เพราะนี่เป็นโอกาส ‘เกิดใหม่’ ของพี่รอง
“อืม” ต้าซือมิ่งบางคนตอบตกลง
ดังนั้น…
เยี่ยนจื่อเสาจึงได้ผ่านช่วงเวลาสามลมหายใจที่ยาวนานที่สุดในชีวิต! แม้นเวลาจะผ่านไปเพียงสามลมหายใจจริงๆ ก็ตาม แต่เขาสัมผัสได้ว่าต้าซือมิ่งสูญเสียพลังไปมาก เขากังวลว่าจะเกิดเรื่องมากจริงๆ
แต่ทว่า…
“ได้แล้ว!”
เยี่ยนอวี๋พูดขึ้นในขณะเดียวกัน
“…”
ลำแสงสีม่วงที่หายไปเงียบๆ กลับเข้าสู่ร่างกายของต้าซือมิ่งอย่างรวดเร็ว
“กลับ!”
พลังของเยี่ยนอวี๋เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำเอาเลือดที่ชำระแล้วของเยี่ยนจื่อเสาและใช้พลังเทพและพลังการรักษาถ่ายทอดเข้าไปยังร่างกายของเยี่ยนจื่อเสา
วิ้งงง!
กลิ่นอายการเลื่อนขั้นของขั้นวิญญาณปฐมภูมิ ภายใต้ความพยายามของเยี่ยนจื่อเสาทำให้กลับเข้าสู่ร่างกายของเขาได้อย่างราบรื่น และเพราะเขาสามารถรับพลังนี้ได้แล้วจึงได้แพร่สู่หัวใจ กระดูกและอวัยวะภายในได้อย่างรวดเร็ว
พอดีกับเลือดที่เพิ่งกลับมาและได้สร้างกายเนื้อใหม่ได้สำเร็จ! ทำให้กายเนื้อของเขาฟื้นฟูอย่างก้าวกระโดด
เดิมที เพราะสาเหตุจากยาแปรสภาพมนุษย์วานรหวาไหว กายเนื้อของเยี่ยนจื่อเสาจึงได้รับผลพลอยได้จากเรื่องนี้ทำให้เขาเลื่อนขั้นเข้าสู่ขั้นสุวรรณชาต บวกกับวิชาอัญเชิญวิญญาณขั้นพื้นฐานของเยี่ยนอวี๋ ทำให้พลังจิตใจของเขาบรรลุขั้นวิญญาณปฐมภูมิก้าวเข้าสู่ขั้นถอดจิตตั้งนานแล้ว
บัดนี้…
ปังงง!
ทุกอย่างลงตัว
ห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เพียงพอ กายเนื้อที่เพียบพร้อม และขอบเขตจิตวิญญาณที่ถึงระดับ ทำให้เยี่ยนจื่อเสาบรรลุพลังกายขั้นวิญญาณปฐมภูมิและพลังจิตใจขั้นถอดจิตนำหน้าอินหลิวเฟิงและจวินฮวน
นี่ยังไม่เท่าไรนัก ที่สำคัญคือ…
“…”
ภายใต้การขัดเกลาของห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์นั้น เยี่ยนจื่อเสายังสื่อสารกับจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางได้อีกด้วย เขากลายเป็น…คนแรกที่กลายเป็นผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ผ่านพลังกายขั้นวิญญาณปฐมภูมิและพลังจิตใจพร้อมกันในรุ่นของเขา!
โครมมม!
เงาแสงและกลิ่นอายของจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง รวมถึงเสียงคำรามของมัน แสดงให้เห็นว่าการเลื่อนขั้นของเยี่ยนจื่อเสานั้นราบรื่นเพียงใด! เขาต่อจากนี้เพียงแต่คงขั้นนี้เอาไว้ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา
“เนะ!”
ดังนั้นเยี่ยนเสี่ยวเป่าก็พบว่า ท่านลุงรองของเขาเปลี่ยนไป ท่านลุงรองที่เดิมเต็มไปด้วยหนามสีดำ ตอนนี้หนามหลุดไปแล้วหรือ หลุดไปอย่าง…
เยี่ยนอวี๋รีบคลุมเกราะลวงตาให้กับพี่รองของนาง ทำเอาเยี่ยนเสี่ยวเป่าเกือบจะเห็นลุงรองของเขาในสภาพเปลือยเสียแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่เยี่ยนอวี๋และคนอื่นๆ ก็ไม่เห็นเช่นกัน เม่ยเอ๋อร์รู้สึกเสียดายเล็กน้อย
แต่ต้าซือมิ่งบางคนกลับ ‘กระแอม’ ไปทีหนึ่ง ไม่ดังมาก ทว่าเสียงบางเบาแต่ทรงพลังนั่นก็เพียงพอที่จะเบนความสนใจของทุกคนได้ “เป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ”
“อ้ะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่ถูกลุงรองของเขาบังไว้ เห็นว่าพ่อของเขากระอักเลือดเป็นคนแรก! เขาจึงได้ร้อง ‘อุแว้’ ออกมา “อุแว้…อุแว้…” พี่เม่ยเอ๋อร์ปล่อยเสี่ยวเป่าลงเดี๋ยวนี้!
เยี่ยนอวี๋ที่จับข้อมือของต้าซือมิ่งบางคนผ่านพี่รองนั้น ขณะเดียวกันกับที่นางตรวจชีพจรอยู่ก็ได้บังคับป้อนยาให้กับต้าซือมิ่งไปหนึ่งเม็ด
“แค่ก!” ต้าซือมิ่งกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง กระอักยาเม็ดออกมาด้วย! พลังจิตไม่มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ได้นั่งขัดสมาธิลง
ตามมาด้วย…
“…”