เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 258 ปฐมราชินีครอบคลุมพวกเจ้า!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ปังงง!

สายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัวผ่ากลางอากาศจนมีเปลวควันอย่างเห็นได้ชัด กลิ่นเหม็นไหม้ตลบอบอวลไปทั่วอากาศ ทำเอาคนบนฝั่งแม่น้ำเย่ว์หมิงตกใจ

เฉาหมิงเฉิงเองก็ตกใจจนเหงื่อตก เพราะสายฟ้านั้นดูเหมือนผ่าลงเหนือศีรษะของเขาเท่านั้น ทั้งยังเป็นช่วงที่เขาเพิ่งจะกล่าวจบเท่านั้นก็ระเบิดออกทันที

แต่อินสวินอี้ไม่ได้สังเกต แม่น้ำเย่ว์หมิงดูเหมือนสั่นไปครู่หนึ่ง?! นี่มัน…

อินสวินอี้ที่เชื่อว่าตนมองไม่ผิดแน่สีหน้าขรึมลง พร้อมกับหันศีรษะตะโกนว่า “แม่ทัพหนาน!”

“อยู่ที่นี่แล้ว!” หนานเฉิงทง…ผู้บัญชาการค่ายทหารหนานซานแห่งโยวตูขานตอบเสียงดัง

อินสวินอี้ที่คิดถึงความเป็นไปได้อีกหนึ่งอย่างก็ไม่คิดจะเสวนากับเฉาหมิงเฉิงต่อ แต่เปลี่ยนเป็นจบบทสนทนาทันที “ถ่ายทอดคำสั่ง กองทัพน้ำ กองทัพดิน กองทัพไม้ รวมตัวทั้งสามกองทัพ!”

หนานเฉิงทงแม่ทัพอาวุโสตกใจ แล้วรีบตอบกลับทันที “รับทราบขอรับ”

เฉาหมิงเฉิงกริ้วโกรธ “โยวตูอ๋อง! ท่านคิดจะทำอะไร!”

แต่ทว่าหนานเฉิงทงแม่ทัพอาวุโสแห่งเมืองโยวตูนั้นออกเดินทางไวนัก ไม่สนใจเฉาหมิงเฉิงเลยสักนิด แต่ทว่าผู้แข็งแกร่งที่เฉาหมิงเฉิงพามาด้วยทั้งสี่คนก็หายตัวไปทางหนานเฉิงทงแล้วเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าจะห้ามคนเอาไว้

เพียงแต่น่าเสียดาย…

“ไสหัวไปซะ!”

อินสวินอี้ระเบิดพลังขึ้นมากะทันหัน เขาฟาดฝ่ามือลงไปหนึ่งฝ่ามือ วิหคทมิฬสีแดงเพลิงปรากฏขึ้นท่ามกลางอากาศ พร้อมกับห่อตัวหนานเฉิงทงไปโดยตรง

ผู้แข็งแกร่งทั้งสี่จากราชสำนักตามไม่ทัน…

“โยวตูอ๋อง!” เฉาหมิงเฉิงสีหน้าไม่ดี

อินสวินอี้เปลี่ยนจากความโอ้อวดเป็นกล่าวอย่างไม่กริ้วโกรธปนการข่มขู่ “ใต้เท้าเฉา ในเมื่อพูดไว้แล้วว่าพรุ่งนี้ค่อยเดินทาง เจ้าเองก็อย่าได้คิดวุ่นวายกับข้า มิเช่นนั้นจะเป็นขันทีพิเศษอย่างเจ้าที่จะทำให้กษัตริย์เมืองโยวตูองค์ปัจจุบันต้องก่อกบฏ!”

“เจ้า…” สีหน้าเฉาหมิงเฉิงเปลี่ยนสีเขียวเป็นดำ

เฉินฉุนเฟิงกลับกล่าวว่า “ใต้เท้าเฉา ไม่แปลกที่ท่านจะปฏิบัติตามคำสั่ง โยวตูอ๋องเองก็เพียงแค่เฝ้าแม่น้ำเย่ว์หมิงตามคำสั่งของต้าซือมิ่งเท่านั้น เพราะแม่น้ำเย่ว์หมิงในตอนนี้มีการเคลื่อนไหว คงไม่ผิดที่โยวตูอ๋องจะร้อนใจหรอกกระมัง”

“ใช่ขอรับ!” ชิงอ้ายเฟิงเองก็กัดฟันเห็นด้วย “ใต้เท้าเฉา ฝ่าบาททรงมีกลยุทธ์มากมายไม่มีผู้ใดอาจเทียบได้ แต่น้ำท่วมเมืองโยวตูนั้นเปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน ขณะที่โยวตูอ๋องต่อต้านพระบัญชานั้นก็เพื่อมั่นใจว่าต้าซือมิ่งและปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนจะปลอดภัย จึงทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยคงไม่เป็นไรหรอกกระมัง”

เฉิงคั่วได้ยินดังนั้นก็ไม่อาจพูดแทรกได้ เพราะเขาเป็นคนของฝ่าบาท กุมอำนาจทหารของราชสำนัก ต้องไม่พูดแทนเมืองโยวตูและต้าซือมิ่งในตอนนี้เป็นอันขาด

แต่เฉาหมิงเฉิงที่สีหน้าดำเขียวถึงขีดสุด แม้นเขามีใจอยากจะขัดขวางอินสวินอี้ก็ตาม แต่เขาก็ต้องนึกถึงคุณหนูใหญ่เยี่ยนที่ฝ่าบาทนึกถึงตลอดเวลาด้วย ดังนั้น…

“ก็ใช่! ในเมื่อเซ่าซือเฉินและหัวหน้าสำนักชิงเหลียนรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอันใด ข้าเองก็ไม่อาจขัดขวางได้ แต่ทว่าเมื่อตะวันขึ้นในวันรุ่งขึ้น โยวตูอ๋อง! ท่านต้องตามข้ากลับเมืองหลวง” เฉาหมิงเฉิงเปลี่ยนคำพูด

“ตามที่เจ้าต้องการ” อินสวินอี้ตอบกลับเงียบขรึม แต่สายตายังคงอยู่ที่แม่น้ำเย่ว์หมิง นัยน์ตาประกายด้วยแสงสีแดง ความรู้สึกของเขาครั้งนี้ไม่ดีจริงๆ!

ความจริงก็ยืนยันแล้วว่า ความรู้สึกแรกของอินสวินอี้นั้นแม่นยำมาก! จากที่เขาสังเกตมาเห็นได้ชัดว่าแม่น้ำเย่ว์หมิงมีระลอกคลื่นที่ผิดปกติจริง เป็นระลอกคลื่นที่สงบนิ่งมากเกินไป

นี่ทำให้เฉินฉุนเฟิงที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกันรู้สึกกังวล เพราะระลอกคลื่นเหล่านี้ช่างลึกลับเหลือเกิน ทั้งยังไวมากอีกด้วย เพียงพริบตาเดียวก็เต็มไปทั่วทั้งแม่น้ำแล้ว!

“นี่…นี่มันคืออะไร” เฉิงคั่วมึนงง

อินสวินอี้ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่เขารู้ว่าแม่น้ำเย่ว์หมิงไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน! ดังนั้นเขาจึงตะโกน “หนานเฉิงทง! เร่งมือเดี๋ยวนี้! เร็วเข้า…”

ชิ้งงง!

ชิ้งๆ…!

ราวกับว่าเพื่อยืนยันความไม่สบายใจของอินสวินอี้ มีอักษรโบราณลอยขึ้นจากแม่น้ำเย่ว์หมิง

ระลอกคลื่นที่สงบนิ่งมากเหล่านั้น กลายเป็นอักษรโบราณทีละนิดๆ แต่ด้านใต้อักษรเป็นฉากมืดไร้แสงสะท้อนของดวงดาวและดวงจันทร์ที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองทะลุได้!

นี่ไม่ใช่สภาพที่แม่น้ำในตอนค่ำควรจะมี! ดังนั้นกองกำลังเมืองโยวตูหลายนายที่อยู่ด้านหน้าจึงขว้างหอกของพวกเขาลงไป เพื่อทดสอบดูว่าคืออะไรกันแน่

หอกทุกเล่มตรงหน้าทุกคนได้กลายเป็นควันสีดำทันทีที่ตกลงไปในแม่น้ำ!

“นี่มัน…มันคือ…”

ชิงอ้ายเฟิงกำลังจะถามว่านี่คืออะไร ก็มีกำแพงอักษรโบราณสีเขียวเข้ม ‘ผุดขึ้น’ จากแม่น้ำเย่ว์หมิง แทนที่คลื่นมหึมาก่อนหน้านั้น ค่อยๆ กลายเป็นกำแพงอักษรโบราณสีดำบริสุทธิ์

“…”

ทั้งกองทัพราชสำนักที่ค่อยๆ ถอยหลังกลับ กองทัพตำหนักซือมิ่ง ศิษย์สำนักชิงเหลียนต่างก็ตกใจกับฉากนี้! แม้แต่กองทัพเหล็กของเมืองโยวตูเองก็พากันชักกระบี่ออกมาเช่นกัน

ส่วนอินสวินอี้นั้นเขาเดาได้แล้วว่าคืออะไร “ทุกกองทัพโปรดระวัง! นี่เป็นสิ่งมีชีวิต!” นี่ต้องเป็นสัตว์ประหลาดที่ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนพูดถึงเป็นแน่ สัตว์ประหลาดที่อยู่ใต้ดินเมืองโยวตู ที่มีแม่น้ำเย่ว์หมิงเป็นลำตัวแน่ๆ

“โยวตูอ๋อง! ท่านรู้ว่ามันคืออะไรอย่างนั้นหรือ” เฉินฉุนเฟิงถามอย่างตกใจ เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายและกลิ่นอายอันน่าหวาดกลัวจากฉากดำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นี้ได้

เกรงว่า…

เกรงว่านี่จะน่ากลัวกว่าน้ำท่วมเสียอีก!

ดังนั้น…

ชิ้งงง!

แสงกระบี่หนึ่งลอยมาจากสำนักจวินจื่อ

ประมุขสำนักจวินจื่อ…จวินอั้นเทียนมาแล้ว

ชิ้งงง!

ศิษย์สำนักจวินจื่อที่อยู่บนฝั่งแม่น้ำเย่ว์หมิงพากันชักกระบี่ออกมา!

และเขตทางตอนใต้ของเมืองโยวตู กองทัพคำรามทั้งสามก็ได้รวมตัวกันแล้วเดินทางมาที่นี่

“…”

บนฝั่งของแม่น้ำเย่ว์หมิงกลับเงียบสุดขีด ทุกคนต่างกลั้นหายใจไว้ และจ้องไปที่ฉากมืดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นั่น รอให้ ‘มัน’ เผยธาตุแท้ออกมา

แต่ทว่ารอจนทั้งสามกองทัพรวมตัวกันเสร็จสิ้น หนานเฉิงทงกลับมาข้างกายอินสวินอี้แล้ว ฉากมืดนี้ก็ยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะพุ่งสูงเทียมฟ้า แทบจะสูงกว่าฟ้าด้วยซ้ำ

แต่ในกระบวนการทั้งหมดนี้ แม่น้ำเย่ว์หมิงเงียบมาก เงียบจนไม่มีแม้แต่เสียงหยดน้ำเลย ราวกับว่าแม่น้ำเย่ว์หมิงไม่ใช่แม่น้ำ ด้านในไม่มีน้ำเลยอย่างไรอย่างนั้น

แต่ทว่าผู้คนในที่นี้ที่มีประสบการณ์มากมายแล้วนั้นรู้ดีว่าน้ำในแม่น้ำเย่ว์หมิงนั้นไม่น้อยเลย! ดังนั้นพวกเขารู้ดีว่าการที่มันเงียบมากเท่าไรก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น

…อึก

ผู้คนมากมายที่จิตใจไม่มั่นคง ต่างก็กลืนน้ำลายเพื่อบรรเทาความกดดัน ทันใดนั้นเอง…

ชิ้งงง!

เมื่อเสียงน้ำดังขึ้น และฉากมืดนั้นได้ ‘หยุดลง’ ก็มีคนมากมายที่ตกใจจนล้มลงกับพื้นไปและอ้าปากกว้างที่สุดแต่กลับหายใจไร้เสียง “…”

ชิ้งงง!

ชิ้งๆ…!

ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของกองทัพโยวตูต่างก็ส่งตัวทหารยอดฝีมือออกมา ตั้งทัพไว้ก่อนแล้ว ส่งพลังทั้งหมดไว้สูงสุด เพียงแต่น่าเสียดาย…

วิ้งงง!

เถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่ข้ามแม่น้ำเย่ว์หมิงมาก มันสั่นคลอนเล็กน้อย กลิ่นอายจากอักษรโบราณก็สะท้านออกมาทำให้กองทัพโยวตูในตรงนั้นกระอักเลือดทันที

สีหน้าอินสวินอี้แปรเปลี่ยน ร่างกายทั้งหมดถูกเผาไหม้ด้วยเปลวเพลิงกระหน่ำ ประมุขสำนักจวินจื่อที่ลอยกลางอากาศมาก็ฉายแสงสีเงินออกมาทั่วทั้งตัว ราวกับกระบี่ยักษ์ที่ออกมาจากตัวเขา

ดูเหมือนในขณะเดียวกัน…

วิ้งงง!

ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลที่สัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายปรากฏขึ้นอีกครั้ง

มันเหมือนดั่งดวงดาวที่ฉายแสงยามค่ำคืน ส่องสว่างไปทั่วเมืองโยวตู กระจายกลิ่นอายโบราณที่แข็งแกร่งและลึกลับ ทำให้กองทัพเมืองโยวตูกลับมามีสมาธิอีกครั้ง

ทำให้อินสวินอี้ตกใจจนตะโกนขึ้น “ทุกกองทัพรวมมือกับภาพม้วน! กำจัดสัตว์ประหลาดและปกป้องเมืองโยวตู!”

“ขอรับ…”

กองทัพเมืองโยวตูที่แม้นว่าจะบาดเจ็บ แต่ก็ไม่มีใครยอมแพ้ต่างรวมพลังส่งไปยังภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลที่อยู่บนท้องฟ้า “ปกป้องเมืองโยวตู!”

“ปกป้องเมืองโยวตู! ปกป้องเมืองโยวตู…”

คำขวัญที่ตะโกนออกไปพร้อมกัน! สั่นสะท้านไปทั่วทั้งเมืองโยวตู ทั้งยังเป็นกำลังใจให้กับกองทัพเมืองโยวตูด้วย ทำให้กองทัพราชสำนักที่มองดูอยู่รู้สึกขนลุกด้วย

ทันใดนั้นเอง…

ชิ้งงง!

เถาวัลย์ยักษ์ที่ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า กลับทะยานขึ้นไปสู่ภาพม้วนที่อยู่บนท้องฟ้า! ไม่หวาดกลัวในกลิ่นอายลึกลับที่ภาพม้วนนั่นแผ่ซ่านออกมาเลย

เอื๊อก!

วิหคทมิฬยักษ์ที่อินสวินอี้อัญเชิญมา ฉีกไปทางเถาวัลย์ขนาดยักษ์ในขณะนี้กลายเป็นเพลิงดอกไม้ไฟเต็มท้องฟ้า

“กระบี่ จงมา!”

จวินอั้นเทียนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายกระบี่ เรียกกระบี่ยักษ์ทะลุผ่านเมืองทั้งเมืองมาแทงเข้าไปยังเถาวัลย์ขนาดใหญ่นี้

ปังงง!

แคว่ก!

แก่นวิญญาณอสูรวิหคทมิฬในตำนาน!

รวมถึงจวินจื่อเจี้ยน…ที่ชื่อขนานนามสามารถฆ่าตำนานได้ของสำนักจวินจื่อ!

ขณะนั้นเอง…ปล่อยพลังของพวกมันออกมาให้โลกรู้ว่ามันแข็งแกร่งมากเพียงใด! ท้องฟ้าถูกแยกออกเป็นรอยต่อและรอยกระบี่เส้นหนึ่ง

ทันใดนั้นเอง…

ปังงง!

เถาวัลย์ขนาดใหญ่นี้สั่นสะท้านพร้อมกันครั้งหนึ่ง ทำให้การโจมตีเหล่านี้ถูกทำลายจนหมด แสงยันต์ที่เปล่งประกายออกมาจากเรือนร่างของมัน ราวกับเป็นหลุมดำลึกล้ำที่แทบจะสามารถกลืนกินการโจมตีทั้งหมดได้

ดังนั้นไม่ว่าอินสวินอี้และจวินอั้นเทียนจะใช้พลังทั้งหมดที่มีก็ตาม แต่เถาวัลย์ขนาดใหญ่นี้ก็ยังไม่ถูกขัดขวาง! มันฟาดลงไปบนภาพม้วนอย่างรุนแรง ดูท่าแล้วคิดจะทุบตีภาพม้วนให้แหลกสลายอย่างไรอย่างนั้น

“ให้ตายเถอะ!”

สีหน้าอินสวินอี้ซีดเผือด และลอยขึ้นกลางอากาศ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเขย่าเถาวัลย์นั่นด้วยพลังกายของเขา แต่ทว่ามันกลับไม่ให้โอกาสเขาได้ลงมือเลย!

เถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่ดูแล้วขยับช้ามาก แต่ความจริงไวอย่างกับโกหกได้พุ่งเข้าไปทางภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลอย่างรุนแรง ปังงง!

ทันใดนั้นเอง…

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท