เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 260 สวรรค์มาเก็บคนชั่ว!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

“เหลวไหล!”

หนานเฉิงทง…แม่ทัพอาวุโสเมืองโยวตูได้ยินก็รีบชักกระบี่ออกมาทันที “หนึ่ง ท่านอ๋องไม่ได้ทำผิด สอง ไม่ได้ไม่เชื่อฟัง เหตุใดราชสำนักจึงต้องรวบกองทัพโยวตูของเราด้วย!”

“ถูกต้อง!” กองทัพโยวตูที่ชักกระบี่ออกมาสีหน้าไม่ดี คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าราชสำนักจะมาไม้นี้ได้ หลอกท่านอ๋องไปก่อน แล้วค่อยรวบอำนาจอย่างไม่มีสัญญาญล่วงหน้าเช่นนี้

แต่น่าเสียดาย…

ชิ้งงง จวินอั้นเทียนที่รู้สึกว่าพลังของตนไม่เพียงพอ กำลังภายในกำลังค่อยๆ ลดถอยลง!?

นี่มัน…

สีหน้าจวินอั้นเทียนแปรเปลี่ยน “พื้นที่ค่ายมีพิษ!”

และในขณะเดียวกัน…

ในพื้นที่ค่ายมีฟองอากาศผุดขึ้นมาทีละน้อยๆ และยืนยันคาดคะเนของจวินอั้นเทียนแล้วเช่นกัน

“สมควรตาย!” จวินอั้นเทียนพยายามควบคุมพลังเอาไว้ กลับพบว่าตามด้วยการเคลื่อนไหวของฟองอากาศเหล่านี้ พลังของเขายิ่งลดลงเร็วขึ้น ส่วนผู้แข็งแกร่งทั้งสี่ที่กดทับเขาไว้อยู่นั้นกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย

แต่จวินอั้นเทียนไม่เข้าใจ เขาที่ระมัดระวังอยู่เสมอ! แต่กลับไม่พบว่าคนของเฉาหมิงเฉิงจะมีท่าทางแปลกประหลาดอะไร เหตุใดกองทัพเสริมว่าไม่มีก็ไม่มีแล้ว ทั้งค่ายยังถูกวางยาพิษอีกด้วย!

“เพราะเหตุใดกัน” จวินอั้นเทียนอดไม่ได้ที่จะถาม “พวกเจ้าทำได้อย่างไร!”

“ประมุขสำนักจวิน ท่านเป็นประมุขสำนักจวินจื่อ ไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องระหว่างราชสำนักและโยวตูอ๋องเลย เพียงแค่ท่านพาคนของท่านออกจากที่นี่เสีย ข้าไม่เอาเรื่องท่านได้”

“ไม่มีทาง!” จวินอั้นเทียนสีหน้าซีดเซียว “สำนักจวินจื่อของข้าอยู่ที่โยวตู! โตที่โยวตู โยวตูใครจะปกครองข้าย่อมไม่สนใจ แต่ทว่าชาวบ้านในโยวตูไม่มีบ้านไม่ได้ อาณาเขตโยวตูไม่อาจถูกกวาดล้าง”

“ดื้อดึงนัก!” เฉาหมิงเฉิงหัวเราะเสียงเย็น “เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไร้น้ำใจแล้วกัน”

เพิ่งกล่าวจบ…

ผู้แข็งแกร่งจากราชสำนักที่โผล่ขึ้นมาจากใต้แม่น้ำก็ได้เข้าร่วมค่ายเพื่อล้อมจวินอั้นเทียนแล้ว

ส่วนหนานเฉิงทงและคนอื่นๆ พวกเขาก็ถูกกองทัพราชสำนักที่สำนักคุนอู๋พามาล้อมไว้ด้วยเช่นกัน

“เอาให้ตายเลย! ข้าเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าตอนนี้จะมีใครกล้าอีก!” เหลียงเฉิงคุนที่กลั้นมานานแล้วรีบไปทางหนานเฉิงทงทันที การสู้แบบหมื่นต่อร้อย ผลลัพธ์เป็นอย่างไรนั้นไม่ต้องกล่าวถึง

ยิ่งกว่านั้นหนานเฉิงทงและคนอื่นๆ ล้วนต้องพิษ! ส่วนคนของราชสำนักกลับไม่เป็นอะไรเลย

เมื่อเห็นว่าหนานเฉิงทงและคนอื่นๆ จะถูกล้อมฆ่าแล้ว ศิษย์สำนักจวินจื่อและกองทัพเมืองโยวตูที่ควบคุมภาพม้วนอยู่นั้นก็เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว แต่ทว่า…

หนานเฉิงทงที่ถูกล้อมไว้จนกริ้วโกรธตะโกนขึ้น “กองทัพน้ำ กองทัพดิน กองทัพไม้และกองทัพไฟฟังคำสั่ง! หากไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดเฝ้า แม้นว่าข้าจะตาย พวกเจ้าก็ห้ามออกจากค่อยกลเด็ดขาด!”

“ศิษย์สำนักจวินจื่อก็เช่นเดียวกัน!” จวินอั้นเทียนที่ต่อต้านผู้แข็งแกร่งสิบกว่านายแห่งราชสำนัก ไม่อนุญาตให้ศิษย์สำนักจวินจื่อออกจากค่ายกลเช่นเดียวกัน

พวกเขารู้ดี หากเฝ้าภาพม้วนไว้ก็ย่อมถูกคุ้มกันด้วยภาพม้วน! กองทัพโยวตูและศิษย์สำนักจวินจื่อที่เหลืออยู่เป็นความหวังเดียวของพวกเขาแล้ว

“แต่ทว่า…” กองทัพทั้งสี่เห็นสหายถูกฆ่าอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนานเฉิงทงเองก็บาดเจ็บเช่นกัน พวกเขาทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว!

“อย่าลืมคำสั่งของท่านอ๋องล่ะ!” หนานเฉิงทงตะโกนต่อศิษย์สำนักจวินจื่อคนหนึ่ง จากนั้นก็ถูกเหลียงเฉิงคุนใช้ดาบแทงเข้าไปกลางหลัง และกระอักเลือดออกเป็นสาย

เอื๊อก…

“แม่ทัพหนาน!

แม่ทัพ…

สี่กองทัพใหญ่แห่งโยวตูน้ำตาไหลริน

ศิษย์สำนักจวินจื่อเองก็พากันจับกระบี่แน่น ดวงตาแดงก่ำ

แต่เถาวัลย์ขนาดใหญ่นั้นก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยอักษรโบราณ จากสีเขียวกลายเป็นสีดำแดง และปล่อยควันดำออกมาอย่างต่อเนื่อง

หนานเฉิงทงที่กระอักเลือดเต็มปาก ยังคงตะโกนเพราะเหตุนี้อีกด้วย “พวกเจ้าต้องเฝ้าไว้! ไม่มีกำลังเสริมแล้ว พวกเจ้าต้องเฝ้าไว้!”

“ตายซะเถอะ!” ดาบที่เหลียงเฉิงคุนนำออกมาฟันลงไปที่หนานเฉิงทงอีกครั้ง

“แม่ทัพ…”

กองทัพโยวตูร้องไห้!

ฟิ้ววว!

ธนูเพลิงกลับพุ่งมาในขณะนี้! เสียงดัง ‘ปัง’ พร้อมกับแยกกระบี่ของเหลียงเฉิงคุนออก หลังจากนั้นชายหนุ่มที่สวมชุดองครักษ์กลุ่มหนึ่งก็ลอยมาจากทางไกล

“ไป!” หัวหน้าองครักษ์จวนอ๋อง จับหนานเฉิงทงขึ้นละตามมาด้วยองครักษ์คนอื่นๆ ลองช่วยพวกเขาออกจากที่นี่โดยเร็ว

แต่น่าเสียดาย…

ปังงง!

ในค่ายที่ตลบอบอวลด้วยอากาศ ได้มีเถาวัลย์ระเบิดออกมาทีละเส้นๆ พุ่งไปยังองครักษ์จวนอ๋องที่เพิ่งเข้ามา

เอื๊อก! องครักษ์จวนอ๋องคนหนึ่งร่างกายระเบิด พร้อมกับทหารโยวตูที่ถูกเขาดึงตัวมาด้วยก็ถูกแทงจนแยกเป็นชิ้นๆ

“รีบไปเร็ว! ไม่ต้องสนใจพวกข้า!” หนานเฉิงทงที่รู้ว่าผู้มาเยือนคือใครรีบตะโกนขึ้น แต่องครักษ์ที่ดึงเขาไว้ไม่มีทีท่าที่จะปล่อยมือเลย แต่กลับรอดจากเถาวัลย์นี้อย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งเข้าไปยังกองทัพไฟที่อยู่ใกล้ที่สุด

“เจ้า…”

“หุบปากแล้วช่วยข้าจัดการเถาวัลย์ประหลาดนี้ให้หน่อยได้หรือไม่” ซานเหมาที่เป็นหัวหน้าองครักษ์จวนอ๋องที่แปลงเป็นต้าเผิงกล่าวขึ้น ไม่มีเวลามาร้องไห้หรอก!

หนานเฉิงทงพรางกระอักเลือดพรางหั่นเถาวัลย์ที่พุ่งเข้ามาเงียบๆ แต่ดาบใหญ่กลับถูกเถาวัลย์แยกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว เขาเองก็เกือบแล้วเช่นกัน

ชิ้งงง! โชคดีที่ซานเหมาบางคนรวดเร็วจึงหลบได้ทัน

ทันใดนั้นเอง…

ในขณะนั้นเอง!

โครม…

สัตว์ประหลาดร่างคล้ายอิงหลงขนาดยักษ์ก็อ้าปากกว้าง พร้อมกับคลุมทั้งภาพม้วนเอาไว้ ดูท่าจะกลืนกินมันลงไปในคราวเดียว แต่เสียดาย…

วิ้งงง

กระบี่ไท่ชางที่ซ่อนตัวอยู่ในความว่างเปล่า ในที่สุดก็ออกมาแล้ว

ขณะที่สัตว์ประหลาดร่างคล้ายอิงหลงอาวุโสนี้กำลังจะกลืนกินภาพม้วนนั้น! มันก็ออกมาแล้ว พร้อมทั้งทะลุเข้าไปยังร่างกายของสัตว์ประหลาดผ่านปากอันกว้างใหญ่นั้นโดยตรง

ดังนั้นเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่ปล่ยอท่าไม้ตายออกมาเมื่อครู่ มันยัง ‘เห็น’ ได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น หากมันมีดวงตาล่ะก็! มันก็คงมองไม่เห็นแล้ว…

แคร่ก!

ปัง! ปัง…

กระบี่ไท่ชางที่ทำลายมาตลอดทางและทะลุสัตว์ประหลาดร่างคล้ายอิงหลงนี้แทงเข้าไปในร่างเถาวัลย์ขนาดใหญ่นี้โดยตรง ทำให้ทุกอุปสรรคที่ผ่านมานั้นกลายเป็นเปลวควันในทันที

กี๊ซ…

เถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่เจ็บปวดจนส่งเสียงร้องออกมาอย่างเห็นได้ชัด สั่นสะท้านด้วยแสงยันต์แล้วแปลงกลับเป็นสีเขียวเข้ม

ฉากนี้…

ทำเอาในจวินอั้นเทียนต้องออกคำสั่งอย่างมีแรงใจ “เร็วเข้า! กินยาซะ แล้วใช้พลังทั้งหมดที่มีกระตุ้นค่ายกล!”

ตามมาด้วย…

วิ้งงง!

ภาพม้วนขุนขาและท้องทะเลที่ชัดเจนขึ้นไม่น้อย ได้แผ่เงาบางๆ ไปที่เถาวัลย์ขนาดใหญ่ กลิ่นอายโบราณที่ซ่อนอยู่ภายในได้กำจัดอักษรโบราณสีเขียวเข้มทันที

อู้ว! อู้ว…

เถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่ส่งเสียงร้องเพราะความเจ็บปวด ทำให้จวินอั้นเทียนและคนอื่นๆ รู้ว่าพวกเขาทำถูกแล้ว! ดังนั้นพวกเขาจึงกระตุ้นค่ายกลต่อไปโดยไม่สนใจผลที่จะตามมา

“ให้ตายเถอะ!” ลิ่นจ่างเอินที่อยู่ในตำหนักซือมิ่งแห่งราชสำนักเห็นฉากนี้แล้ว สีหน้าแย่ลงทันที “อีกนิดเดียวเท่านั้น เพียงแค่ทำลายภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลได้ ก็จะรวบโยวตูได้แล้ว บัดนี้…”

ลิ่นจ่างเอินที่กลิ่นอายสงบลงเล็กน้อยมองสงครามโยวตูอยู่เงียบๆ รู้ว่าจำต้องปล่อยท่าไม้ตายที่สุดออกมาก่อนเสียแล้ว มิเช่นนั้นหากกองทัพเสริมของสำนักจวินจื่อลงเขาแล้วก็จะไม่มีโอกาสอีก

ตอนนี้ขณะที่สำนักจวินจื่อยังคงสังเกตการณ์อยู่ กองทหารตรงค่ายหนานซานก็ไม่ทันได้ลงมือ เขาต้องตัดสินใจแล้ว! ดังนั้น…

“ปลุกมัน” ลิ่นจ่างเอินสั่งการเงียบๆ นักบวชนับร้อยในตำหนักซือมิ่งต่างก็ออกจากตำหนักซือมิ่งไป ส่วนพวกเขาจะหายตัวไปที่ใดนั้น ไม่มีผู้ใดอาจรู้ได้

แต่ไม่นานมานี้…

วิ้งงง!

เหล่าผู้ฝึกฌานแห่งเมืองหลวง ต่างรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน

วิ้ง! วิ้ง…

การเคลื่อนไหวที่กระจายจากเมืองหลวงได้พุ่งไปยังโยวตูตาม ‘ตาข่าย’ ที่เยี่ยนอวี๋และต้าซือมิ่งบางคนเห็นก่อนหน้านั้น และไปกระทบที่ส่วนลึกของโยวตู

วิ้งงง!

ทหารโยวตูและศิษย์สำนักจวินจื่อที่กำลังประคองภาพม้วนอยู่อย่างสุดความสามารถ พวกเขาต่างก็สัมผัสได้ว่ามีการเคลื่อนไหวจากพื้นดินอย่างเห็นได้ชัด

“นี่มัน…”

จวินอั้นเทียนตากระตุกแล้วมองไปยังพื้นดินก่อน!

“…”

พื้นดินที่แตกร้าวเงียบๆ บ่งบอกจวินอั้นเทียนว่ากำลังจะมีอะไรบางอย่างออกมาจากพื้น

ที่น่ากลัวคือ ไม่เพียงแต่ปรากฏในเมืองโยวตูที่จวินอั้นเทียนเห็นเท่านั้น

แต่มันเกิดขึ้นทั้งอาณาเขตโยวตู ไม่ว่าจะเป็นเมืองลั่วสุ่ย! หรือนอกในสำนักจวินจื่อ รวมถึงค่ายซานต้าด้วย หรือว่าพื้นที่อื่นๆ ในเขตโยวตูก็เช่นเดียวกัน

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทำให้ผู้แข็งแกร่งในสุสานกระบี่แห่งสำนักจวินจื่อผู้นั้นต้องออกจากสุสานกระบี่! ในสุสานกระบี่แห่งสำนักจวินจื่อมีดาบหมื่นเล่ม…

“ภูเขาและแม่น้ำกำลังจะพังทลาย! ต้าซย่าจะไม่มีอีกแล้ว” นักกระบี่อาวุโสในสุสานกระบี่ถอนหายใจยาว เคราและเส้นผมของเขากางออกด้วยความกริ้วโกรธและแปลงเป็นแสงกระบี่ สั่นสะท้านไปทั่วสุสานกระบี่

แต่ถึงแม้กระบี่หมื่นเล่มของสุสานกระบี่แห่งสำนักจวินจื่อจะออกมา นักกระบี่อาวุโสผู้นี้ก็รู้ดีว่าสำนักจวินจื่อไม่อาจแก้ไขสถานการณ์แปลกประหลาดในแม่น้ำนี้ได้

แคร่ก!

แคร่ก…

พื้นดินทั้งอาณาเขตโยวตูที่มีการแตกร้าวอย่างต่อเนื่อง ได้ยืนยันในสิ่งที่นักกระบี่อาวุโสคิดแล้ว

เพราะว่า…

โครมมม!

โครม…

เสียงคำรามตื้นดินทั้งอาณาเขตโยวตูได้คำรามออกมาและระเบิดอย่างพร้อมเพรียงกัน! ส่วนผู้คนนอกอาณาเขตโยวตูนั้นก็สามารถเห็นพื้นดินในอาณาเขตโยวตูราวกับกำลังถูกแยกออกจากกันได้อย่างชัดเจน

ดังนั้นจึงสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า นักกระบี่อาวุโสที่มาจากใต้พื้นดินที่แข็งแกร่งเพียงนี้ ได้กลายเป็นกระบี่ขนาดยักษ์ที่รวมตัวจากกลุ่มดาว

เขาพร้อมแล้ว ถวายภูเขาและแม่น้ำ!

ตายไปพร้อมโยวตูทั้งอาณาเขต!

ทันใดนั้นเอง…

วิ้งงง

ทางสวรรค์ค่อยๆ สั่นคลอน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท