เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 263 สู่ขอแล้ว!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

สามเดือนต่อมา

เมืองหลวงตี้ชิว

“ข่าวด่วน! ข่าวด่วน!ข่าวใหม่เมืองหลวง บุตรีคนโตตระกูลกู้แห่งสำนักเหยาไถเซียน! เดิมคือเซ่าซือกู้แห่งตำหนักซือมิ่ง จะแต่งเข้าราชสำนักกลายเป็นราชินีคนใหม่แล้ว! ผ่านไปผ่านมาอย่าได้พลาด รับข่าวใหม่เมืองหลวงสักฉบับไหมจ๊ะ! อยากเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของเมืองหลวง เจ้าควรมีมัน!”

ฟิ้ว!

ชาวบ้านในเมืองหลวงได้ยินเช่นนี้ต่างก็รีบวิ่งเข้าไป “ข้าขอหนึ่งฉบับ!”

“ข้าด้วย! เร็วเข้า!”

“คาดไม่ถึงเลยว่าเซ่าซือกู้จะแต่งเข้าราชสำนัก กลายเป็นผู้หญิงของฝ่าบาทได้ สวรรค์! นางเป็นหญิงในฝันข้าเชียวนะ ข้าหัวใจแตกสลายแล้ว สวรรค์เอ๋ยยย…”

“ข่าวด่วน! ข่าวด่วน!เรื่องแปลกในต้าซย่า ข่าวเด็ดจะมาแล้ว! ที่น่าตกใจคือ ชีหลางตระกูลกู้แห่งสำนักเหยาไถเซียนตกหลุมรักอย่างสุดซึ้งจึงไปสู่ขอที่สำนักชางอู๋ ต้องการสู่ขอปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนที่เป็นหญิงงามอาภัพ แล้วจะจัดพิธีแต่งงานผี!”

“ให้ตายเถอะ!”

“มารดามันเถอะ! เอามาให้ข้าหนึ่งฉบับ นี่มันเป็นความรักแบบไหนกันเชียว! ข้าจะดู! ให้ข้าหนึ่งฉบับ!” ชาวบ้านเมืองหลวงต่างก็ทิ้งข่าวใหม่แห่งเมืองหลวง และรีบไปซื้อเรื่องแปลกในต้าซย่าทันที

“อย่ารีบร้อนไปๆ มีให้ทุกคนแน่นอน!” คนขายหนังสือเรื่องแปลกในต้าซย่ายิ้มร่าจนเห็นฟันเหลืองๆ นั่นเปล่งประกาย พูดในใจเรื่องชาวบ้านนี่มันอยู่ในเลือดคนเราจริงๆ ใครๆ ก็ชอบ

ฮองเฮาในต้าซย่าอะไรนั่นจะสู้ความรักของทวยเทพได้หรือ

ดังนั้นฮองเฮาองค์ใหม่…กู้หยวนซู จึงเป็นคนที่สองที่จะเป็นที่พูดถึงในเมืองหลวงเท่านั้น

แต่ทว่าสำนักเหยาไถเซียนดังแล้วจริงๆ!

“สำนักเหยาไถเซียนเลี้ยงดูลูกสาวที่ดีคนหนึ่ง” หยางเฟิ่งหยวนอัครเสนาบดีรู้สึกอับอายมาก

เฉิงคั่วที่คุกเข่าตรงหน้าหยางเฟิ่งหยวนกล่าว “ท่านปู่จะถอนหายใจไปทำไมกัน นายน้อยมีพรสวรรค์อยากมาก สามารถอัญเชิญวิญญาณอสูรในตำนานอย่างซีหวังหมู่ได้”

“แต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่ง” หยางเฟิ่งหยวนถอนหายใจ หากเป็นปกติ ช้าไปก้าวหนึ่งก็ไม่เป็นไร แต่สำนักคุนอู๋ เพราะสงครามกับชางอู๋ครั้งนั้น ชื่อเสียงไม่ดีอย่างที่เป็นมาก่อนและต้องการข่าวที่น่าตื่นเต้น

แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้…

ท้ายที่สุดแล้ว เซ่าเหิงเจ้าเด็กนั่นก็ไม่อาจทนต่อไปได้

แต่ทว่าเฉิงคั่วที่ได้ยินอะไรมากลับถามขึ้น “ได้ยินมาว่าที่นายน้อยจะช้ากว่าก้าวหนึ่งนั้น เกี่ยวข้องกับนายน้อยอินอย่างนั้นหรือ”

“ใช่แล้ว ไอ้คนชั่วนั่นวางยาเซ่าเหิง!” หยางเฟิ่งหยวนคิดถึงตรงนี้ คิดอยากฆ่าโยวตูอ๋องที่ถูกกักบริเวณอยู่ในเมืองหลวงหลายครั้ง แต่ฝ่ายหลังก็เป็นคนมีฝีมือ ดังนั้นเขาจึงได้รับการว่าจ้างจากสำนักศึกษาผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ให้ไปเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่นั่นชั่วคราว

สำนักศึกษาผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าซย่ามาโดยตลอด แม้นจะเป็นเหล่าอัจฉริยะทั้งเจ็ดสำนักก็ตาม ต่างก็เคยศึกษาที่สำนักศึกษานี้มาก่อน ทั้งยังมีชื่อเสียงในการฝึกฌานอย่างมากด้วย

“เช่นนั้นลูกชายข้า…” ในที่สุดเฉิงคั่วก็ได้เปลี่ยนหัวข้อมายังลูกชายของตัวเองแล้ว “เขาไม่ติดต่อกับทางบ้านมาครึ่งปีแล้ว ข้าเป็นห่วงเขานัก”

หยางเฟิ่งหยวนถอนหายใจอีกครั้ง “ไม่ปกปิดเจ้าแล้ว ศิษย์สำนักที่อยู่ในต้าฮวงพร้อมกับลิ่งหลางนั้น ล้วนไม่มีข่าวคราวกลับมาเลย สำนักข้าสงสัยว่าพวกเขาคงพบเจอเรื่องไม่ดีเข้าแล้ว”

“อะไรนะ!” เฉิงคั่วที่เหมือนถูกสายฟ้าฟาดสีหน้าไม่ดี “ข้ามีลูกชายแค่คนเดียวเท่านั้น”

“ขออภัย” หยางเฟิ่งหยวนเองก็เสียใจมาก “ต้าฮวงนั้นอันตรายอยู่แล้ว เซ่าเหิงเองก็ถูกวางยาที่นั่น ต้องโทษสำนักข้าที่ไม่เตรียมพร้อมและไม่ระวังตัว”

“…” เฉิงคั่วสนทนาต่อไปไม่ได้อีก เขาคาดไม่ถึงเลยว่าหลายปีมานี้! เขาทำตัวเป็นวัวเป็นม้าให้กับสำนักคุนอู๋ แต่กลับได้รับผลลัพธ์ที่ลูกชายเพียงคนเดียวตายไม่พบศพเสียอย่างนั้น?

“แม่ทัพเฉิง…”

“ขออภัย ข้าขอตัวกลับตำหนักก่อน ไว้พบกันใหม่” เฉิงคั่วไม่อาจทำตัวเป็นงูกับหยางเฟิ่งหยวนได้อีกต่อไป หลังจากเดินออกจากจวนอัครเสนาบดีเขาแทบจะกระอักเลือดออกมา! ลูกเอ๋ย…

เฉิงคั่วไม่อาจหายใจได้ ในขณะนั้นเองคนเดินเท้าที่ไม่มีตาคนหนึ่งชนเข้ากับเขา! เขาโกรธจนอยากจะฆ่าคน แต่ในมือกลับมีกระดาษยัดเข้ามาแผ่นหนึ่ง

“เรียนแม่ทัพเฉิง ข้ารู้การตายที่แท้จริงของลิ่งหลาง หากต้องการทราบรายละเอียด พบกันที่สำนักเหยาไถเซียน”

…นี่เป็นสิ่งที่เขียนไว้บนกระดาษ

ส่วน ‘ข้า’ ในที่นี้ เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นฮองเฮาองค์ใหม่…กู้หยวนซูแน่นอน

หัวใจของเฉิงคั่วราวกับกระจก รู้ว่าสำนักเหยาไถเซียนส่งหมายมา เพียงแค่อยากให้เขาช่วยสำนักเหยาไถเซียนเท่านั้น แต่เขาอยากรู้การตายที่แท้จริงของลูกชายคนเดียวของเขาจริงๆ!

ดังนั้น เฉิงคั่วจึงไปที่สำนักเหยาไถเซียน

ขณะเดียวกัน

ณ สำนักเหยาไถเซียน

“นางตายแล้ว?”

กู้หยวนหมิงที่เพิ่งออกมาไม่เชื่อข่าวลือนี้ “นางไม่มีทางตายแน่นอน!” นางเพิ่งได้รับมรดกจากปฐมราชินีหยวนชู จะตายไปง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไร!

“นี่ไม่สำคัญ” กู้หยวนซูที่ออกจากวังด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นดูเฉยเมย “ที่สำคัญคือ นางจะต้องแต่งงานกับน้องเจ็ด ไม่ว่านางจะเป็นหรือจะตายก็ตาม”

“ถือสิทธิ์อะไร” กู้หยวนหมิงไม่เข้าใจ

และกู้หยวนเหิงที่ได้ยินอยู่ข้างๆ จึงทนไม่ไหว “พี่ใหญ่…ท่านหมายความว่าอะไร หรือว่าท่านคิดจะแย่งน้องจื่ออวี๋ไปจากข้าอย่างนั้นหรือ นั่นเป็นภรรยาของน้องท่านนะ!”

“หุบปาก!” กู้หยวนหมิงหน้าซีด บนใบหน้าที่ราวกับหยกของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ “พวกเจ้าถามความเห็นจากเยี่ยนจื่ออวี๋แล้วหรือ”

“ไม่สำคัญ ข้าสั่งลงไป นางและสำนักชางอู๋ต้องตกลงสถานเดียว” กู้หยวนซูเย็นชา เผยให้เห็นความชั่วร้ายที่เยือกเย็นผ่านเครื่องแต่งกายของนาง

“ใช่แล้ว! ขอบพระทัยเหนียงเหนียง” กู้หยวนเหิงโล่งใจจนต้องขอบใจพี่สาวของเขา “ข้าและจื่ออวี๋คือพรหมลิขิตของกัน ไม่ว่าอย่างไร…ย่อมต้องเป็นสามีภรรยากันแน่นอน”

“เจ้าพูดถูก พวกเจ้าเป็นพรหมลิขิตกันจริงๆ นางต้องเป็นภรรยาของเจ้าแน่” กู้หยวนซูพยักหน้าอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ข้าสั่งลงไปแล้ว ทางสำนักชางอู๋เองก็น่าจะได้รับแล้ว สำนักชางอู๋ต้องเข้าวังเพื่อเจรจาเรื่องสู่ขอ น้องเจ็ดเจ้าเตรียมตัวให้พร้อม”

“เหนียงเหนียงโปรดวางพระทัย!” กู้หยวนเหิงตื่นเต้น

“พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือ!” กู้หยวนหมิงจ้องม้องพี่สาวและน้องชายของตน ไม่อาจเข้าใจได้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่

ในที่สุดกู้ปิ่งคุน…ประมุขสำนักเหยาไถเซียนก็ได้พูดขึ้น “ต้าหลาง เจ้าจะยุ่งกับเรื่องนี้ทำไมเล่า กลับไปเก็บตัวต่อไป พิธีแต่งตั้งเจ็ดสำนักใกล้จะถึงแล้ว พี่สาวของเจ้าแต่งเข้าราชสำนักแล้ว ไม่สามารถไปแทนสำนักเหยาไถเซียนของเราได้ เจ้าต้องเป็นคนไปแทน”

“ท่านพ่อ ท่านเองก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพี่หญิงและชีหลางหรือ” กู้หยวนหมิงอยากจะพูดจริงๆ ว่าเยี่ยนจื่ออวี๋ได้รับสืบทอดมรดกจากปฐมราชินีหยวนชูนะ! พวกเจ้าไม่ควรไปยุ่งกับนาง

แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เยี่ยนจื่ออวี๋ยังไม่ได้เผยตัวตนของนางออกมา ในฐานะเพื่อน ไม่ควรเปิดเผยก่อน เขาเก็บอาการไว้อยู่

“ในความเป็นจริง พ่อได้วางแผนพิธีการสู่ขอไว้แล้ว การสู่ขอของสำนักเหยาไถเซียนของเราควรจะถึงสำนักชางอู๋ ทุกอย่างเรียบร้อย” กู้หยวนเหิงจ้องมองพี่ใหญ่ด้วยความตัดเตือน

กู้หยวนหมิง “…”

เขาหมดคำจะพูดจริงๆ!

แต่กู้ปิ่งคุนก็ได้กล่าวขึ้นอีกครั้ง “ต้าหลาง เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่หญิงและชีหลางเถอะ”

กู้หยวนหมิงตบพร้อมกับลุกขึ้น “เดิมข้าเองก็ไม่อยากยุ่งด้วยหรอก! แต่ท่านพ่อไม่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ดูทำร้ายตนเองไปหน่อยหรือ ไม่พูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่สำนักคุนอู๋เพิ่งจะสู้กับสำนักชางอู๋ไป แล้วผลสรุปเป็นอย่างไรเล่า

แต่ตอนนี้ท่านกลับเห็นด้วยกับพี่หญิงและชีหลางให้ไปกดดันสำนักชางอู๋ หรือว่าท่านคิดว่าสำนักเหยาไถเซียนของเราแข็งแกร่งกว่าสำนักคุนอู๋แล้ว! เพียงแค่เรามีฮองเฮาอย่างนั้นหรือ”

“พอแล้ว!” กู้ปิ่งคุนกริ้วโกรธ “ถอยไปซะ!”

“ท่านพ่อ…”

“ถอยไปซะ!” กู้ปิ่งคุนกวักมือเรียกให้คนสนิทนำตัวลูกชายคนโตของเขาลงไป พร้อมกับหันไปพูดกับลูกสาวคนโตว่า “เจ้าอย่าถือโทษต้าหลางเลย เขาจิตใจดีเกินไป ในตาไม่อาจมีทรายได้เลยแม้แต่นิด”

“เป็นคนเช่นนี้ ไม่เหมาะที่จะเป็นนายน้อยเลย” กู้หยวนซูตัดสินเย็นชา

กู้ปิ่งคุนกลับกล่าวขึ้น “ตอนนี้ก็ยังไม่ได้แต่งตั้ง เรื่องภายในของสำนักเจ้าเองก็อย่าได้เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ข้ารู้ดี เจ้าเพียงแค่มัดใจฝ่าบาทให้ได้เป็นพอ”

“ข้าทราบดี” กู้หยวนซูตอบเย็นชา ถึงแม้จะไม่ได้ชื่นชอบหยวนคังฮ่องเต้ก็ตาม แต่นางรู้ดีว่ามีเพียงหยวนคังฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถให้ในสิ่งที่นางต้องการได้

เพียงแต่…

กึก!

เมื่อนึกถึงเยี่ยนอวี๋ กู้หยวนซูก็อดไม่ได้ที่จะฉีกเล็บของตนเอง หากไม่ใช่ว่านางไม่ร่วมมือแต่โดยดี! ทั้งยังยั่วสวาทต้าซือมิ่งอีก ทุกอย่างควรเป็นไปตามชาติก่อน นางควรอยู่อย่างสูงส่ง และนังคนชั้นต่ำนั่นควรคุกเข่าขอร้องนาง

หึ!

นังคนชั้นต่ำ!

คนชั้นต่ำก็ควรจะเดินทางเหมือนชาติก่อน

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กู้หยวนซูก็เร่งเร้า “ท่านพ่อต้องจับสำนักชางอู๋ไว้ให้ได้ โดยเฉพาะเยี่ยนจื่ออวี๋นั่น นางต้องแต่งงานกับชีหลาง มิเช่นนั้นต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่”

“วางใจเถิด” กู้ปิ่งคุนมั่นใจในเรื่องนี้ “เด็กนั่นมีตำแหน่งปราชญ์มหาสำนักปลอม เข้าเมืองหลวงไปต้องมีเบื้องหลังอยู่แล้ว หากสำนักชางอู๋ไม่โง่เขลาย่อมต้องมาหาสำนักเหยาไถเซียนแน่นอน”

“เจ้าค่ะ” กู้หยวนซูถึงได้ลุกขึ้น เตรียมตัวไปพบเฉิงคั่ว

กู้หยวนเหิงกลับถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “แล้วซูซู…”

“คนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง เจ้าไม่ต้องระลึกถึงหรอก” กู้หยวนซูกล่าวจบก็เดินจากไปพร้อมชุดสีแดงไป

กู้หยวนเหิงไม่กล้าถามถึงเยี่ยนซูซูอีกต่อไป แม้นจะเสียดายบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงว่าจะสามารถสู่ขอเยี่ยนจื่ออวี๋ได้นั้น เขาก็ไม่คิดถึงคนพรรค์นั้นอีกเลย

อย่างที่ทุกคนทราบ…

ณ โยวตู

ใต้แม่น้ำเย่ว์หมิง

เยี่ยนอวี๋กำลังมองต้าซือมิ่งบางคนที่กำลังเลี้ยงลูกน้อยอย่างจริงจังอยู่ พร้อมกับถามขึ้น “เจ้าต้องการอะไรกันแน่”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท